Tron legacy (2010) ทรอน ล่าข้ามอนาคต

Tron legacy (2010) ทรอน ล่าข้ามอนาคต

เรื่องย่อ

ดูหนัง Tron legacy (2010) ทรอน ล่าข้ามอนาคต ลูกชายของนักออกแบบโลกเสมือนจริงออกตามหาพ่อของเขา และจบลงที่โลกดิจิทัลที่พ่อของเขาออกแบบ เขาได้พบกับสิ่งสร้างที่เสื่อมทรามของพ่อและพันธมิตรที่ไม่เหมือนใครซึ่งเกิดในโลกดิจิทัล

ในปี ค.ศ. 1989 เควิน ฟลินน์ (รับบทโดย เจฟฟ์ บริดเจส) วิศวกรซอฟต์แวร์และซีอีโอบริษัทเอ็นคอมอินเตอร์เนชันแนล (ENCOM International) หายตัวไป ยี่สิบห้าปีต่อมา แซม บุตรชายของเขา (รับบทโดยการ์เรต เฮดลันด์) ผู้ถือหุ้นส่วนของบริษัทเอ็นคอมที่รับช่วงต่อจากบิดา เขามีความสนใจในบริษัทแห่งนี้น้อยมาก นอกเหนือไปเสียจากการทำเรื่องตลกต่อคณะกรรมการบริหารบริษัทเป็นประจำทุกปี อลัน แบรดเลย์(รับบทโดย บรูซ บ็อกซ์เลตเนอร์) เพื่อนของบิดาแซมและผู้บริหารบริษัทเอ็นคอมมาเยี่ยมแซม และกล่าวว่าเขาเพิ่งได้รับข้อความเพจเจอร์ซึ่งติดต่อมาโดยบิดาของเขาว่าอยู่ที่ร้านเกมส์เดิมของฟลินน์ ทำให้แซมเริ่มต้นออกค้นหาปริศนาการหายตัวไปของบิดา ขณะที่แซมสำรวจร้านเกมอยู่นั้น ก็ได้พบห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ลับในชั้นใต้ดินและได้ส่งให้เขาเข้าไปอยู่ในกริดโดยที่เขาไม่ได้ตั้งใจ ดูหนังออนไลน์

แซมถูกจับและบังคับให้ลงสู่สนามแข่งขัน แซมตกหลุมพรางของรินซ์เลอร์ แชมเปียนของเกมดังกล่าว ซึ่งต่อมาได้ประกาศว่าแซมไม่ใช่โปรแกรม หากทว่าเป็นผู้ใช้ (User) หรือมนุษย์ รินซ์เลอร์จับเขาไปส่งคลู โปรแกรมคัดลอกของบิดาแซมผู้ควบคุมกฎในกริด คลูหมายมั่นจะฆ่าแซมในเกมไลต์ไซเคิล แต่ควอร่า (รับบทโดย โอลิเวีย ไวลด์) ได้เข้าช่วยเหลือเขาระหว่างการแข่งขัน และนำแซมไปสู่ย่านพ้นกริด และได้พบกับเควิน ฟลินน์ บิดาของเขาซึ่งเผยความจริงว่าคลูทรยศต่อเขา เอาชนะทรอน และเข้าควบคุมกริด ทำให้เควินต้องคอยหลบซ่อนตัวตลอดเวลา คลูต้องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไอโซมอร์ฟิก อัลกอริทึมส์ (ISOs) ซึ่งเป็นโปรแกรมที่สามารถให้กำเนิดทายาทต่อไปได้ และเป็นกุญแจสำคัญในการพลิกปริศนาของวิทยาศาสตร์ ศาสนา และการแพทย์ ซึ่งคลูมีความคิดว่าพวกนี้คือความไม่สมบูรณ์ เมื่อประตูเชื่อมกริดถูกปิดลง แซมจึงเสมือนถูกกักขังภายในกริด สิ่งประดิษฐ์ของเขาเองจนกระทั่งแซมได้เข้ามาและเปิดประตูเชื่อมกริดอีกครั้งหนึ่งจากด้านนอก (โลกมนุษย์)

ผู้กำกับ

โจเซฟ โคซินสกี

บริษัท ค่ายหนัง

วอลท์ ดิสนีย์ พิคเจอร์ส
ฌอน ไบเลย์ โปรดักชันส์

นักแสดง

เจฟ บริดเจส
การ์เรต เฮดลันด์
บรูซ บ็อกซ์ลีทเนอร์
โอลิเวียร์ ไวลด์
ไมเคิล ชีน

โปสเตอร์หนัง

รีวิว

Vintage Motion

ส่วนตัวแอดมินยังไม่เคยดูภาคแรกเมื่อปี 1982 แต่อย่างหนึ่งเกี่ยวกับหนังภาคนี้ที่จำได้แจ่มชัดก็คือคอมพิวเตอร์กราฟฟิคอันแสนอลังการ TRON: Legacy (2010) เน้นขายความเอ็นเตอร์เทนและมอบความตื่นตาเป็นหลัก คือทึ่งไปเรื่อยๆ กับโลกที่เขาเนรมิตขึ้นมา ยิ่งถ้าดูด้วยคุณภาพที่คมชัดมากๆ จะเห็นเลยว่าภาพสวยได้ใจ โดยเฉพาะฉากมอเตอร์ไซค์แสงสี เป็นซิกเนเจอร์ที่โดดเด่นจริงๆ ไหนจะดีไซน์ตัวละคร คอสตูม ฉาก งานโปรดักชั่นอยู่เหนือการทักท้วงด้วยประการทั้งปวง
.
ส่วนในแง่ของเนื้อเรื่องก็เป็นการผจญภัยแบบค่อยๆ เปิดโลก ให้คนดูรุ่นใหม่ทำความเข้าใจกฎทีละนิด อะไรเป็นอะไร เหล่าโปรแกรม แผ่นดิสก์ วิธีการฆ่ากัน ความลึกลับต่างๆ ค่อยๆ เปิดเผยตามลำดับ นี่คือการประเดิมกำกับหนังเรื่องแรกของ โจเซฟ โคซินสกี้ ที่ภายหลังได้ไปทำ Oblivion (2013), Only the Brave (2017) และล่าสุด Top Gun: Maverick (2021)
.
อีกทั้งงานนี้เป็นการผลักดันคู่พระนางดาวรุ่งให้มารับบทนำกันอย่างเต็มตัว เริ่มจากฝ่ายชาย แกร์เร็ตต์ เฮ็ดลันด์ ที่ไต่เต้ามาจากสายเมนสตรีมอย่าง Troy (2004), Four Brothers (2005) และ Eragon (2006) ขณะที่ฝ่ายหญิง โอลิเวีย ไวล์ด ซึ่งแจ้งเกิดจากซีรีส์ House ก็โดดเด่นสุดๆ โดยเฉพาะสายตาโฉบเฉี่ยวคู่นั้น งานนี้งานเดียวผู้ชมทั่วไปน่าจะจดจำเธอกันได้มากโข
.
นอกนั้นแล้วยังนำ เจฟฟ์ บริดเจส กลับมารับบทเดิมเมื่อ 28 ปีก่อน ซึ่งไฮไลต์สำคัญก็อยู่ตรงความพยายามแรกๆ ในการใช้เทคโนโลยี “ดี-เอจ” ที่สามารถรังสรรค์อายุนักแสดง ก่อนนี้มีทำจากหนุ่มเป็นชรามาแล้ว คราวนี้ทำจากสูงวัยให้กลับมาหนุ่มแน่นบ้าง ซึ่งถึงแม้ใบหน้าของบริดเจสร่างหนุ่มอาจจะยังดูไม่เนียนนัก แต่ก็ถือเป็นรากฐานให้นำวิทยาการไปต่อยอดกับหนังเรื่องอื่นๆ จนภายหลังมานี้แพร่หลายอย่างมาก
.
และที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือเรื่องซาวด์ โลกดิจิตอลกับดนตรีอิเล็คทรอนิกส์คือของคู่กันแบบไม่อาจแยกจาก เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้หนังดูสนุก เพราะบรรยากาศช่วยกล่อมอารมณ์ให้คล้อยตาม ซึ่งก็ตามที่เกริ่นไปข้างต้น หนังเน้นขายความบันเทิง ขายความเท่ ขายสไตล์ ขายวิชวล ขายแอ็คชั่น ขายมอเตอร์ไซค์ ลำพังตัวละครชุดดำ สวมหมวกมิดชิด ท่าทางเอาจริงเอาจังก็ทำให้รู้สึกตื่นเต้นแล้ว
.
อย่างไรก็ตาม เมื่อครั้งออกฉาย TRON: Legacy มีผลตอบรับก้ำกึ่ง ด้วยทุนสร้างมหาศาลถึง 170 ล้านดอลลาร์ แต่ทำเงินในสหรัฐฯได้ไป 172 ล้าน ส่วนรายรับรวมทั่วโลกอยู่ที่ 400 ล้าน แบบนี้จึงถือว่าไม่ค่อยเข้าเป้า แล้วจากนั้นแฟรนไชส์ก็เงียบหายไปถึงแม้มีข่าวทำภาคสามอยู่เป็นระยะมาเกือบสิบปี ที่พอมีให้แฟนๆ หายคิดถึงอยู่บ้างก็คือฉบับซีรีส์แอนิเมชั่นเมื่อช่วงปี 2012
.
ซึ่งในความเป็นจริง TRON มีศักยภาพในตัวสูง ธีมมีเอกลักษณ์ชัดเจน เนื้อหาสาระเชิงปรัชญาสามารถนำไปต่อยอดได้ ทำหนังภาคต่อ ภาคแยก ซีรีส์ ทางเลือกเหลือหลาย โดยตามที่สตูดิโอประกาศโครงการภาคต่อไปอีกรอบเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คงต้องรอดูกันว่าภารกิจเข็นแฟรนไชส์นี้จะสำเร็จหรือไม่

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

The Guyver (1991) กายเวอร์มนุษย์เกราะชีวะ

Slingshot (2024)

APEX (2021) เกมส์ล่าอนาคต

The Vortex (2012) วอเท็กซ์ สงครามอสูรล่าอสูร

Time Lapse (2014)