The Dead Zone (1983) มิติมรณะ

The Dead Zone (1983) มิติมรณะ

รีวิว

The Dead Zone จอห์นนี่ สมิธ (Christopher Walken) ชายหนุ่มผู้กำลังมีความสุขอย่างสุดๆ เพราะเขากำลังสมหวังในความรักกับซาร่าห์ แบรคเนลล์ (Brooke Adams) แต่แล้วเขากลับประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนต้องนอนโคม่าอยู่หลายปี และเมื่อเขาฟื้นขึ้นมา เขาพบว่า เขามีพลังที่จะสามารถรู้ถึงอดีตและอนาคตได้ เมื่อเขาสัมผัสกับคนหรือสิ่งของต่างๆ และนั่นก็ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป และแน่นอน ชีวิตของเขาก็ตกอยู่ในอันตรายด้วย

นิยายของ Stephen King เรื่องนี้ถูกดัดแปลงโดย Jeffrey Boam และกำกับโดย David Cronenberg ผู้กำกับที่ผมขอตั้งฉายาว่า “ราชาหนังสยองชีวภาพ” เพราะพี่แกทำหนังเรื่องไหนนะครับ มันต้องมีฉากสยองแบบชีวภาพอ้ะ เช่น ฉากเนื้อคนสดๆ หรือเลือดสดๆ The Dead Zone (1983) มิติมรณะ  แหวะๆ ชนิดที่หากคุณดูตอนกินข้าวล่ะก็ คงต้องมีอ้วกแน่ๆ แต่กับเรื่องนี้ ฉากสยองแบบชีวภาพไม่ค่อยมีครับ

นั่น แปลว่านี่เป็นหนังไม่ดีใช่มั้ย คำตอบคือ ไม่ช่ายอย่างเด็ดขาด เพราะเรื่องนี้นี่แหละ ที่ทำให้ผู้กำกับ Cronenberg แกได้แสดงฝีมือให้เห็นว่า สยองโดยไม่ต้องแหวะ พี่แกก็ทำได้ และยังทำได้ดีอีกด้วยครับ ด้วยบรรยากาศเย็นยะเยือก หิมะขาวโพลน และลานโล่งๆ รวมไปถึงห้องรกๆ สามารถสร้างความน่ากลัวได้อย่างดี

การแสดงของ Christopher Walken ก็ยอดเยี่ยมครับ และนี่เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่พี่แกรับบทเป็นคนดีกับเขา และยังแสดงได้เหมือนคนดีจริงๆ อีก โอ้ ยอดมากจริงๆครับ คุณจะสลัดภาพของบทชั่วๆ ของพี่แกไปได้อย่างสนิทใจเลยล่ะ แล้วที่เป็นนี่ไม่ใช่แค่เป็นคนดีนะครับ แต่ยังเป็นคนดีที่น่าสงสารอีกด้วย ก็ขอบอกตรงๆ ผมไม่เคยนึกเลยว่าคนอย่างพี่แกจะสามารถทำให้คนอื่นสงสารได้ … แต่มันเป็นไปแล้วครับ โคตรเหลือเชื่อ

Mr.DarkKnight

7.2/10

“จะเป็นยังไงถ้าต้องหลับไปหลายปีแล้วตื่นขึ้นมาพร้อมพลังพิเศษ” นี่ไม่ใช่หนังแนวซูเปอร์ฮีโร่ที่ใช้พลังวิเศษช่วยคนในลักษณะที่สดใส แต่เป็นความหม่นหมองของผู้ใช้อย่าง จอห์นนี่ สมิธ (Christopher Walken) ที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวยเพราะความรักกับ ซาร่าห์ แบรคเนลล์ (Brooke Adams) แต่ทุกอย่างต้องพังทลายลงเพราะประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนต้องนอนโคม่าอยู่ 5 ปี กระทั่งเขาฟื้นขึ้นมาต้องพบว่ามีความสามารถรู้ถึงอดีตและอนาคตได้ ขอแค่เพียงสัมผัสใครคนนั้นจะมีภาพนิมิตรขึ้นมาทันที ซึ่งพลังนี้เองทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปอย่างไม่อาจหวนคืน

ถ้าเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่คงเดาทางกันไม่ยาก แต่นี่คือมุมมองของคนที่สูญเสียและพลังเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับทั้งชีวิตที่ผ่านมา เนื่องจากเวลาที่ผ่านไปตลอดหลายปีได้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ฟื้นคืนมาต้องเสียคนรัก เสียงาน เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการหัดเดิน   มิติมรณะ  สุดท้ายกลายเป็นคนที่ไม่เหลืออะไรเพราะไม่อาจพึ่งพาตัวเองได้ ต้องประคับประคองชีวิตทั้งสภาพร่างกายและจิตใจที่ไม่สมบูรณ์ดังเดิม

ดัดแปลงมาจากนิยายของ Stephen King โดยเนื้อหาอ้างอิงจากเรื่องจริงของชายที่ชื่อ Peter Hurkos ผู้ประสบอุบัติเหตุตกบันไดและหัวกระแทก นั่นทำให้เขามีพลังจิตสัมผัสในเวลาต่อมา ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นไม่อาจอธิบายได้ชัดเจนว่าทำไม แต่ได้กลายเป็นความเชื่ออย่างหนึ่งไม่ต่างกับเรื่องราวในหนังเรื่องนี้ที่ให้มุมมองของพลังว่าคือความหวังสำหรับทุกคน ในทางกลับกันไม่ได้เป็นสิ่งที่ต้องการสำหรับบางคนเสมอ แล้วจะเป็นยังไงถ้ารู้ว่าเขาหรือเธอทำอะไรมาในอดีตหรืออนาคตที่ไม่ถูกต้อง

kingofdanerds

⭐ 7/10

สำหรับบันทึกนี้ ฉันได้อ่านนวนิยายของสตีเฟน คิงเรื่อง “The Dead Zone” ในปี 1979 แล้ว นวนิยายเรื่องนี้ดีจริงๆ และผู้อ่านค่อนข้างมองข้ามซึ่งส่วนใหญ่ถือว่าหนังสืออย่าง “It” (ซึ่งได้รับการประเมินเกินจริงอย่างมาก) เป็นหนังสือของ Stephen King ที่ดีที่สุด จนกระทั่งเมื่อปี 1983

จึงมีภาพยนตร์ดัดแปลงออกฉาย ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย David Cronenberg (ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่กำกับโดย Cronenberg เรื่องแรกที่ฉันเคยดู) ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังอำนวยการสร้างโดยเดบรา ฮิลล์ ซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดจากผลงานของเธอในภาพยนตร์ฮัลโลวีนและภาพยนตร์กำกับเรื่องอื่นๆ ของจอห์น คาร์เพนเตอร์ นำแสดงโดยคริสโตเฟอร์ วอลเคน, บรูค อดัมส์ และมาร์ติน ชีน  มิติมรณะ ทำได้ค่อนข้างดีในบ็อกซ์ออฟฟิศและทำได้ดียิ่งขึ้นกับนักวิจารณ์และผู้ชมที่ชื่นชมภาพยนตร์เรื่องนี้

ภาพยนตร์เรื่องนี้ดำเนินเรื่องค่อนข้างใกล้เคียงกับนิยายเรื่องนี้ ซึ่งติดตามชายชื่อ Johnny Smith (รับบทโดย Christopher Walken) ซึ่งทำงานเป็นครูในโรงเรียน ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเขาดูเหมือนจะไปได้ดี เขามีแฟนแล้วและทั้งหมดนั้น จนกระทั่งเขาประสบอุบัติเหตุจนโคม่านานถึงห้าปี เมื่อเขาตื่นขึ้นมาเขาพบว่าเขาสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป รวมถึงแฟนสาวที่แต่งงานใหม่และมีลูกด้วยซ้ำ

ไม่เพียงแต่เขาสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างเท่านั้น แต่ตอนนี้เขายังมีความสามารถในการมองเห็นอนาคต (และอดีต) และยังสามารถป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นได้อีกด้วย บางคนมองว่านี่เป็นของขวัญ แต่สำหรับจอห์นนี่ มันเป็นคำสาป มีสองส่วนในภาพยนตร์เรื่องนี้ซึ่งรวมถึงแผนการฆาตกรรมที่จอห์นนี่ถูกขอให้ใช้ความสามารถของเขาในการตามหาฆาตกรข่มขืนต่อเนื่อง และอีกคนหนึ่งรวมถึงนักการเมืองตัวอันตรายด้วย (แต่มีเพียงจอห์นนี่เท่านั้นที่รู้ว่าเขาจะทำอะไร)

BandSAboutMovies

⭐ 10/10

หลังจากนวนิยายของสตีเฟน คิงเรื่อง   ออกฉายในปี 1979 ลอริมาร์ ฟิล์ม เอนเตอร์เทนเมนต์ก็เริ่มพัฒนาเวอร์ชันภาพยนตร์ร่วมกับผู้เขียนบทเจฟฟรีย์ โบม (จาก Innerspace, The Lost Boys, Indiana Jones และ the Last Crusade) ลอริมาร์สูญเสียสิทธิ์ และนั่นคือสิ่งที่โปรดิวเซอร์ ดีโน เดอ ลอเรนติส เข้ามา

เขาไม่ชอบบทภาพยนตร์ของโบม และขอให้คิงเขียนบทที่เขาพบว่าซับซ้อนและซับซ้อนเกินไป เขาเคยอ่านหนังสือเรื่อง King บ้างไหม? – และนำเดวิด โครเนนเบิร์กมากำกับ เดิมทีเขาทำงานร่วมกับ Andrzej Zulawski ก่อนที่จะนำ Boam กลับมา ในขณะเดียวกัน De Laurentiis จ้างโปรดิวเซอร์ Debra Hill ให้ทำงานร่วมกับ Cronenberg และ Boam เพื่อเตรียมภาพยนตร์ให้พร้อมสำหรับการถ่ายทำ

โครเนนเบิร์กมีวิสัยทัศน์: “หนังสือของ King ยาวเกินความจำเป็น นวนิยายเรื่องนี้แผ่กว้างและเป็นตอนๆ สิ่งที่ฉันทำคือใช้คุณภาพที่เป็นตอนๆ นั้น เพราะฉันเห็น The Dead Zone เป็นภาพอันมีค่า” สามส่วนนั้นคือจอห์นนี่ สมิธประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และฟื้นจากอาการโคม่า วิธีที่เขาช่วยจับฆาตกร Castle Rock Killer และบทสรุปในขณะที่เขาค้นหาสติลสัน นักการเมืองที่เขาเชื่อว่าจะทำให้โลกแตก ว่ากันว่าคิงเคยกล่าวไว้ว่าโครเนนเบิร์กและโบมปรับปรุงและเพิ่มพลังของเรื่องราวดั้งเดิมให้เข้มข้นขึ้น

brefane

⭐ 7/10

รวมตัวกันเหมือนเป็นภาคต่อของละครโทรทัศน์ ซึ่งกลายเป็นเนื้อหานี้ในที่สุด The Dead Zone (1983) มิติมรณะ ซึ่งออกฉายในปีเดียวกับคริสตินและคูโจเป็นหนึ่งในความพยายามที่ดีกว่าในการนำผลงานของสตีเฟน คิงขึ้นจอ และนำเสนอการแสดงที่ยอดเยี่ยมจากคริสโตเฟอร์ วอล์คเกน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ การแสดงของเขาทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ด้วยกัน กำกับโดยเดวิด โครเนนเบิร์ก ภาพยนตร์เรื่องนี้ขาดแรงผลักดัน

ตอนต่างๆ ไม่ได้เชื่อมโยงกันจริงๆ และมักจะรู้สึกว่าไม่สมบูรณ์และเร่งรีบ และมีตัวร้ายของมาร์ติน ชีนมากเกินไป แผนการย่อยที่มีผู้ปกครองที่เป็นกังวลซึ่งปฏิเสธที่จะฟังคำเตือนของนักจิตวิทยานั้นไม่สมเหตุสมผล มีเรื่องน่าตกใจและสงสัยอยู่บ้างในขณะที่เรารอให้วอล์คเกนจับมือใครสักคนเพื่อที่จะได้เห็นภาพที่น่าตกใจ ซึ่งทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างคาดเดาได้ ภาพยนตร์เศร้าโศกเศร้าที่มีฮีโร่ที่ไม่มีความสุขและไม่เต็มใจ  น่าดึงดูดและแนะนำอย่างแน่นอน

ผู้กำกับ

• David Cronenberg

บริษัท ค่ายหนัง

• Dino De Laurentiis Company

นักแสดง

• Christopher Walken
• Brooke Adams
• Tom Skerritt
• Herbert Lom
• Anthony Zerbe
• Colleen Dewhurst
• Martin Sheen

โปสเตอร์หนัง

เรื่องย่อ

จอห์นนี่ สมิธเป็นครูที่ใช้ชีวิตรออยู่ข้างหน้า แต่หลังจากออกจากบ้านคู่หมั้นในคืนหนึ่ง เขาพัวพันกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้เขาอยู่ในอาการโคม่านาน 5 ปี เมื่อเขาตื่นขึ้นมา เขาค้นพบว่าเขามีความสามารถในการมองเห็นชีวิตในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของใครก็ตามที่เขาสัมผัสด้วย หนึ่งในนิยายของสตีเฟน คิง ที่มีพลอตน่าสนใจที่สุด และเป็นงานกำกับที่ดีชิ้นหนึ่งของเดวิด โครเนนเบิร์ก ครูในเมืองเล็ก ๆ   มิติมรณะ ฟื้นจากโคม่าหลังจากหมดสติไป 5 ปี เขาพบว่าตัวเองมีพลังพิเศษ เมื่อได้สัมผัสใครแล้วจะสามารถอ่านใจและมองเห็นอนาคตของคนนั้นได้ และด้วยความบังเอิญทำให้เขามองเห็นอนาคตที่น่ากลัว และไม่มีใครเชื่อ จนเขาต้องหาทางหยุดยั้งไม่ให้เรื่องเลวร้ายนั้นเกิดขึ้นด้วยตัวเอง

คริสโตเฟอร์ วอล์คเคน ฝากการแสดงที่น่ายอดเยี่ยมและทำหน้าที่จุดศูนย์กลางของเรื่องอย่างได้สมบูรณ์ และกวาดรางวัลไปจากหลายสถาบัน จอห์นนี่ สมิธ (Christopher Walken) ชายหนุ่มผู้กำลังมีความสุขอย่างสุดๆ ดูหนังออนไลน์  เพราะเขากำลังสมหวังในความรักกับซาร่าห์ แบรคเนลล์ (Brooke Adams) แต่แล้วเขากลับประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนต้องนอนโคม ่าอยู่หลายปี และเมื่อเขาฟื้นขึ้นมา เขาพบว่า เขามีพลังที่จะสามารถรู้ถึงอดีตและอนาคตได้ เมื่อเขาสัมผัสกับคนหรือสิ่งของต่างๆ และนั่นก็ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป และแน่นอน ชีวิตของเขาก็ตกอยู่ในอันตรายด้วย

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Cujo (1983) คูโจ เขี้ยวสยองพันธุ์โหด

SHOOTER (2007) คนระห่ำปืนเดือด

14 Blades (2010) 8 ดาบทรมาน 6 ดาบสังหาร

Breakout (2013) ฝ่านรกล่าพยานมรณะ

Buried (2010) คนเป็นฝังทั้งเป็น