เรื่องย่อ : The Flash (2023) เดอะ แฟลช ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ ดูหนังHD ดูหนังฟรี MovieHD24 หนัง2024 หนังออนไลน์ Full HD
The Flash Kunnapat Jomkaew
รีวิว ไม่สปอยล์
ข้อดี
– หนังสนุกสัสๆ ขำท้องแข็ง อารมณ์ดู GOTG แล้วมีสตาร์ลอร์ด 2 คนอ่ะ บันเทิงจัด
– ส่วนดราม่าก็ดีมาก ซึ้งน้ำตาไหลกันทั้งโรง ข้างๆนี่สูดน้ำมูกไม่หยุด หนังมีหัวใจของมันจริงๆ
– ตัวละครแอร์ไทม์เยอะไม่เท่ากันแต่แม่งเท่และกินใจทุกตัว โดยเฉพาะแบทแมนคีตั้น
– เซอร์ไพรส์คือดีและคาดไม่ถึงจริงๆ
– แบรี่ อัลเลน โดย เอซรา มิลเลอร์ คือเดอะแบกหนังของจริง การแสดงช่วงดราม่าคือแค่เห็นหน้าแกก็น้ำตาซึมแล้วอะ ไม่แปลกใจเลยทำไมข่าวเหี้ยๆก็เยอะแต่ยังไม่โดนเด้ง
– อนาคตของจักรวาล DC เปิดกว้างและเป็นไปได้ทุกสิ่งอย่างแล้ว
ข้อเสีย
– ถ้าเราย้อนกลับไป 10 กว่าปีที่แล้วมองสิ่งที่ Ironman 1 (2008) และ Transformer 1 (2007) ทำ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า CGI บางฉากในเรื่องนี้ทำออกมาได้น่าผิดหวัง
– หลายตัวละครรวมถึงแบรี่ สามารถไปสุดในทุกปมได้มากกว่านี้ถ้าหนังมีเวลาที่มากกว่านี้ แต่ก็เข้าใจได้ว่าคนส่วนใหญ่จะไม่ซื้อถ้าหนังมันนานเกินไป
7.5/10 ⚡
รีวิวหนัง เดอะแฟลช”
ความเจ็บปวดในอดีตสอนให้เรา
เป็นเราในปัจจุบันยอมรับและก้าวต่อไป
นายจะได้ไม่ต้องวิ่งหนีมันอีก
การเล่นกับมัลติเวิร์สสไตล์ดีซี ที่ตัวหลักไม่ใช่ใครที่ไหนเดอะแฟลชคนเดิมคนป่วนนี่เอง อย่างที่ทุกคนรู้ดี มันจะเกิดอีเว้นท์นึงที่เดอะแฟลช หรือแบรี่ อัลเลน คิดจะย้อนกลับไปแก้ไขอดีต ช่วยแม่ของตัวเองที่ถูกฆ่า แล้วพ่อก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนฆ่าแม่ จึงโดนจำคุก พอแบรี่ ย้อนเวลาไปแก้ไขได้ สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น คือทุกอย่างดูเปลี่ยนไปหมด และมันยุ่งเหยิง เขาจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร ต้องไปตามชมกัน
ความรู้สึกหลังดู
เป็นเรื่องที่ดูสนุกอีกเรื่องนึงเลยนะ ทั้งในเรื่องการเล่าเรื่อง จังหวะต่างๆก็ดูดี
การใส่อะไรที่เราเห็นแล้วจะ ว้าวกับมัน ถ้าเป็นแฟนๆอยู่แล้วรับรอง แฟนเซอร์วิสจัดๆ ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในนั้น มันจะมีบางช่วงที่ CG อาจจะดูลอย ไม่แน่ใจว่าเป็นความตั้งใจหรือ พลาดจริง 555 ดราม่าทำออกมาได้ดีเพราะเราคาดหวังว่าจะได้เจอแบบนั้น แล้วมันทำงานกับเราจริงๆ
หลังจากนี้คาดเดาไม่ได้จริงๆว่าอนาคตของ
จักรวาลนี้จะเป็นยังไงแต่เรารอดูแน่นอน
หนังมีเอนเครดิต 1 ตัวรอดูได้
ความยาวหนัง : 144 นาที
— รีวิว — สนุกมากกกกกกกกกกก หนังยาว 2 ชั่วโมงครึ่ง ซื้อข้าวโพดคั่วถังใหญ่ๆเข้าไปเลย เวลาเจอหนังสนุกนี่กินข้าวโพดอร่อยมาก ไม่รู้เกี่ยวกันป่าว แต่ล้วงเพลินเลย หนังเอนจอยแบบเวอร์ๆสมคำร่ำลือ เซอไพรส์คืออยากจะกรี๊ดลั่นโรง ได้เห็นสิ่งที่อยากเห็น และได้เห็นสิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นด้วย DC คือเก็บความลับเก่งมากกกกก ไปดูเถอะโดยเฉพาะถ้าคุณเป็นแฟนแบทแมนนี่มีกรี๊ดกันคอแห้งอ่ะ ..
.
.. ชอบตรงที่หนังมันฉลาดในการเล่าเรื่องที่มาที่ไปของ เดอะแฟลชให้ได้เห็นว่าเค้ามายังไง อดีตเป็นยังไง แต่เนื้อหาของหนังจริงมันไม่ใช่เป็นหนังต้นกำเนิดของตัวเดอะแฟลชอะไรขนาดนั้น โดยเนื้อๆของเรื่องนี้จะเป็นมัลติเวิร์สในแบบฉบับของ DC ที่ต้องยอมรับว่ามันดูดีและมีเสน่ห์แบบสุดๆ เป็นหนังที่ครบรสเลย ดราม่าหนักๆ แอคชั่นเน้นๆ และความตลกที่มาถูกที่ถูกเวลา ..
.
.. โดยเนื้อหาหลักจะเล่าถึงเดอะแฟลชที่เจอความลับของตัวเองคือสามารถวิ่งเร็วจนย้อนเวลากลับไปในอดีตได้ ซึ่งปมในใจของเค้าคือ แม่ที่เสียชีวิต โดยพ่อของเค้าถูกตั้งข้อหาว่าเป็นคนลงมือ พอรู้ว่าตัวเองสามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตได้ แบร์รี เลยใช้ความสามารถนี้ย้อนกลับไปแก้ไขอดีต ซึ่งที่นั่นเค้าได้เจอกับตัวเองในเวอร์ชั่นคนธรรมดา ที่เหลือไปตามดูกันเอาเอง ..
.
.. แน่นอนว่าเรื่องนี้จุดสปอยล์ในเรื่องมีเยอะมาก ทั้งจุดสำคัญของเนื้อหาในบางฉากที่ไปเชื่อมกับฉากตอนท้าย รวมไปถึงการปรากฏตัวของใครซักคนในมัลติเวิร์สอื่นๆที่หลายๆคนอาจพอเดาออกว่าใครจะมา และบางคนที่คุณไม่คิดว่าจะได้เห็นก็มาเห็นในหนังเรื่องนี้แหละ เนื้อหาในเรื่องนั้นถือว่าเป็นหนังของ DC ที่มีหัวจิตหัวใจมากที่สุดเรื่องหนึ่งของค่ายเลย อาจไม่เลอค่าเท่า TDK แต่ก็ถือว่าเป็นสัญญานที่ดี ที่ต่อจากนี้เราสามารถคาดหวังได้เลยว่ามันจะต้องพีคกว่านี้ได้อีกแน่ๆ ส่วนที่ชอบที่สุด ชอบเรื่องราวครอบครัว ที่ต้องยอมรับว่าหนังมันบิ๊วเรามาตั้งแต่เริ่มและหาทางลงในตอนท้ายได้อย่างทรงพลังมากๆ เชื่อว่ามีน้ำตาแตกกันคาโรงแน่นอน …
น้องแอดได้มีโอกาศได้รับชมรอบสื่อมา กับ ภาพยนต์เรื่อง The Flash
ตัวนี้เห็นเค้าว่า เป็นแบบ ทดลองฉายนะ จะเป็นรีวิว แบบ **รอบทดลองฉากนะครับ**
คือบอกเลยว่าเป็นติ่ง แบทแมน และ เดอะแฟลช ตามอ่านทั้งคอมมิค แล้วก็ดูการ์ตูนมา ขนาดว่ารู้เนื้อหากับตอนจบมันจะต้องเป็นยังไงก็ยังสนุกเลย พล็อตเรื่องดีมาก มีครบทุกอารมณ์ มุขตลกที่ใส่มาในหนังคือตลกมาก ที่สำคัญคือ อิสเตอร์เอ้กกกก มีอิสเตอร์เอ้กตัวนึง ที่บอกเลยว่า ใครเป็นติ่งซุปเปอร์แมนต้องร้องกรี๊ด พูดเลยว่าซื้อตั๋วมาดูอิสเตอร์เอ้กฉากนี้ฉากเดียวยังคุ้มต่าตั๋วเลย ทั้งสนุก ตลก ประทับใจมากกกกกก ใครที่พอรู้เนื้อเรื่องหรือตอนจบอยู่แล้วไม่ต้องกลัวเลยว่าเข้าไปดูแล้วจะเบื่อไหม ไม่มีเบื่อแน่นอน หนังทำมาได้ดี ลงตัวสุดๆ
9/10 เดียวหาว่าอวย
รีวิว ⚡✨ กับ Screen X ครั้งแรก
– สนุกมาก แบบมาก ๆ หนังสองชม.กว่าแต่ตอนที่ดูทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากแต่ไม่งง เป็นหนังเดี่ยวที่เรียกว่าเดี่ยวจริง ตัวละครที่อยู่ในเรื่องเยอะ ๆ แต่ไม่สามารถทำให้เราหลุดจากตัวแบรี่(เดอะแฟลช)ได้เลย
– ติดตามข่าวการเตรียมงานแล้วล่มมาไม่รู้กี่ครั้ง เปลี่ยนผู้กำกับไม่รู้กี่รอบ แต่มันคุ้มค่ากับการได้หนังที่ดี บทที่ดี วิธีการเล่าที่ดีจริง ๆ
– ScreenX ครั้งแรกไม่ได้คาดหวัง แอบกลัวว่าจะปวดหัว แต่สิ่งที่ได้้รับก็นับว่าคุ้ม โดยเฉพาะกับหนังเรื่องนี้ที่มีซีนใหญ่หลายซีนที่ดึงเราเข้าไปแล้วให้ความเป็น ScreenX ได้ดี
– รู้สึกคุ้มค่ากับการดูในโรงหนัง ตลอดเวลาสองชม.กว่าเราไม่สามารถละสายตาจากเรื่องราวในนั้นได้ สนุก กระชับ ชัดเจน รวดเร็วสมกับเป็น The Flash⚡
เรื่องราวของแบร์รี อัลเลน (มิลเลอร์) เจ้าหน้าที่ตำรวจจากเมืองเซ็นทรัลซิตี้ที่ค้นพบว่าเขามีพลังความเร็วเหนือมนุษย์ หลังจากถูกฟ้าผ่า แบร์รีใช้พลังของเขาเพื่อปกป้องเมืองจากเหล่าวายร้าย วันหนึ่ง แบร์รีตัดสินใจย้อนเวลากลับไปในอดีตเพื่อปกป้องแม่ของเขาจากการถูกฆาตกรรม อย่างไรก็ตาม การแก้ไขอดีตของเขาทำให้เกิดผลที่ตามมาในไทม์ไลน์ปัจจุบัน ส่งผลให้โลกเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แบร์รีต้องหาทางแก้ไขความผิดพลาดของเขาและปกป้องโลกจากภัยคุกคาม
ใหม่แบร์รี่ อัลเลนหรือเดอะแฟลชเดินทางย้อนเวลากลับไปเพื่อป้องกันการตายของแม่ของเขา ซึ่งกักขังเขาไว้ในโลกคู่ขนานที่ไม่มีเมตาฮิวแมน แบร์รีขอความช่วยเหลือจากตัวตนที่อายุน้อยกว่าของเขา แบทแมนในวัยชรา และซูเปอร์เกิร์ล เพื่อช่วยโลกนี้จากนายพลซ็อดที่ฟื้นคืนชีพและกลับสู่จักรวาลของเขาการพัฒนาภาพยนตร์ เดอะ แฟลช เริ่มต้นตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1980 มีนักเขียนและผู้กำกับหลายคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับโครงการนี้จนถึง ค.ศ. 2014 ต่อมาภาพยนตร์ได้รับการพัฒนาใหม่ให้เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลขยายดีซี โดยมีมิลเลอร์ได้รับเลือกให้แสดงเป็นแฟลช มีผู้กำกับหลายคนเข้าทำหน้าที่นี้ในปีต่อ ๆ มา ได้แก่ เซธ เกรแฮม-สมิธ, ริค ฟามุยิวะและคู่ของจอห์น ฟรานซิส เดลีย์กับโจนาธาน โกลด์สตีน ทุกคนต่างถอนตัวออกจากตำแหน่งเพราะมีความคิด
สร้างสรรค์แตกต่างกันกับสตูดิโอ มัสเคียตตีและฮอดสันเข้าร่วมโครงการในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2019 และเริ่มเตรียมงานก่อนการถ่ายทำในเดือนมกราคม ค.ศ. 2020 ภาพยนตร์ได้รับอิทธิพลมาจากโครงเรื่องของหนังสือการ์ตูน แฟลชพอยต์ ภาพยนตร์จะมีตัวละครจากดีซีคอมิกส์หลายตัว รวมถึง เบน แอฟเฟล็กและคีตัน กลับมารับบทเดิมเป็น แบทแมน ของพวกเขา การถ่ายทำเริ่มต้นตั้งแต่เดือนเมษายนถึงตุลาคม ค.ศ. 2021 ที่วอร์เนอร์บราเธอร์สสตูดิโอ, ลิฟส์เดนและทั่วสหราชอาณาจักร
Shazam! Fury of the Gods (2023) ชาแซม
Batman The Doom That Came to Gotham (2023)
Batman and Superman Battle of the Super Sons (2022)