เรื่องย่อ : Wonder Wheel (2017) สวนสนุกแห่งรัก ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ ดูหนังHD ดูหนังฟรี MovieHD24 หนัง2024 หนังออนไลน์ Full HD
Wonder Wheel (2017) เรื่องราวของตัวละครสี่ตัวที่ชีวิตเกี่ยวโยงกันท่ามกลางความเร่งรีบและคึกคักของสวนสนุก Coney Island ในทศวรรษ 1950: จินนี่ อดีตนักแสดงอารมณ์แปรปรวนซึ่งปัจจุบันทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านหอย; ฮัมตี้ สามีควบคุมม้าหมุนของจินนี่; มิกกี้ ไลฟ์การ์ดหนุ่มหล่อผู้ใฝ่ฝันที่จะเป็นนักเขียนบทละคร และแคโรไลนา ลูกสาวที่ห่างเหินกันมานานของฮัมป์ตี้ ซึ่งตอนนี้ซ่อนตัวจากพวกอันธพาลในอพาร์ตเมนต์ของพ่อเธอ
× ไม่สปอยล์เนื้อหาสำคัญ ×
‘ความรักไม่ได้สนุกเหมือนสวนสนุก’ นี่คือคำโปรยจากหนัง Drama/Romance เคล้า Comedy เล็กๆ เรื่องใหม่จากผู้กำกับและนักเขียนบทมากฝีมือ พร้อมกับมีผลงานมาแล้วมากมายอย่าง Wonder Wheel (2017)
โดย “Wonder Wheel” ได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความรักอันสุดแสนอลหม่านที่เกิดขึ้น ณ สวนสนุกบนเกาะ ‘Cony Island’ ในปี 1950 เมื่อไฟรักระหว่างคู่สามีภรรยา ‘Jinny'(Kate Winslet) กับ ‘Humpty'(Jim Belushi) เริ่มมอดลง ทำให้เธอรู้สึกเบื่อหน่ายในชีวิตคู่ แต่ในวันหนึ่งไฟรักของเธอได้ถูกจุดประกายขึ้นอีกครั้ง เมื่อเธอได้พบกับ ‘Micky'(Justin Timberlake) ไลฟ์การ์ดหนุ่มสุดหล่อประจำชายหาด ที่เด็กกว่าเธอหลายสิบปี แต่ในขณะเดียวกัน ‘Micky’ ก็ได้พบกับรักแรกพบกับหญิงสาวผู้หลบหนีจากการตามล่าของเหล่ามาเฟียอย่าง ‘Carolina'(Juno Temple) แต่เรื่องราวยิ่งซับซ้อนขึ้นเมื่อเธอดันเป็นลูกสาวกับเมียเก่าของ ‘Humpty’ วงกลมแห่งรักดั่งชิงช้าสวรรค์ จึงเต็มไปด้วยเรื่องราวสุดแสนจะอลวน วนไปวนมาก็เริ่มต้นขึ้น ..
ต้องบอกเลยว่าหลังดูจบเจ๊แอดหลงรักหนังเรื่องนี้มาก ด้วยพล็อตเรื่องที่ดูง่าย ย่อยง่าย สไตล์ ‘Woody Allen’ แต่มันเต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวชวนหัว ชวนชุลมุนชุลเก วกวนในแบบที่เสมือน ‘Wonder Wheel’ ชิงช้าสวรรค์ ที่มันก็หมุนไปหมุนมา วนซ้ำวนซ้อน แต่มันก็ทำให้ทุกตัวละครได้เรียนรู้ในเรื่องราวของ ‘ความรัก’ ที่ไม่ว่าจะเป็นคนอายุเท่าไร หรือมีอาชีพอะไร ได้รับรู้ถึงในแง่ทั้ง ‘ความรัก’ ‘ความใคร่’ ‘ความหึงหวง’ ตลอดจนไปจนถึง ‘การซื่อสัตย์’ ในความรัก ..
ซึ่งความรักกับมนุษย์เรามันก็เหมือนชิงช้าสวรรค์นั่นแล ที่คนทั้งคู่จะมีึความสุขเมื่อตอนชิงช้ากำลังขึ้น รู้สึกวูบวาบ รู้สึกซาบซ่าน แฮปปี้ดีเว่อร์กันไป แต่เมื่อมันมีขาขึ้นแล้วก็ต้องมีขาลง เมื่อใครสักคนต้องพบเจอกับรักใหม่ รักแรกพบ ที่รู้สึกว่าไฟลุกกว่า เร่าร้อนกว่าดั่งไฟในทรวงที่ลุกโชนขึ้นมา ‘ความไม่ซื่อสัตย์ในรัก’ มันเลยเกิดขึ้น ..
ชอบที่ “Wonder Wheel” เล่าเรื่องราวได้สนุกมาก ที่ถึงแม้ว่าพล็อตมันอาจจะง่าย, อาจจะน้ำเน่าละครหลังข่าวยังไงยังงั้น แถมก็ยังเล่าเรื่องราวในแบบที่เรื่อยๆ มารอนๆ แต่ทุกไดอาล็อกคือคมกริบ หนักแน่นไปด้วยคำพูดที่เฉียบคมประสาหนังดราม่าสไตล์ Wonder Wheel (2017)
อีกทั้งบรรยากาศในเรื่องก็ดูดีทีเดียว หนังจำลองและเล่าเรื่องราวในสวนสนุกเกือบ 100% ที่ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้โยงไปถึง ‘ชิงช้าสวรรค์'(Wonder Wheel) อะไรเลย แต่โปรดักชั่นมันคือความน้อยแต่กลับมีเส้นเรื่อง-เรื่องราวที่มาก
ซึ่งบรรยากาศที่หนังสร้างขึ้น ส่วนมากมาพร้อมกับแสงสีในรูปแบบช่วงซัมเมอร์ หน้าร้อน ให้ความรู้สึกถึงความอบอุ่น ความWarm ด้วยแสงที่เป็นสีส้มที่ชอบสาดเข้าหาตัวละครในเกือบทุกซีน ยิ่งไปกว่านั้นเหมือนหนังก็ใช้แสงสีนี่แหละสร้าง ‘สัญญะ’ ของตัวละครขึ้นมา ที่เมื่อสังเกตง่ายๆ เมื่อตัวละครมีอารมณ์ฉุนเฉียว อารมณ์รุนแรง แสงที่สาดส่องมาใส่หน้าจะเป็นสีเหลืองส้มที่จัดจ้าน เมื่อหากตัวละครอารมณ์ดี อารมณ์ชิลๆ แสงที่ส่องจากบรรยากาศตรงนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นสีฟ้าครึมๆ ไปจนถึงสีม่วงที่ดูแล้วรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก #ลองสังเกตดู
อีกส่วนที่ชอบและจะไม่พูดคงไม่ได้ คือตัวละครในเรื่องทุกตัวที่มีก็ไม่เยอะ หลักๆ แล้วก็แค่ 4 คน หากแต่หนังก็สร้างคาแรกเตอร์ให้คนดูได้อย่างชัดเจน มีรัก โลภ โกรธ หลง ให้ตัวละครทุกตัวได้แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด
ยิ่งตัวละคร ‘Jinny'(Kate Winslet) คือตัวละครที่เจ๊จะรักและถูกใจกับนางมาก ตัวละคร ‘Jinny’ คือตัวละครที่โผงผาง รักก็บอกรัก ชอบก็บอกชอบ แต่ก็ชอบบ่นนั่นบ่นนี้ในแกมติดตลก ‘โอ้ย! กรูปวดไมเกรน’ ‘ไม่เกรนแดกหัว’ ‘ห้ามผัวแดกเหล้า’ นั่นนี่หลายสิ่ง 55555 คือมันมากมายแต่ดูไม่ล้น จนทำคนดูยิ่งบันเทิง ชวนหัวและหัวร่อไปกับนางอยู่ได้ตลอดทั้งเรื่องมากกว่า
อีกทั้งก็ชอบตัวละครเด็ก ‘Richie'(Jack Gore) คือลูกชายของผัวเก่ากับ ‘Jinny'(Kate Winslet) ตัวละครตัวนี้โดนใจตรงที่เอะอะอะไรก็ชอบดูหนัง ขอตังค์แม่ไปดูหนังที่โรงหนังตลอดๆ (เหมือนเจ๊ตอนเด็กมากที่ชอบดูหนัง 555) แถมก็ยังมีอาการทางจิตอ่อนๆ (ซึ่งอันนี้เจ๊ไม่ได้เป็นนะ 555) คือน้องนางชอบจุดไฟเผาทุกอย่างเป็นว่าเล่น ต้องหาอะไรเผาทุกวันไม่งั้นเหมือนน้องนางจะนอนไม่หลับ เผาจนแม่มันต้องพาไปรักษากับจิตแพทย์ 555 เจ๊ว่าตัวละครเด็กคนนี้มันเทาๆ ดีอ่ะ มีความอึมครึมในด้านความรู้สึกและจิตใจ มีความโรคจิตอ่อนๆ ชวนให้เราสำรวจและฮาลั่นไปกับการกระทำต่างๆ ของน้องก็ไม่เบา 555
โดยสรุปแล้ว บอกเลยว่าชอบ “Wonder Wheel” มากกก!!! ชอบความเรียบง่ายของพล็อตของเรื่อง แต่เล่าออกมาได้สนุกในแบบชวนหัว ชอบความสัมพันธ์ของตัวละครที่ชุลมุนชุลเก วุ่นวายแต่ดูกลมกล่อม ยุ่งเหยิงแต่ไม่ปวดหัว แถมทั้งก็ยังจบแบบปลายเปิด มีอะไรให้คิด(ถึง)อีกเยอะมากๆ กับหนังเรื่องนี้ และนับว่าเป็นหนังที่ดีอีกเรื่องของ ‘Woody Allen’
วินสเล็ตรับบทเป็นจินนี่ หญิงสาวที่มีข้อบกพร่องและคอยทำลายชีวิตตัวเองอยู่เสมอ Wonder Wheel (2017) เรื่องราวของเธอเกิดขึ้นในยุค 50 แต่ไม่ใช่ในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นและสบายของ Radio Days นี่คือโศกนาฏกรรมที่แทบจะเรียกได้ว่ายิ่งใหญ่อลังการ โดยมีการกล่าวถึงโอ’นีลและเชกสเปียร์เป็นนัย โศกนาฏกรรมของผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกผลักดันโดยสถานการณ์ให้กระทำการในทางที่น่ารังเกียจ แน่นอนว่าเรามีทางเลือกเสมอที่จะประพฤติตัวอย่างยุติธรรม แต่เมื่อพิจารณาจากข้อบกพร่องของเราแล้ว เราจะยอมรับมันจริงๆ หรือไม่
จินนี่รู้สึกเหมือนถูกกักขัง เธอแต่งงานกับฮัมป์ตี้ที่ขี้เมา มีงานที่น่าขยะแขยง และมีลูกชายที่เป็นนักวางเพลิงจากการแต่งงานครั้งก่อนซึ่งล้มเหลว แสงสว่างเพียงดวงเดียวที่เธอมีคือความสัมพันธ์ของเธอกับมิกกี้คนเล็ก เธอใฝ่ฝันที่จะย้ายไปอยู่กับมิกกี้ แม้ว่าจะไม่ชัดเจนว่างานของเธอและลูกชายของเธอจะเกิดอะไรขึ้น แต่เราคิดว่าอย่างน้อยการทิ้งสามีไปหาเพื่อนที่ดีกว่าก็เป็นสิ่งที่น่ายินดี
แคโรไลน่า ลูกสาวของฮัมป์ตี้ เข้ามา และความฝันทั้งหมดของจินนี่ก็พังทลาย แคโรไลน่าแต่งงานกับนักเลงและตอนนี้กลายเป็นผู้หญิงที่ถูกจับตามองและกำลังหาที่ซ่อนตัว ในที่สุด แคโรก็ตกหลุมรักมิกกี้ ทำให้จินนี่เกิดความหึงหวง
เรื่องราวนี้ไม่ค่อยจะดีนักหากมองจากมุมมองของนักเลง นักเลงตัวจริงคงจะตรวจสอบบ้านของฮัมป์ตี้ให้ละเอียดกว่านี้ และเมื่อค้นพบคำโกหก พวกเขาคงกำจัดครอบครัวทั้งหมดทิ้ง แต่ประเด็นหลักอยู่ที่เรื่องราวของจินนี่ และวินสเล็ตก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีเช่นกัน ภาพถ่ายและเพลงประกอบก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน
ทุกวันนี้แม้แต่คนเรียนจบมหาวิทยาลัยก็ไม่รู้จักภาพยนตร์คลาสสิก Spike Lee สามารถถ่ายทำ LYSISTRATA ได้ แต่ตราบใดที่เขาย้ายไปที่ชิคาโกและเรียกมันว่า CHI-RAQ ก็ไม่มีใครเชื่อมโยงมันได้ พวกเขากลับบ่นว่าเขาใส่ร้ายชิคาโก ไม่ต้องสงสัยเลยว่านั่นคือสิ่งที่เจ้าหน้าที่เทศบาลพูดเกี่ยวกับ Aristophanes ในตอนนั้น ในภาพยนตร์เรื่องนี้ จูโน เทมเปิลหนีจากสามีที่เป็นมาเฟียเพื่อไปอาศัยกับเจมส์ เบลูชิ พ่อที่ติดเหล้า และเคท วินสเล็ต แม่เลี้ยง และลูกชายที่ติดไฟง่ายจากการแต่งงานครั้งแรกของเธอ พวกเขามีงานที่ไม่แน่นอน เรื่องราวนี้เล่าจากมุมมองของจัสติน ทิมเบอร์เลค ซึ่งเคยผ่านสงครามในกองทัพเรือ ตอนนี้เขาเป็นเจ้าหน้าที่ช่วยชีวิต กำลังศึกษาเพื่อเป็นนักเขียนบทละคร มีสัมพันธ์ชู้สาวกับมิสวินสเล็ต และตกหลุมรักมิสเทมเปิล
บทภาพยนตร์ของวูดดี้ อัลเลนมีการอ้างถึงยูจีน Wonder Wheel (2017) โอนีลหลายครั้ง และถ้าพวกเขาอาศัยอยู่บนเกาะแนนทักเก็ตและบ่นว่าชีวิตของพวกเขาพังทลายเพราะพ่อหาเงินได้มากจากการเล่นเป็นเคานต์แห่งมอนติคริสโตจนไม่มีเวลาทำงานศิลปะ ทุกคนก็คงจำภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ในชื่อ LONG DAY’S JOURNEY INTO NIGHT อย่างไรก็ตาม มิสเตอร์อัลเลนได้ตั้งเรื่องในละแวกบ้านที่เขาเติบโตขึ้นมา และได้ทำให้ข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาหมดตัวมากจนต้องอาศัยอยู่ในบ้านแสดงตลกที่ล้มละลายเป็นจุดสำคัญของเรื่อง ดังนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้จึงถูกมองข้ามหรือมองว่าเป็นการดูหมิ่นศาสนา
นี่คือภาพยนตร์จริงจังเรื่องหนึ่งของมิสเตอร์อัลเลน ฉันขอร่วมด้วยคนทั่วไปที่ไม่ชอบภาพยนตร์เรื่องนี้เหมือนกับภาพยนตร์ที่ทำให้ฉันหัวเราะออกมาดังๆ ฉันรู้สึกมีความสุขมากกับภาพที่เขาสร้าง Coney Island ในยุค 1950 ขึ้นมาใหม่ (แม้ว่า “กระท่อม Greenwich Village” ของเขาจะสะอาดมากเมื่อเทียบกับยุคนั้น) และภาพที่เขามองเห็นโลกที่เลือนลางและชัดเจน ซึ่งบางครั้งดูเหมือนว่าโลกที่ฉันใช้ชีวิตอยู่นี้คงอยู่จริงยิ่งกว่า
นี่เป็นผลงานชิ้นเอกในบรรดาภาพยนตร์ของวูดดี้ อัลเลนหรือไม่? ไม่ มันเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนานและคุ้มค่ากับเวลาสองสามชั่วโมงและค่าเข้าชมหรือไม่? แน่นอน เคท วินสเล็ต จิม เบลูชิ และจูโน เทมเปิล ต่างก็แสดงได้ยอดเยี่ยม แม้ว่าจัสติน ทิมเบอร์เลคจะโดนขัดขวางด้วยบทสนทนาที่อึดอัดและแข็งทื่อ Wonder Wheel (2017) แต่เขาก็มีช่วงเวลาที่สดใสเช่นกัน เนื้อเรื่องน่าสนใจและคาดเดาไม่ได้ ส่วนฉากและเพลงประกอบก็เก๋ไก๋และเป็นอัลเลนอย่างแท้จริง ใช่ เนื้อเรื่องมีข้อบกพร่องและองค์ประกอบที่ลอกเลียนมาบ้าง และฉันคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้น่าจะได้ประโยชน์จากการตัดต่อที่เฉียบคมกว่านี้ แต่การจะมองว่ามันเป็นขยะชิ้นใหญ่ที่แย่มากนั้นไม่ถูกต้องเลย อย่างที่นักวิจารณ์หลายคนดูเหมือนจะอยากทำ สำหรับฉันแล้ว ชัดเจนว่านักวิจารณ์บางคนปล่อยให้ความรังเกียจต่อความผิดพลาดส่วนตัวของอัลเลนมาทำให้มุมมองของพวกเขาเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้เปลี่ยนไป ซึ่งไม่ยุติธรรมไม่เพียงแต่กับอัลเลนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักแสดงและทีมงานที่เหลือด้วย ไม่ต้องพูดถึงสาธารณชนด้วย
Dirty Ho (1979) ไอ้เณรยอดเทวฤทธิ์
The One Ticket (2014) ตัวพ่อเรียกพ่อ