เรื่องย่อ : Upgrade (2018) อัพเกรด ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ ดูหนังHD ดูหนังฟรี MovieHD24 หนัง2024 หนังออนไลน์ Full HD
เรื่องราวของ เกรย์ เทรซ ชายผู้ซึ่งสูญเสียภรรยาจากเหตุบุกรุกบ้านสุดโหดเหี้ยม ทั้งยังถูกทิ้งให้ตายทั้งเป็นกับอาการอัมพาต Upgrade (2018) อัพเกรด นักประดิษฐ์ทุนหนากลุ่มหนึ่งได้เสนอความช่วยเหลือด้วยการปลูกถ่ายเทคโนโลยีลงระบบประสาท ซึ่งอัปเกรดร่างกายของเขาให้มีศักยภาพเหนือมนุษย์สำหรับการล้างแค้น เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เทคโนโลยีควบคุมเกือบทุกด้านของชีวิต แต่เมื่อโลกของเกรย์ ผู้เป็นโรคกลัวเทคโนโลยี ดูหนังออนไลน์ ถูกพลิกกลับด้าน ความหวังเดียวของเขาในการแก้แค้นคือการฝังชิปคอมพิวเตอร์รุ่นทดลอง
นวัตกรรมจะควบคุมทุกส่วนของชีวิตไม่ช้าก็เร็ว กระนั้นเมื่อเกรย์ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่สามารถจดจำตัวเองด้วยความเป็นจริงของเขาได้ถูกปฏิเสธความปรารถนาในการแก้แค้นของเขาคือการฝังชิปพีซีที่เรียกว่า “อัพเกรด” ครึ่งที่ดีกว่าของเขาช่วยให้เขาคืนรถที่ประดับประดาให้กับลูกค้าของเขา Eron Keen ผู้ซึ่งจินตนาการถึงนวัตกรรมที่โด่งดังขณะที่ไปเยี่ยมบ้านของเขา Eron ได้เปิดเผยการสร้างสรรค์ ชิปล่าสุดของเขาที่เรียกว่า STEM ซึ่งมีศักยภาพไร้ขีด จำกัด ในทางปฏิบัติ ข้อ จำกัด เมื่อกลับถึงบ้านเกรย์กับอาชาขับตัวเองและชายทั้งสี่ทำร้ายทั้งอาชาและสังหารและเกรย์ก็ถูกยิงที่บ้านของเกรย์ในเวลาต่อมาเมื่อตาย รถเข็นถูก
จำกัด ภายใต้การพิจารณาของแม่พาเมล่า อัพเกรด การผ่านของอาชาและความล้มเหลวของเดชคอร์เตซเพื่อแยกแยะผู้จู่โจมที่ทำให้เกิดสีเทาท้อใจหลังจากความพยายามฆ่าตัวตาย อีรอนเข้าเยี่ยมเขาซึ่งชักชวนให้เขายอมรับการเริ่มต้นของการปลูกถ่ายอวัยวะโดยยืนยันว่ามันทำให้เขาสามารถเดินได้อีกครั้ง ติ่มซำควบคุมอวัยวะของเขาและอีรอนเกรย์เห็นด้วยกับข้อตกลงที่ไม่เปิดเผยซึ่งทำให้เกรย์อ้างว่าไร้ความสามารถในขณะที่ดูวิดีโอการสังหารคดีฆาตกรรม สีเทาที่ดีกว่าของเขาได้ยินสีเทาต้นกำเนิดพูดในใจของเขา จุดเริ่มต้นบอกว่ามันสามารถช่วยเกรย์ค้นหาการแก้แค้นและแยกแยะ
เมื่อเกรย์และเมียของเขาถูกโจรดักทำร้ายจนทำให้เมียของเขาถูกฆ่าตายในขณะกลับบ้าน แถมเขาก็โดนทำร้ายร่างกายจนปางตาย เกรย์จึงจำใจต้องเข้าร่วมทดลองเพื่อฝังโปรแกรมคอมพิวเตอร์ซิพในคอที่ชื่อ “Stem” เพื่อให้สามารถเดินเหินได้อีกครั้ง และสามารถสืบค้นหาคนที่ฆ่าเมียของเขา.. ความรู้สึกส่วนตัว : เสียดายมาก แต่เป็นความเสียดายที่ตัวเองปล่อยให้หนังเรื่องนี้ผ่านสายตาไปตั้งนาน ทั้งๆที่มันผ่านตาด้วยรีวิวและคะแนนความชื่นชมของหนังเรื่องนี้ เป็นผลงานกำกับเรื่องที่สองของ ลีห์ แวนเนลล์ นักทำหนังชาวออสเตรเลีย ผู้ร่วมเขียนบท Saw และ Insidious เป็นหนังทุนต่ำ Upgrade (2018) อัพเกรด “แต่โคตรดี สนุก มัน บู้ ถึงเลือดถึงเนื้อ ” ชื่นชมด้วยใจจริง
หากจะวัดกันปอนด์ต่อปอนด์ หนังเรื่องนี้ก็ทำได้ดีกว่าหลายๆเรื่อง ด้วยความที่เป็นหนังไซไฟเทคโนโลยีโลกสมัยใหม่ ความล้ำสมัยของสิ่งต่างๆ ถูกสร้างจากองค์ประกอบที่จำกัดจากทุนสร้างที่ไม่มากมาย แต่หนังกับสามารถสร้างความหน้าติดตาม จากองค์ประกอบของแสง สี มุมกล้อง ฉากต่างๆในหนัง การดำเนินเรื่องด้วยพล็อตที่เราอาจจะคิดว่าเราเดาได้ตั้งแต่ต้น แต่เราก็ไม่อาจชะล่าใจได้ในที่สุด ยิ่งดู
ยิ่งทำให้นึกถึง blade runner (โลกอนาคต)+ Venom (ฮีโร่ที่มีอะไรฝังในตัว) ความที่เป็นหนังไซไฟโลกอนาคต หลายๆคนอาจนึกถึงความอลังการของสิ่งต่างๆในเรื่อง สแกลที่ยิ่งใหญ่แปลกตา แต่หนังเรื่องนี้กับสามารถสร้างความพอดีในรูปแบบความล้ำสมัยของโลกอนาคตจากต้นทุนของสิ่งที่ตัวเองมีได้อย่างลงตัวน่าชื่นชมและน่าเชื่อถือ สร้างรูปแบบฉากบู้ ให้สนุกด้วยมุมกล้องให้ดูมีความเท่ห์ แบบฮีโร่และการเดินเรื่องที่มีการแทรกมุขต่างๆจนทำให้รู้สึกได้ว่าหนังเรื่องนี้มีดีกว่าที่คุณคิดเยอะ
เมื่อเมียของเขาถูกโจรฆ่าตายแถมเขาโดนทำร้ายร่างกายจนปางตาย เกรย์จึงจำใจต้องเข้าร่วมทดลองเพื่อฝังโปรแกรมคอมพิวเตอร์ซิพในคอที่ชื่อ “Stem” เพื่อให้สามารถเดินเหินได้อีกครั้ง แต่เจ้าโปรแกรมที่ว่าก็ดันสั่งการบางอย่างที่ทำให้เขาสามารถตามหาคนที่ฆ่าเมียของเขาได้ !?! “black mirror” Upgrade (2018) อัพเกรด meet “her” meet “robocop” = upgrade โคตรพ่อโคตรแม่ดีย์ เป็นหนังที่เอาแอคชั่นก็ดี เอาไซไฟทุนต่ำแต่พร็อพ objects ต่างๆมันเท่ก็ดี ไหนจะคาแร็กเตอร์ตัวละครที่ดีไซน์ออกมาได้เท่ดี อีกทั้งการมาเหนือคาดขององก์หลังของหนังที่ไม่อยากจะเชื่อว่า leigh whannell คนเดิมสมัยทำ saw กลับมาแล้ว!
อย่างแรกที่ต้องชื่นชมคือนี่เป็นหนังที่ใช้ประโยชน์ของ “มุมกล้อง” ได้ดีมากๆ การที่มุมกล้องมันหันหมุนตามจังหวะการกระทำต่างๆของตัวเอกในเรื่อง ไม่ว่าจะเตะต่อยเดินเหินต่างๆ ทำให้ฉากแอคชั่นเตะต่อยของหนังมันเดือดมากขึ้นจริงๆ การตัดต่อก็เป็นส่วนที่ดีด้วยเช่นกัน เตะต่อยกันปุ๊บปั๊บๆดี ด้านความโหดขายความ gore/brutal แม้ในตย.หนังจะโชว์เยอะไปหน่อย แต่ยอมรับว่าพอได้ดูผ่านหนังเต็มๆอีกรอบก็รู้สึกว้าวเหมือนเดิม หัวแบะกระจุย ปากฉีกกระจาย โคตรแห่งความ practical effects ที่สะใจมากๆ ฟีลแบบเหมือนได้ดูพวก total recall, robocop เลย
ท้ายสุดแล้ว ไม่อยากเชื่อว่านี่ก็เป็นหนังไซไฟที่ขายไอเดียแล้ว ยังมีพล็อตและเนื้อเรื่องที่แข็งแรง ไม่ได้ใช้แค่ความไซไฟเป็นตัวธีมหรือเอามาเป็น background เฉยๆ แต่สามารถส่งต่อเนื้อเรื่องของมันให้ดีขึ้นได้ จนได้ฟีลแบบ black mirror สักตอนเลย ชอบตอนจบมากๆ สรุปโดยภาพรวมแล้ว คืองานคืนฟอร์มที่แท้จริงของ leigh whannell ที่เรียกได้ว่าออกจากร่มเงาของ james wan ได้จริงๆจังๆสักที ทั้งสนุก มันส์ เหวอและช็อคไปพร้อมๆกัน เกรด : A+
ฉันจะให้เครดิตภาพยนตร์เรื่องนี้สำหรับการนำเอาความสดใหม่มาสู่ภาพยนตร์การแก้แค้นที่เกินเลยไป แอ็กชั่นนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก ขณะเดียวกันก็ปลุกความทรงจำเกี่ยวกับผลงานของ Wachowskis ใน The Matrix อีกด้วย Upgrade (2018) อัพเกรด ฉันสนุกกับเพลงแนว Vangelis-esque ที่ใช้มาตลอด มันช่วยสร้างบรรยากาศมืดมนแห่งอนาคตที่จำเป็นสำหรับเรื่องราว แม้ว่าคุณจะคิดว่าเรื่องราวดำเนินไปในทิศทางไหน แต่มันก็ไปในทิศทางที่ไม่คาดคิดได้ ระหว่างแนวคิดสุดเจ๋ง ฉากที่ยอดเยี่ยม และธีมที่มืดมน การอัปเกรดเป็นเพียงการอัพเกรดไปสู่หนังแอ็กชั่นระทึกขวัญแนวแก้แค้นทั่วไป
หนังเรื่องนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นตอนยาวๆ ของกระจกสีดำ การผลิตสูงขึ้นและการถ่ายภาพยนตร์ก็เจ๋งมาก ฉันเห็นว่าการล็อคเสถียรภาพบนศีรษะของเขาในระหว่างฉากต่อสู้อาจทำให้บางคนเวียนหัวได้อย่างไร แต่ฉันคิดว่ามันเป็นวิธีที่ไม่เหมือนใครในการทำสิ่งต่างๆ การแสดงบางอย่างไม่ได้มาตรฐานเลยในระหว่างการโต้ตอบแบบเป็นกันเอง แต่ฉันคิดว่าโครงเรื่องและฉากแอ็คชั่นประกอบขึ้นเพื่อมัน มันเป็นเรื่องที่กระตุ้นความคิดในแบบที่ Black Mirror และฉันอยากจะแนะนำให้ใครก็ตามที่ชอบเนื้อหานั้นและไม่สนใจเลือดสาด
Sicario (2015) ทีมพิฆาตทะลุแดนเดือด