The Hunger Games Catching Fire (2013) เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟเออร์

The Hunger Games Catching Fire (2013) เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟเออร์

รีวิวหนัง

The Hunger Games Catching Fire  Movie getaway

เนื้อเรื่องย่อ อีกขั้นแห่งการต่อสู้อันดุ เดือด อีกระดับของภารกิจครั้งยิ่งใหญ่ อีกทางเลือกที่เธอต้องตัดสินด้วยหัวใจ อีกครั้งของเกมเดียวที่ทั้งโลกตั้งตารอ… “เกมล่าชีวิต” ปรากฏการณ์ภาพยนตร์ครั้งใหม่แห่งทศวรรษ กลับมาพร้อมความเข้มข้นไปอีกขั้น สมการรอคอยของผู้ชมทั้งโลกใน ที่ครั้งนี้ได้ ฟรานซิส ลอว์เรนซ์ ผู้กำกับ I Am Legend และ Constantine เข้ามาถ่ายทอดเรื่องราวของเกมล่าชีวิตที่จะลุกเป็นไฟ

Catching Fire เริ่มต้นเมื่อ แคทนิส (เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์) และ พีตา (จอช ฮัทเชอร์สัน) เดินทางกลับสู่เขต 12 ในฐานะผู้ชนะเกมล่าชีวิตครั้งที่ 74 อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีสโนว์ ที่พบว่าถูกกลุ่มคนเล็กๆท้าทายอำนาจ ตัดสินใจที่จะจัดเกมล่าชีวิตครั้งที่ 75 ด้วยการนำอดีตผู้ชนะจากทั้ง 12 เขตมาต่อสู้กัน ซึ่งก็รวมถึงสองตัวแทนคนสำคัญ ฟินนิก โอแดร์ (แซม คาฟลิน) และ โจแฮนน่า เมสัน (จีน่า มาโลน) ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้เอง ก็กลายเป็นชนวนครั้งสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงพาเน็มไปตลอดกาล

Kanin The Movie

กลับมาดู  อีกรอบ ก็ยังขนลุกกับตอนท้ายของเรื่องสุดๆ เป็นฉากจบที่ทรงพลัง และถูกต้องในทุกองค์ประกอบ ชอบการทำลายโดมประลองของ แคตนิส มากๆ การตระหนัก และต่อสู้กับศัตรูที่แท้จริง ลากยาวมาจนถึงตอนจบที่หนักหน่วง และไต่ระดับความรู้สึกสุดๆ ตอนดูครั้งแรกในโรงจำได้ว่าทั้งอิ่ม ทั้งค้าง คือมันเป็นหนังที่ดีในตัวเองมากๆ แต่ก็อยากดูต่อแล้วเช่นกัน
ความน่าดูของ The Ballad of Songbirds and Snakes (2023) ที่กำลังจะฉายสัปดาห์หน้าคือการได้ผู้กำกับคนเดิม Francis Lawrence มาทำ และยังพ่วง Michael Arndt มือเขียนบทของภาคนี้กลับมาด้วย ส่วนตัวให้ Catching Fire เป็น The Hunger Games ที่ชอบที่สุดของแฟรนไชส์ รอดูว่าภาคใหม่จะมาโค่นได้ไหม

Eight out of ten stars!

ฉันต้องบอกว่าฉันกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก Catching Fire เป็นหนังสือที่ฉันชอบที่สุดในไตรภาคนี้ แต่ในแง่ภาพยนตร์แล้ว มันดูไม่สมเหตุสมผลเลย The Hunger Games อ่านเหมือนบทภาพยนตร์ Catching Fire เป็นมหากาพย์ที่คดเคี้ยวเต็มไปด้วยการสร้างโลกและการเปิดเผยสำหรับสงครามที่จะเริ่มใน Mockingjay ฉันจึงประหลาดใจอย่างน่ายินดีที่พบว่าภาคนี้ของแฟรนไชส์ยอดนิยม ซึ่งกำกับโดย Francis Lawrence มือใหม่ในวงการ อาจดึงดูดใจมากกว่าภาคก่อนด้วยซ้ำ

ในด้านภาพ ถือเป็นความสำเร็จ ความใส่ใจในรายละเอียดนั้นน่าทึ่งมาก Lawrence พร้อมด้วยผู้เขียนบท Michael Hardt และ Suzanne Collins เอง จัดการสอดแทรกฉากที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับสงครามที่กำลังจะมาถึงกับ The Capitol โดยไม่รู้สึกน่าเบื่อหรือหนักมือเกินไป นักแสดงใหม่ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ Plutarch Heavensbee ของ Philip Seymor Hoffman และ Finnick O’Dair ของ Sam Claflin นั้นยอดเยี่ยมมาก และบทสนทนาก็ไม่ค่อยแข็งทื่อเท่ากับบทสนทนาในหนังสือ ซึ่งบางครั้งอาจดูแข็งทื่อกว่าปกติ นอกจากนี้ เป็นเรื่องที่น่าประทับใจที่แม้จะมีตัวละครใหม่จำนวนมากและตัวละครที่เคลื่อนไหวได้มากมาย แต่เนื้อเรื่องหลักของ Rebellion ยังคงโดดเด่น

แน่นอนว่าด้วยโครงเรื่องมากมายและการเตรียมการมากมาย เราแทบจะโทษ Catching Fire ที่มีเนื้อหาทางอารมณ์ไม่เพียงพอไม่ได้เลย ซึ่งก็มีความยาว 2 ชั่วโมง 26 นาที แต่ฉันก็พบว่าตัวเองอยากได้ฉากแอ็กชั่นที่เร่าร้อนกว่านี้ของ Peeta/Katniss ฉันผิดหวังที่ Lawrence ดูเหมือนจะไม่สนใจความสัมพันธ์ระหว่าง Katniss (Jennifer Lawrence ซึ่งไม่ใช่ญาติกัน) และ Peeta (Josh Hutcherson ที่ไม่มีใครเทียบได้) สำหรับฉันแล้ว Catching Fire เป็นเรื่องเกี่ยวกับ Peeta มันคือการแสดงของ Peeta

นี่คือประเด็น: แคตนิสควรจะมีความขัดแย้ง ไม่ใช่เฉยเมยต่อพีต้า ในฉบับกระดาษ ผู้อ่าน และโดยส่วนขยาย แคตนิสเอง รู้สึกขัดแย้งระหว่างเกลกับพีต้าจริงๆ เธออดไม่ได้ที่จะตกหลุมรักพีต้าอย่างช้าๆ ซึ่งมีเสน่ห์ ตลก และดีอย่างไม่ลดละ ในภาคนี้ แคตนิสและพีต้าแทบไม่มีเคมีกันเลย และพีต้าจะพูดเฉพาะเมื่อจำเป็นเพื่อขับเคลื่อนเนื้อเรื่องไปข้างหน้า ในทางกลับกัน เกลสูง 6 ฟุต 4 นิ้ว และเป็นเฮมส์เวิร์ธโดยแท้ การที่เขาเป็นเฮมส์เวิร์ธไม่ใช่ความผิดใคร ฉันเดานะ แต่บางทีพีต้าควรได้รับอนุญาตให้พูดเรื่องน่ารักๆ ที่เขาพูดในหนังสือบ้าง

“ผู้ใหญ่” ในนักแสดง – เฮย์มิตช์ของวูดดี้ ฮาร์เรลสัน และประธานาธิบดีสโนว์ของโดนัลด์ ซัทเธอร์แลนด์ มีบทบาทที่เข้มข้นกว่าในหนังสือมาก ถือว่าพวกเขายอดเยี่ยมมาก แต่ฉันอดสงสัยไม่ได้ว่าหนังเรื่องนี้จะทรงพลังกว่านี้มากแค่ไหนหากลอว์เรนซ์ไว้วางใจนักแสดงรุ่นเยาว์ของเขาให้รับผิดชอบงานด้านอารมณ์มากกว่านี้

ถึงแม้จะไม่ถึงขั้นยอดเยี่ยม แต่ Catching Fire ก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด และฉันตั้งตารอที่จะดู Mockingjay Part 1 บนจอเงินเมื่อหนังออกฉาย!

ผู้กำกับ

ฟรานซิส ลอว์เรนซ์

บริษัท ค่ายหนัง

คัลเลอร์ ฟอร์ซ

นักแสดง

เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์
จอช ฮัทเชอร์สัน
เลียม เฮมส์เวิร์ท
วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน
เอลิซาเบธ แบงส์
เลนนี แครวิตซ์
ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน
สแตนลีย์ ทุชชี
โดนัลด์ ซุทเธอร์แลนด์

โปสเตอร์หนัง

เรื่องย่อ

ดูหนัง  เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟเออร์ แคทนิส เอเวอร์ดีนและพีต้า เมลลาร์กกลายเป็นเป้าหมายของแคปิตอลหลังจากชัยชนะในการแข่งขัน Hunger Games ครั้งที่ 74 จุดประกายให้เกิดการกบฏในเขตปาเนม หลังจากการแข่งขันเกมล่าชีวิตครั้งที่ 74 จบลง ผู้ชนะของรายการนี้สองคน คือ “แคตนิส เอฟเวอร์ดีน” และเพื่อนของเธอ “พีต้า เมลลาร์ก” ที่สามารถเอาตัวรอดออกมาในฐานะ “คู่รักที่ชะตาไม่ชักนำ” และได้เดินทางกลับเขต 12 ที่อยู่อาศัยของพวกเขา ชัยชนะของพวกเขานำความเปลี่ยนแปลงมาสู่ผู้คนในเขต 12

โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวของพวกเขาเอง เพราะทุกคนในครอบครัวจะมีกินมีใช้ไปตลอดชีวิต ไม่ต้องอดอยากหิวโหยอย่างที่เป็นมา แม้ว่าความโหดเหี้ยมรุนแรงในสนามประลองจะยังคงฝังลึกเป็นฝันร้ายของแคตนิสก็ตาม โดยทั้งสองต้องออกทัวร์ “ทัวร์ผู้พิชิต” เพื่อพบปะกับคนทุกเขตและให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน แต่ทว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่แคตนิสยังไม่รู้ ว่าการกระทำของเธอในเกมล่าชีวิต เป็นการท้าทายอำนาจของแคปปิตอลอย่างรุนแรง มันทำให้ผู้คนในเขตต่าง ๆ ได้ตระหนักถึงพลังของตนเองที่จะไม่ยอมอยู่ภายใต้อำนาจแห่งแคปปิตอลอีกต่อไป ทำให้ “ประธานาธิบดีสโนว์”  ดูหนังออนไลน์

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

The Hunger Games (2012) เกมล่าเกม

Hunger Games 3 Part 1 (2014) เกมล่าเกม ม็อกกิ้งเจย์ พาร์ท1

Hunger Games 3 Part 2 (2015) เกมล่าเกม ม็อกกิ้งเจย์ พาร์ท 2

RESIDENT EVIL 5 RETRIBUTION (2012) ผีชีวะ 5 สงครามไวรัสล้างนรก

Resident Evil 4 Afterlife (2010) ผีชีวะ 4 สงครามแตกพันธุ์ไวรัส