เรื่องย่อ : The Tree of Life (2011) ต้นไม้แห่งชีวิต ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ ดูหนังHD ดูหนังฟรี MovieHD24 หนัง2024 หนังออนไลน์ Full HD
The Tree of Life Major Group
หนังคุณภาพอีกเรื่อง ที่ขอนำเสนอ เป็นเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งในปี ที่มีลูกชายด้วยกันทั้งหมด 3 คน เรื่องราวพูดถึงความสัมพันธ์ของ ลูกชายคนโตกับพ่อที่เขาที่ไม่ค่อยจะลงรอยกัน จนเมื่อโตขึ้นเค้าจึงเข้าใจเรื่องราวทุกอย่างได้ ซึ่งเรื่องนี้ได้รับนักแสดงชั้นนำอย่าง ฌอน เพนน์ มารับบทเป็น Jack เรื่องนี้เนื้อหาดีมาก อยากให้ดูและภาพก็สวยจริงๆ
ต้นไม้แห่งชีวิต การเกิด ศาสนา ความศรัทธา การค้นหา การเติบโต และชีวิต ผลงานสุดอาร์ตติสของผู้กำกับระดับอาจารย์อย่าง เทอร์เรนซ์ มาลิค เจ้าของงาน Badlands (1973) , Days of Heaven (1978) และ The Thin Red Line (1998) บอกเลยว่าหนังเรื่องนี้ดูโคตรยาก ดำเนินเรื่องโคตรไม่เป็นมิตร หนังมีแต่นัยยะซ่อนเอาไว้เต็มไปหมด รวมไปถึงการเชื่อมโยงกับศาสนาและคัมภีร์ไบเบิล ไปจนถึงตัวผู้กำกับเอง ถ้าใครรักในการเชื่อมโยงจับจุดสังเกต (2011) ต้นไม้แห่งชีวิต หรือชอบหนังของเทอร์เรนซ์ มาลิค หรือหนังสงครามของแกที่แฝงปรัชญา ไม่ควรพลาดเรื่องนี้ บอกเลยว่าภาพงานแกสวยมาก ปล. สำหรับใครที่เคยดูและอยากรู้ความหมายของหนัง บอกเลยว่า 10 คนก็ตีความ 10 ความหมาย คุณต้องไปหาความหมายให้กับตัวคุณเอง..
เรื่องน่าฉงนของผลงานมาสเตอร์พีซของเทอร์เรนซ์ มาลิกที่ส่งเขาไปรับรางวัลปาล์มทองคำ (Palme d’Or) จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ คือ การที่มันเป็นหนังที่มีความเป็นส่วนตัวสูงมาก ๆ จะบอกว่าเป็นอัตชีวประวัติของตัวเขาเองก็คงไม่ผิดนัก ทว่าในแง่หนึ่ง มันกลับเต็มไปด้วยความเป็นสากลที่ว่าด้วยความสัมพันธ์อันอีหลักอีเหลื่อภายในครอบครัว ทะเยอทะยานถึงขั้นตั้งคำถามถึงการมีอยู่ของพระผู้เป็นเจ้า ต้นไม้แห่งชีวิต การค้นหาจุดเริ่มต้นของชีวิตและจักรวาล หรือให้เห็นภาพง่าย ๆ นี่คือ 2001: A Space Odyssey ในเวอร์ชั่นที่ไม่ได้มักใหญ่ใฝ่สูงถึงขั้นออกไปค้นหาคำตอบของจักรวาลยังนอกโลก แต่จากสิ่งใกล้ตัวที่เห็นและสัมผัสกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ง่ายดายเหลือเกินที่จะรู้สึกรังเกียจเดียดฉันท์ความเข้มงวดของมิสเตอร์โอไบรอัน (แบรด พิตต์) แต่แง่หนึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายุค 1950s คือช่วงเวลาที่แนวคิดประเภท “รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี” กำลังแพร่หลาย และนี่คือผลผลิตชั้นดีของสังคม Toxic Masculinity เช่นเดียวกับมิสโอไบรอัน (เจสสิกา แชสเทน) มารดาผู้โอบอ้อมอารีและโอนอ่อนผ่อนตามสามีโดยไม่แข็งข้อขัดขืน รอยยิ้มละคราบน้ำตาของเธอยืนยันความสุขที่ปะปนไปด้วยความทุกข์ระทมขมขื่นได้เป็นอย่างดี ฉากหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ
คือตอนที่สองพ่อลูกปลดเปลื้องความเป็นนักสู้อย่างหัวชนฝา เปิดอกสารภาพความขุ่นเคืองข้องใจที่มีต่อกันอย่างหมดเปลือก แอบตีความเอาเองว่าตัวละครพ่อนั้นเปรียบได้กับพระผู้เป็นเจ้า เป็นหัวหน้าครอบครัวที่มีความเบ็ดเสร็จเด็ดขาด มีสิทธิ์ชี้เป็นชี้ตายความเป็นไปของครอบครัว ดูหนังออนไลน์ ส่วนตัวละครแม่ คือตัวแทนของพระแม่มารีผู้ละเมียดละไมอ่อนหวาน นั่นจึงนำมาสู่ข้อสรุปได้ทางเดียวว่าตัวละครแจ็ค โอไบรอัน ลูกชายคนโต (วัยผู้ใหญ่รับบทโดยฌอน เพ็นน์) ก็คือพวกเราปุถุชนคนธรรมดาที่มิอาจต้านทานความประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ทำได้เพียงวิงวอนภาวนาอย่างสิ้นไร้ไม้ตอกเหมือนที่หนังฉายภาพให้เห็นนั่นแหละ
แต่ที่วิจิตรเหนือจินตนาการจริง ๆ คือความหมดจดหยดย้อยของงานภาพที่ถูกออกแบบมาอย่างประณีตบรรจง จังหวะจะโคนของการเคลื่อนกล้องที่พริ้วไหวให้ความรู้สึกราวกับกำลังล่องลอยอยู่ในโลกไร้แรงโน้มถ่วง ยิ่งเมื่อคลอเคล้ากับท่วงทำนองของเสียงคลื่นกระทบฝั่งและฟ้าฝนลมหนาวที่พัดผ่านอย่างแผ่วเบา ยิ่งชวนให้เผลอละเมอคิดไปไกล ไม่ใช่เรื่องผิดฝั่งผิดฝาอะไรที่จะเปรียบเทียบ
ที่เต็มไปด้วยชีวิตจิตใจ พริ้วไหวและสวยงาม เพราะเบื้องลึกเบื้องหลังแล้วทั้งสองเรื่องมีที่ปรึกษา Special Effect คนเดียวกันคือคุณดักลาส เทิร์นบูล นั่นคือตอนที่ภาพจินตนาอันวิจิตรเวอร์วังถึงการกำเนิดโลก จักรวาล พืชพันธ์ สิ่งชีวิต The Tree of Life (2011) ต้นไม้แห่งชีวิต แม่น้ำ ภูเขา ลำธาร ทั้งหลายทั้งมวลเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อเนื้อหาสาระของหนัง ด้วยการชักชวนให้คนดูตั้งคำถามถึงต้นกำเนิด(และจุดจบ)ของวิถีแห่งธรรมชาติเหล่านี้ นี่คือหนังที่ต้องดูบนจอภาพที่ใหญ่ที่สุดด้วยเครื่องเสียงที่ดีที่สุดที่คุณสามารถหาได้
⭐ 8
จะเริ่มต้นด้วย ได้ที่ไหน? การเปิดตัวของ Terence Malick ถือเป็นที่คาดหวังอย่างมากเพราะยอมรับเถอะว่า “อุดมสมบูรณ์” ไม่ใช่ชื่อกลางของเขาอย่างแน่นอน ผลงานภาพยนตร์ 5 เรื่องของมาลิคในช่วงที่ดีที่สุดในรอบ 30 ปีทำให้สแตนลีย์ คูบริกดูเหมือนลูกศิษย์ของโรเจอร์ คอร์แมน เห็นได้ชัดว่า เป็นเรื่องราวของครอบครัวเล็กที่เติบโตในรัฐเท็กซัสในปี 1950
Brad Pitt และ Jessica Chastain เป็นพ่อแม่ของเด็กชายสามคนที่อาศัยอยู่ในแถบชานเมือง ขณะที่ฌอน เพนน์รับบทเป็นลูกชายคนโตที่โตแล้วเพื่อรำลึกถึงช่วงเวลาเหล่านี้ นี่คือจุดที่ความพยายามใดๆ ที่จะดำเนินเรื่องย่อของโครงเรื่องต่อไปจะพังทลายลงภายใต้น้ำหนักของโครงสร้างที่ไม่เป็นเชิงเส้นแบบอิมเพรสชันนิสม์
ต้นไม้แห่งชีวิตเป็นประสบการณ์ที่มีการแบ่งขั้วขั้นพื้นฐานในระดับสูงสุด จะมีคนที่มองว่ามันเป็นเรื่องวุ่นวาย ความโกลาหลที่ซาบซึ้งและเต็มไปด้วยศิลปะ โฆษณาน้ำหอมความยาว 2 ชั่วโมงอัดแน่นไปด้วยภาพและฉากนามธรรมที่ “มีความหมาย” การผสมผสานของคำพูดซ้ำซากที่กระซิบกระซิบกับ “ความหมายของชีวิต” ที่เสแสร้ง
และความรู้สึกนึกคิดที่ฉุนเฉียวอย่างฉุนเฉียว ต้นไม้แห่งชีวิต พวกเขาจะคิดว่ามันเป็นเพลงที่โวยวาย หยาบคาย ถูกตัดสินผิด ไม่มีระเบียบวินัย ขาดการเล่าเรื่องที่เชื่อมโยงกัน และอัดแน่นไปด้วยสัญลักษณ์ที่ต้องใช้มือหนักๆ เหมาะที่สุดสำหรับบทกวีของ Emo รูปแบบที่ 6 พวกเขาจะคิดว่ามันเป็นผลงานของผู้กำกับที่สูญเสียโครงเรื่องของตัวเองไป และนำเสนอภาพยนตร์ซูเฟล่ตามใจตัวเองที่จะยืดความอดทนของพวกเขาจนถึงจุดแตกหัก พวกเขาจะเกลียดมัน และพวกเขาก็จะมีเหตุผล
เรื่องราวของครอบครัวหนึ่งในวาโก รัฐเท็กซัส ในปี 1956 ลูกชายคนโตได้เห็นการสูญเสียความบริสุทธิ์และต้องดิ้นรนกับคำสอนที่ขัดแย้งกันของพ่อแม่ คือภาพยนตร์เรื่องที่ 5 ของ เทอร์เรนซ์ มาลิกตลอดระยะเวลา 40 ปีของการเป็นผู้กำกับ มาลิกคือผู้กำกับที่รักสันโดษ มักเก็บตัวอยู่ในโลกส่วนตัว น้อยครั้งที่จะออกสื่อและสัมภาษณ์ใดๆ มาลิกจบการศึกษาทางด้านปรัชญาจากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดด้วยเกียรตินิยม อันดับ 1 นั่นจึงไม่แปลกที่หนังของเขาจะสอดแทรกสาระทางปรัชญาเอาไว้ด้วยเสมอ
หลังจากหนังเรื่องที่ 2 ของเขา Day of Heaven(1978) ประสบความสำเร็จจากการได้รางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปี 1979 ซึ่งทำให้มาลิกถูกจับตามองเป็นอย่างมาก เขาก็ไม่รีรอช้าที่จะรักษาความเป็นตัวตนของตนเองโดยการย้ายไปเก็บตัวเงียบๆ ที่ปารีสเป็นเวลา 20 ปีเต็ม หลัง 20 ปีแห่งความโดดเดี่ยวของมาลิกผ่านพ้นไป เขากลับมาแผ่นดินเกิดอีกครั้งด้วยหนังเรื่อง The Tree of Life (2011) ต้นไม้แห่งชีวิต หนังที่ว่าด้วยสงครามที่ต่อต้านสงคราม แม้เรื่องนี้จะเข้าชิงออสการ์ถึง 7 สาขาแต่ไม่ดีพอที่จะชนะหนังของสตีเว่น สปีลเบิร์กเรื่อง Saving Private Ryan หนังสงครามขนานแท้ลงไปได้
โดยกวาดรางวัลไปถึง 5 สาขาด้วยกัน จนกระทั่งปี 2011 คือภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขา ในวัย 68 ปี แม้หนังเรื่องนี้นักวิจารณ์จะค่อนขอดว่าเป็นหนังส่วนตัวของมาลิกเอง ในการฉายรอบปฐมทัศน์ที่เทศกาลเมืองคานส์ แต่สุดท้ายหนังเรื่องนี้ชนะใจกรรมการคว้ารางวัลปาล์มทองคำประจำปี 2011 ไปครอบครอง แม้เขาจะไม่มารับรางวัลตามสไตล์ของตัวเขาเองก็ตาม ภาพยนตร์เรื่อง ว่าด้วยเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งในยุค 1950 แถบชนบทของอเมริกา ที่มี Mr. O’Brien (Brad Pitt)
เป็นหัวหน้าครอบครัว และ Mrs.O’Brien (Jessica Chastain) เป็นศรีภรรยา พร้อมลูกชายอีก 3 คน หากดูจากหน้าหนังและพล็อตเรื่องบวกกับโปสเตอร์ของหนังที่ใช้ฝ่ามือ Brad Pitt ประกบเท้าลูกน้อย อาจทำให้ใครหลายคนหลงคิดไปได้ว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นหนังครอบครัวที่เหมาะกับบุคคลทุกเพศทุกวัย และนั่นอาจทำให้ใครหลายคนผิดหวัง เพราะหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังชีวิตตีแผ่ครอบครัวชนบทธรรมดา แต่หนังกล่าวอ้างจากสิ่งที่ยิ่งใหญ่คือเรื่องของโลกและพระเจ้า ก่อนจะค่อยไล่ลงรายละเอียดที่เล็กอย่างครอบครัว O’Brien ลงมา
ผู้เขียนเองค่อนข้างสับสนวุ่นวายในการจับประเด็นเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่นานพอสมควร เพราะสิ่งที่มาลิกถ่ายทอดออกมาเป็นนั่น มันแตกต่างภาพยนตร์เรื่องอื่นโดยทั่วไป นั่นมีความลุ่มลึกในการถ่ายทอดมีความพิถีพิถันในทุกเรื่องราว The Tree of Life (2011) ต้นไม้แห่งชีวิต ความหมายนัยยะที่แฝงอยู่ในตัวภาพยนตร์มีมากซะจนไม่สามารถตีความได้อย่างหมดจด แต่มันคงขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ชม ต่อประสบการณ์ที่ผ่านมาในชีวิตของแต่ละคนที่จะให้ความหมายต่อตัวภาพยนตร์เอง และผู้ชมแต่ละคนก็อาจจะตีความไปได้ต่างๆนานาเช่นกัน ซึ่งหากค้นประวัติส่วนตัวของ มาลิก เองด้วยแล้ว จะเห็นได้ว่า มาลิก เองเคยเป็นอาจารย์สอนปรัชญาอยู่จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ผู้ชมภาพยนตร์ของ มาลิก เองเหมือนถูกสั่งสอนอย่างแนบเนียนด้วยสาระทางปรัชญาโดยผู้ชมไม่ทันรับรู้และระวังตัว
The Sky Is Pink (2019) ใต้ฟ้าสีชมพู
The Call of the Wild (2020) เสียงเพรียกจากพงไพร
A Little Romance (1979) รักนิดๆ สะกิดหัวใจ