The Cloverfield Paradox (2018) เดอะ โคลเวอร์ฟิลด์

The Cloverfield Paradox (2018) เดอะ โคลเวอร์ฟิลด์

เรื่องย่อ

ดูหนัง The Cloverfield Paradox (2018) เดอะ โคลเวอร์ฟิลด์ นักวิทยาศาสตร์บนสถานีทดลองที่โคจรอยู่รอบโลกซึ่งกำลังจะเกิดสงครามครั้งใหญ่ ทำการทดสอบเครื่องมือสำคัญเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติพลังงาน แต่พวกเขากลับต้องเผชิญกับความเป็นจริงตรงข้ามที่มืดมน

เป็นอีกหนึ่งจักรวาลภาพยนตร์ที่ “ความลับ” เยอะแยะเต็มไปหมด ตั้งแต่เริ่มต้นในหนังภาคแรกอย่าง ดูหนังออนไลน์  Cloverfield ในปี 2008 ที่เปิดกระแสหนังสัตว์ประหลาดกล้องสั่นไหว จนหลายคนเดินออกมาอาเจียนนอกโรงหนัง แต่ความสนุกยิ่งกว่าการดูหนัง คือการทำมาร์เกตติ้งของหนังเรื่องนี้ที่หยิบจับเอา Easter Egg หรือ จุดเชื่อมโยงในจักรวาลเดียวกันซึ่งถูกแอบซ่อนอยู่ในฉากต่างๆ ในเรื่อง จนบรรดาแฟนหนังทำเว็บไซต์แฟนคลับของหนังเรื่องนี้ออกตามกันมาเลยทีเดียว

8 ปีผ่านไปกว่าที่หนังภาคที่เกี่ยวข้อง (เราไม่สามารถเรียกว่าภาคต่อได้เนื่องจากไม่ทราบหนังเกิดขึ้นในช่วงเวลาไหนของไทม์ไลน์นี้กันแน่) กับ 10 Cloverfield Lane ที่เล่าเรื่องราวฉุกละหุกที่เกิดขึ้นในบังเกอร์หลบภัยใต้ดิน ก่อนที่นางเอกของเรื่องจะหนีรอดออกมาและค้นพบความจริงเกี่ยวกับเอเลี่ยนที่น่าตื่นตระหนก

และในปี 2018 จู่ๆ หนังอย่าง The Cloverfield Paradox ก็ถูกนำมาฉายทางออนไลน์สตรีมมิ่งทาง Netflix ซึ่งแหล่งข่าวมีการรายงานว่าจริงๆ แล้วหนังเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับจักรวาลนี้แต่แรก หากแต่มีการมาถ่ายทำซ่อมและพยายามเชื่อมโยงเหตุการณ์เพื่อให้สามารถเข้าไปอยู่ในจักรวาลนี้ได้อย่างแนบเนียน

ผู้กำกับ

Julius Onah

บริษัท ค่ายหนัง

Paramount Pictures
Bad Robot Productions

นักแสดง

Daniel Brühl
Elizabeth Debicki
Aksel Hennie
Gugu Mbatha-Raw
Chris O’Dowd
John Ortiz
David Oyelowo
Zhang Ziyi

โปสเตอร์หนัง

รีวิว

หนังเรื่องนี้ ku ดูแล้ว

เชื่อว่าหลายๆคนคงได้ดูหนังเรื่องนี้ไปแล้วเพราะออนบน Netflix มาได้สองสามวันละ ก็ถือว่ามาพูดคุยกันและเป็นข้อมูลสำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูละกันนะฮะ
เอาเนื้อเรื่องของภาคนี้ก่อน ว่าด้วยเรื่องราวในช่วงอนาคตอันใกล้นี่แหล่ะ โลกกำลังขาดแคลนพลังงานอย่างหนัก ชาติมหาอำนาจต่างเตรียมจะเข้าประทะกันตลอดเวลา เลยเกิดการรวมตัวกันของหลากหลายประเทศ ร่วมกันทดลองหาพลังงานเพื่อนำมาใช้ทดแทน
พลังงานที่ว่าเป็นพลังงานไร้ขีดจำกัด ทำได้โดยขึ้นไปยิงลำแสงซัมติงจากนอกโลกลงมา แต่ปฏิบัติการครั้งนี้กลับทำให้โลกที่เป็นอยู่มันผิดเพี้ยนและประหลาดไปจากเดิม
นั่นแหล่ะฮะท่านผู้ชม ไอ้ปฏิบัตรการกู้ชาตินี่แหล่ะ คือที่มาของสัตว์ประหลาดในภาคแรก และคาบเกี่ยวกับภาคสองต่อไป
(หนังไม่ได้เกิดในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ผลกระทบของมันไปชิ่งโดนมิติและห้วงเวลาอื่นๆด้วย อาจจะรวมถึงที่มาของสัตว์ประหลาดใน Super 8 ด้วย เบอร์ใหญ่มั้ยล่ะ)
หนังในชุด Cloverfield มีสเน่ห์ของมันอยู่คือ คนดูไม่รู้ส้งติงอะไรเกี่ยวกับมันเลยจนกว่าจะได้ดูจนจบ ซึ่งนี่ทำให้ ku ชอบซีรียส์หนังชุดนี้มาก
ภาคแรกมาแนวฟาวด์ฟุตเทจ ภาคสองลงดินเล่นแบบจิตวิทยา มาภาคนี่ ku ออกนอกโลกไประทึกขวัญไซไฟเลย
ค่อนข้างคาดหวังกับภาคนี้อยู่บ้าง และก็ไม่ผิดหวังเลย หนังดูสนุกมาก แต่เอาตรงๆคือภาคนี้สู้สองภาคแรกไม่ได้นะ แต่ Ku ยังชอบภาคนี้อยู่ไม่น้อยเลย
คือมันดูสนุก เหตุการณ์ที่เกิดในหนังแม่งคิดไม่ถึงเลยชอบมาก (แต่การดำเนินเรื่องของหนังยังพอเดาได้นะ) มันยังคงมีความระทึกอยู่แม้จะไม่เท่าภาคแรก และเล่นกับจิตวิทยาอยู่บ้างแม้จะไม่เท่าภาคสอง แต่โดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดีเลย
ในช่วงต้นเรื่องถึงกลางเรื่องดีมาก ระทึก สับสน เล่นกันเบอร์ใหญ่มาก เราไม่รู้เลยจริงๆว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป หลังจากกลางเรื่องไปถึงไคล์แมกซ์นี่พอเดาทางได้ละ
อันนี้ขอแยกนิดนึง ข้อนึงคือเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดในหนังเนี่ยคิดไม่ถึงเลยว่าจะเกิดอะไรแบบนี้ขึ้นมา แต่คงไม่เล่าว่าเกิดอะไรเดี๋ยวจะเป็นการสปอยล์
อีกข้อคือการดำเนินเรื่องของหนังว่าเดี๋ยวเรื่องจะพลิกนะ ไอ้นั่นดูเป็นตัวร้ายนะ แต่เอ๊ะเดี๋ยวพลิกมาเป็นอินี่หรือเปล่า เดี๋ยวไอ้นั่นจะตายนะ หรือจะจบยังไง ตัวเอกจะตัดสินใจยังไง อะไรพวกเนี่ย มันยังพอเดาได้อยู่
#สรุป ชอบ อาจจะไม่ใช่หนังที่ดีมาก แต่เป็นหนังที่ดูสนุกไม่น้อยเลย หนัง Cloverfield อีกสไตล์ที่ยังคงกลิ่นไอแบบเดิมๆอยู่ ไปดูเถอะ มีบน Netflix ง่ายนิดเดียว
#kuearth :7/10

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Time Lapse (2014)

Exploding Sun (2013) อุบัติการณ์หลุดห้วงจักรวาล

500 MPH Storm (2013) พายุมหากาฬถล่มโลก

Andron (2015) ปริศนาลับวงกตมรณะ

Breaking Infinity (2023)