เรื่องย่อ : Transformers 2 (2009) ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 2 : อภิมหาสงครามแค้น ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ ดูหนังHD ดูหนังฟรี MovieHD24 หนัง2024 หนังออนไลน์ Full HD
Transformers 2 (2009) ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 2 : อภิมหาสงครามแค้น
ภาคแรกสำหรับผมเข้าข่ายชอบครับ หนังมันส์ในระดับที่พอเหมาะ ถึงแม้บทจะมั่วๆ หน่อยแต่ก็ไม่ได้ขัดใจมาก ตรงข้ามกันกับภาคนี้ ที่ผมโอเคกับบทมากขึ้น แต่แอ็คชั่นผมไม่โอเลยนะ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เรื่องย่อ
สงครามบนโลกมนุษย์ได้ยุติลง แต่ทว่าสงครามในห้วงจักรวาลนั้นเพิ่งจะเริ่มต้น หลังจากการกลับมาถึงไซเบอร์ทรอน สตาร์สครีมได้รับคำสั่งของเจ้าแห่งฝ่ายดีเซปติคอนส์ และได้ตัดสินใจกลับมาบุกรุกโลกพร้อมกองกำลังจักรกลสังหาร ฝ่ายออโต้บอทส์ ที่เชื่อมั่นในสันติภาพได้พบว่า ซากหุ่นที่ถูกทำลาย ของเมกาทรอนได้ถูกขโมยไปจากกองทัพสหรัฐฯ โดยสคอร์ ฟิน็อกซ์ และทำให้คืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง ตอนนี้เมกาทรอนจึงกลับมาเพื่อแก้แค้น พร้อมสตาร์สครีมผู้ภักดี และกองทัพจักรกลสังหารฝ่ายดีเซฟติคอนส์ที่เดินทางมาสมทบอีกจำนวนมาก มหาสงครามแค้นครั้งนี้จึงเป็นงานใหญ่สำหรับฝ่ายออโต้บอทส์ ที่จะต้องรับศึกอันยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ใครจะคาดคิดได้
อย่างที่บอกครับว่าผมโอเคกับบทมากขึ้น เพราะพล็อตภาคนี้ง่ายกว่าภาคที่แล้วมากโขเลย ไม่ได้มีซับพล็อตที่อิรุงตุงนังเหมือนภาคแรก ก็แค่”มีหุ่นเจ้าพ่อตัวร้าย อยากจะแก้แค้น” แค่นั้น ถามว่ามันง่ายไปมั้ย ก็มีนิดนึงครับ แต่ว่าหนังแนวนี้ก็ไม่ได้จำเป็นต้องมีพล็อตรองเยอะแยะ ไม่จำเป็นต้องมีบทที่เข้มข้นและตามหลักความจริง แค่มีอะไรที่เซอร์วิซคนดูได้ก็โอเคแล้ว อันนี้ป๋า Bay คิดถูกแล้วครับ เพราะบทภาคนี้ดูเหมือนเขียนโคลงมาดี เอาประเด็นมานำเสนอได้น่าสนใจว่าบทสรุปมันจะเป็นเยี่ยงไร แล้วประเด็นเหล่านี้จะส่งผลถึงภาคต่อๆ มาหรือไม่ แต่เหมือนว่า Bay ไม่ได้หยิบเอาประเด็นเหล่านี้มาเล่าเป็นเรื่องเป็นราว(อีกแล้ว) และก็แทนที่ด้วยฉากแอคชั่น ซึ่งภาคนี้มีเยอะขึ้นครับ มีประมาณ 70% เห็นจะได้ ซึ่งผมว่ามันเยอะขึ้นก็น่าจะโอนะ เพราะหนังชุดนี้มันเน้นแอคชั่นอยู่แล้ว
^
แต่กลับกลายเป็นว่าส่วนของแอคชั่นในภาคนี้กลายเป็นส่วนเกินและก็ข้อเสียของหนังครับ
ช่วงต้นๆ ประมาณ 10 นาทีแรกของหนัง ผมชอบนะครับ เพราะฉากแอคชั่นมันเท่ห์มาก หุ่นหลายตัวที่เพิ่มเข้ามาดูน่าสนใจ ปริมาณฉากต่อสู้พอดิบพอดีเหมือนภาคแรก แต่หลังจากนั้นฉากแอคชั่นก็มีมาแทบทุกๆ 20 นาทีเลยครับ เดี๋ยวก็คุยกัน แล้วก็จู่ๆ ก็มีระเบิดตู้มต้ามๆ แล้วก็เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนจบ เอาจริงๆ แอคชั่นไม่ต้องเยอะก็ได้ครับ มีหลายฉากที่ไม่ควรใส่เข้ามา (เช่น ฉากในโรงงาน, ฉากในป่า ฯลฯ) เพราะมันทำให้หนังยืดเยื้อครับ แทนที่จะให้เนื้อเรื่องมันเดินไปแบบดีๆ กลับมาสะดุดขามันเพราะใส่แอคชั่นที่ไม่จำเป็นเข้ามา ทำให้บทที่วางโคลงมาดี กลับหม่นอุ้ยปุ้ย(เละเทะ)ไม่เป็นท่าเพราะแอคชั่นแท้ๆ ปัญหามันไม่ได้หมดแค่นั้นนะครับ ผมว่าฉากไคล์แมกซ์นี่ก็เป็นหนึ่งในจุดปังอันยิ่งใหญ่ของหนังเลย(ผมหมายถึง”ปังปินาศ”นะ😁)
ฉากตีกันช่วงท้ายนี่….. ผมเข้าใจป๋า Bay นะว่าอยากจะสรุปพล็อตที่วางมาแต่แรกให้ดูดีที่สุด แต่กลับกลายเป็นว่าไอ้ที่ปูมาตั้งแต่ต้นเรื่องแทบไม่จำเป็นเลยครับ ไอ้ฟอลลงฟอลเลนอะไรนั่นที่ว่าโหดมากในตอนต้น มาถึงตอนจบ…ขอประทานโทษนะครับ “โคตรกากเลยอ่ะ” (ขอสปอยเลยนะ) ตีกันไม่ถึงนาที ก็ได้ไปเฝ้ายมบาลซะแระ ไอ้ลูกน้องที่โดนฆ่าไปในช่วงก่อนหน้ายังสู้กันได้สมน้ำสมเนื้อกว่าไอ้หัวหน้ามันอีกครับ และอีกอย่าง ไอ้เมกะตรอนในภาคนี้ แทนที่มันจะดูกาก มันกลับเป็นตัวร้ายที่ดูดีโดยที่ไม่ต้องพยายามซะงั้นครับ ไม่ต้องทำอะไรมากก็ดูดีกว่าบอสใหญ่แระ(ฮา) และปัญหาอันใหญ่หลวงอีกอันของแอคชั่นช่วงท้ายก็คือ….. Location ครับ
ภาคที่แล้วผมว่าตีกันมันก็เพราะโลฯ มันอำนวยครับ ตีกันในเมืองนี่แหละมันส์ดี ยิงระเบิดไปมาเรายังลุ้นเลย แถมมันยังเป็นที่กำบังและหลบซ่อนได้ดีเลยนะ เหมือนเราเล่นเกมส์ซอมบี้อ่ะครับ ถ้าเล่นในเมืองนี่ผมว่าโลฯ มันได้นะ เพราะไม่รู้ว่าไอ้ผีดิบมันจะโผล่มาจากซอกไหนมุมไหน และบรรยากาศมันก็ให้ด้วยครับ อยู่ในเมืองปล่าวเปลี่ยว ไม่มีใครนอกจากเราและฝูงซอมบี้ หรือว่าเกมบู้ระห่ำก็ได้ครับ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น PB (Point Bank) เงี้ย ซุ่มยิงกันในตึกราบ้านช่อง มีป้อม มีช่องบุก ยิงกันสนั่นเมือง แค่พูดก็ยังมันส์เลยครับ เพราะฉะนั้นการเลือกโลฯ ในการบู๊กันนี่สำคัญครับ เพราะมันต้องให้ฟิลลิ่งแบบกดดันและไม่โฉ่งฉ่างเกินไปจนไม่ลุ้น(ลองว่ายน้ำถือปืนยิงกันสิ ถ้าไม่เชื่อ555) หรือว่าสู้กันในป่าก็ได้ครับ ได้ฟิลลุ้นดีเหมือนกัน
แต่ป๋า Bay เลือกจะสู้กันที่ทะเลทรายครับ(?) ก็รู้นี่ว่าทะเลทรายมันกว้างนะครับ กว้างไม่พอโล่งด้วย ดังนั้นเรื่องอารมณ์ร่วมตัดออกได้เลยครับ เพราะเราสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ว่ามันจะบุกทางไหน มันจะยิงจุดไหน แล้วไอ้การยิงปืนเนี่ย ถ้ายิงในเมืองเรายังรับได้นะครับ เพราะอย่างน้อยไอ้พวกข้าวของอย่างน้อยมันก็ปกปิดหุ่นไม่มิดหรอก ดีไม่ดีผมว่ายิงกันแบบนั้นยิ่งเท่ห์ซะอีก วิ่งฝ่าดงอิฐดงปูนไร้งี้ แต่กลับทะเลทรายมันคนละฟิลกันเลยครับ ไอ้ที่ว่าเท่ห์นี่กลับกลายเป็น”วุ่นวาย”แทน เพราะยิงทีก็มีแต่ “ฝุ่น” “ฝุ่น” “ฝุ่น” “ฝุ่น” และก็ “ฝุ่น” แทนที่จะได้ดูหุ่นตีกันมันส์ๆ กลับกลายเป็นว่ามาดูหุ่นเตะฝุ่นเล่นซะงั้น(555)
อย่างว่าครับ ผมโอเคกับบท(วางโคลงดี ประเด็นน่าสนใจ) แต่แอคชั่นผมไม่โอเลย(เยอะเกิน ฉากไคล์แมกซ์ปัง(ปินาศ)มาก เลือกโลฯ ผิดมหันต์) ถ้าแอคชั่นมันทำได้โอเค หั่นนู่นออกนิด ซอยนี่ออกหน่อย เลือกโลฯ ที่ดีกว่านี้ ผมว่าภาครี้จะดูดีกว่าภาคแรกอยู่หลายโขเลยนะ
ด้านดาราโอเคครับ Effect ก็เนียนเหมือนเดิม ดนตรีประกอบก็ติดหูเช่นเก่า งาน Production ดีสูสีภาคแรกเลย ส่วนอื่นๆ ผมก็ยังโอเคเท่ากันกับภาคแรกเหมือนเดิม
สรุป
๏ บทหนัง :โคลงดี แต่นำเสนอไม่ค่อยน่าติดตาม
๏ การดำเนินเรื่อง : เร็วมาก!
๏ การแสดง : โอเค
๏ Production : ดี
คะแนนเฉลี่ยรวม : 5.5/10
เรตหนัง : หนังโอเค ดูได้เพลินๆ
ปล1. แฟนๆ ทรานส์ฟอร์เมอร์สอย่ามาถล่มผมนะ ลิ้นผมกับลิ่นคุณเราอาจจะไม่ได้ชอบรสชาติแบบเดียวกันเสมอไป
ปล2. ระหว่างดูฉากไคล์แมกซ์ ก็นึกถึงประโยคของของอนาคินที่พูดว่า “ข้าไม่ชอบทราย” (555)
ไมเคิล เบย์
ดูหนังออนไลน์ สงครามบนโลกมนุษย์ได้ยุติลง แต่ทว่าสงครามในห้วงจักรวาลนั้นเพิ่งจะเริ่มต้น หลังจากการกลับมาถึง ไซเบอร์ทรอน สตาร์สครีม ได้รับคำสั่งของเจ้าแห่งฝ่าย ดีเซปติคอนส์ และได้ตัดสินใจกลับมาบุกรุกโลกพร้อมกองกำลังจักรกลสังหาร ฝ่ายออโต้บอทส์ ที่เชื่อมั่นในสันติภาพได้พบว่าซากหุ่นที่ถูกทำลาย ของเมกาทรอน ได้ถูกขโมยไปจากกองทัพสหรัฐฯ โดย สคอร์ ฟิน็อกซ์ และทำให้คืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง ตอนนี้เมกาทรอนจึงกลับมาเพื่อแก้แค้น พร้อมสตาร์สครีมผู้ภักดี และกองทัพจักรกล สังหารฝ่ายดีเซฟติคอนส์ที่เดินทางมาสมทบอีกจำนวนมาก มหาสงครามแค้นครั้งนี้ จึงเป็นงานใหญ่สำหรับฝ่ายออโต้บอทส์ ที่จะต้องรับศึกอันยิ่งใหญ่เกินกว่า ที่ใครจะคาดคิดได้
FAST X (2023) เร็ว…แรง ทะลุนรก 10
Fast and Furious 9 (2021) เร็ว…แรงทะลุนรก 9
Fast & Furious: Hobbs & Shaw (2019) เร็ว…แรงทะลุนรก ฮ็อบส์ & ชอว์