เรื่องย่อ : The Lake House (2006) บ้านทะเลสาบ บ่มรักปาฏิหาริย์ ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ ดูหนังHD ดูหนังฟรี MovieHD24 หนัง2024 หนังออนไลน์ Full HD
ดูหนัง The Lake House (2006) บ้านทะเลสาบ บ่มรักปาฏิหาริย์ แพทย์ผู้โดดเดี่ยวซึ่งครั้งหนึ่งเคยครอบครองบ้านริมทะเลสาบที่ไม่ธรรมดาเริ่มแลกเปลี่ยนจดหมายรักกับสถาปนิกผู้ผิดหวังในถิ่นที่อยู่เดิม ดูหนังออนไลน์ พวกเขาต้องพยายามไขปริศนาเบื้องหลังความโรแมนติคที่ไม่ธรรมดาของพวกเขาก่อนที่จะสายเกินไปมันคือฤดูหนาวในปี ค.ศ. 2006 ซึ่งดร.เคท ฟอร์สเตอร์ กำลังจะย้ายออกจากบ้านพักริมทะเลสาบบริเวณ
เขตชานเมืองอิลลินอยส์ที่เธอเช่าไว้ เพื่อที่จะเข้าไปอาศัยอยู่ในตัวเมืองชิคาโก ที่ที่ซึ่งเธอได้รับงานเป็นแพทย์ที่โรงพยาบาลใจกลางเมือง เคทเองไม่ค่อยเต็มใจที่จะย้ายออกจากบ้านไม้อันแสนสวยที่เธอเช่าไว้เท่าไหร่นัก ที่ถูกออกแบบไว้อย่างน่าหลงใหล เช่น ผนังกระจก ตัวบ้านยื่นออกไปในน้ำ และทะเลสาบอันแสนสงบ ขณะที่เธอย้ายออก เคทได้ทิ้งจดหมายไว้ในตู้จดหมายหน้าบ้านให้สำหรับผู้
เช่ารายต่อไป และเขียนขอให้ผู้ใดก็ตามที่ได้อ่านจดหมายของเธอนำปูนที่ละเลงจุกของแผ่นอิฐออกและให้ลบรอยเท้าสุนัขบนทางเดินเข้าสู่ตัวบ้านออก จากนั้นเธอก็จากไปอเล็กซ์ ไวท์เลอร์ คือคนที่มีพรสวรรค์และปราดเปรื่องแต่เขาเองกลับเป็นสถาปนิกที่สิ้นท่า ซึ่งเขาเองก็กำลังอำนวยการสร้างคอนโดคุกกี้ – คัตเตอร์และบริเวณโดยรอบ ต่อมาเขาหาบ้านริมทะเลสาบจนเจอและพบว่าบ้านถูกละเลยการ
เอาใจใส่และก็ยังไม่พบรอยเท้าสัตว์ในบริเวณรอบๆบ้าน บ้านริมทะเลสาบแห่งนี้เป็นสิ่งที่มีความหมายพิเศษสำหรับอเล็กซ์ สร้างขึ้นโดยพ่อที่ห่างเหินกันกับเขา ตัวพ่อเขาเองได้ละทิ้งครอบครัวและไปยินดีปรีดากับหน้าที่การงานที่เจริญรุ่งเรืองของเขาและก็ไม่ได้ใส่ใจกับครอบครัวสุดท้ายพ่อกับแม่เขาก็เลิกกัน ต่อมาเขาก็ได้รับจดหมายของเคทซึ่งทั้งคู่เองยังไม่รู้เรื่องวันเวลาที่ต่างกันและได้เขียนโต้ตอบกัน
ไปมา ผ่านไปสักระยะหนึ่งอเล็กซ์สามารถรู้สึกถึงความสงบของบ้านทะเลสาบได้และเริ่มซ่อมแซมมัน เขาไม่ได้ใส่ใจอะไรกับคำขอของเคทที่ขอให้ลบรอยเท้าสุนัขบนทางเดินออกที่เธอได้เขียนไว้ก่อนจากไป จนกระทั่งวันต่อมาขณะเขากำลังทาสีทางเดินอยู่สุนัขของเขาก็วิ่งตัดผ่านทางเดินทำให้เกิดรอยเท้าซึ่งเคทเคยบอกไว้
ขณะที่เขางุนงงกับสิ่งที่เคทรู้ เขาได้เขียนกลับไปหาเธอว่าบ้านหลังนี้ไม่เคยมีผู้เช่ามาก่อนและเขารู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่เคทรู้เรื่องรอยเท้า ซึ่งมันไม่เคยมีมาก่อน เคทผู้ที่พึ่งจากบ้านหลังนั้นมาได้อาทิตย์แรก คิดว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไรเพราะเธอเพิ่งย้ายออกจากบ้านหลังนั้นมาและจินตนาการว่าเขากำลังเล่นตลกอะไรสักอย่างอยู่ เธอตอบกลับอย่างสั้นๆว่า “มันก็แค่เรื่องตลกที่คุณแต่งขึ้น” เธอถามต่อว่า “ตอนนี้เวลาอะไร?” “14 เมษายน 2004” เขาตอบ แต่มันคือวันที่ 14 เมษายน 2006 ของเคท เวลาเดียวกันแต่ห่างกัน 2 ปี
ในขณะที่เคท และ อเล็กซ์ คิดเหมือนกันกับเรื่องตู้จดหมายอัศจรรย์ที่บ้านริมทะเลสาบ เคทและอเล็กซ์ก็ยังยืนยันว่าเขาอยู่ในปี 2004 และเธออยู่ในปี 2006 มันทำให้พวกเขารู้สึกแปลกๆที่อยู่ห่างกัน 2 ปีและยังติดต่อกันได้ ทั้งคู่เองก็กำลังดิ้นรนต่อสู้กับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของพวกเขาและแบ่งปันความรู้สึกของข้อผูกมัดที่ไม่ปกติของกันและกัน และต่อมาพวกเขาก็เริ่มเล่าเรื่องราวของตนเองให้กันละกันได้รับ
รู้ในแต่ละสัปดาห์ที่ผ่านไปหนึ่งในจดหมายของเคท ที่ส่งไปยังอเล็กซ์ได้พูดถึงหนังสือของ เจน ออสเทน เรื่อง เพอร์ซูเอชั่น (ภาษาอังกฤษ:Persuasion) ซึ่งเธอได้บังเอิญลืมไว้ที่สถานีรถไฟในปี ค.ศ. 2004 และเธอได้ขอร้องให้เขาช่วยไปเก็บมันไว้ให้เธอ อเล็กซ์ก็เดินทางไปยังสถานีรถไฟที่ว่าและพบมันวางไว้บนม้านั่ง และเขาเองก็ได้พบเห็นเธอเป็นครั้งแรกขณะที่เธอกำลังขึ้นรถไฟซึ่งตอนนั้นเองเธอ
ยังไม่รู้จักเขาเลยแม้แต่นิด อเล็กซ์เก็บหนังสือไว้และตั้งใจจะคือให้เคทในวันใดวันหนึ่ง จากนั้นอเล็กซ์ก็ได้ส่งแผนที่ของเมืองชิคาโกพร้อมคำอธิบายและเครื่องหมายผ่านทางกล่องจดหมายนั้น เขาแนะนำให้เธอลองเดินชมสถานที่ที่เขาชื่นชอบในเมืองชิคาโกตามแผนที่นั้นที่ซึ่งเขาได้ทำสัญลักษณ์ไว้
ในเช้าของวันเสาร์เคทก็ได้เริ่มต้นออกเดินทางไปชมสถานที่ต่างๆตามที่เขาบอกไว้ และเมื่อเคทเดินทางมาถึงจุดที่ใกล้จะสิ้นสุดของการเดินชมแล้วเคทก็ได้พบข้อความที่อเล็กซ์ทิ้งไว้ให้ในรูปแบบกราฟฟิตีบนผนังมันเขียนว่า “เคท ผมอยู่ที่นี้เคียงข้างคุณ ขอบคุณสำหรับเช้าวันเสาร์อันแสนน่ารักที่มีให้ด้วยกัน แม้จะต่างปีกันก็ตาม”
อเลฮานโดร อาเกรสติ
วอร์เนอร์บราเธอร์ส
คีอานู รีฟส์
ซานดรา บุลล็อก
ทั้งคู่ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะพบกันให้ได้และแก้ปริศนาของการเชื่อมต่อที่ไม่ปกติระหว่างกัน พวกเขาคิดจะท้าทายโชคชะตาด้วยการเจอกันที่ร้าน Il Mare (ภาษาอิตาลี แปลว่า ทะเล) ซึ่งเป็นร้านอาหารที่หรูหราที่เป็นที่นิยมของชาวเมืองชิคาโก อเล็กซได้จองร้านอาหารนี้ไว้ในวันที่สำหรับเค้าแล้วเป็นวันพรุ่งนี้ในอีก 2 ปีข้างหน้า แต่สำหรับเคทมันคือวันพรุ่งนี้ที่กำลังจะมาถึง เธอได้ไปยังร้านอาหารนั้นด้วยชุดที่ต้องทำ
ให้อเล็กซ์คาดไม่ถึงสำหรับเดทแรกของพวกเขา เธอรอ รอ และรอ แต่อเล็กซ์ไม่ได้ปรากฏตัวมา เคทรู้สึกเศร้าเสียใจและรู้สึกอกหักกับสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นเธอรู้สึกแปลกใจที่เขาไม่มา เธอเล่าเรื่องในวันที่เธอออกจากบ้านริมทะเลสาบซึ่งมันเป็นวันวาเลนไทน์ที่รู้สึกอุ่นผิดปกติ เธอเล่าว่าเธอเป็นพยานในเหตุการณ์อุบัติเหตุรถชนที่เลวร้าย และผู้ถูกชนนั้นเป็นผู้ชายซึ่งเธอกำลังอุ้มเขาไว้จนเขาตายในอ้อมแขนของ
เธอ ชายผู้นั้นแท้จริงแล้วคืออเล็กซ์แต่เนื่องจากเธอยังไม่เจอเขามาก่อนเธอจึงไม่รู้ว่าคนๆนั้นคืออเล็กซ์ และตอนนี้เองเธอก็ได้รู้ว่า ชีวิตนี้มันช่างแสนสั้น เธอได้ขออเล็กซ์ให้หยุดติดต่อกับเธออีก “ขอให้ฉันได้ปล่อยคุณไปเถอะอเล็กซ์” เคทพูด และเธอก็ได้หยุดไปรับจดหมายที่อเล็กซ์ยังคงส่งถึงเธอที่ตู้จดหมายนั้น
อเล็กซ์เองก็รู้สึกอกหักและตัดสินใจที่จะย้ายออกจากบ้านริมทะเลสาบหลังนั้นพร้อมกับน้องชายของเขาที่จะย้ายเข้าไปในตัวเมืองชิคาโก และได้เก็บจดหมายของเคททั้งหมดไว้ในกล่องในห้องใต้หลังคาบ้าน ในขณะที่เขากำลังเก็บของอยู่นั้นสุนัขของอเล็กซ์ได้วิ่งออกไปจากบริเวณบ้านและไปปรากฏตัวต่อหน้าแฟนเก่าของเคทนั้นคือ มอร์แกน เขาได้ล็อกบ้านและอธิษฐานที่หน้าบ้านว่าขอให้วันใดวันหนึ่งเขาได้
อยู่ร่วมกับเคทที่ทะเลสาบแห่งนี้ แล้วจึงวิ่งตามสุนัขของเขาไปในปี 2006 เคทก็ได้เริ่มรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับมอร์แกน และเธอกับมอร์แกนก็อาศัยอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ของเคทในชิคาโกมากกว่า 1 ปี ต่อมาบ่ายวันหนึ่งที่ทำให้อเล็กซ์ฉุนเฉียวกับการละเลยเอาใจใส่งานของตน เขาได้เข้าไปยังห้องนอนของเขาและได้พบกับคำพูดของเคท “ก้าวย่างที่ลำบากในการเลิกลา” เขาได้เปิดชั้นที่หลวมๆและพบกับกล่อง
เล็กๆที่ซ่อนอยู่ภายใต้ มันคือหนังสือของ เจน ออสเทน (Persuasion) ซึ่งเขาได้เก็บมาจากวันที่เขาได้พบเห็นเธอครั้งแรกที่สถานีรถไฟ เขาได้ส่งมันข้ามกาลเวลากลับไปให้เคทพร้อมกับดอกไม้และจดหมายโดยเขียนไว้ว่า “มันอาจจะมีหัวใจสองดวงซึ่งเปิดรับให้กันและกัน มันอาจไม่มีรสชาติใดที่จะคล้ายคลึงกันได้ และมันอาจจะไม่มีความรู้สึกใดที่ทำให้ผูกพันกันเท่านี้มาก่อน” เมื่อเคทเห็นเช่นเธอก็ได้กอด
หนังสือเล่นนั้นไว้ตรงหัวใจของเธอ วันหนึ่งในฤดูหนาวที่อบอุ่นผิดปกติ อเล็กซ์และน้องชายของเขา เฮนรี่ได้ออกมาจากออฟฟิศของพวกเขาและบ่ายหน้าไปยังร้านอาหาร เมื่อเขาได้ดื่มเบียร์มันทำให้เขาหวนนึกถึงบางอย่าง เฮนรี่จึงได้เตือนเขาว่าวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์และเฮนรี่เองก็มีแผนที่จะไปทานอาหารกับแฟนของเขา จนบางอย่างมันกระตุกความทรงจำของอเล็กซ์ขึ้นมาและเขาก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังบ้านริม
คือ หนังที่ถูกรีเมคขึ้นจากหนังเกาหลี Il Mare (ซึ่งอยู่ในลิสต์นี้เช่นเดียวกัน) ที่เล่าถึงความสัมพันธ์ของ อเล็กซ์ และ เคท เพื่อนทางจดหมายแบบข้ามเวลา ที่ติดต่อกันผ่านทาง ตู้จดหมาย อันหนึ่งแม้ว่าโครงสร้างของ จะเหมือนกับ Il Mare ทุกประการ แต่ตัวหนังก็มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของตัวละครให้แตกต่างไปจากหนังเวอร์ชั่นเกาหลีพอสมควร
ส่วนตัวแล้ว ผมค่อนข้างชอบการเล่าเรื่องแบบ ‘น้อยแต่มาก’ ของเวอร์ชั่นเกาหลีมากกว่า แต่มันก็มีรายละเอียดหลายอย่างในเวอร์ชั่นฮอลลีวูดนี้ ที่ผมว่าก็น่าสนใจดีเหมือนกัน โดยเฉพาะรายละเอียดเกี่ยวกับพ่อของพระเอกสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างในหนังเรื่องนี้ก็คือ การกลับมาพบกันอีกครั้งของ คีอานู รีฟส์ และ แซนดรา บูลล็อค พระนางคู่ขวัญจากหนังเรื่อง Speed ซึ่งแม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายปี แต่เคมีของทั้งคู่ ก็ยังคงทำงานเข้ากันได้ดีเหมือนเดิม
ทะเลสาบสำหรับเคทวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ปี 2008 และเคทกับมอร์แกนตั้งใจจะไปพบกับสถาปนิกเพื่อไปตรวจดูแผนซ่อมแซมตกแต่งอพาร์ตเมนต์หลังเก่าที่เธอจะซื้อ มอร์แกนเองไม่ได้กระตือรือร้นทั้งกับแผนงานและแนวคิดในการซ่อมแซมตกแต่งนัก เพราะเขาต้องง่วนอยู่กับงานอันแสนวุ่นวายของเขา และลืมให้การ์ดวันวาเลนไทน์แก่เธอ หลังจากได้พบกับสถาปนิกแล้ว เคทได้สังเกตเห็นภาพวาดที่ห้อย
อยู่ในห้องประชุม “นั้นมันรูปบ้านริมทะเลสาบหนิ” สถาปนิกหนุ่มอธิบายให้ฟังว่ามันถูกวาดขึ้นโดยพี่ชายของเขา อเล็กซ์ ไวท์เลอร์ เคทจึงถามตอบกลับด้วยความตื่นเต้นว่า “แล้วตอนนี้พี่ชายคุณเขาอยู่ไหน” เขาตอบกลับมาว่า “พี่ชายผมเสียชีวิตจากเหตุรถชนในวันนี้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว” เคทจึงนึกขึ้นได้อย่างรวดเร็วว่าทำไมอเล็กซ์ถึงไม่ได้ไปพบเธอที่ร้านอาหารในคืนนั้น เพราะเขาถูกรถชนในวันแรกที่พวกเขาเริ่ม
ติดต่อกันถึงกัน วันที่เธอย้ายออกมาจากบ้านแล้วได้ไปเป็นพยานในเหตุการณ์อุบัติเหตุรถชนที่เลวร้าย คนๆนั้นก็คืออเล็กซ์นั้นเองเคทร้อนรนที่จะไปยังบ้านริมทะเลสาบ ทิ้งให้มอร์แกนงุนงงอยู่ข้างหลัง และเขียนจดหมายถึงอเล็กซ์อย่างกระวนกระวาย “อย่าตามหาฉัน” เคทเขียนขอร้องถึงเขา “ฉันรู้แล้วว่าทำไมคุณไม่ยอมมาก็เพราะคุณถูกรถชน” “ได้โปรดรอฉันอีก 2 ปีแล้วค่อยมาหาฉันที่บ้านริมทะเลสาบ
แทน” แต่อเล็กซ์ได้ออกไปตามหาเธอและพบเธออยู่ที่ เดลี่พลาซ่า ในวันวาเลนไทน์ที่เขาถูกรถชนในปี 2006 ในขณะที่เขากำลังจะก้าวข้ามถนนไปหาเธอ เขาได้ยกมือที่ถือจดหมายของเคทอยู่นั้นขึ้นมาและอ่านมันอีกครั้งที่ขอให้เขารอเธออีก 2 ปี และตัดสินใจที่จะเดินกลับไปยังทางเท้า แล้วแยกตัวเขาเองออกมาจากโชคชะตาเดิมของเขา อีกทั้งหลบหลีกจากการเสียชีวิตอันเศร้าสลดของทั้งเคท และน้องชายของเขาเฮนรี่
หลังจากสิบสองปีที่ควงกันสร้างชื่อกระฉ่อนจาก Speed (1994) ในที่สุด คีอานู รีฟส์ กับ แซนดร้า บูลล็อก ก็โคจรมาพบกันอีกครั้งในหนังรักที่จะทดสอบความเข้มข้นทางเคมีระหว่างพวกเขาอีกสักหน ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่ใช่ปัญหา กลับกัน หนังเรื่องนี้สามารถทำการตลาดอย่างง่ายดาย เพียงโชว์รูปพวกเขาด้วยกันบทโปสเตอร์ ผู้คนก็พร้อมติดตามมาชมโดยไม่ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นอีก
“จังหวะมันลงตัวพอดี หนังเรื่องนี้ ช่วงเวลานี้” คีอานูกล่าว “มันเกิดขึ้นได้ก็เพราะว่าเราต่างชอบวัตถุดิบ ชอบไอเดียของหนัง เป็นโรแมนติกดราม่าที่แหวกแนวดี”นี่คือผลงานการรีเมคภาพยนตร์จากเกาหลีใต้เรื่อง Il Mare (2000) ซึ่งบอกเล่าความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงคู่หนึ่งที่อยู่ต่างช่วงเวลา โดยคราวนี้เป็นเรื่องราวของแพทย์หญิงเปลี่ยวเหงากับหนุ่มสถาปนิกรักสันโดษที่ติดต่อหากันได้แม้มิติเวลาห่างกันสองปี อาศัยตู้จดหมายวิเศษของบ้านริมทะเลสาบเชื่อมพวกเขาถึงกัน
“เรื่องนี้ผมไม่ได้ร่วมจอกับแซนดร้าเท่าไหร่นัก เพราะสคริปต์จงใจให้เราแยกกัน” คีอานูอธิบาย “โจทย์คือเราต้องพยายามหาทางบรรจบกัน แต่ต้องทำในส่วนของตัวเองให้ดีเสียก่อน การบ่มเพาะอารมณ์ก่อนพบกันนี่แหละที่สำคัญ คนดูจะอยากตามลุ้นเอาใจช่วยหรือไม่ก็อยู่ที่การนี้”
นอกเหนือจากเคมีที่เข้ากันอย่างรุนแรง มิตรภาพที่คู่พระนางสร้างเสริมไว้หลังฝ่าภยันตรายใน Speed ก็ถือเป็นข้อได้เปรียบ ตลอดหลายปีนั้น คีอานูกับแซนดร้ายังคงติดต่อหากัน หรือนัดทานข้าวกันเป็นครั้งคราว และช่างบังเอิญไปอีกเมื่อที่ผ่านมานั้นพวกเขาได้เริ่มเตรียมตัวเล่นหนังเรื่องนี้ไปแล้วอย่างไม่เฉลียวใจ
“อันที่จริงฉันมักเขียนจดหมายหาเขาเพื่อถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ” แซนดร้าเผย “แล้วทุกครั้งที่ได้ยินข่าวว่าเขาประสบอุบัติเหตุ ฉันก็จะเที่ยวโทรถามเพื่อให้แน่ใจว่าเขาโอเค แต่ถึงอย่างนั้น การถ่ายหนังเรื่องนี้ยังคงเป็นสิ่งที่ท้าทาย”เพราะอย่างไรเสีย งานนี้จำเป็นต้องพึ่งพาการแสดงของพวกเขาแบบแยกเดี่ยว การถ่ายทอดความเศร้าโศก หรือโหยหา ต้องสื่อสารให้รู้สึกได้ว่าทั้งคู่กำลังขาดบางสิ่งบางอย่าง ที่เหลือก็ฝากฝังไว้กับเคมีในฐานะไม้เด็ด
โดยลำพังช่วงแยกกัน พวกเขายังสามารถแสดงให้เห็นสายใย แค่เสียงบรรยายโต้ตอบก็สัมผัสถึงความแนบแน่น เมื่อถึงคราวที่ได้พบหน้าภายในกรอบภาพเดียวกันจริงๆ จึงแล้วใหญ่ ความเป็นธรรมชาติที่หาได้ยากยิ่ง จนผู้กำกับ อเลฮานโดร อาเกรสตี เลือกถ่ายบางฉากโดยให้ทั้งสองเข้ากล้องด้วยกันทั้งที่เนื้อเรื่องตอนนั้นตัวละครยังคงอยู่ต่างช่วงเวลา“มันมีความผ่อนคลายน่ะ” แซนดร้าบรรยาย “ยามที่ฉันอึดอัดกับตัวเอง เพียงได้มองเขาก็รู้สึกสบายใจ ฉันสามารถสบตากับเขาแล้วรู้สึกได้ว่าในนั้นมีที่สำหรับฉันอยู่”
เป็นหนังโรแมนติกแฟนตาซีที่พูดถึงการรอคอยคนที่ใช่ ซึ่งพระเอกนางเอกก็ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของผู้คนมากมายในยามที่พวกเขาอยู่ลำพัง ทั้งความว้าเหว่ เซื่องซึม ไปจนถึงอารมณ์เบิกบานผิดหูผิดตาเมื่อสัมผัสว่าอาจได้ค้นพบคนคนนั้น อาศัยบ้านกระจกอันโดดเดี่ยวเป็นเครื่องมือเปรียบเปรยแม้ตัวหนังมีสิทธิ์ถูกตั้งคำถามถึงความสมเหตุผลหรือบทสรุปได้ง่ายๆ แต่สุดท้ายผู้ชมส่วนใหญ่เลือกมองข้ามไปเพราะรู้สึกอิ่มเอมจากการได้เห็นคีอานูกับแซนดร้ามาจับคู่กันอีกครั้ง แถมเป็นการถ่ายทอดความรักอันลึกซึ้ง ช่วยยืนยันหนักแน่น ไม่ว่าที่ไหน เมื่อไหร่ สายสัมพันธ์ระหว่างพวกเขายังคงแจ่มชัดจับต้องได้เสมอ
The To Do List (2013) งัดแผนจิ้นให้ฟินเว่อร์
A Perfect World (1993) คนจริงโลกทรนง
Hail Caesar (2016) กองถ่ายป่วน ฮากวนยกกอง