เรื่องย่อ : Wild Wild West (1999) คู่พิทักษ์ปราบอสูรเจ้าโลก ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ ดูหนังHD ดูหนังฟรี MovieHD24 หนัง2024 หนังออนไลน์ Full HD
เรื่องราวของหน่วยสืบราชกาลลับ ไวลด์ ไวลด์ เวสต์ ที่ต้องช่วยเหลือกันตามหานักวิทยาศาสตร์ที่ถูกลักพาตัวไปโดยกลุ่มโจรที่ต้องการปฎิวัติและก่อกบฎต่อค่านิยมในอเมริกาในขณะที่กำลังมีการจัดตั้งการประชุมและเฉลิมฉลองงานเลี้ยงต่าง รวมไปถึงการสร้างทางรถไฟเส้นทางระหว่างประเทศเป็นครั้งแรก โดยข่าวลือและการตายที่แปลกประหลาดได้มาจากงานประดิษฐ์ที่เป็นอาวุธทำลายล้างสูง Wild Wild West (1999) คู่พิทักษ์ปราบอสูรเจ้าโลก จึงมีเพียงสองคู่หู ไวลด์ ไวลด์ เวสต์ ที่จะช่วยกันปกป้องโลกเอาไว้ ดูหนังออนไลน์
เจ้าหน้าที่พิเศษที่เก่งที่สุดสองคนใน Wild West จะต้องช่วยประธานาธิบดี Grant จากเงื้อมมือของนักวิทยาศาสตร์ฝ่ายสัมมาพันธ์ที่โหดเหี้ยม นั่งรถเข็น และเชี่ยวชาญเรื่อง Steampunk และมุ่งมั่นที่จะแก้แค้นที่พ่ายแพ้ในสงครามกลางเมือง เจ้าหน้าที่พิเศษจากรัฐบาลนาม เจมส์ เวสท์ (Will Smith) หนุ่มเจ้าเสน่ห์และฉลาด พร้อมกับเจ้าหน้าที่พิเศษอีกคน กอร์ดอน (Kevin Kline) ผู้เป็นหนึ่งด้านการปลอมตัว และนักประดิษฐ์อัจฉริยะไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ถูกส่งไปติดตามแผนร้ายของ Dr.Arliss Loveless (Kenneth Branagh) ผู้ไร้ซึ่งความรัก ที่กำลังวางแผนลอบสังหารประธานาธิบดีของอเมริกา
โดยมี ยานรบขนาดยักษ์เดินได้ พร้อมอาวุธหนักเพียบ ที่ถูกขนานนามว่า The Tarantula West และ Gordon เริ่มต้นกันแบบคู่แข่งซึ่งกันและกัน แต่ในที่สุดพรสวรรค์ของทั้งคู่ ก็ทำให้ทั้ง 2 คนกลายมาเป็น คู่หูที่เชื่อมันเชื่อใจ ซึ่งกันและกัน สาวสวยที่ลึกลับนาม Rita Escobar (Salma Hayek) เสนอตัวเข้าร่วมงานกับ 2 คู่หู เพื่อที่จะจับกุม Loveless แต่ Loveless ก็มีทีมงานอันตรายของเขา เอง ทั้งหมดมีความสามารถพิเศษของแต่ละคน เพื่อที่จะสร้างความลำบากให้แก่ West และ Gordon
จิบชา รับลม กับมิสเตอร์ อเมริกัน
แน่ล่ะว่า จุดดีของมันคือ เรื่องจินตนาการอันบันเจิดนี่ล่ะครับ แต่ข้อเสียของมันคือ การหนังมันน่าเบื่อ (คือมันยาวไปด้วย และเนื้อหาหลายส่วนก็ไม่น่าสนใจนัก) มีจังหวะที่สนุกน้อยกว่าตอนน่าเบื่อครับ ส่งผลให้หนังมันมีสภาพแบบว่า อยากจะหลับเหมือนกัน ยิ่งพวกมุขตลกนี่ยิ่งแย่ครับ หนังมันแทบไม่ตลกเลย จนเรียกว่า ทรมานเหี้ยยิ่งกว่าดูแก็งค์สามช่าปล่อยมุขแป้กซะอีกครับ 5555 ยิ่งบวกเสียงพากษ์ไทยที่ชวนเหนื่อยใจแล้วยิ่งทำให้หนังมันชิบหายไปกันใหญ่ (รู้สึกว่าจะเอาดาราคนไหนสักคนมาพากษ์เสียงวิล สมิธ) ผลคือ ล่มจมครับ หนังหมดกัน ดูไปทรมานไปจนไม่สามารถหาความสนุกได้เลย (อ๋อ ตอนสู้กันก็สนุกนะ แต่รวม ๆ ก็น่าเบื่อ)
นั่นละครับ ผมแอบคิดถึง Lone Ranger ที่เอาจริงเรื่องนั้นว่าแย่แล้ว แต่ก็ยังสนุกกว่าเรื่องเยอะครับ ส่วน Theme ของเรื่องนี้มันก็เป็นหนังยั่วล้อกับประวัติศาสตร์และชาตินิยมที่น่าสนใจเลยล่ะครับว่า อเมริกาต้องผ่านอะไรมากมายกว่าจะเป็นได้ทุกวันนี้ แต่สิ่งที่อเมริกาย้ำมาตลอดก็คือ ประเทศของเขานั้นเป็นประชาธิปไตยที่มีประชาชนเป็นเจ้าของ และเป็นอำนาจสิทธิในการปกครอง ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่งอย่างที่ใครหลายคนเชื่อ ก็ไม่แปลกครับที่หนังมันจะเน้นย้ำว่า จะผิวสีใด ชนชาติใด ถ้าเป็นชาวอเมริกันแล้วจงยืดอกภูมิใจไว้เทิดว่า แผ่นดินนี้ให้เสรีภาพแก่ผู้คนมาโดยตลอด อ้าว นี่มันหนังชาตินิยมอเมริกันนี่ 55555555
เป็นหนังอีกเรื่องที่โดนสับจากทั่วสารทิศตอนออกฉาย ส่วนผมนั้นจำได้ว่าตอนดูในโรงรอบแรก ผมรู้สึกโอเคนะครัย อาจเพราะได้ยินเสียงวิจารณ์สับหนังจนเละเป็นบะช่อ เลยพลอยทำใจล่วงหน้าได้แล้วว่าหนังมันคงไม่มีอะไรจริงๆ ครั้นพอดูก็เป็นไปตามคาด มันเลยไม่ผิดหวัง
แล้วพอหนังออกม้วนมาผมก็ยังเอามาดูซ้ำอีกนะครับ คือมันเพลินๆ เบาๆ ดูยามที่เราอยากนั่งดูอะไรสักอย่างแบบไม่ต้องใช้งานสมองให้มากมาย มันก็ให้ความบันเทิงได้อยู่
หนังรีเมคจากซีรี่ส์แนวสายลับยุค 60 (รุ่นไล่ๆ กับพวก Mission: Impossible น่ะครับ) เคยเข้ามาฉายช่องสี่บางขุนพรหมด้วยครับ ชื่อไทยว่า “สายลับลูกทุ่ง” ซึ่งซีรี่ส์นี้ก็ฮิตกันพอดู ก็ไม่น่าแปลกใจล่ะครับ เพราะมันสนุก และเป็นการ Mix ที่แปลกใหม่พอตัวสำหรับยุคนั้น นั่นคือเอาความเป็นสายลับไปใส่ลงในหนังแนวคาวบอย (ที่ใส่ชุดได้เนี๊ยบ บางครั้งถึงขั้นแต่งองค์ทรงเครื่องใหญ่ก่อนออกปฏิบัติการกันเลยก็มี) แล้วยังมีพวกสิ่งประดิษฐ์เทคโนโลยีใหม่ๆ ใส่ลงไปอีก และที่สำคัญคือทีมงานผสมผสานสิ่งเหล่านี้ได้ลงตัวมากๆ ครับ ดูแล้วไม่ข้ดตา แต่ดูแปลก สด ใหม่กำลังดีทีเดียว
ส่วนฉบับนี้ก็มาพร้อมโครงสร้างคล้ายต้นฉบับครับ ตัวเอกคือคู่หูสายลับ ผู้กองเจมส์ เวสต์ (Will Smith) จอมระห่ำประเภทยิงก่อนถามทีหลัง กับอาร์ตีมุส กอร์ดอน (Kevin Kline) นักประดิษฐ์และนักปลอมตัวที่ชอบใช้วิธีละมุนละม่อมในการแก้ปัญหา ส่วนวายร้ายประจำตอนก็คือ ดร. อาร์ลิส เลิฟเลซ (Kenneth Branagh) ที่มีแผนจะฮุบอเมริกาทั้งหมดด้วยแมงมุมยักษ์จักรกล
หลายอย่างดูเป็น แบบดั้งเดิมครับ ทั้งตัวละคร โครงหลัก และองค์ประกอบต่างๆ (อย่างตัวร้ายต้องดูเว่อร์ๆ ไฮเทคแบบล้นๆ อะไรอย่างนั้น) แต่จุดที่ต่างมากๆ คือ 2 สายลับของเราจะเท่ห์กว่านี้ ต้องดูองอาจมาดโคบาล เรียกว่าต้องประหนึ่งเจมส์ บอนด์บนหลังม้าเลยล่ะครับ จะไม่ดูต๊องหรือหลุดพร่ำเพร้อ ในขณะที่โทนเรื่องของเก่าจะดูจริงจังนิดๆ แบบพอเหมาะ แต่ของใหม่นี่ดูทีเล่นทีจริงเกินไป บางช่วงก็ดูจริงแบบดราม่าไปเลย (เช่นปมเกี่ยวกับพ่อแม่ของเจมส์ เวสต์) แต่อีกหลายๆ ช่วงก็ดูเบาเกือบเป็นหนังการ์ตูนไปเลยก็มี
⭐ 4
ซีรีส์ทีวีเก่าๆ ดูหนังออนไลน์ ที่สนุกสนานกลายเป็นซีรีส์ที่น่าเบื่อของฉากเอฟเฟกต์พิเศษ วิลล์ สมิธพยายาม แต่คัดเลือกนักแสดงผิดและไม่น่าเชื่อเลย (และผมขอโทษ แต่การที่มีคนอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันเป็น “เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล” สี่ปีหลังจากสิ้นสุดสงครามกลางเมืองนั้นไม่สามารถทำให้เชื่อได้ แม้จะพยายามอย่างกล้าหาญที่จะพยายามก็ตาม) เควิน ไคลน์ นักแสดงที่ยอดเยี่ยมทำทุกวิถีทางในบทอาร์เทมัส กอร์ดอน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะเลียนแบบบุคลิก “In and Out” ของเขา (รอสส์ มาร์ตินไม่เคยเป็นคนจู้จี้จุกจิกขนาดนั้น) เคนเนธ บรานาห์ในบทผู้ร้ายเล่นเกินจริงจนคุณมองไม่เห็นแม้แต่ฉากที่เขาเล่น ซัลมา ฮาเยกเป็นผู้หญิงที่น่ารักอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เธอกลับไร้ค่า (เธอเป็นเพียงสิ่งที่นึกขึ้นได้ทีหลัง) เอฟเฟกต์พิเศษนั้นดี พล็อตเรื่องนั้นโง่เขลา บทภาพยนตร์นั้นแย่มาก ในฐานะแฟนตัวยงของซีรีส์เก่าๆ ผมผิดหวังมาก
⭐ 6
นักวิจารณ์หลายคนใน IMDb ต่างก็แสดงความดูถูกเหยียดหยามต่อภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างไม่สามารถปิดบังได้ สิ่งที่แย่ที่สุดที่ฉันจะพูดเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้คือภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นภาพยนตร์แนวตะวันตกตามแบบฉบับดั้งเดิม และส่วนที่ดีที่สุดก็คือภาพยนตร์เรื่องนี้มีการถ่ายภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยม การแสดงฉากผาดโผนและเอฟเฟกต์พิเศษที่สร้างสรรค์อย่างชาญฉลาด อย่างไรก็ตาม การร่วมงานกันระหว่างวิลล์ สมิธและเควิน ไคลน์อาจไม่ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ผู้สร้างภาพยนตร์ตั้งเป้าหมายไว้หากพวกเขากำลังมองหาภาพยนตร์แนวเพื่อนที่เจ๋งๆ เพราะเคมีของทั้งคู่ยังไม่เข้ากัน และการแสดงของเคนเนธ บรานาห์ในบทดร. อาร์ลิสส์ โลฟเลสก็เกินจริงไปมากในการพยายามยึดครองรัฐบาล ไม่น่าเชื่อเลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีอายุมากกว่ายี่สิบปีแล้ว แต่ตอนนี้ที่ฉันได้ดูมันแล้ว ก็ไม่แปลกใจเลยที่ฉันฉลาดพอที่จะเลื่อนการดูมันออกไปนานขนาดนี้
⭐ 4
การสร้างใหม่ของซีรีส์ทางทีวีในยุค 60 เกี่ยวกับสายลับผู้กล้าหาญสองคนในศตวรรษที่ 19 ที่ทำงานโดยตรงกับประธานาธิบดี (ในกรณีนี้คือแกรนท์) ประเด็นคือ – และฉันจะพูดตรงๆ นะ – สำหรับฉันแล้ว สายลับจิม เวสต์คือโรเบิร์ต คอนราด … และจะเป็นตลอดไป ฉันหมายถึง Wild Wild West (1999) คู่พิทักษ์ปราบอสูรเจ้าโลก คอนราดคือผู้ชายคนนั้นใช่ไหม ผู้สร้างภาพยนตร์สมัยใหม่ ซึ่งเป็นพวกงี่เง่าอย่างพวกเขา อาจคิดว่า: มีเหตุผลใดหรือไม่ที่เจมส์ เวสต์ไม่สามารถเป็น…วิล สมิธ?
ฉันบอกพวกเขาได้ว่าทำไม: เพราะเขาคือคอนราดมาตลอดหลายปี! และคอนราดก็แสดงบทบาทนี้ได้อย่างมีเอกลักษณ์: วิธีที่เขาแสดงออกทำให้ยากที่จะจินตนาการถึงใครคนอื่นมาเล่นเป็นเวสต์ ไม่ต้องพูดถึงนักแสดงที่เชี่ยวชาญด้านการแสดงตลกแบบสบายๆ การจับจังหวะการแสดงตลกของวิลล์ สมิธได้ผลดีใน “Independence Day” และยอดเยี่ยมใน “Men in Black” แต่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งกับบทบาทนี้ พวกเขาอาจตั้งชื่ออื่นให้เขาแทนจิม เวสต์ตัวจริงก็ได้ แน่นอนว่าผู้สร้างภาพยนตร์ยุคใหม่ซึ่งเป็นพวกงี่เง่าก็คิดเช่นกันว่ามีเหตุผลอะไรที่เราใส่แมงมุมยักษ์ไว้ในหนังเรื่องนี้ไม่ได้ แต่สมิธอีกคน (เควิน)
ได้อธิบายเรื่องนี้มากพอแล้ว เคมีระหว่างวิลล์ สมิธกับกอร์ดอน (ไคลน์) คู่หูนั้นโอเค แต่ดูเหมือนจะตึงเครียดในบางจุด นักแสดงชาวอังกฤษ บรานาห์เล่นเป็นตัวร้ายเลิฟเลสด้วยสำเนียงใต้ที่เข้มข้นจนดูเยาะเย้ยตัวเอง ฮาเย็คก็เล่นได้ดีในบทบาทที่ดึงดูดสายตา แต่ฉันประหลาดใจที่เธอตัวเตี้ยมาก แทบจะเรียกว่าตัวเล็กไปเลย เอฟเฟกต์ดีทีเดียวเมื่อเทียบกับงบประมาณที่สูงมาก (ครั้งสุดท้ายที่ฉันได้ยินมา ประมาณ 180 ล้านเหรียญ!) และไม่มีอะไรแย่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องเลย แต่ไม่มีความรู้สึกถึงอันตรายที่แท้จริง ดังนั้นจึงไม่มีความตึงเครียดที่แท้จริง นี่คือจุดที่ข้อจำกัดของสมิธแสดงให้เห็น: การล้อเล่นทำให้เรื่องราวไร้จุดหมาย ฉันเดาว่ามันควรจะเป็นแค่เรื่องสนุกๆ เฮ้ เพื่อความสนุก เรามาทำให้จิม เวสต์ตัวจริงมาจัดการผู้กำกับกันเถอะ
Seraphim Falls (2006) ล่าสุดขอบนรก