The Fiery Priest (2019) บาทหลวงเลือดระอุ EP.1-20 (จบ)

The Fiery Priest (2019) บาทหลวงเลือดระอุ

รีวิว

ปลายท้องฟ้า

The Fiery Priest (2019) บาทหลวงเลือดระอุ EP.1-20 (จบ) คะแนนหลังจากได้รับชม: 10/10 คะแนน ความคิดเห็นหลังจากได้รับชม: เนื้อเรื่องโดยรวมแล้วสนุก น่าติดตามทุกตอนค่ะ แต่ละบทบาทของตัวละครสนุก เฮฮา ชอบทุกตัวละครเลยค่ะ แต่ก็มีแอบเครียดอยู่บ้าง เครียดตามบาทหลวงคิมที่มีอุปสรรคเยอะจนท้อค่ะ ถึงจะเป็นซีรีส์ที่ฉายมาหลายปีแล้ว บาทหลวงเลือดระอุ แต่ก็ไม่อยากให้นักอ่านชาวทรูไอดีต้องพลาดซีรีส์เรื่องนี้ด้วยเหมือนกันค่ะ สนุก ครบรสมากจริง ๆ บาทหลวงคิมเก่งทุกด้านจนคนในสถานีตำรวจและอัยการที่รับเรื่องคดีของบาทหลวงอีแล้ว

ยังอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาคือใคร แต่ก็หาข้อมูลไม่เจอ ซึ่งพวกเขาคาดคะเนไว้ว่าเป็นหน่วยงานราชการลับ แต่ก็ยังไม่ปีกใจเชื่อสักเท่าไหร่ บาทหลวงคิมและนักสืบกูก็ค่อย ๆ หาข้อมูลและเปิดเผยข้อเท็จจริงให้กับสื่อมวลชนและประชาชนให้ได้รับรู้ แต่ก็มีอุปสรรคมากมายเพราะคนที่มีอำนาจ ขยายอำนาจออกไปไกลซะเหลือเกิน คนดีที่สามารถช่วยเหลือเขาได้ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ในเรื่องยังมีตัวละครอีกมากมาย ทั้งสนุก เฮฮา บู๊มัน ๆ ตัวละครที่เสริมความสนุกสำหรับผู้เขียนคือ พนักงานร้านสะดวกซื้อ

ที่ทำงานหนัก ทำงานทุกอย่างเพื่อเก็บเงินเรียนต่อ เขาเรียนวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์และชอบการกินมาก ๆ อย่างเช่นขนมปังสอดใส้ครีม เขาได้บอกกับบาทหลวงคิมว่า ถ้าได้กินมันแล้วจะทำให้ระบบประสาทของเขาพุ่งกระฉูด บาทหลวงคิมให้เขาไปแฝงตัวทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งโดยให้ไปสืบว่าเอกสารข้อมูลของบริษัทเก็บไว้ที่ไหน โดยเขาเอาได้หยิบขนมปังสอดใส้ไปทานด้วย ระบบประสาทการได้ยินก็เริ่มทำงานอีกครั้งจนสืบเสาะกาได้   และอีกตัวละครหนึ่งคือ สมศักดิ์/ทรงศักดิ์ หนุ่มคนไทยที่ไปทำงานอยู่ในเกาหลีใต้คนนี้ก็เป็นตลก พูดเกาหลีไม่คล่องแต่ก็มีความฉลาดพอตัวเช่นกัน

ดูไปบ่นไป

#ไม่สปอยล์ สิ่งหนึ่งที่ทำให้ซีรีย์เกาหลีมีความน่าติดตามกว่าละครหลังข่าวของไทยนั้น ส่วนตัวไม่ได้คิดว่าเพราะหน้าตาที่เข้าขั้นงานดีของพวกเขา แต่กลับคิดว่าความน่าสนใจและน่าติดตามนั้นคือชั้นเชิงในการเล่าเรื่อง อันนี้ต้องออกตัวก่อนว่าไม่ถนัดในแนวกุ๊กกิ๊กฟินจิกหมอน แต่ชื่นชอบเป็นพิเศษในเรื่องราวที่มีประเด็นดราม่า ซับซ้อน หักเลี่ยม เชือดเฉือน หักมุม และการที่บริบททางสังคมเกาหลีที่แรงกว่าของเราเรื่องของการลงโทษข้าราชการ นักการเมืองที่ทุจริต สิ่งนี้ทำให้เขานำเสนอได้อย่างถึงแก่นและถึงใจกว่าเพราะความกล้าเล่นมากกว่า ในขณะที่ทางของเราไม่กล้าเล่นและมันทำให้ออกมาเบาบางและขาดความน่าเชื่อถือ ซึ่งซีรีย์เกาหลีเรื่องนี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากขนบของซีรีย์สืบสวนสอบสวนเปิดโปงความฉ้อฉลในวงราชการเรื่องที่ผ่านๆมา แต่ทว่าความดีงามของเรื่องนี้กลับอยู่ที่การนำเสนอที่แปลกและมันทำให้น่าติดตามอย่างเหลือเชื่อ #บาทหลวงเลือดระอุ

ถ้าจะให้เปรียบเปรยคงต้องอ้างถึงการ์ตูนเรื่องดังทางฝังญี่ปุ่นเรื่อง #GTO #คุณครูพันธุ์หายาก ที่สตรีมมิ่งในช่วงเวลาไกล้เคียงกัน(แต่ตัวเองได้อ่านสมัยเป็นหนังสือ)คือเรื่องราวของครูผู้มีเบื้องหลัง มีความคิดที่แหกคอกนอกรอบ แหกและแหวกทุกทฤษฎีความเป็นครูที่ดีแต่กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่เขาทำส่งผลในทางที่ดีต่อนักเรียนและคนรอบข้างอย่างไม่น่าเชื่อ เช่นกันเรื่องราวของคุณพ่อ #คิมแฮอิล บาทหลวงแหกคอก ชมชอบใช้กำลัง ขี้โมโห แต่เมื่อคุณพ่อ #อียองจุน บาทหลวงที่เขาเคารพเหมือนพ่อถูกฆาตกรรมและถูกป้ายสีให้เสื่อมเกียรติ เขาจึงต้องลงมือสืบสวนเองโดยมีสายสืบที่ไม่เอาไหนที่สุดอย่าง #คูแทยอง กับสายสืบหน้าใหม่ใสๆนาม #ซอซึงอา ต้องร่วมกันสืบสวน

แต่เรื่องราวมันไม่ง่ายเพราะพวกเขาต้องต่อสู้กับอิทธิพลมืด ความฉ้อฉลในวงราชการโดยเฉพาะอัยการสาวอย่าง #พัคควางซอน พวกเขาไม่มีอำนาจอะไรไปสู้เลยนอกจากทักษะในการต่อสู้และสืบสวนของคุณพ่อคิมที่ตัวเรื่องเผยว่าท่านคืออดีตเจ้าหน้าที่ต่อต้านก่อการร้ายของหน่วยข่าวกรองเกาหลี จากที่เล่ามามันน่าจะเป็นงานดราม่าสืบสวนสอบสวนเข้มๆเช่นเคย แต่เดี๋ยวก่อน เรื่องราวเหล่านั้นยังจัดเต็ม เพียงแต่เรื่องนี้นำเสนออกมาในรูปแบบการ์ตูนอย่างที่เกริ่นมาทำให้ในความเข้มข้นของเรื่องราวกลับมีอารมณ์ขัน ความฮา ความเวอร์ในบางเรื่องใส่เข้ามาอย่างพอดีและไม่ล้นจนเกินไปทำให้ครบเครื่องและสนุกในทุกๆตอนจนเมื่อหลวมตัวได้ดูกว่าจะรู้ก็ติดหนึบตามเคย

ปีนรั้วดูหนัง

คิมแฮอิล (คิมนัมกิล) บาทหลวงเลือดเดือดที่มักจะเป็นไม้เบื่อไม้เมา กับนักต้มตุ๋นที่คอยหากินหลอกลวงชาวบ้าน คราวนี้เขาก่อเรื่องใหญ่ขึ้นมาอีกครั้งจนไม่สามารถอยู่ที่โบสถ์แห่งเดิมได้ บาทหลวงแฮอิล จึงจำต้องหลีกหนีปัญหา ด้วยการย้ายมาอยู่ที่เมืองกูดัมกับบาทหลวงอียองจุน (Jeong Dong-Hwan) ที่ครั้งหนึ่งเขาเป็นคนที่ฉุดดึง แฮอิล ขึ้นมาจากห้วงแห่งความทุกข์ในอดีต จน แฮอิล ตัดสินใจเดินบนเส้นทางรับใช้พระเจ้า เพียงแต่การย้ายมาอยู่ที่กูดัมเหมือนมันจะไม่ช่วยแก้ไขปัญหาอะไรได้

เมื่อบาทหลวงแฮอิล ก็ยังเลือดร้อนอย่างคงเส้นคงวา จนทำให้เขาเริ่มมีปัญหางัดข้อกับ ฮวังชอลบอม (Go Joon) อดีตนักเลงที่ไต่เต้ากลายมาเป็นนักธุรกิจขาใหญ่ในเมือง เพียงแต่ปัญหาระหว่าง แฮอิลและชอลบอม นั้นมันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย  The Fiery Priest (2019) บาทหลวงเลือดระอุ เมื่อปัญหาที่แท้จริงที่บาทหลวงอียองจุนซุกซ้อนเอาไว้ไม่ต้องการให้ แฮอิล ล่วงรู้ก็คือ ฮวังชอลบอม กับพรรคพวกขาใหญ่ผู้มีอิทธิพลในเมืองนั้น อยากจะเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารมูลนิธิเพื่อผลประโยชน์แอบแฝง แล้วสิ่งที่ขวางทางพวกเขาอยู่ก็คือ โบสถ์คริสต์แห่งเมืองกูดัมที่รับหน้าที่ตรงนั้นอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง

ซีรีส์เกาหลีแนวแอคชั่น คอมเมดี้ ที่ตอนออกอากาศถือว่ามีกระแส แล้วก็มีแฟนซีรีส์ชื่นชอบพอสมควรเลย แต่ตัวผมเองไม่ได้คิดจะดูในทีแรกด้วยเห็นธีมซีรีส์ค่อนข้างออกมาเป็นคอมเมดี้ เพราะส่วนตัวถ้าเป็นแนว ดราม่า ตลก หรือ โรแมนติก ตลก ผมพอดูได้ไม่มีติดอะไร แต่ถ้าเป็นแนวแอคชั่นหรือสยองขวัญถ้ามีความตลกปนเข้ามาเยอะ ๆ จะไม่ค่อยถูกจริตสักเท่าไหร่ กับเรื่องนี้ถามว่าบันเทิงสนุกไปซีรีส์ได้ไหม ตอบได้เลยว่ามาก ซีรีส์สนุก ฮา อาจไม่ถึงกับดำเนินเรื่องรวดเร็วแต่ก็ไม่มีช่วงไหนน่าเบื่อ แต่ก็นั่นแหละพอความตลกมันเยอะ เมื่อถึงฉากดราม่าหรือแอคชั่น ความสุดทางในแง่มุมนั้น มันก็เลยออกมาไม่ถึงใจผู้ชมแบบผมที่ชื่นชอบความเข้มข้นของเนื้อหา

ตอนเห็นนักแสดง คิมนัมกิล รับบทเป็น บาทหลวงคิมแฮอิล ด้วยความที่ผมก็ไม่ได้ติดตามผลงานของเขามากนัก ดูล่าสุดก็เรื่อง One Day (2017) ที่แสดงคู่กับ ชอนอูฮี นั่นก็เป็นหนังดราม่า พอเป็นบทบาทในเรื่องนี้ที่เป็นแอคชั่นก็มีแอบตั้งคำถามในทีแรกเหมือนกันนะ กลัวว่าจะท่าทางไม่ทะมัดทะแมงทำให้คนดูเชื่อไม่ได้ แต่พอได้ดูเต็ม ๆ แล้วถือว่า คิมัมกิล แสดงบทบาทแอคชั่นได้ดีเลยทีเดียว แม้จะเป็นแอคชั่นที่ติดตลกอยู่มากก็ตาม แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้คล่องแคล่วน่าเชื่อถือหนักหน่วงดีเลยล่ะครับ

เป็นซีรีส์ที่ดูผ่านไปครึ่งทางผู้ชมอย่างเรา ก็ยังแทบไม่เห็นรูชนะของบาทหลวงแฮอิล เมื่อดูเขาจะหัวเดียวกระเทียมลีบถูกต้อนให้จนมุมอยู่ฝ่ายเดียว เพราะอีกฝ่ายอำนาจล้นมือแถมใคร ๆ ก็เอียงเข้าไปอยู่ฝ่ายนั้นกันหมด แต่เป้าประเด็นหลักของซีรีส์ไม่ได้นำเสนอแบบอุดมคติ ที่ผู้คนเป็นคนดีกันมาตั้งแต่เกิด โลกบิด ๆ เบี้ยว ๆ ใบนี้มันหล่อหลอมผู้คนให้แตกต่างกันไป ทุกคนมีความโลภ ความกลัว มีขาวดำอยู่ในตัวคนเดียวกัน ใครก็ต่างสามารถก้าวเดินผิดทางหรือเลือกยืนผิดข้างได้ แต่สำคัญที่เมื่อรู้ตัวแล้วว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นไม่ถูกต้อง จะสามารถถอยกลับมายังจุดเริ่มต้นแล้วเลือกเส้นทางเดินใหม่ได้ไหม

สรุปแล้ว The Fiery Priest (SBS/2019) บาทหลวงเลือดระอุ เป็นซีรีส์แอคชั่น คอมเมดี้ ที่สนุกเรื่องหนึ่งเลยครับ ส่วนตัวอาจจะแอบรู้สึกไม่ถูกจริตบ้างตรงความฮาที่ล้นเกินไป จนรุกล้ำมาในพาทของฉากดราม่าและแอคชั่น ดูหนังออนไลน์  แต่ด้วยความที่มุกตลกของหนังมันได้ผล ฮาจริง ก็เลยต้องหยวน ๆ ยอมมองข้ามในส่วนนั้นไป

ผู้กำกับ

• อี มย็อง-อู

บริษัท ค่ายหนัง

• Samhwa Networks

นักแสดง

•  คิม นัม-กิล
• คิม ซ็อง-คยุน
• อี ฮานี
• โก จุน
• Keum Sae-rok

โปสเตอร์หนัง

เรื่องย่อ

ละครเกี่ยวกับบาทหลวงคาทอลิกที่มีปัญหาในการจัดการกับความโกรธ และนักสืบจากสถานีตำรวจกูดัม ซึ่งพบกันระหว่างการสืบสวนร่วมกันในคดีฆาตกรรมบาทหลวงสูงอายุ ซีรีส์แนวคอมเมดี้-อาชญากรรม ที่มีบาทหลวงในนิกายคาทอลิคที่อารมณ์แสนร้อนอย่าง คิมแฮอิล (รับบทโดย คิมนัมกิล) เป็นตัวหลักของเรื่องราว เขามักจะชอบพูดจาแบบอาฆาตแค้นไปทั่วและเป็นคนหยาบคายต่อผู้อื่นอยู่ตลอด กับ คูแดยอง (รับบทโดย คิมซองคยูน) The Fiery Priest (2019) บาทหลวงเลือดระอุ  ตำรวจนักสืบที่เอาแต่พูดพูดพูดไม่หยุดและเป็นคนใจเสาะ และ พัคคยองซอน (รับบทโดย อีฮานี หรือ ฮันนี่ ลี) เธอเป็นอัยการแสนสวยและฉลาดแต่ก็เป็นคนทะเยอะทะยานในสายงานของเธอเองซึ่งเธอเป็นคนที่ทำงานเก่งเลยทีเดียว ทั้ง 3 คนนี้จะมาช่วยกันแก้ไขคดีฆาตกรรมที่เกี่ยวข้องกับบาทหลวงรุ่นพี่คนหนึ่ง

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

The World of the Married (2020) รักร้อน ซ่อนเสน่หา

Twenty Five Twenty One (2022) ยี่สิบห้า ยี่สิบเอ็ด

What s Wrong With Secretary Kim? (2018) รักมั้ยนะ เลขาคิม?

Nevertheless (2021) รักนี้ห้ามไม่ได้

It s Okay to Not be Okay (2020) เรื่องหัวใจ ไม่ไหวอย่าฝืน