The Great Escape (1963) แหกค่ายมฤตยู

The Great Escape (1963) แหกค่ายมฤตยู

เรื่องย่อ

ดูหนัง The Great Escape (1963) แหกค่ายมฤตยู เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตรวางแผนระดมกำลังหลายร้อยคนเพื่อหลบหนีออกจากค่ายเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แหกค่ายมฤตยู (อังกฤษ: The Great Escape) เป็นภาพยนตร์อเมริกันในปี ค.ศ. 1963 มีเรื่องราวเกี่ยวกับค่ายเชลยของสงคราม ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งฝ่ายเยอรมันได้ทำการสร้างขึ้น ภาพยนตร์ดัดแปลงมาจากหนังสือชื่อ The Great Escape โดยพอล บริกฮิล ที่สร้างจากเรื่องจริงในการหลบหนีของ Stalag Luft III ใน Żagań ประเทศเยอรมนี ตัวละครในภาพยนตร์เป็นตัวละครที่มีอยู่จริง ภาพยนตร์สร้างโดยบริษัทมิริช ออกฉายโดยยูไนเต็ดอาร์ทิตส์ สร้างและกำกับโดยจอห์น สเติร์กส นำแสดงโดยสตีฟ แม็กควีน, เจมส์ การ์เนอร์และริชาร์ด แอตเทนโบโร ดูหนังออนไลน์

ในปี 1943 เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตรจำนวน หนึ่งที่หลบหนีจากค่ายต่างๆทั่วจักรวรรดิไรช์ที่สาม หลายครั้ง ถูกย้ายไปยังค่ายแห่งใหม่ภายใต้การบังคับบัญชาของพันเอก ฟอน ลูเกอร์แห่ง กองทัพอากาศเยอรมันเขาเตือนกัปตันกลุ่ม อังกฤษ แรมซีย์ ซึ่งเป็นนายทหารเชลยศึกระดับสูงสุดและเป็น ผู้นำ โดยพฤตินัยว่าใครก็ตามที่หลบหนีจะถูกยิง ฟอน ลูเกอร์คัดค้านมาตรการดังกล่าวเป็นการส่วนตัว แต่เกสตาโปซึ่งเบื่อหน่ายกับความวุ่นวายที่เกิดจากการแหกคุกในที่อื่นๆ ได้ขู่ว่าจะเข้าแทรกแซงหากกองทัพอากาศเยอรมันไม่สามารถหยุดพวกเขาได้

นักโทษหลายคนเพิกเฉยต่อภัยคุกคามและพยายามหลบหนีในวันแรก แต่ไม่มีใครประสบความสำเร็จ ฮิลตส์ ผู้หลบหนีที่โด่งดังและประสบความสำเร็จ สังเกตเห็นจุดบอดที่รั้วและจงใจจับได้ก่อนที่ผู้คุมจะรู้ว่าสิ่งที่เขาค้นพบ เขาถูกตัดสินให้ไปอยู่ในคุก[ 9 ] และ ถูกขังไว้ในห้องขังข้างๆ ไอฟส์ และทั้งสองก็กลายเป็นเพื่อนกัน

หัวหน้าฝูงบิน RAF โรเจอร์ บาร์ตเล็ตต์ ได้จัดตั้ง “องค์กร X” ขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นคณะกรรมการวางแผนการหลบหนีที่ค่ายเดิมของพวกเขา โดยได้รับความเห็นชอบโดยปริยายจากแรมซีย์ เขาโต้แย้งว่าคณะกรรมการเหล่านี้สามารถช่วยความพยายามในการทำสงครามของฝ่ายสัมพันธมิตรได้โดยการส่งกำลังพลจำนวน 250 นายพร้อมกัน ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน เพื่อบังคับให้เยอรมันต้องเบี่ยงเบนกำลังพลจำนวนมากออกจากแนวหน้า

เชลยศึกเริ่มทำงานในอุโมงค์สามแห่ง ได้แก่”ทอม” “ดิก” และ “แฮร์รี่”เฮนลีย์หาสิ่งของสำคัญในตลาดมืดและสร้างสัมพันธ์กับผู้เชี่ยวชาญการปลอมแปลงอย่างบลีธ เซดจ์วิกทำจอบและเป่าลม เวลินสกี้และดิกส์ดูแลการขุด แมคโดนัลด์รวบรวมข้อมูลข่าวกรอง กริฟฟิธเย็บชุดปลอมตัวพลเรือน และแอชลีย์-พิตต์คิดค้นวิธีซ่อนดินที่ขุดได้ เสียงขุดและการผลิตถูกกลบด้วยเสียงประสานเสียงซึ่งนำโดยคาเวนดิช ซึ่งสำรวจเส้นทางของอุโมงค์ด้วย เมื่อทราบว่าฮิลต์สกำลังวางแผนที่จะกระโดดข้ามรั้ว บาร์ตเล็ตต์จึงขอให้เขาสำรวจพื้นที่โดยรอบแล้วปล่อยให้เขาถูกจับอีกครั้งเพื่อที่เขาจะได้วาดแผนที่สำหรับองค์กรเอ็กซ์ ฮิลต์สปฏิเสธเพราะ

ความภูมิใจเมื่อ “ทอม” ใกล้จะเสร็จก่อน บาร์ตเล็ตต์ก็สั่งให้ “ดิก” และ “แฮร์รี่” ปิดผนึก ฮิลต์ส เฮนลีย์ และกอฟฟ์ ต้มเหล้าเถื่อน มันฝรั่ง ด้วยเครื่องกลั่นแบบทำเอง และฉลองวันชาติ4 กรกฎาคมกับค่าย แต่เจ้าหน้าที่กลับพบ “ทอม” โดยไม่ตั้งใจขณะกำลังจัดงานปาร์ตี้ ไอฟส์หมดหวัง สติแตก ปีนรั้วอย่างบ้าคลั่ง และถูกยิงเสียชีวิต ฮิลต์สตกใจและตกลงตามข้อเสนอของบาร์ตเล็ตต์

บาร์ตเล็ตต์สั่งให้เปิด “แฮร์รี่” อีกครั้ง เมื่ออุโมงค์พังทลายบางส่วน เวลินสกี้ก็เสียใจและสารภาพกับดิกส์ว่าเขาเป็นโรคกลัวที่แคบ เขาพยายามปีนรั้วเหมือนไอฟส์ แต่ดิกส์สามารถทำให้เขาสงบลงและป้องกันไม่ให้เขาโดนยิง บลีธพบว่าตัวเองตาบอดเพราะสายตาสั้น ลงเรื่อยๆ และเฮนลีย์ก็รับหน้าที่เป็นตาให้เขาระหว่างการหลบหนี

นักโทษทำภารกิจ “แฮร์รี่” สำเร็จ แต่ในคืนที่หลบหนี พวกเขาโผล่ขึ้นมาบนพื้นผิวและพบว่าตัวเองอยู่ห่างจากป่าไป 20 ฟุต และยังอยู่ในสายตาของยาม โดยมีฮิลต์ดึงเชือกเป็นสัญญาณนำทาง และด้วยความช่วยเหลือจากเหตุไฟดับจากการโจมตีทางอากาศโดยบังเอิญ ทำให้ชายหลายสิบคนหลบหนีไปก่อนที่คาเวนดิชจะลื่นไถลและส่งเสียงร้อง กริฟฟิธที่ใจร้อนโผล่ขึ้นมาในขณะที่ยามตรวจสอบและถูกจับ ทำให้การแหกคุกสิ้นสุดลง

ผู้หลบหนี 76 คนหลบหนีไปทั่วยุโรป เวลินสกี้และดิกส์พายเรือไปที่ท่าเรือและขึ้นเรือไปสวีเดนในขณะที่เซดจ์วิกปั่นจักรยานไปฝรั่งเศสซึ่งกองกำลังต่อต้านลักลอบพาตัวเขาไปสเปนส่วนที่เหลือไม่ประสบความสำเร็จ คาเวนดิชติดรถบรรทุก แต่ถูกคนขับหักหลัง ฮิลส์ขโมยรถจักรยานยนต์และมุ่งหน้าไปยังชายแดนเยอรมนี-สวิตเซอร์แลนด์ ถูกทหารไล่ตาม แต่หลังจากข้ามแนวป้องกันรถถังไปได้หนึ่งแนว รถจักรยานยนต์ของเขาก็ถูกยิงและเขาถูกจับกลับคืนมา เฮนลีย์และ

บลีธขโมยเครื่องบินฝึกของกองทัพอากาศเพื่อบินไปสวิตเซอร์แลนด์ แต่เครื่องบินตกเมื่อเครื่องยนต์ขัดข้อง บลีธถูกยิงและเฮนลีย์ถูกจับกลับคืนมา ที่สถานีรถไฟ คูน ซึ่งเป็นทหารรักษาการณ์เกสตาโปจากค่าย ช่วยค้นหาผู้หลบหนีในหมู่ผู้โดยสารที่ลงจากเรือ แอชลีย์-พิตต์ฆ่าเขาเพื่อป้องกันไม่ให้เขาจำบาร์ตเล็ตต์ได้ จากนั้นเขาก็ถูกยิงเสียชีวิตเช่นกัน อย่างไรก็ตาม บาร์ตเล็ตต์และแมคโดนัลด์ยังคงถูกจับเมื่อเจ้าหน้าที่เกสตาโปอีกคนหนึ่งหลอกให้แมคโดนัลด์พูดภาษาอังกฤษในขณะที่ขึ้นรถบัส

ชายทั้งห้าสิบคน รวมทั้งบาร์ตเล็ตต์และแมคโดนัลด์ ถูกบรรทุกขึ้นรถบรรทุก พาไปที่ทุ่งนา และถูกยิงเสียชีวิตตาม คำสั่งโดยตรง ของฮิตเลอร์ เมื่อเฮนลีย์ได้ยินข่าวนี้ขณะกลับมาที่ค่ายกับผู้รอดชีวิต แรมซีย์ก็ถามเขาว่าการหลบหนีนั้นคุ้มค่าหรือไม่ ฟอน ลูเกอร์ ซึ่งรู้สึกละอายใจกับการฆาตกรรม ถูกเกสตาโปปลดจากตำแหน่งผู้บังคับบัญชา และถูกขับไล่ไปสู่ชะตากรรมที่ไม่แน่นอน แต่ขณะที่เขาจากไป เขาบอกกับฮิลตส์ที่กำลังกลับมาว่าดูเหมือนว่าชาวอเมริกันจะเป็นคนที่ได้เห็นเบอร์ลินก่อน ฮิลตส์ถูกส่งไปที่ห้องขัง ซึ่งเขาเริ่มวางแผนการหลบหนีครั้งต่อไป

ผู้กำกับ

จอห์น สเตอร์เจส

บริษัท ค่ายหนัง

The Mirisch Company

นักแสดง

Steve McQueen
James Garner
Richard Attenborough

โปสเตอร์หนัง

รีวิวหนัง The Great Escape (1963) แหกค่ายมฤตยู

หนังโปรดของข้าพเจ้า

หนังสร้างจากเรื่องจริงของกลุ่มทหารฝั่งสัมพันธมิตรที่ตกเป็นเชลยสงครามของเยอรมัน การปฏิบัติต่อเชลยทหารจะต่างออกไปจากที่ปฏิบัติต่อยิวครับ และทหารในค่ายนี้ล้วนแล้วแต่เป็นนักหลบหนีแถวหน้า ทหารหลายคนในค่ายนี้ต่างเคยหลบหนีจากค่ายอื่นมาหลายครั้งแต่ก็ไปไม่พ้นเยอรมันสักที ส่วนฝั่งเยอรมันก็คิดแผนการใหม่คือสร้างค่าย Stalag Luft III ขึ้นมารวมพวกทหารที่หลบหนีบ่อย ๆ มาอยู่รวมกันให้หมดจะได้จัดการง่าย ๆ

หนังเปิดเรื่องมาด้วยภาพทหารเชลยสงครามจากหลายเชื้อชาติมาอยู่รวมกันในค่าย Stalag Luft III ครับ เริ่มมาวันแรกหลายคนก็พยายามหลบหนีด้วยวิธีของตัวเองแต่ก็ไม่รอดทั้งนั้นแหละครับ จนกระทั่งมีคนหนึ่งเสนอแผนให้ทุกคนจับมือกันและเขาจะพาเชลยออกจากค่ายนี้ 250 คน
หนังใช้เวลาร่วมชั่วโมงครึ่งนำเสนอขั้นตอนของแผนการในการหลบหนีที่ใช้เวลาจริง ๆ กว่า 3 ปีครึ่งในการขุดอุโมงค์ตามแผน

ขั้นตอนหลัก ๆ ก็คือการขุดซึ่งต้องมีอุปกรณ์ ก็ต้องประดิษฐ์อุปกรณ์หาไม้หาเหล็กมาทำพลั่ว ค้อน ไม้ค้ำยัน เครื่องสูบลมปั๊มอากาศ แล้วยังต้องหาวิธีกำจัดดินจากอุโมงค์อีก ตรงนี้หนังก็จะพาเราดูการทำงานขั้นตอนต่าง ๆ ครับ และชั่วโมงสุดท้ายก็เป็นเรื่องราวของการหลบหนี จะรอดไม่รอดอย่างไรก็ต้องไปชมกันเองครับ

Cine Daily

คำว่าหนังสงคราม (War Movie) นั้นไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นเรื่องของการรบในสมรภูมิหรือวีรกรรมของทหารแต่อย่างใด เพราะในเรื่องราวของสงครามนั้นมีมากกว่าแค่การรบในสมรภูมิ ประเภทหนึ่งที่พบเห็นได้บ่อยในหนังสงครามคือเรื่องราวของเชลยศึก (POW) ซึ่งที่พบได้บ่อยที่สุดคือเรื่องราวในสงครามโลกครั้งที่ 2 และมีอยู่หลายเรื่องที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนังคลาสสิคไปแล้ว

อย่างเช่น  หรือที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดีในชื่อ “แหกค่ายมฤตยู” นั้นคือหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของเชลยศึกได้เป็นอย่างดี ซึ่งภารกิจสำคัญของเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตรในเรื่องนี้ก็คือการหลบหนี และการหลบหนีครั้งนี้คือการหนีค่ายที่ดูจะยิ่งใหญ่ที่สุดสมกับชื่อเรื่อง ซึ่งการหนีในเรื่องนี้ยังเป็นไปตามกลยุทธทางการทหารของผู้ที่วางแผนเพื่อต้องการสร้างความวุ่นวายให้กับแนวหลังของกองทัพฝ่ายตรงกันข้ามอีกด้วย

ด้วยฟอร์มหนังที่ใหญ่   จึงเป็นหนังรวมนักแสดงอีกเรื่องหนึ่ง โดยนักแสดงนำคนสำคัญของเรื่องคือ สตีฟ แม็คควีน จอมแหกค่ายที่หลบหนีอยู่เสมอและถูกจับกลับมาขังเดี่ยวเป็นประจำเช่นกันจนได้ฉายา “ราชาห้องเย็น” สตีฟ แม็คควีน เป็นนักแสดงชายที่อาจจะกล่าวได้ว่าคนคือต้นแบบพระเอกหนังแอ๊คชั่นในปัจจุบันก็ว่าได้ เขามีบุคลิกของความเข้มแข็ง ทรหด

แต่ในขณะเดียวกันก็มีมุมของความขี้เล่น อารมณ์ขันอยู่ในตัวเช่นกัน ในชีวิตจริงของเขายังเป็นคนที่ชอบความเร็วและ สตีฟ แม็คควีน ได้ทำให้ฉากที่เขาขับมอเตอร์ไซด์หนีทหารเยอรมันกลายเป็นฉากแอ๊คชั่นคลาสสิคที่ถูกพูดถึงอยู่เสมอ นักแสดงอีกคนที่มาประกบกับ สตีฟ แม็คควีน คือ เจมส์ การ์เนอร์ นักแสดงที่มีจุดเด่นในบทแอ๊คชั่นเบา ๆ เช่นกัน เจมส์ การ์เนอร์ เป็นที่รู้จักจากหนังซีรีส์คาวบอยชุด Maverick ความโด่งดังจากเรื่องนี้ทำให้เขาถูกเรียกติดว่าว่า มาเวอริค มากกว่าชื่อจริงของเขาเสียอีก ทั้ง สตีฟ แม็คควีน และเจมส์ การ์เนอร์ ต่างเข้ากันได้ดีและเป็นสีสันของหนังโดยมีความเป็นอเมริกันที่ดูสบาย ๆ

ในขณะที่เชลยศึกคนอื่น ๆ ต่างก็เป็นทหารอังกฤษที่ดูเคร่งเครียดกว่า นักแสดงชั้นนำอีกคนในเรื่องนี้คือ ริชาร์ด แอทเทนโบโรห์ ในบทจอมวางแผนที่ต้องการจะให้เชลยศึกหนีกันแทบยกค่ายเพื่อป่วนแนวหลังเยอรมันนั่นเอง ริชาร์ด แอทเทนโบโรห์ เป็นนักแสดงระดับฝีมือที่เป็นที่ยอมรับก่อนที่เขาจะผันตัวมาเป็นผู้กำกับและมีงานเด่นคือ Gandhi (1982) ที่ทำให้เขาได้รับรางวัลออสการ์ผู้กำกับยอดเยี่ยม ถึงกระนั้น ริชาร์ด แอทเทนโบโรห์ ก็ยังไม่ทิ้งงานแสดงและมีบทบาทสำคัญในหนังบล็อคบัสเตอร์อย่าง Jurassic Park (1993) อีกด้วย นอกจากนี้ The Great Escape (1963)

ยังมีนักแสดงที่น่าสนใจอย่าง ชาร์ลส์ บรอนสัน และเจมส์ โคเบิร์น ร่วมแสดงซึ่งในเวลานั้นทั้งสองคนยังไม่โด่งดังมากนักและผู้กำกับหนังเรื่องนี้ซึ่งก็คือ จอห์น สเตอร์เจส ที่เคยมีผลงานคือ The Magnificent Seven (1960) “7 สิงห์แดนเสือ” ได้นำนักแสดง 3 ใน 7 คาวบอยจากเรื่องนั้นคือ สตีฟ แม็คควีน, ชาร์ลส์ บรอนสัน และเจมส์ โคเบิร์น มาร่วมงานกันอีกครั้งและทำให้คนทั้งสามโด่งดังขึ้นอีกมากจากแรแหกค่ายในครั้งนี้ นักแสดงคนอื่น ๆ ที่มาโด่งดังภายหลังยังมี เดวิด แม็คคัลลั่ม ที่ต่อมาโด่งดังจากซีรีส์ The Man from U.N.C.L.E. หรือ กอร์ดอน แจ๊คสัน ที่โด่งดังจากซีรีส์ The Professionals พวกเขาเหล่านี้ถูกระจายบทบาทในน้ำหนักที่พอดี มองให้เห็นการเป็นทีมในการทำงานเพื่อแหกค่ายในครั้งนี้

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน The Great Escape (1963) แหกค่ายมฤตยู

The Italian Job (1969) ต้นฉบับอิตาเลี่ยนจ๊อบ

The Day The Earth Stood Still (2008) วันพิฆาตสะกดโลก

The Book Thief (2013) จอมโจรขโมยหนังสือ

The Bridge On The River Kwai (1957) เดอะบริดจ์ออนเดอะริเวอร์แคว

The Ghost and the Darkness (1996) มัจจุราชมืดโหดมฤตยู