The Wailing (2016) ฆาตกรรมอำปีศาจ

The Wailing (2016) ฆาตกรรมอำปีศาจ 

เรื่องย่อ

ไม่นานหลังจากที่คนแปลกหน้ามาถึงหมู่บ้านเล็กๆ  The Wailing (2016) ความเจ็บป่วยลึกลับก็เริ่มแพร่กระจาย ตำรวจคนหนึ่งถูกดึงเข้าไปในเหตุการณ์นี้ และถูกบังคับให้ไขปริศนาเพื่อช่วยลูกสาวของเขา จองกู (Kwak Do-won) เป็นตำรวจหนุ่มหน้าใหม่ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่เผชิญกับปรากฏการณ์แปลกประหลาด เมื่อชาวบ้านภายในหมู่บ้านต่างเริ่มมีอาการของคนบ้าคล้ายผีดิบและฆ่ากันอย่างบ้าคลั่ง จองกูต้องใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อค้นหาต้นตอของปรากฏการณ์นี้ แม้จะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นและเข้าใจมาก่อน

ผู้กำกับ

• Na Hong-jin

บริษัท ค่ายหนัง

• 20th Century Fox

นักแสดง

• Kwak Do-won
• Hwang Jung-min
• Jun Kunimura
• Chun Woo-hee
• Kim Hwan-hee
• Heo Jin
• Jang So-yeon

โปสเตอร์หนัง

รีวิวหนัง

Super Review Channel

รีวิว ฆาตกรรมอำปีศาจ หนังผีสยองขวัญสัญชาติเกาหลี The Wailing (2016)  ที่มีลีลาการเล่าเรื่องน่าสนใจผสมผสานคติชนวิทยา ซึ่งนับว่าเป็นมากกว่าหนังผีทั่วไป มีเรื่องเล่า ตำนานผี การไล่ผี ของอาถรรพ์ แบบเกาหลีสอดแทรกความเป็นผีแบบเกาหลีอย่างน่าสนใจ หนังเปิดเรื่องด้วยคดีฆาตกรรมยกครัวในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นหลายคดีโดยไม่รู้สาเหตุ สภาพศพก็ดูประหลาดผิดธรรมชาติ ซึ่งตำรวจกลับสรุปว่าเกิดจากเห็ดพิษ แต่ชาวบ้านกลับไม่เชื่อเช่นนั้น ชาวบ้านเชื่อว่าเหตุการณ์ผิดปกตินั้นเชื่อมโยงกับคดีเด็กหาย ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นหลังจากชายแก่ชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งเดินทางเข้ามาอาศัยอยู่ในกระท่อมชายป่า ชายแก่ซึ่งมีพฤติกรรมผิดมนุษย์ กินซากสัตว์ แต่งกายไม่เหมือนชาวบ้าน ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นชายผีสิง เป็นผีดิบดูดเลือด หรือคนเล่นของประมาณนั้น ชายแก่คนนี้อาจอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด

จงกู ตำรวจหนึ่งผู้มีครอบครัวที่อบอุ่น มีลูกสาววัยกำลังเรียนได้เข้ามาทำคดีฆาตรกรรมในหมู่บ้าน สืบไปก็พบว่าน่าจะเกี่ยวกับชายญี่ปุ่น แต่ไม่นานเรื่องร้ายก็เกิดขึ้นกับลูกสาวของเขา จนทำให้เชื่อได้ว่าลูกสาวของเขาถูกปล่อยของ หรือ ผีสิง ฉากหนึ่งที่น่าสนใจคือพิธีไล่ผีที่เชื่อว่าสิงในตัวลูกสาวของ จงกู หรือการถูก “ปล่อยของ” ใส่ นับเป็นฉากที่มีความน่ากลัวน่าตื่นเต้นดูแล้วให้อารมณ์เหมือนดู หนังผีในตำนาน  The Wailing (2016)  ลูกสาวของเขากรีดร้อง ทรมานและเจ็บป่วยจากการประกอบพิธีกรรม จงกูทนดูลูกรับความทรมาณนั้นไม่ได้ต้องหยุดพิธีไล่ผีไป ฉากนี้สร้างความสับสนมากกว่าใครกันแน่ที่ยายามช่วยเด็ก หรือใครกันแน่ทำร้ายเด็ก หมอผี ชายแก่ หรือพ่อของเด็กเอง

แม้จะไม่มีฉากผีแบบน่าตาหน้ากลัว แต่หนังกลับน่ากลัวด้วยบรรยากาศความไม่ไว้วางใจว่าใครกันแน่คือคนที่ทำให้เกิดเรื่องร้ายขึ้น อีกทั้งยังเปรียบเทียบความน่ากลัวระหว่างคนกับผี ซึ่งมีความน่ากลัวไม่แพ้กัน เสียงลือ คำกล่าวหาก็สามารถทำให้คนดี ๆ กลายเป็นผีได้เช่นกัน แบะหากมองลึกลงไปในแง่วัฒนธรรม อาจตีความได้ว่า ชายแก่ต่างชาติ อาจหมายถึง การปะทะกันระหว่างวัฒนธรรมใหม่กับเก่าที่รุนแรง หรืออาจหมายถึงวัฒนธรรมต่างชาติที่เข้ามาทำลายวัฒนธรรมดั่งเดิมของชาติ เสมือนผีร้ายทำลายความเป็นมนุษย์นั่นเอง หนังเดาทางไม่ถูกเลยว่าใครกันแน่คือผี เพราะมีการสร้างตัวละครให้เราสับสน รวมกับเรื่องเล่าหลายสำนวนจึงทำให้เรื่องพลิกไปมา อะไรกันแน่คือความจริง ผีจึงอาจเป็นใครก็ได้ ที่แน่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นใคร หรืออะไร แต่มันก็มีผลในด้านการทำลายความบริสุทธิ์ ทำให้ความบริสุทธิ์แปดเปื้อนเช่น เกิดเรื่องร้ายขึ้นกับเด็กนั่นเอง

หนังความยาว 2 ชั่วโมง 30 นาที แน่นอนว่ามีบางจุดแอบน่าเบื่ออยู่บ้าง บางพฤติกรรมตัวละครน่าลำคาญบ้างเข่น จงกู ตัวเอกของเรื่องที่ดุงี่เง่าเกินไป ตำรวจเกาหลีที่อ่อนแอ สุภาพเกินไป แต่การใส่ความฉงน ใส่เรื่องเล่า ใส่ความเชื่อเข้าไป พร้อมกับผูกเรื่องฉบับสืบสวนสอบสวน “ใครกันแน่” จึงทำให้เรื่องมีความน่าสนใจพบที่จะลบความน่าเบื่อบางจุดไปได้บ้าง ที่ชอบมากที่สุดคือการเฉลยท้ายเรื่องที่เรียกได้ว่าตบหน้าคนดู หรืออาจจะถีบคนดูก็ว่าได้ มันยิ่งกว่าผีหลอกคน มันยิ่งกว่าปีศาจที่ชักจูงผู้คนให้ลงนรก รับรองว่ามันคือการจบที่สมบูรณ์แบบและสยองขวัญมาก ๆ เลยทีเดียว คือ หนังผีสยองขวัญแนวคติชนวิทยาและสืบสวนสอบสวนที่มีชั้นเชิงการเล่าดีงาม แถมท้ายด้วยตอบจบแบบไม่จบให้คนดูได้ถกเถียงกันอย่างสนุกสนานไม่น้อย 8.5/10

Pjtaylor

เป็นเรื่องที่ติดอยู่ในหัวคุณ ทำให้คุณคิดเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าแม้ว่าเครดิตจะจบไปแล้วก็ตาม  The Wailing (2016)  เป็นประสบการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ผ่านการกระทำที่แตกต่างกันหลายอย่างซึ่งกำหนดโดยความเข้าใจของคุณเกี่ยวกับเหตุการณ์ในโครงเรื่องเท่านั้น นี่คือหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความตระหนักรู้ที่เฉียบแหลมของผู้ชม เนื่องจากสามารถคาดเดาสิ่งที่คุณคิดเพื่อสร้างการเปิดเผยที่คาดไม่ถึง เรื่องราวส่วนใหญ่คลุมเครือแม้ว่าจะมีตอนจบที่ค่อนข้างชัดเจน และทำให้เกิดการรับชมที่ลึกลับอย่างยิ่ง ซึ่งสมมติฐานของคุณมักจะเปลี่ยนแปลงไป และไม่เคยถูกต้องเลย เมื่อคุณนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องนี้ คุณจะรู้ว่ามันถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันเพียงใดตั้งแต่ฉากเปิดเรื่อง มันเป็นสิ่งที่มันควรจะเป็น แม้ว่าบางครั้งจะดูคดเคี้ยวเล็กน้อย และคุณสามารถสัมผัสได้ถึงความยาวของมันอย่างแน่นอน

มันไม่เคยใกล้เคียงกับความน่าเบื่อเลย ทำให้คุณมีส่วนร่วมตลอดเวลาและบางครั้งทำให้คุณลุ้นจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ นี่คือภาพยนตร์ประเภทที่แอบเข้ามาหาคุณ คุณจะไม่รู้เลยว่าหัวใจของคุณเต้นแรงจนสายเกินไป เรื่องนี้เป็นทั้งปริศนาและความสยองขวัญ แต่สุดท้ายแล้วก็ค่อนข้างน่ากลัว มีฉากเลือดสาดที่ทำให้สะดุ้ง ภาพหลอนที่น่าขนลุก และความตึงเครียดที่ทนไม่ไหว แต่โดยรวมแล้วเอฟเฟกต์เหล่านี้ส่งผลต่อคุณมากที่สุด อธิบายได้ยากจริงๆ แต่การบอกว่าภาพน่ากลัวเกินไปก็ถือว่าพูดน้อยไป ข้อบกพร่องที่แท้จริงเพียงอย่างเดียวคือความตลกที่แปลกประหลาดของเรื่อง โดยเฉพาะในฉากก่อนหน้านี้ ทำให้ความจริงใจในการเล่าเรื่องลดลงเล็กน้อย ถึงอย่างนั้น เรื่องนี้ก็ยังทำให้บรรยากาศของเรื่องดูไม่สมดุล เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว เรื่องนี้ยอดเยี่ยมมาก The Wailing (2016)  เป็นภาพยนตร์ที่โดดเด่นและโดดเด่นไม่เหมือนกับเรื่องอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน มันเข้าถึงจิตใจคุณและกระสับกระส่ายไปมาเป็นเวลานาน 8/10

wcoleparks

เปิดเรื่องด้วยการยกคำพูดจากพระคัมภีร์มาอ้าง เป็นเรื่องง่ายที่จะลืมข้อเท็จจริงนี้ไปในขณะที่ชมภาพยนตร์ส่วนใหญ่ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะเห็นได้ชัดว่าคำพูดนั้นมีประโยชน์อย่างไร มันเกือบจะเหมือนคำเตือนว่า “ถ้าคุณเป็นคนเคร่งศาสนา ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้คุณกลัวไปเสียหมด” นี่คือจุดที่ The Wailing ทำได้ดีมาก ในฐานะของนิทานเกี่ยวกับศาสนา ภาพยนตร์เรื่องนี้เอาชนะความยาวนานของเวลาฉายและความไม่สมดุลของโทนเสียง และสร้างภาพยนตร์ที่มักจะตลกแต่ก็ชวนสยองขวัญได้อย่างแท้จริง

เมื่อคนแปลกหน้าลึกลับย้ายไปยังหมู่บ้านเล็กๆ ในเกาหลีใต้ หมู่บ้านนั้นก็เกิดความเจ็บป่วย ตำรวจคิดว่าเห็ดป่าเป็นสาเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจงกูคิดว่าเห็ดป่าอาจเกี่ยวข้องกับคนแปลกหน้าคนนั้น เขาได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ให้ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับชายลึกลับคนนี้แก่เขา และค่อยๆ ตกลงไปในหลุมกระต่ายที่กลืนกินชีวิตของเขา เมื่อลูกสาวของเขาเริ่มแสดงอาการป่วย เรื่องราวก็เริ่มเป็นเรื่องส่วนตัว และเขาต้องคิดว่าใครควรไว้ใจและใครที่ควรหลีกเลี่ยง

ผู้กำกับ ฮงจินนา พยายามอย่างหนักที่จะหาสมดุลของโทนเสียงที่ดี บางครั้งก็สมบูรณ์แบบ แต่บางครั้งก็ไม่สมบูรณ์แบบเลย โทนเรื่องก็พยายามที่จะคงความสม่ำเสมอไว้ ในช่วงสามส่วนแรกของภาพยนตร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ตลกที่มีฉากความเสื่อมทรามและความรุนแรงปะปนกัน ภาพยนตร์ตลกดำเนินไปได้ดี และฉันพบว่าตัวเองหัวเราะอยู่หลายครั้ง จากนั้นเมื่อภาพที่น่ากลัวปรากฏขึ้น ภาพยนตร์ตลกก็ดำเนินไปอย่างกะทันหันและมีประสิทธิภาพ มีความสมดุลที่ดี แต่หายไปในองก์ที่สอง ภาพยนตร์ตลกกลายเป็นเรื่องตลกโปกฮาและไม่เข้ากับส่วนอื่นของภาพยนตร์ ตัวละครยังแสดงเกินจริงและแสดงในลักษณะที่เกินจริง ซึ่งแตกต่างอย่างมากจากการแนะนำตัวละครเหล่านี้ ส่วนกลางของเรื่องยังมีช่วงเวลาของอารมณ์ขันที่ไม่ได้ตั้งใจอีกด้วย ตัวอย่างหนึ่งคือชายคนหนึ่งถูกฟ้าผ่า และอีกตัวอย่างหนึ่งคือหมายเลขผู้โทรของหมอผีปรากฏขึ้นในโทรศัพท์ว่า “หมอผี”

โชคดีที่ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถรักษาความสมดุลได้ดีอีกครั้งในองก์ที่สาม  The Wailing (2016)  แต่เปลี่ยนจากองก์แรกอย่างชาญฉลาด ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้มข้นและน่ากลัวด้วยช่วงเวลาตลกๆ สองสามช่วงเพื่อชดเชยความสยองขวัญ และฉากสุดท้ายนั้นช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก เมื่อทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย ผู้ชมก็เริ่มเข้าใจส่วนที่เหลือของภาพยนตร์มากขึ้น และเริ่มตีความฉากบางฉากใหม่ ปัญหาเดียวคือฉากบางฉากดูสมเหตุสมผลก็ต่อเมื่อภาพยนตร์จบลงเท่านั้น แทนที่จะรู้สึกเป็นธรรมชาติและเข้ากับเนื้อเรื่องในขณะที่ดำเนินเรื่อง พวกเขาต้องการให้ตอนจบดูสมเหตุสมผลเสียจริง

ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Rendel Cycle of Revenge (2024)

Canary Black (2024) รหัสลับดับโลก

The Lost Mausoleum (2024) สุสานมังกร

Brothers (2024) บราเธอร์ส ปล้นครั้งนี้เพื่อพี่ที่รัก

The Burning Sea (2021) มหาวิบัติหายนะทะเลเพลิง