เรื่องย่อ : Star Wars Episode 7 The Force Awakens (2015) สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 7 อุบัติการณ์แห่งพลัง ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ ดูหนังHD ดูหนังฟรี MovieHD24 หนัง2024 หนังออนไลน์ Full HD
Star Wars Episode 7 The Force Awakens หนังโปรดของข้าพเจ้า
ความหวังใหม่อีกครั้ง (ไม่สปอยล์ ไม่มีเล่าเนื้อหาและรายละเอียดที่จะทำให้เสียอรรถรสในการชม)
บอกก่อนว่าเราค่อนข้างเคารพวิธีเก็บความลับของ เจ.เจ. อับบรามส์มาก ดังนั้นรีวิวนี้จะไม่เปิดเผยอะไรเกี่ยวกับหนังทั้งสิ้น จะพูดถึงภาพรวมให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าควรไปดูกันไหม
คำถามที่น่าจะถามกันเยอะสุดคือ ไม่เคยดู Star Wars สักภาคจะดูภาคนี้รู้เรื่องไหม คำตอบคือรู้เรื่อง แต่จะไม่ได้อรรถรสเทียบเท่าคนที่เคยผ่านมาครบทั้ง 6 ภาค หรืออย่างน้อยก็ควรจะผ่านไตรภาค 4-5-6 มาก่อน เพราะหนังเรียกร้องความคุ้นเคยกับตัวละครเก่า ๆ หลายตัวอยู่เหมือนกัน สำหรับคนไม่เคยดูมาก่อนเลยก็คงจะได้อารมณ์ประมาณคนไม่เคยดู Star Wars มาก่อน แล้วเริ่มต้นที่ภาค 4 ที่จอร์จ ลูคัสกำกับเป็นปฐมบทของแฟรนไชส์นี้ (อารมณ์ว่าผกก.เริ่มทำภาค 4 ก่อน แล้วค่อยมาทำ 1-2-3 คนดูก็ยังดูได้ปกติ เช่นกันกับภาค 7 ก็เหมือนคนที่เริ่มต้นดูภาค 4 น่ะแหละ)
สูตรที่ใช้การเล่าเรื่องในช่วงต้นมันคล้ายเทคนิค ‘MacGuffin’ ของอัลเฟร็ด ฮิตช์ค็อก คือผู้กำกับไม่จำเป็นต้องอธิบายของที่ทุกคนกำลังตามล่ากันอยู่ว่ามันสำคัญอย่างไร แต่คนดูรู้ว่ามันอยู่ไหนและสำคัญขนาดที่ไม่ควรตกอยู่ในมือตัวร้าย ซึ่งหนังก็โฟกัสต่อว่าสุดท้ายแล้วของชิ้นดังกล่าวจะไปอยู่ในมือใคร
ส่วนคนที่ดูมาครบ 6 ภาค ถ้าได้มาดูภาค 7 น่าจะฟินกันไม่ยาก สไตล์เนื้อเรื่องเหมือนภาค 4 แต่เพิ่มด้วยฝีมือกำกับและการเล่าเรื่องที่เก่งกาจของเจ.เจ. อับบรามส์ (ผกก. Star Trek, MI:3) ชอบความที่หนังมันเดินเรื่องเร็ว(จนบางครั้งเร็วเกินไปด้วยซ้ำ) แต่เป็นการเดินเร็วที่วางจังหวะในการเล่ามาอย่างดี เราจะได้เห็นการแพนเคลื่อนกล้องแบบลื่นไหลโดยไม่ตัดต่อจากนักแสดงคนหนึ่งมายังอีกคนหนึ่งที่ต่างต้องใช้เวลาในการแนะนำตัว หนังใช้เวลาไม่นานในการแนะนำสองตัวเอกคร่าว ๆ ให้คนดูรู้จักพอสังเขป ก่อนจะจัดหนักเข้าสู่เรื่องราวของภาคนี้
ซึ่งจะว่าไปแล้วทีมเขียนบทยังคงเคารพเอกลักษณ์บทหนังของ Star Wars เหมือนเดิม ทั้งธีมหนังปกคลุมด้วยเรื่องการต่อสู้ทางการเมือง ตัวร้ายมีอำนาจ คนดีเป็นกบฎต่อต้าน, แล้วดั้งเดิมแฟรนไชส์นี้รับอิทธิพลมาจากงานซามูไรญี่ปุ่น โดยเฉพาะของคุโรซาว่า ดังนั้น 6 ภาคก่อนจึงจะได้เห็นการเล่าเรื่องบางอย่างที่เหมือนหนังแย่งชิงอำนาจของโชกุน/ซามูไรประมาณนั้น โดยสรุปแล้วค่อนข้างมั่นใจว่าแฟน Star Wars อนุรักษ์นิยมน่าจะไม่ผิดหวัง
Ghost of a Movie. Nothing more than a sociopathic superficial cash grab
หนังเรื่องนี้เป็นแค่โฆษณาเท่านั้น ยอมรับว่าครั้งแรกที่ดูในโรงหนัง ฉันคิดว่ามันค่อนข้างดี และฉันดูอีกสองครั้งกับเพื่อนและครอบครัวตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนก่อนที่จะออกจากโรงหนัง
แต่หลังจากดูอีกครั้ง ฉันก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ มีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้
หนังเรื่องนี้ดูไร้สาระมาก ไม่มีอะไรนอกจากภาพ
ฉันว่าหนังเรื่องนี้ถ่ายทำออกมาได้ดี มีเอฟเฟกต์ที่ดูดี แต่ทำขึ้นเพื่อซ่อนความจริงที่ว่าเมื่อคุณมองข้ามความฉูดฉาดที่ผิวเผินไป ก็ซ่อนความยุ่งเหยิงที่อยู่ข้างใต้ได้ หนังเรื่องนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าเงาของหนังเรื่องก่อนๆ ทุกอย่างดูเร่งรีบ ตัวละครดูเฉยเมยและดูเหมือนสมองตาย บทสนทนาตื้นเขินและบางจนเหมือนกระดาษ ราวกับว่าผู้เขียนบทยอมแพ้ ตัวละครแทบไม่พัฒนาหรือเรียนรู้อะไรเลย และการเปลี่ยนแปลงของเรย์เป็นเจไดนั้นรวดเร็วและฝืนมาก คุณคงเห็นได้ชัดเจนว่าผู้เขียนขี้เกียจเกินกว่าจะเสียเวลาเขียนเนื้อเรื่องและเนื้อเรื่องที่เหมาะสมกับเธอ และทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นมนุษย์จริงๆ ที่เราใส่ใจ เพราะมันจะยาวและน่าเบื่อเกินไป ไม่ใช่หรือ… ขอพระเจ้าอย่าท้าทายความสนใจที่สั้นของผู้คน… ใครต้องการตัวละครที่พัฒนาแล้วจริงๆ… ไม่มีใครสนใจเรื่องนั้นอีกแล้ว… ให้พวกเขาได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่หรืออะไรก็ตาม???
มันน่าเศร้าจริงๆ ที่หนังเรื่องนี้ว่างเปล่ามาก ครั้งที่สามที่ฉันดู มันทิ้งรสชาติแย่ๆ ไว้ในปากของฉัน ขอบคุณพระเจ้าที่มีป๊อปคอร์น…
ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ดูเหมือนว่าจิตวิญญาณของจักรวาล Star Wars จะหายไป มีความว่างเปล่าที่ถูกเน้นย้ำโดยการฆ่าตัวละครหลักตัวหนึ่ง มันเกือบเหมือนกับว่าผู้กำกับรู้ว่ามีบางอย่างหายไป และต้องทำการแสดงผาดโผนเพื่อสร้างตอนจบที่น่าประหลาดใจ/น่าตกใจเพื่อเพิ่มชีวิตชีวาให้กับภาพยนตร์ตื้นเขินเรื่องนี้
มันเป็นเปลือกที่ว่างเปล่าที่พยายามกระตุ้นตัวเองให้กลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า หากภาพยนตร์เรื่องต่อไปสามารถรวบรวมทั้งหมดนี้เข้าด้วยกันได้อย่างน่าอัศจรรย์ (และอาจทำให้ตัวละครที่ตายไปแล้วกลับมามีชีวิตอีกครั้ง) พวกเขาอาจจะสามารถดำเนินซีรีส์ต่อได้ มิฉะนั้น มันก็เป็นเพียง MockingJay อีกเรื่องในความคิดของฉัน
ข่าวดีก็คือ อย่างน้อยก็มีเรื่องราว มันสำคัญพอที่จะขยายซีรีส์ออกไปอีกสามหรือสี่ภาคหรือไม่ ขึ้นอยู่กับภาพยนตร์เรื่องต่อไป หากพวกเขาทำพังในภาพยนตร์เรื่องต่อไป มันก็จบ ในความเป็นจริง พวกเขาอาจฆ่าแฟรนไชส์ทั้งหมดได้หากพวกเขาดึง “Force Awakens” ออกมาอีกครั้ง ฉันรู้สึกเหมือนว่าสูญเสียความสนใจในแฟรนไชส์ทั้งหมดหลังจากดูความพยายามนี้
สิ่งนี้อาจดูรุนแรงไปสักหน่อย แต่ฉันเพิ่งดูหนังเรื่องนี้และกำลังแสดงความประทับใจแรกของฉันอย่างชัดเจน ตัวละครที่อายุน้อยกว่าตัวใหม่ก็โอเค แต่ยังไม่ใกล้เคียงกับระดับของฟอร์ด แฮมิลล์ ฟิชเชอร์เลย บางทีมันอาจเป็นปัญหาในสิ่งที่คนรุ่นนี้ผลิตและยอมรับ (เช่น The Hunger Games และอื่นๆ) คำว่าตื้นเขินเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการอธิบายมัน และสำหรับบางคนแล้ว คำว่าชั้นสองดูเหมือนจะดีพอแล้ว
เจ.เจ. แอบรัมส์
ลูคัสฟิล์ม
แบด โรบอทโปรดักชันส์
มาร์ก แฮมิลล์
แฮริสัน ฟอร์ด
แคร์รี ฟิชเชอร์
แอนโทนี แดเนียลส์
ปีเตอร์ เมย์ฮิว
อดัม ไดรฟ์เวอร์
ออสการ์ ไอแซค
แอนดี เซอร์คีส
แม็กซ์ วอน ซีโดว์
ดูหนัง Star Wars Episode 7 The Force Awakens (2015) สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 7 อุบัติการณ์แห่งพลัง เมื่อภัยคุกคามครั้งใหม่ต่อกาแล็กซีอุบัติขึ้น เรย์ นักเก็บขยะในทะเลทราย และฟินน์ อดีตสตอร์มทรูปเปอร์ ต้องร่วมมือกับฮาน โซโล ดูหนังออนไลน์ และชิวแบ็กก้าเพื่อค้นหาความหวังเดียวในการฟื้นฟูสันติภาพ
Star Wars Episode 2 Attack of the Clones (2002) สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 2 กองทัพโคลนส์จู่โจม
Star Wars Episode 6 – Return of the Jedi (1983) สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 6 การกลับมาของเจได
Star Wars Episode 1 The Phantom Menace (1999) สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 1 ภัยซ่อนเร้น
Star Wars Episode 8 The Last Jedi (2017) สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 8 ปัจฉิมบทแห่งเจได
Star Wars Episode 5 The Empire Strikes Back (1980) สตาร์ วอร์ส ภาค 5 จักรวรรดิเอมไพร์โต้กลับ