The Thing (1982) ไอ้ตัวเขมือบโลก

The Thing (1982) ไอ้ตัวเขมือบโลก

รีวิว

โตมากับหนัง

เป็นหนังแนวไซไฟ สัตว์ประหลาดต่างดาวสยองขวัญ ลึกลับ The Thing (1982) ไอ้ตัวเขมือบโลก  เล่าเรื่องราวของทีมนักวิจัยในทวีปแอนตาร์กติกาที่ได้พบซากสัตว์ประหลาดต่างดาว แล้วนำกลับมาวิจัย แต่สิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อพวกเขาถูกล่าโดยสัตว์ประหลาดต่างดาวที่สามารถแฝงตัวในร่างกายของสิ่งมีชีวิตต่างๆ เริ่มเลียนแบบ โคลนนิ่งเซลล์ให้เหมือนกับมนุษย์และด้วยความสามารถของมันทำให้นักวิจัยเริ่มตายไปทีละคน พวกเขาจึงต้องหาทางกำจัดมันให้สิ้นซาก ซึ่งในเรื่องจะได้เห็นสัตว์ประหลาดต่างดาวสยองขวัญที่สมจริงมาก มีฉากสยองขวัญระดับตำนานที่เกิดขึ้นภายในเรื่องนี้ ทั้งฉากชวนแหวะ การไม่สามารถไว้ใจใครได้เพราะไม่รู้ว่าใครถูกสัตว์ประหลาดต่างดาวกลืนกินร่างไปแล้วบ้าง รวมถึงการอ้างอิงเรื่องของวิทยาศาสตร์อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งผลงานการกำกับของจอห์น คาร์เพนเตอร์ (John Carpenter) ผู้สร้างตัวละครไมเคิล ไมเยอร์ส จากเรื่อง Halloween ที่คุณควรได้ดู
–
คะแนน: 8.5/10

ณ.คอน ลับแล

มองหนังในมุมเอเลี่ยน ไอ้ตัวเขมือบโลกพยายามที่จะเลียนแบบกลายเป็นมนุษย์ จุดประสงค์เพื่อดิ้นรนเอาตัวรอด จนสามารถพูดคุยสื่อสาร แลกเปลี่ยนอารยธรรม แต่เหล่ามนุษย์ทั้งหลายกลับจับมาทดลองโน่นนี่นั่น ไม่พยายามทำความเข้าใจ คิดว่าสิ่งมีชีวิตต่างดาวเหล่านี้ต้องมาร้ายแน่ จำเป็นต้องกำจัดให้สิ้นซาก

ในปีที่ The Thing ออกฉาย มีหนังเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวอีกเรื่องหนึ่งคือ E.T. the Extra-Terrestrial (1982) แค่เพียงสองสัปดาห์ก่อนหน้า กลับทำเงินถล่มทลายมหาศาล กลายเป็นภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดตลอดกาล นี่น่าจะชัดเจนนะครับว่าทำไมหนังเรื่องนี้ถึงตรงกันข้าม Flop ขาดทุนย่อยยับโดยสิ้นเชิง เพราะเรื่องหนึ่งมองเอเลี่ยนน่ารักมว๊ากกก อีกเรื่องไม่ทันมองตาก็จะฆ่าแกงกันแบบไร้เหตุผลแล้ว ไม่ว่ายุคสมัยไหนผู้ชมย่อมสนใจแบบแรกมากกว่าอยู่แล้ว

ถ้าไม่ได้ E.T. ช่วยไว้ ชาวโลกคงมอง ‘เอเลี่ยน’ มนุษย์ต่างดาวเป็นภัยคุกคามอันตรายต่อชาวโลกโดยสิ้นเชิง The Thing (1982) ไอ้ตัวเขมือบโลก  นี่ต้องโทษวงการภาพยนตร์ที่สร้างภาพลักษณ์เสียๆหายให้ ไล่ถอยไปก็อาทิ The War of the Worlds (1953), Invasion of the Body Snatchers (1956) ฯ ไฮไลท์เลยคือ Alien (1979) ของผู้กำกับ Ridley Scott ถึงขนาดสร้างนิยาม ‘เอเลี่ยน’ ขึ้นใหม่ นับจากนั้นเมื่อเราคิดนึกถึงมนุษย์ต่างดาว แทบไม่เคยพบเจอเรื่องดีๆ

Stibbert

แอนตาร์กติกา ฤดูหนาวปี 1982 ทีมวิจัยในฐานทัพของอเมริกาต้องประหลาดใจเมื่อเห็นชาวนอร์เวย์บ้าๆ สองคนไล่ตามสุนัขด้วยเฮลิคอปเตอร์เพื่อพยายามฆ่ามัน ชาวนอร์เวย์ทั้งหมดถูกฆ่าตาย และชาวอเมริกันเหลือเพียงสุนัขหนึ่งตัว ศพสองสามศพ และคำถาม นั่นคือจุดเริ่มต้นของภาพยนตร์สยองขวัญ/ระทึกขวัญที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยดูมา ตั้งแต่ต้นจนจบ คุณจะรู้สึกถึงอารมณ์ตึงเครียดและหวาดระแวง ไร้หนทางและโดดเดี่ยวในดินแดนรกร้าง Ennio Morricone ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Razzie Award จากผลงานดนตรีประกอบภาพยนตร์ของเขา ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม เพราะเท่าที่ฉันเห็น ดนตรีประกอบภาพยนตร์ของเขาเรียบง่าย น่าขนลุก และดีมาก มันทำให้คุณรู้สึกอารมณ์ดีจริงๆ

การแสดงยอดเยี่ยมมาก!  The Thing (1982) ไอ้ตัวเขมือบโลก การแสดงที่ดีที่สุดคงเป็นผลงานของสุนัขที่น่าทึ่งมาก ส่วนรัสเซลล์และคนอื่นๆ ที่เดินด้วยสองขา ฉันพูดได้เต็มปากเลยว่า คุณอาจคิดว่าปี 1982 และเอฟเฟกต์พิเศษไม่น่าประทับใจที่สุด งั้นลองคิดดูใหม่! คุณจะยังไม่เห็นทั้งหมดจนกว่าจะได้เห็นสิ่งนี้ ชิ้นส่วนร่างกายหลุดออกและสิ่งมีชีวิตเปลี่ยนร่าง… ร็อบ บอตตินทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมาก ซึ่งปัจจุบันถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการแต่งหน้าด้วยเอฟเฟกต์พิเศษ

ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้รับการตอบรับมากนักเมื่อฉายครั้งแรกเนื่องจากมีภาพยนตร์เอเลี่ยนเรื่องอื่นฉายในเวลานั้น ทำให้ไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก จริงๆ แล้วคุณอาจมองว่าเป็นภาพยนตร์ที่ไม่มีใครรู้จักเลย ไม่มีใครที่ฉันถามเคยได้ยินเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้เลย อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถอยู่รอดมาได้กว่ายี่สิบปีในฐานะภาพยนตร์คัลท์ในรูปแบบวิดีโอและดีวีดี ยี่สิบปีเป็นเวลานาน และยกเว้นทรงผมแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงทันสมัยอยู่มาก ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นภาพยนตร์คลาสสิก

Xstal

คุณประจำการอยู่ที่ด่านหน้าอันห่างไกลในแอนตาร์กติกา เมื่อเฮลิคอปเตอร์มาถึงพร้อมตั้งใจจะยิงสุนัขที่มันไล่ตามข้ามทุ่งทุนดรา สถานการณ์เริ่มเลวร้ายลง และผู้ที่นั่งอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ก็ถูกจำกัดความสามารถในการไล่ตามอย่างถาวรมากกว่าที่พวกเขาต้องการ ไม่นานหลังจากเหตุการณ์สังหารหมู่ครั้งนี้ ก็เห็นได้ชัดว่าผู้ยิงที่ไล่ตามมีเหตุผลที่ดีพอสมควรที่ต้องการไล่สุนัขออกจากดินแดนแห่งสิ่งมีชีวิต เนื่องจากสุนัขกลับมีความทะเยอทะยานเช่นเดียวกับผู้ไล่ตาม แม้ว่าจะมีรูปแบบ การแปลงร่าง การแปลงร่าง และการกำหนดค่าใหม่ที่แตกต่างกัน แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะสร้างขึ้นในปี 1981 แต่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังคงเป็นผลงานภาพยนตร์สยองขวัญที่ยิ่งใหญ่และน่าดึงดูดใจที่สุดเรื่องหนึ่งเท่าที่มีการสร้างมา

BandSAboutMovies

หนังเรื่องนี้ทำรายได้ถล่มทลายและเกือบทำลายอาชีพของจอห์น คาร์เพนเตอร์ ลองนึกถึงเรื่องนี้ดูสิ แต่หนังเรื่องนี้ล้มเหลวจริงหรือ? หนังทำรายได้เกือบ 20 ล้านเหรียญจากงบประมาณ 15 ล้านเหรียญ แต่ผู้ชมคงคาดหวังไว้มากกว่านี้ สตูดิโอต่างหากที่คาดหวัง เป็นเพราะ E.T. The Thing (1982) ไอ้ตัวเขมือบโลก  ออกฉายในเวลาเดียวกันหรือเปล่า รวมถึงหนังไซไฟและแฟนตาซีเรื่องอื่นๆ มากมายด้วย? ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทำให้ผู้คนไม่อยากดูอะไรที่เป็นลัทธินิยมขนาดนั้น? ความรุนแรงของเลือดทำให้ผู้คนเบื่อหรือเปล่า? ผู้คนไม่พอใจที่เขาสร้างหนังใหม่ซึ่งบางคนมองว่าเป็นหนังคลาสสิก* หรือเปล่า?

หลังจากการสำรวจตลาดครั้งหนึ่ง คาร์เพนเตอร์ถามผู้ชมว่าคิดอย่างไร คนหนึ่งตอบว่า “แล้วเกิดอะไรขึ้นในตอนจบ? เรื่องไหนคือเรื่องจริง…?” เมื่อคาร์เพนเตอร์บอกว่าคำตอบขึ้นอยู่กับจินตนาการของพวกเขา คำตอบคือ  ดูหนังออนไลน์ “โอ้พระเจ้า ฉันเกลียดเรื่องนั้น” ผู้ชมจะตอบสนองอย่างไรกับหนังที่ไม่ได้นำเสนอเนื้อเรื่องให้พวกเขาฟังเลย? หนังที่ไม่มีตัวละครตัวไหนเลยให้เชียร์หรือสนับสนุน? ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากเลิฟคราฟต์ เช่นเดียวกับภาคอื่นๆ ของไตรภาค Apocalypse ของเราอย่าง Prince of Darkness และ In the Mouth of Madness โดยที่คนธรรมดาทั่วไปต้องเผชิญกับความสยองขวัญเหนือธรรมชาติที่พวกเขาจะต้องถูกสาปให้พินาศ

ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่คนอเมริกันทั่วไปต้องการจากภาพยนตร์แบบป๊อปคอร์นจริงๆใช่ มันอาจเป็นทุกสิ่งเหล่านั้น หรือบางทีโลกอาจยังไม่พร้อมสำหรับมัน แต่การดูตอนจบของภาพยนตร์เรื่องนี้ ในขณะที่ทุกคนนั่งสงสัยว่าใครเป็นโรคที่พวกเขาแทบจะไม่เข้าใจและรู้เลยจะส่งผลกระทบต่อพวกเขาในที่สุด ใช่แล้ว ฉันคิดว่าโลกในปี 2020 ก็พร้อมสำหรับมันแล้ว ฉันสงสัยว่าจะเป็นอย่างไรเมื่อได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้เมื่อฉายทุกปีที่สถานี Amundsen-Scott South Pole ฉันพนันได้เลยว่าที่นั่นก็ให้ความรู้สึกเหมือนจริงมากเช่นกัน

ivo-cobra8

ภาพยนตร์คลาสสิกเรื่อง ของจอห์น คาร์เพนเตอร์ เป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่สร้างความบันเทิงได้มากที่สุดเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว รวดเร็ว ชาญฉลาด และน่าตื่นเต้นตั้งแต่ต้นจนจบ ถือเป็นภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องโปรดส่วนตัวของผมเรื่องหนึ่ง ภาพยนตร์แนวนี้ควรมีลักษณะเช่นนี้ทั้งหมด เวอร์ชันนี้ดำเนินเรื่องบนฐานทัพที่ห่างไกลในแอนตาร์กติกา ดูเหมือนว่าจะดำเนินเรื่องต่อจากเวอร์ชันดั้งเดิม (The Thing From Another World) นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันค้นพบฐานทัพนอร์เวย์ที่ถูกทำลายล้างในระยะทางหลายไมล์ ทุกคนตายหมด และมีเพียงซากของสิ่งมีชีวิตที่เผาไหม้ไม่หมดที่ยังคงคุอยู่ภายนอกฐานทัพเท่านั้น

ที่อาจให้คำตอบเกี่ยวกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ ถูกนำตัวกลับมายังฐานทัพของอเมริกา และสายเกินไปแล้วที่นักวิทยาศาสตร์ตระหนักว่ามันมีชีวิตและเป็นอันตราย ละลายและหลุดออกไป ไม่เพียงแต่ฆ่าทุกคนและทุกสิ่งที่ขวางทางเท่านั้น แต่ยังดูดซับพวกมันด้วย ทำให้ตัวเองกลายเป็นใครก็ได้และทุกสิ่งที่มันต้องการ จากนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้ก็กลายเป็นภาพยนตร์แนวหวาดระแวงที่ยอดเยี่ยม ทุกคนล้วนน่าสงสัย ใครๆ ก็สามารถเป็นได้ และไม่มีใครไว้ใจใครอีกต่อไป ความแข็งแกร่งและความปลอดภัยที่มนุษย์ต้องร่วมมือกันต่อสู้กับสัตว์ประหลาดนั้นหายไปหมด  The Thing (1982) ไอ้ตัวเขมือบโลก แม้จะมีความแตกต่างกันก็ตาม กลุ่มแตกแยกและความกลัวก็เข้ามาครอบงำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น Who is the Thing?

ฉันชอบภาพยนตร์เรื่องนี้จริงๆ ฉันชอบเรื่อง To Death ฉันชอบเรื่อง Escape From New York และ Escape From L.A. แต่ฉันก็ชอบเรื่อง มากกว่าด้วย นี่คือภาพยนตร์ของ Carpenter ที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน เป็นผลงานชิ้นเอกคลาสสิกอย่างแท้จริง ฉันชอบ R.J. MacReady – Kurt Russell ฉันชอบทุกอย่างเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นนิยายวิทยาศาสตร์ สยองขวัญ และภาพยนตร์แอคชั่นมหากาพย์ เอฟเฟกต์จริงจำนวนมากถูกละเว้นไป แต่ภาพยนตร์ก็ดูดี การแสดงก็ทำได้ดี และขยายขอบเขตของฉากหลังของสัตว์ประหลาดและแสดงให้คุณเห็นภายในยาน การนำเสนอการออกแบบภาพบนหน้าจอคงเป็นเรื่องยาก

ผู้กำกับ

• John Carpenter

บริษัท ค่ายหนัง

• Universal Pictures

นักแสดง

• Kurt Russell
• Wilford Brimley
• T.K. Carter
• David Clennon
• Keith David

โปสเตอร์หนัง

เรื่องย่อ

ทีมวิจัยในทวีปแอนตาร์กติกาถูกตามล่าโดยมนุษย์ต่างดาวที่แปลงร่างซึ่งปลอมตัวเป็นเหยื่อของมัน แอนตาร์คติก้า ทวีปอันแสนงดงามจนน่าตื่นตะลึง มันยังเป็นที่ตั้งของสถานีอันแสนโดดเดี่ยวที่ซึ่งการค้นพบอันยิ่งใหญ่ทางวิทยาศาสตร์กลับกลายเป็นภารกิจการเอาชีวิตรอด เมื่อทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติขุดสัตว์ต่างดาวขึ้นมาจากพื้น สิ่งมีชีวิตต่างดาวที่เปลี่ยนรูปร่างได้ ถูกปลดปล่อยออกสู่อาณานิคมที่แสนโดดเดี่ยวแห่งนี้โดยบังเอิญ และมันมีความสามารถในการเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นแบบจำลองของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดได้เหมือนร้อยเปอร์เซ็นต์ หน้าตามันอาจเหมือนคุณหรือเรา  The Thing (1982) ไอ้ตัวเขมือบโลก แต่ภายใน มันไม่ใช่มนุษย์ ความตื่นตกใจหวาดระแวงแพร่กระจายไปในหมู่นักค้นคว้าเมื่อพวกเขาเริ่มได้รับเชื้อจากสิ่งลึกลับจากดาวเคราะห์อื่นไปทีละคน ๆ

นักธรณีวิทยา เคท ลอยด์ (แมรี่ เอลิซาเบธ วินสตีลด์) เดินทางมายังพื้นที่อันแสนห่างไกลและโดดเดี่ยวเพื่อทำการสำรวจครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต ระหว่างเข้าร่วมกับทีมวิทยาศาสตร์นอร์เวย์ที่เกิดไปพบยานอวกาศต่างดาวถูกฝังอยู่ใต้แผ่นน้ำแข็ง เธอค้นพบสิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนจะตายไปแล้วเมื่อยานตกลงสู่โลกเมื่อหลายพันปีก่อน แต่เจ้าสัตว์ต่างดาวตัวนั้นแค่กำลังรอเวลาตื่นขึ้นมาเมื่อการทดลองง่าย ๆ กลับปลดปล่อยเอเลี่ยนออกมาจากการโดนขังด้วยความเย็นจัด เคทต้องร่วมมือกับนักบินประจำศูนย์ค้นคว้าที่ชื่อ คาร์เตอร์ (โจเอล เอ๊ดเกอร์ตัน) เพื่อปกป้องชีวิตทุกคนจากเอเลี่ยนตัวนี้ และท่ามกลางแผ่นดินอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้ เจ้าสัตว์ต่างดาวที่เป็นตัวปาราสิตสามารถเลียนแบบทุกสิ่งทุกอย่างที่มันสัมผัสโดน ทำให้มนุษย์ต้องหันมาต่อสู้กับมนุษย์ด้วยกันเองขณะที่มันพยายามเอาชีวิตรอดและขยายพันธุ์ต่อไป

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

The Dark Crystal (1982) อภินิหารแก้วผลึก

The Wild Robot (2024) หุ่นยนต์ผจญภัยในป่ากว้าง

Cirque du Soleil Worlds Away (2012) เซิร์ค ดู โซเลย์ เวิล์ดส์ อะเวย์

The Shaggy Dog (2006) คุณพ่อพันธุ์โฮ่ง

Red Dog (2011) เพื่อนซี้หัวใจหยุดโลก