The Wizard of Oz (1939) พ่อมดแห่งเมืองออซ

The Wizard of Oz (1939) พ่อมดแห่งเมืองออซ

เรื่องย่อ

The Wizard of Oz (1939) พ่อมดแห่งเมืองออซ โดโรธี เกลในวัยเยาว์และโทโต้ สุนัขของเธอถูกพายุทอร์นาโดพัดพาจากฟาร์มในแคนซัสของพวกเขาไปยังดินแดนมหัศจรรย์แห่งออซ และออกผจญภัยกับเพื่อนใหม่สามคนเพื่อพบกับพ่อมดผู้ซึ่งสามารถส่งเธอกลับบ้านและเติมเต็มภารกิจของคนอื่นๆ ได้ ความปรารถนา

เดอะวิซาร์ดออฟออซ  เป็นภาพยนตร์อเมริกันในปี ค.ศ. 1939 แนวดนตรีจินตนิมิต สร้างโดยเมโทร-โกลด์วิน-เมเยอร์ ถือว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์  เป็นที่รู้จักมากที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุดในบรรดางานที่ดัดแปลงจากผลงานหนังสือเยาวชนของลีแมน แฟรงก์ บอมเรื่อง พ่อมดมหัศจรรย์แห่งเมืองออซ ภาพยนตร์นำแสดงโดยจูดี การ์แลนด์ รับบทโดโรที เกล, ร่วมด้วยเรย์ โบลเกอร์, แจ็ก เฮเลย์, เบิร์ต ลาร์, แฟรงก์ มอร์แกน, บิลลี เบิร์ก และมาร์กาเรต แฮมิลตัน ดูหนังออนไลน์

เป็นที่รู้จักในการใช้เทคนิคคัลเลอร์, การดำเนินเรื่องแบบจินตนิมิต, การใช้สกอร์เพลง และตัวละครที่น่าจดจำ ยังเป็นสัญรูปในวัฒนธรรมสมัยนิยมอเมริกัน ภาพยนตร์ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 6 รางวัล รวมถึงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แต่พ่ายให้เรื่อง วิมานลอย ได้รับรางวัลสาขาเพลงดั้งเดิมยอดเยี่ยมจากเพลง “Over the Rainbow” และเพลงสกอร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม โดยเฮอร์เบิร์ต สโตทาร์ต ขณะที่ภาพยนตร์ถือว่าได้รับเสียงวิจารณ์ที่ดีตั้งแต่ครั้งออกฉายเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1939 แต่ก็ไม่ได้ทำกำไรมากนักให้กับเอ็มจีเอ็ม ทำรายได้เพียง $3,017,000 จากงบประมาณ $2,777,000 และยังถือเป็นงานสร้างที่มากที่สุดของค่ายเอ็มจีเอ็ม จนถึงปัจจุบันนี้

ผู้กำกับ

Victor Fleming
King Vidor
George Cukor
Norman Taurog

บริษัท ค่ายหนัง

Metro-Goldwyn-Mayer

นักแสดง

Judy Garland
Frank Morgan
Ray Bolger
Bert Lahr
Jack Haley
Billie Burke
Margaret Hamilton
Charley Grapewin

โปสเตอร์หนัง

รีวิวหนัง

หนังโปรดของข้าพเจ้า

‘เด็กหญิง โดโรธี’ ใช้ชีวิตอยู่ในฟาร์มอย่างเรียบง่ายกับสุนัขชื่อ ‘โตโต้’ จนวันหนึ่งพายุทอร์นาโดพัดพาเธอไปอยู่ในดินแดนมหัศจรรย์ที่เต็มไปด้วยแม่มด สัตว์สิ่งของพูดได้ และพ่อมดออซผู้อาจเป็นหนทางกลับบ้านของเธอ

หนังบางเรื่องเราอาจรู้สึกได้ว่าสร้างมาด้วย sensibility แบบเด็กมาก แต่มันคือความเด็กที่มีเสน่ห์และสามารถจับใจคนได้ทุกเพศทุกวัย ซึ่ง  นับเป็นหนึ่งในนั้น และมันก็ถูกเสริมด้วยความก้าวหน้าทางเทคนิคล้ำยุคสมัยนั้น ที่นำมาใช้จนได้ความรู้สึกสดใหม่ของการเป็น “เรื่องแรก ๆ ที่ใช้เอฟเฟ็คนี้” ไม่แพ้หนังอย่าง Jurassic Park หรือ Toy Story เลยทีเดียว ในยามที่หนังเปลี่ยนจากโลกขาวดำในฟาร์มของโดโรธีมาเป็นสีสัน Technicolor ได้อย่างตื่นตระการตาเมื่อเข้าสู่ดินแดนออซ แต่ในสีสันสดงดงามนั้นก็ถูกเอามาย้อนแย้งได้อีก เมื่อโดโรธีกลับรอไม่ไหวเหลือเกินที่จะได้กลับบ้านของเธอ อันเป็นความรู้สึกที่คนไกลบ้าน แม้อยู่ในสถานที่สวยงามเพียงใดคงรู้สึกตามได้ไม่ยาก ทำให้ท่ามกลางฉากเพลงสนุก ๆ มากมาย (รวมไปถึงเพลงดังที่สุดของหนัง ที่แสดงถึงความรู้สึกโหยหาที่อื่นนอกจากบ้าน คือ “Somewhere Over the Rainbow”) ประโยคที่จับใจความหนังได้ดีที่สุด จึงเป็นคำย้ำบทพูดอันโด่งดังอย่าง “There’s No Place Like Home”

หอภาพยนตร์ Thai Film Archive

หนังเปิดฉากด้วยภาพในโทนสีซีเปีย ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นภาพสีจัดจ้านเมื่อโดโรธี ออกเดินทางสู่ดินแดนของพ่อมดอ๊อซ จากภาพอึมครึมไปเป็นสายรุ้งหลากสี แน่นอนว่าคนดูจำนวนมากยังจำหนังได้จากเฉดสีสดใส ทั้งถนนอิฐสีเหลือง รองเท้าสีเลื่อมทับทิม หรือเมืองมรกตอันระยิบระยับของพ่อมดอ๊อซ สตูดิโอ MGM บอกผู้กำกับภาพฮาล รอสสัน และทีมจากบริษัท Technicolor ให้ใช้สีสันให้มากที่สุด เช่นกันกับทั้งฝ่ายศิลป์และฝ่ายเสื้อผ้า ที่ได้รับคำสั่งให้สร้างองค์ประกอบให้แสบสันด้วยสีในทุกเฉด การถ่ายทำในสตูดิโอยังต้องใช้ไฟแรงสูงเพื่อให้ได้โทนสีอย่างที่ต้องการ ถึงขั้นที่ว่าสตาฟและนักแสดงบ่นว่าแรงแสงไฟส่งผลต่อลูกตาของพวกเขา
.
🎨 คำว่า Technicolor ไม่ได้หมายถึงฟิล์มสี แต่หมายถึงเทคนิคในการถ่ายทำที่ทำให้กล้องถ่ายหนังบันทึกภาพผ่านแถบสีสามแถบ บริษัทใดที่ต้องการถ่ายหนังด้วยระบบนี้ต้องใช้กล้องจาก Technicolor และต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทให้ทำงานในกองถ่ายคู่กับไปตากล้องด้วย
.
🌈 อุตสาหกรรมหนังฮอลลีวูด เริ่มให้รางวัลออสการ์พิเศษทางเทคนิคกับหนังที่ถ่ายทำเป็นสีในปี 1936 หรือเพียง 3 ปีก่อน   ในปี 1939 มีหนัง 6 เรื่องที่ได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลถ่ายภาพสี แต่ พ่ายให้กับ Gone With the Wind ซึ่งยังเป็นหนังสีเรื่องแรกที่ได้รางวัล Best Picture ด้วย

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Mixtape (2021) มิกซ์เทป

Johnson Family Vacation (2004) จอห์นสันแฟมิลี่ ครอบครัวป่วนยกล้อ

Project Christmas Wish (2020)

Double Dad (2021) ดับเบิลแด้ด

Show Me The Way To The Station (2020) ที่ตรงนั้นฉันจะรอเธอ