The Equalizer (2014) มัจจุราชไร้เงา

The Equalizer (2014) มัจจุราชไร้เงา

เรื่องย่อ

ดูหนัง The Equalizer (2014) มัจจุราชไร้เงา ผู้ชายที่เชื่อว่าเขาทิ้งอดีตอันลึกลับไว้ข้างหลังเขาไม่อาจยืนเฉยได้เมื่อเขาได้พบกับเด็กสาวคนหนึ่งภายใต้การควบคุมของพวกอันธพาลชาวรัสเซียที่ใช้ความรุนแรงขั้นรุนแรง 

โรเบิร์ต แม็กคอลล์ อดีตทหารนาวิกโยธินและอดีตเจ้าหน้าที่ DIA/DCS อาศัยอยู่ในบอสตัน ซึ่งเขาทำงานในร้านปรับปรุงบ้านขนาดใหญ่ เขาช่วยเพื่อนร่วมงานชื่อรัลฟีฝึกฝนเพื่อเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย โรเบิร์ตนอนไม่หลับ จึงมักอ่านหนังสือในร้านอาหารดึกๆ โรเบิร์ตเป็นเพื่อนกับเทรี โสเภณีวัยรุ่นที่ถูกค้ามนุษย์โดยมาเฟียรัสเซีย

เย็นวันหนึ่ง เทรีเล่าว่าชื่อจริงของเธอคืออลีนา และเธอใฝ่ฝันที่จะเป็นนักร้อง โรเบิร์ตและอลีนาออกไปเดินเล่น แต่สลาวี แมงดาของอลีนา มาถึงอย่างกะทันหัน ตีอลีนา และบังคับให้เธอขึ้นรถ สลาวียื่นนามบัตรบริการคุ้มกันให้โรเบิร์ตก่อนจะขับรถออกไป ไม่กี่คืนต่อมา อลีนาซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกส่งตัวเข้าห้องไอซียูที่โรงพยาบาลใกล้เคียง เมื่อได้ยินข่าว โรเบิร์ตจึงเดินทางไปที่นั่นและได้ทราบจากแมนดี้ เพื่อนของเธอว่าสลาวีเป็นต้นเหตุของอาการป่วยของเธอ

โรเบิร์ตพบสลาวีและลูกน้องของเขาที่ร้านอาหาร แต่ถูกปฏิเสธอย่างหน้าด้านๆ เมื่อเขาเสนอซื้ออิสรภาพของอาลีนา เขาประเมินห้องและอาวุธของพวกเขา ประเมินจำนวนวินาทีที่จะใช้ในการฆ่าพวกเขาทั้งหมด จากนั้นก็ทำอย่างรวดเร็ว ดูหนังออนไลน์

ผู้กำกับ

Antoine Fuqua

บริษัท ค่ายหนัง

Columbia Pictures
LStar Capital
Village Roadshow Pictures
Escape Artists
Mace Neufeld Productions
Zhiv Productions

นักแสดง

Denzel Washington
Marton Csokas
Chloë Grace Moretz
David Harbour
Bill Pullman
Melissa Leo

โปสเตอร์หนัง

รีวิว

หนังโปรดของข้าพเจ้า

1) การที่ฮอลลีวูดมันยังคงมีหนัง ‘anti-hero’ ประเภทฮีโร่ที่ใช้ความรุนแรงจัดการปัญหา มันน่าจะสะท้อนค่านิยมความเสื่อมศรัทธาในตัวกฎหมายของผู้คนได้เป็นอย่างดี

2) ‘โรเบิร์ต’ (Denzel Washington) มีอดีตยังไงไม่มีใครทราบ แต่เขาเชื่อว่าตัวเองก้าวข้ามอดีตของตัวเองมาใช้ชีวิตสงบสบายง่าย ๆ เป็นพนักงานร้านก่อสร้างธรรมดาทั่วไป แต่เมื่อเขาได้คุยกับ ‘เทรี่’ (Chloe Grace Moretz) โสเภณีเด็กถูกแมงดารัสเซียรุมซ้อมอาการสาหัส เขาจึงรู้สึกว่าตัวเองไม่ควรอยู่เฉย ๆ ทั้งที่สามารถช่วยเหลือเธอได้ เขาจึงลงมือบุกรังแมงดา ก่อนที่จะกลายเป็นเรื่องใหญ่เมื่อพวกมาเฟียรัสเซียต้องการตามล่าคนที่ลงมืออุกอาจครั้งนี้

3) เราอาจจะแบ่งความเป็นฮีโร่ของ ‘โรเบิร์ต’ ออกเป็นสองด้าน ในด้านหนึ่งเขาคือฮีโร่สำหรับเด็กอ้วนที่อยากเป็นรปภ. เขาคอยเคี่ยวเข็ญ คอยช่วยเหลือและให้กำลังใจจนเด็กอ้วนสอบผ่านได้สำเร็จ

4) ในขณะเดียวกันความเป็นฮีโร่ของเขาในสายตา ‘เทรี่’ อาจจะไม่ใช่การที่เขาลงมือล้างบางแก๊งมาเฟียรัสเซียทั้งโคตร แต่เป็นการที่เขาพูดคุยกับเธอทุกวันในบาร์ พูดให้เธอเชื่อว่าเธอสามารถหลุดพ้นจากการเป็นโสเภณีไปใช้ชีวิตอย่างที่เธอต้องการได้ นั่นแหละคือสายตาที่เด็กสาวมองเขาอย่างชื่นชม

5) แต่หลังจากเปิดฉากต่อสู้กันครั้งแรก หนังก็เข้าสู่ขั้น ‘วิบัติ’ ทันที เมื่อหนังพยายามสร้างให้ตัวร้ายฉลาด(ทั้งที่โคตรไม่ฉลาด), หนังพยายามขายความโหดแบบไม่จำเป็น, หนังโยนความไร้เหตุผลเข้ามาเพียงเพื่อจะขายพระเอก

6) มีอยู่ฉากหนึ่งที่ตัวร้ายบอกว่าให้ไปจับเป็นพระเอกเงียบ ๆ อย่าให้มีพยานรู้เห็น แล้วรู้ไหมว่าฉากนี้เขาจับตัวยังไง พี่เล่นบุกไปใช้ปืนจี้พระเอกในบาร์ที่เปิดไฟสว่างโร่ แถมพี่ยังไม่มีแผนสำรอง เพราะพวกพี่เล่นถือปืนวิ่งไล่กลางถนน โอ้ นิยามของคำว่าเงียบ ๆ อย่าให้มีพยาน !

7) ไปอ่านรีวิวนึงของต่างประเทศบอกว่า หนังเรื่องนี้มันยังสะท้อนเรื่อง ‘การทรมานนักโทษ’ เพราะกลุ่มคนดูหัวก้าวหน้ายอมรับได้หากการทรมานเพื่อรีดข้อมูลกระทำโดยพระเอก พูดง่าย ๆ ว่ากระทำโดยฮีโร่เช่นสหรัฐอเมริกาที่ทำไปเพื่อประโยชน์ของสังคม แต่ขณะเดียวกันหากการทรมานกระทำโดยตัวร้าย พวกหัวก้าวหน้าจะไม่ยอมรับทันที

😎 ฉากจบที่ตัวร้ายจับตัวประกันล่อพระเอกมาในคลังเก็บของ ฉากนี้กินเวลาไป 20 นาทีแบบเปล่าประโยชน์มาก เอ็งยิงกันขนาดนั้นไม่มีตำรวจเข้ามาสักคน พวกตัวประกันไม่โทรเรียกตำรวจเลยหรอไงฟะ แถมตัวร้าย 5 คนถืออาวุธสงครามแต่ดันไม่มีแผนสำรองที่จะปราบพระเอก พี่เล่นเดินดุ่ย ๆ ไปให้เขาเชือดทีละคน สิ้นคิดมากสำหรับหนังที่พยายามขายความเท่ ขายกึ๋นพระเอก

9) สิ่งที่สะท้อนว่าหนังพยายามขายสไตล์ได้เป็นอย่างดีคือฉากจบที่พระเอกเดินถือปืนยิงตะปูเข้าฉากแบบ โคตร slow-motion แล้วมีน้ำจากสปริงเกอร์ดับไฟเทลงมาทั่วทั้งฉาก ซึ่งกว่าพี่จะเดิน จะหันมา จะเงื้อมือไม่รู้จะ slow-motion อะไรนักหนา การพยายามขายสไตล์บางทีมันก็ไม่ได้เท่เสมอไป ลองนึกถึงการขายสไตล์แบบเท่ ๆ ผมนึกถึงฉากแอ็คชั่นในหนังของ ‘แซม เมนเดส’ เช่นฉากกระหน่ำยิงมาเฟียกลางสายฝนใน Road to Perdition หรือฉาก 007 สู้ตัวร้ายในตึกที่เล่นกับแสงเงาภาค Skyfall

10) ยังไม่นับรวมความเป็นหนังประเภทเอาเท่เข้าว่า “ก่อนที่ฉันจะลงมือฆ่าพวกมัน ฉันมอบทางเลือกให้พวกมันแล้วนะ” คือมันน่าเบื่อมากที่มาเจอหนังประเภทพระเอ๊กพระเอกไม่สนใจโลกความจริงว่าใครมันจะมากลับตัวง่าย ๆ มันกลายเป็นแค่การสร้างรู้สึกให้คนดูยอมรับได้ว่าการกระทำของพระเอกเกิดขึ้นเพราะจำเป็นต้องใช้ความรุนแรง

11) ทั้งหมดทั้งปวงนี้ทำให้ The Equalizer กลายเป็นหนังที่พยายามขายแอ็คชั่นแบบไร้แก่นสารไร้เหตุผลที่มาพร้อมความยาว 132 นาทีที่เกินจำเป็น เมื่อเรามองย้อนไปยังผลงานของ Antoine Fuqua เช่น Olympus Has Fallen และ Shooter มันก็ตอกย้ำให้ผมเชื่อว่าเขาคงไม่สามารถหลุดพ้นจากการทำหนังให้ดีกว่านี้ได้แล้วล่ะ

12) สำหรับ ‘เดนเซล วอชิงตัน’ เขาคือนักแสดงชายที่ชนะบนเวทีออสการ์สาขาการแสดง 2 ครั้งจากการเข้าชิง 6 ครั้ง ที่น่าสนใจคือเขาเล่นหนังอาชญากรรมแอ็คชั่นเยอะมาก แต่งานแอ็คชั่นช่วงหลัง ๆ ของเขามันเละเทะมากทั้ง 2 Guns และ Safe House มันก็ชวนให้เราอยากเห็นเขากลับไปจับงานแนวทริลเลอร์ไม่ต้องแอ็คชั่นก็ได้

พรีวิวหนังเล่นๆ

สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ โรเบิร์ต แม็คคอล (Denzel Washington) ชายปริศนาลึกลับที่ใช้ชีวิตเป็นพนักงานในโฮมมาร์ทแห่งหนึ่งต่อมาเขาได้พบกับ แทรี่ (Choe Gracee Moretz) โสเภณีที่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้องแต่เธอนั้นถูกบังคับให้มาขายบริการโดยแก๊งค์มาเฟียรัสเซียทำให้โรเบิร์ตตัดสินใจช่วยเธอโดยการไปฆ่าแก๊งค์แมงดาเหล่านั้นตายหมดแต่กลับกลายเป็นการทำให้เหล่ามาเฟียรัสเซียโกรธแค้นและเหล่ามาเฟียได้ส่ง เทดดี้ (Marton Csokas) อดีดหัวหน้าผู้ควบคุมกลุ่มตำรวจลับโซเวียตที่ได้ผันตัวมาทำงานให้กับกลุ่มมาเฟียพร้อมกับลูกน้องอีกหลายคนออกตามล่าโรเบิร์ตแบบเอาเป็นเอาตาย ซึ่งโรเบิร์ตจะรอดจากการไลล่าและฆ่าเหล่าคนร้ายได้สำเร็จหรือไม่ต้องติดตามครับ

ถามว่าดูหนังเรื่องนี้แล้วเป็นยังไงตอบเลยครับว่า หนังมันส์ดีครับ คือหนังเรื่องนี้ก็แนวเดียวกับจอนห์วิคนั่นแหละครับแต่ไม่ได้ยิงกันกระสุนกระจายเหมือนเรื่องนั้นแต่ว่าหนังเรื่องนี้มันสนุกตรงที่พระเอกฉลาดไงครับคือก่อนจะฆ่าผู้ร้ายพระเอกมันจะประเมินสถานการณ์ก่อนว่าจะจัดการคนร้ายด้วยวิธีไหนใช้อาวุธอะไรใช้เวลาลงมือทั้งหมดกี่นาทีกี่วินาทีแบบนี้นะครับมันเลยทำให้หนังเรื่องนี้น่าดูเป็นอย่างยิ่งซึ่ง Denzel Washington ก็เข้ากันได้ดีกับบทนี้ครับดูเป็นนักฆ่าที่นิ่ง

ฉลาด เก๋าเกมครับ แล้วหนังแนวนี้ถ้าวายร้ายฉลาดหนังก็ยิ่งสนุกครับซึ่ง Marton Csokas ที่รับบทเป็นเทดดี้วายร้ายตัวเอกของเรื่องนี้ก็ดูเหมาะกับบทนี้ครับพี่แกดูเป็นวายร้ายที่ฉลาด หน้าเหี้ยมและดูเหมือนพี่แกจะทันเกมโรเบิร์ตอยู่พอสมควรดูแกเหมาะจะเป็นคู่ปรับของโรเบิร์ตอยู่ไม่น้อยครับแต่เสียดายตอนจบดันตายง่ายไปหน่อยเท่านั้นเอง ส่วนการดำเนินเรื่อง 30 นาทีแรกหนังปูเรื่องแบบไม่รีบร้อนครับแต่ก็ไม่น่าเบื่อจากนั้นก็มีฉากแอ็กชั่นโผล่มาเป็นระยะครับซึ่งการที่หนังยาวกว่า 2 ชั่วโมงครึ่งบอกตรงๆเลยว่าไม่มีช่วงไหนน่าเบื่อเลยครับสำหรับใครที่ชอบหนังแนวแอ็กชั่นที่พระเอกกับผู้ร้ายใช้กึ่นใช้เหลี่ยมชิงไหวชิงพริบล่ะก็เรื่องนี้ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

The Frozen Ground (2013) พลิกแผ่นดินล่าอำมหิต

The Equalizer 2 (2018) มัจจุราชไร้เงา 2

SPL Kill Zone (2005) ทีมล่าเฉียดนรก

BAD BOYS (1995) แบดบอยส์ คู่หูขวางนรก

Bad Boys 2 (2003) แบดบอยส์ คู่หูขวางนรก 2