เรื่องย่อ : The Green Mile (1999) ปาฏิหาริย์แดนประหาร ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ ดูหนังHD ดูหนังฟรี MovieHD24 หนัง2024 หนังออนไลน์ Full HD
The Green Mile (1999) ปาฏิหาริย์แดนประหาร หนังเรื่องนี้ฉายเมื่อปี 2542 หรือกว่า 20 ปีมาแล้ว โดยมาจากนิยายของสตีเฟน คิง และกำกับโดยแฟรงก์ ดาราบอนต์ เนื้อเรื่องและผู้กำกับเดียวกับหนังดังอย่าง The Shawshank Redemption นั่นเอง หนังเรื่องนี้เป็นหนังแฟนตาซีและดราม่า ซึ่งได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพัสดีคนหนึ่ง ในรัฐ Louisiana ช่วงปี 1999 ที่มีหน้าที่คุมนักโทษในแดนประหารและพาไปยังแดนประหาร โดยทางเดินไปยังแดนประหารนั้นเรียกว่าเป็น The Green Mile (1999) ปาฏิหาริย์แดนประหาร แต่เนื่องจากทางเดินนั้นสีเหมือนเปลือกมะนาวจาง ๆ จึงเรียกทางเดินไปยังที่ประหารนั้นว่า อันเป็นที่มาของชื่อเรื่องนั่นเอง
ในหนังเล่าถึงเหตุการณ์และสภาพในคุกในช่วงก่อนจะถึงวันประหาร การประหารในยุคนั้นใช้เก้าอี้ไฟฟ้า ซึ่งในหนังก็แสดงให้เห็นถึงขั้นตอนอย่างละเอียดในการประหาร รวมถึงหนังยังทำให้เห็นถึงสิ่งที่ผู้กระทำผิดต้องชดใช้จากการกระทำที่ก่อไว้ เพราะอะไรที่ทำผิดพลาดไปแล้ว ก็ไม่อาจกลับไปแก้ไขอะไรได้ และแม้ว่าจะกลับตัวแล้วก็ตาม ซึ่งบางครั้งก็หมายถึงการชดใช้ด้วยชีวิตนั่นเอง
หนังสร้างถึงเหตุการณ์ในยุคที่ยังมีการเหยียดสีผิวอยู่ ซึ่งในหนังมีตัวละครหลักตัวหนึ่งคือชายผิวสีรูปร่างใหญ่โต และมีอาการทางสมองชื่อ Coffey ที่ถูกกล่าวหาว่าฆาตรกรรมเด็กหญิงสองคน และถูกส่งตัวมาเพื่อประหารชีวิต แต่ทว่าที่จริงแล้วชายผู้นี้ไม่ได้เป็นคนฆ่าแต่พยายามจะช่วยชีวิตเด็กสาวสองคนนั้นต่างหาก ซึ่งในท้ายที่สุด Coffey ก็ได้ถูกประหารชีวิตด้วยเก้าอี้ไฟฟ้านั่นเอง
🔖ปาฏิหาริย์แดนประหาร เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของจอห์น คอฟฟี่ (Michael Clark Duncan) โดย พอล เอดจ์คอมบ์ (Tom Hanks) หัวหน้าผู้คุมนักโทษในแดนที่เรียกว่า (เป็นคำที่ใช้เรียกทางเดินสีเขียวที่นักโทษเดินผ่าน จากห้องขังไปยังห้องประหาร) ปาฏิหาริย์แดนประหาร ในยุคที่เต็มไปด้วยการกดขี่และแบ่งแยกสีผิวในอเมริกา โดยพอลต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานจากโรคในกระเพาะปัสสาวะ แต่ก็อดทนปฏิบัติหน้าที่ตามปกติในฐานะหัวหน้าที่ดีทั้งกับลูกน้องและนักโทษ จนกระทั่งวันหนึ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยปกติก็ได้เปลี่ยนไป เมื่อ จอห์น คอฟฟี่ นักโทษผิวดำร่างยักษ์ ที่ถูกตัดสินประหารชีวิตในคดีข่มขืนและฆ่าเด็กหญิงผิวขาว 2 คน ได้ถูกนำตัวเข้ามาคุมขังที่กรีนไมล์เพื่อรอวันประหาร
🔖 ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่น่ากลัวของคอฟฟี่ การจะฆ่าใครสักคนโดยเฉพาะเด็กหญิงคงไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่พอลได้สัมผัสกลับแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง เพราะแท้จริงนั้น จอห์น คอฟฟี่กลับเป็นคนที่ซื่อใส จิตใจอ่อนโยน และเป็นห่วงเป็นใย แต่นั่นยังเทียบไม่ได้กับพรวิเศษที่จอห์น คอฟฟี่มีอยู่ จอห์นรับรู้ถึงความทุกข์ทรมานของผู้อื่น จึงได้สร้างปาฏิหาริย์ที่เกินจะอธิบาย เพื่อมอบชีวิตใหม่ให้ผู้ที่เผชิญความเจ็บปวด ด้วยการรับความเจ็บปวดนั้นมาไว้เอง หนึ่งในผู้ที่ได้รับปาฏิหาริย์นั้นก็คือพอล ซึ่งจอห์นช่วยเขาไว้จนโรคที่คอยสร้างความทุกข์ให้เขามานานนั้น ฉับพลันก็หายเป็นปลิดทิ้ง ทำให้ทั้งพอลและผู้คุมคนอื่นๆต่างสงสัยและแทบไม่อยากจะเชื่อว่า บุคคลที่มหัศจรรย์และจิตใจแสนงดงามผู้นี้จะสามารถก่อคดีสุดโหดขนาดนั้นได้จริงๆหรือ?
⭐ 10
ฉันคาดหวังว่าหนังเรื่องนี้คงจะเป็นเรื่องปกติ และฉันแค่อยากเห็นมันสำหรับทอม แฮงค์ส แต่เมื่อหนังผ่านไป ฉันร้องไห้ ฉันหัวเราะ และเกิดความรู้สึกที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ ฉันให้คะแนนหนังเรื่องนี้ดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา บางช่วงเวลาในภาพยนตร์ทำให้ฉันจับหมอนบนเตียงแน่นที่สุดเท่าที่เคยมีมา รับรองได้เลยว่าหนังเรื่องนี้จะทิ้งความประทับใจไว้ในใจไปอีกนาน ฉันยังบอกอีกว่าหนังเรื่องนี้ดีกว่า Shawshank Redemption เรื่องราวที่ยอดเยี่ยม การแสดงที่ยอดเยี่ยม ความรู้สึกที่เหลือเชื่อ และโดยรวมแล้วเป็นละครที่ยากจะลืมเลือน หากคุณได้ดูภาพยนตร์มา 1,000 เรื่องแต่ไม่ใช่เรื่องนี้ แสดงว่าเส้นทางการชมภาพยนตร์ของคุณไม่สมบูรณ์ ฉันจะตรวจสอบให้แน่ใจด้วยว่าแม้แต่คนรุ่นต่อไปของฉันก็ควรดูเรื่องนี้ด้วย
⭐ 10
เป็นหนึ่งในหนังสือของ Stephen King ที่ฉันชื่นชอบและฉันได้อ่านมาแล้วหลายครั้ง ฉันคาดหวังเวอร์ชันภาพยนตร์อย่างใจจดใจจ่อ แต่ก็กังวลว่าไม่สามารถจำลองผลกระทบทางอารมณ์ของหนังสือเล่มนี้บนหน้าจอได้ โชคดีที่เรื่องราวที่ยอดเยี่ยมนี้ดัดแปลงโดยแฟรงก์ ดาราบอนต์ ซึ่งทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมโดยนำ “Shawshank Redemption” ของคิงมาสู่จอภาพยนตร์ เขาทำงานคุณภาพสูงเช่นเดียวกันกับ เรื่องราวมีความซื่อสัตย์ต่อหนังสือเพียงแต่สูญเสียรายละเอียด
ที่ไม่สำคัญกับเรื่องไปแล้วเท่านั้น การคัดเลือกนักแสดงทำได้ยอดเยี่ยมมาก นักแสดงทุกคนเหมาะสมกับบทบาทของเขาอย่างสมบูรณ์แบบและทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม แม้ว่าฉันจะเลือกดั๊ก ฮัทชิสันเป็นพิเศษก็ตาม การแสดงเพอร์ซีย์ผู้น่ารังเกียจของเขานั้นตรงจุด
และบ่งบอกถึงความซับซ้อนของตัวละครตัวนี้ที่ฉันไม่เคยพบในหนังสือ ความยาวประมาณสามชั่วโมงและดูเหมือนว่านักวิจารณ์จะบ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันไม่เข้าใจคำร้องเรียน หนังเรื่องนี้ไม่เคยลากยาวและไม่น่าเบื่อ และแน่นอนว่ามันไม่ได้มีความยาวถึงสามชั่วโมงด้วย ต้องใช้ความยาวในการเล่าเรื่องนี้ในแบบที่ควรเล่า และเรื่องราวก็เข้มข้นมาก เหนือสิ่งอื่นใด ดาราบอนต์และนักแสดงนำอารมณ์มาสู่จอได้มาก จนฉันร้องไห้เหมือนเด็กๆ ผ่านหลายฉาก The Green Mile (1999) ปาฏิหาริย์แดนประหาร “เดอะกรีนไมล์” จะหลอกหลอนคุณ
⭐ 10
คุณบอกพระเจ้าพระบิดาว่าเป็นความเมตตาที่คุณทำ ฉันรู้ว่าคุณเจ็บปวดและกังวล ฉันรู้สึกได้ แต่คุณควรเลิกทำมันตอนนี้ เพราะอยากให้มันจบๆไป ฉันทำ. ฉันเหนื่อยนะเจ้านาย เหนื่อยกับการอยู่บนถนน เหงาเหมือนนกกระจอกกลางสายฝน ดูหนังออนไลน์ เบื่อที่ไม่เคยมีเพื่อนอยู่ด้วย หรือบอกฉันว่าเรามาจากไหนหรือจะไปที่ไหน หรือเพราะเหตุใด ส่วนใหญ่ฉันเบื่อกับการที่คนขี้เหร่กัน ฉันเหนื่อยกับความเจ็บปวดทั้งหมดที่ฉันรู้สึกและได้ยินในโลกนี้ทุกวัน มันมีมากเกินไป เหมือนมีเศษแก้วอยู่ในหัวตลอดเวลา คุณสามารถเข้าใจได้?
⭐ 10
มีเหตุผลว่าทำไม Tour de Force ที่ชนะรางวัลออสการ์จึงอยู่ในอันดับที่ 67 ของภาพยนตร์ทั้งหมดใน IMDb แม้ว่าจะมีความยาว 3 ชั่วโมงและมีฉากที่น่าสยดสยองบางฉาก (ไม่ใช่สำหรับคนที่คลื่นไส้ เด็กๆ หรือการออกเดทครั้งแรก)
มันเต็มไปด้วยการแสดงที่โดดเด่น The Green Mile (1999) ปาฏิหาริย์แดนประหาร ไม่เพียงแต่จากแฮงค์สเท่านั้น แต่ยังมาจากตัวละครสมทบอีกมากมายที่ร่ำรวยและเต็มเปี่ยมอีกด้วย ดูเหมือนจะช้าสำหรับผู้ที่ใจร้อน แต่จะได้รับรางวัลมากมายสำหรับผู้ที่มีความแข็งแกร่งในการไปให้ถึงจุดสิ้นสุด
มันจะทำให้คุณคิดถึงโทษประหารชีวิตและบางทีอาจมีระดับความชั่วร้ายที่แตกต่างกันออกไป อาจเป็นเรื่องราวทางจิตวิญญาณที่สะเทือนอารมณ์อย่างลึกซึ้งหรือการเดินทางที่น่าขนลุกอย่างน่าขนลุกในจิตใจของสตีเฟน คิง; เลือกของคุณ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ฉันก็ใส่มันไว้ตรงนั้นในรายการเกาะทะเลทรายของฉันพร้อมกับ Shawshank Redemption มันจำเป็นต้องดูอย่างแน่นอน
เรื่องราวเกี่ยวกับโทษประหาร เมื่อจอห์น คอฟฟีย์ ยักษ์ผู้อ่อนโยนมีพลังลึกลับในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บของผู้คน เมื่อหัวหน้าองครักษ์ พอล เอ็ดจ์คอมบ์ ตระหนักถึงพรสวรรค์ของจอห์น เขาจึงพยายามช่วยป้องกันการประหารชีวิตชายผู้ถูกประณาม พอล เอ็ดจ์คอมบ์ หัวหน้าผู้คุมนักโทษประหาร ที่รับหน้าที่ดูแลนักโทษประหารผ่านเส้นทางที่ กรีนไมล์ หรือเส้นทางสีเขียว ออกจากกรงขังไปสู่แดนประหาร
ตลอดชีวิตการทำงานของเขามีนักโทษคนหนึ่งนามว่า จอห์น คอฟฟี่ ชายผิวสีร่างยักษ์ ที่มีโทษคดีฆาตกรรมเด็กสาวสองคน แต่เมื่อเขาได้รู้จักกับจอห์น กลับพบว่าพฤติกรรมของเขาดูช่างตรงข้ามกับคดีที่ต้องโทษ ด้วยความอ่อนโยน สงบเรียบร้อย และมีพลังพิเศษเหนือธรรมชาติในการช้วยเหลือผู้อื่น The Green Mile (1999) ปาฏิหาริย์แดนประหาร จนนำไปสู่การตั้งคำถามภายในจิตใจของพอลว่า จอห์น คือคนที่ทำผิดในคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นจริงๆ หรือไม่
พอล เอดจ์คอมบ์ (แด๊บส์ เกรีย-รับบทเอดจ์คอมบ์ในวัยชรา) อดีตพัศดีในบ้านพักคนชราเล่าเรื่องความหลังของตนในปี ค.ศ. 1935 สมัยยังทำงานเป็นพัศดีอยู่ (ทอม แฮงค์-รับบทเอดจ์คอมบ์ในวัยหนุ่ม) ให้ อีเลน คอนเนลลี่ (อีฟ เบรนท์) เพื่อนหญิงที่พักอยู่ที่บ้านพักคนชราด้วยกันฟัง ในขณะประจำการที่โคลด์ เมาท์เทนท์ ทางใต้ ในยุคของการกดขี่ด้านชนชั้นและสีผิว งานของเอดจ์คอมมบ์และพัศดีคนอื่น ๆ คือการดูแลนักโทษประหาร ที่รอการเดินทางผ่านเส้นทาง ที่เรียกว่า กรีนไมล์ (Green Mile) ทางเดินสีเขียวที่นักโทษใช้เป็นทางเดินออกจากห้องขังไปสู่เก้าอี้ไฟฟ้า ณ ปาฏิหาริย์แดนประหาร ที่นี่นักโทษทุกคนล้วนแต่สำนึกในโทษของตัวเองแล้วทั้งนั้น
และมีชีวิตอยู่เพื่อรอวันสุดท้าย ทำให้พัศดีทุกคนล้วนแต่เห็นใจและผูกพันกับนักโทษทุกคน เป็นเวลากว่าหลายปี ที่เอดจ์คอมบ์เดินไปบนทางเดินนี้พร้อมกับนักโทษหลายต่อหลายประเภท แต่เขาไม่เคยรู้สึกผูกพันกับใครเหมือนอย่างที่รู้สึกกับ จอห์น ค็อฟฟี่ (ไมเคิล คลาร์ก ดันแดน) นักโทษร่างยักษ์ผิวดำ ที่ต้องคดีฆาตกรรมเด็กหญิงสองคน จากรูปลักษณ์ภายนอกของค็อฟฟี่ มันเป็นเรื่องไม่ยากที่เขาจะฆ่าใครสักคน แต่จากพฤติกรรมของเขา กลับตรงข้ามกับสิ่งที่ใคร ๆ เห็น ค็อฟฟี่เป็นคนที่รักสงบ
The Elephant Man (1980) มนุษย์ช้าง