Squid Game (2021) สควิดเกม เล่นลุ้นตาย EP.1-9 จบ

Squid Game (2021) สควิดเกม เล่นลุ้นตาย

รีวิวซีรี่ย์

Movie Insurgent

โครงสร้างการเล่าเรื่องเรียกว่าโคตรเชย ชวนนึกถึงงานเก่าราวๆ 10 ปี ขึ้นไปได้หลายเรื่องมาก ในพล็อตและตัวละครที่เป็นสูตรเดียวกัน หากไม่ครีเอทการนำเสนอ หรือฝีมือกำกับไม่แน่พอ เชื่อเลยว่าเอาบทไปยื่นก็คงถูกปฏิเสธ เปรียบก็คือในยุคนี้ใครจะอยากดูภาคต่อหนัง SaW และอื่นๆใด ที่ไอเดียซ้ำซาก ทุนต่ำ นักแสดงเกรดสอง แข่งเกมส์ที่ขายแค่ระทึกขวัญแบบเดิมๆ กันล่ะ??..
.
Squid Game กระทำในสิ่งตรงข้ามทั้งหมด คืออัพเกรดและจัดหนักให้ทุกอย่าง อลังการ สวยงาม เพื่อผุ้ชมได้รับอรรถรสในความ Thriller – Survival ที่โดดเด่นกว่าผลงานทั่วไป สำคัญคือการคัดเลือกทีมดาราที่ตอบโจทย์ ตั้งแต่ตัวพ่อ ตัวเทพ ตัวเก๋า ยันดาวรุ่งที่กำลังมา แล้วก็จูงมือกันแจ้งเกิดและดังสนั่น ยิ่งขึ้นกันถ้วนหน้าไปเรียบโร้ยยย โดนตามฟอลโลว์กันเป็นหลัก(หลาย)ล้านโน่นเลยย
.
จุดแข็งหลักๆของมันจึงมีเพียง งานสร้าง การกำกับ ทีมนักแสดง ตลอดในทุก Ep. จึงน่าตื่นตาชวนตื่นใจไปหมดจาก โลเคชั่น บรรยากาศ, การเซ็ตติ้ง งานดีไซน์ งานเทคนิคพิเศษ, ผุ้แสดงหลัก ตัวสมทบ นักแสดง(ลับ?)เชิญ, เสื้อผ้า หน้าผม อุปกรณ์ประกอบฉาก บลาบลา.. ไฮไลท์คือเกมส์แต่ล่ะด่านล้วนมอบความรุ้สึกไม่แพ้กัน เช่น บางเกมส์เน้นสยดสยองเต็มที่ บางเกมส์ใช้จิตวิทยา บางเกมส์ขายดราม่าบนความสัมพันธ์ เป็นต้น
.
ทั้งๆที่ก็เดาเหตุการณ์ออกได้ไม่ยาก แล้วยิ่งเรื่องดำเนินไปพระเอกก็ยิ่งบรรลุธรรม (ฮาา) กระนั้นจะบอกว่าบทไม่ดีหรือเนื้อหาเลวร้ายก็คงไม่ใช่ หลายฉากสร้างความซาบซึ้งและสะเทือนใจได้ด้วยซ้ำ เพียงแต่มันไม่ได้มีความสดใหม่ หรือกล้าที่แหกกรอบต่างๆที่เคยมีมา.. เรียกว่าเลือกทางแมสหรือเอาใจตลาดกันเต็มที่ ซึ่งก็พอเข้าใจในเมื่อลงทุนลงแรงกันขนาดนั้น การจะบิดให้ท่ายากหรือจะใส่ แนวคิดล้ำๆก็เป็นความเสี่ยงเสียเปล่าๆ
.
Squid Game จากผลตอบรับก็เหมือนจะมาถูกทาง เนื่องจุดขายที่มีก็ดีพอให้คนส่วนใหญ่พึงพอใจแล้ว และต้องยอมรับว่าทีมงานทุกฝ่ายคือสุดยอดฝีมือ เนื่องไม่ง่ายเลยที่จะทำในสิ่งที่เห็นกันมาเยอะ แต่ยังมอบความบันเทิงขั้นสุดได้อีกขนาดนี้จนสำเร็จ.. แม้คนส่วนน้อยจะโอดครวญอยู่บ้าง (หรือมากเลย ก็ว่ากันไป) โดยเฉพาะบทสรุปต่างๆในตอนท้าย (Ep. 9) ที่ออกจะลดทอนคุณค่าและสูญเสียคลาสที่ควรจะมี จากความพยามโน้มน้าวอารมณ์คนดู และใช้สถานการณ์บังคับให้จบแบบปลายปิด มองอีกแง่คือปูทางให้มี SS.2 แน่ะล่ะ
.
วงการซีรีย์เกาหลีในช่วงหลัง เริ่มเดินตามรอยฝั่งตะวันตก เพราะฟากของภาพยนตร์ไปไกลจนไม่ต้องพิสูจน์อะไรแล้ว ทั้งโชว์พลังผลิตงานในระดับบล็อกบัสเตอร์ หรือสร้างสรรค์งานเพื่อคว้ารางวัลระดับโลกอย่างออสการ์หรือคานส์.. ในอนาคตเราอาจเห็นอุตสาหกรรมซีรีย์เกาหลี ช่วงชิงเรตติ้งหรือทำลายสถิติต่างๆในนานาชาติ ในฐานะชาวไทยแลนด์แดนพิศวง ก็ได้แต่อิจฉาบ้านเค้าเหลือเกินนน รุ้สึกคันเท้าอยากเอาอีน้อง A E I O U หยุด~ (ในรุปด้านล่าง) ไปวางไว้หน้าทำเนียบให้รุ้แล้ว..รุ้รอด เอ่อ ต้องภาวนาให้ไม่รอดซิ !!! 😌
.
Score 7.9 / 10

BENJI Review

กำกับโดย Hwang Dong-hyuk
– ความรู้สึกหลังดูจบ รู้สึกคล้ายกับที่เคยดูหนังทริลเลอร์เกาหลีหลาย ๆ เรื่อง มันมีฟีลลิ่งที่รู้สึกว่า นี่ไม่ใช่ซีรีส์ที่ดีที่สุด แต่หลายอารมณ์ที่กระแทก บีบคั้นจิตใจ กลับทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ น่าจดจำ และเป็นหนึ่งในซีรีส์เกาหลีที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์

– อย่างที่รู้กันว่า “ดราม่าเค้นจิตใจ” เป็นหนึ่งใน DNA สำคัญของหนังเกาหลียุคใหม่ไปแล้ว สังเกตว่า แพทเทินนี้พาเกาหลีไปได้ไกลมากในเวทีนานาชาติ
Squid Game เป็นอีกเรื่องที่ผสานจุดนี้เข้ากับแกนเรื่องได้ดีเยี่ยม มันเป็นซีรีส์ที่ดูง่าย เคี้ยวง่าย เกมส์หรือกฏไม่ซับซ้อน ขณะเดียวกัน สิ่งที่ทำให้คนดูลุ้นที่สุดกลับเป็น บรรยากาศที่บีบคั้นจากสภาวะของเกมส์ ความสัมพันธ์ และ ใจคอคนอันยากหยั่งถึง
ดังนั้นก็ไม่รู้สึกแปลกที่จะโด่งดังไปทั่วโลก โดยรวมทำออกมาพอดีกับผู้ชมทุกกลุ่มจริง

– ชอบอีกอย่างก็ “ความดราม่าแบบเกาหลี้ เกาหลี 😂” ไม่ว่าจะมโนทัศน์แบบเอเชีย เรื่องของครอบครัว ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความเห็นแก่ตัว (เกาหลีมีจับ issue ตรงนี้บ่อยมาก)
เท่าที่สังเกต รู้สึกว่าหลังจาก Train to Busan (2016) เหมือนวงการเกาหลีจะจับทริคบางอย่างได้ว่า ควรจะขยี้ดราม่าและสร้างสตอรี่ประมาณไหนที่จะพาหนังไปให้ไกล ทัชใจคนดู ตรงนี้เลยต้องชมว่า พัฒนาการโคตรดี

– Production หนังเยี่ยมในระดับภาพยนตร์ ส่วนนักแสดงก็แสดงได้เยี่ยมกันทุกคน โดยเฉพาะสามผู้เล่นสุดท้าย อีจองแจ (ซองกีฮุน), พัคแฮซู (โจซังอู), จองโฮยอน (คังแซบยอก) โดดเด่นมาก
ยังรวมไปถึงปู่ “โอยองซู” ที่รับบทเป็นปู่หมายเลข 1 น่าจดจำมาก

สรุป – เป็นซีรีส์ที่ไม่ถึงขนาดว่า รู้สึกคุ้มค่าหลังดูจบ เพราะ ความดีเยี่ยม แต่รู้สึกคุ้มค่า เพราะ มันมีหลายอย่างให้น่าจดจำ แถมยังทำให้เห็นพัฒนาการของเกาหลีต่อไปด้วยว่าจะก้าวไปต่อในระดับโลกด้วยทิศทางยังไง  Squid Game ไม่เสียหายที่ได้ดูเลย 😂
ว่าไปแล้ว ก็เป็นหนึ่งในซีรีส์เอเชียที่ประสบความสำเร็จสุด ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งกล่อง ได้ทั้งแฟนหนังและกระแส รวมถึงเครดิตระดับนานาชาติด้วย
ที่ต้องขอบคุณอีกฝ่าย ก็ Netflix นี่แหละ นึกไม่ออกเหมือนกันว่า จะมีทางไหนที่ทำให้ซีรีส์แมสและเป็นวงกว้างได้เร็วกว่านี้

ผู้กำกับ

ฮวัง ดง-ฮย็อก

บริษัท ค่ายหนัง

ไซเรนพิกเจอร์สอิงค์

นักแสดง

อี ช็อง-แจ
พัก แฮ-ซู
วี ฮา-จุน
ช็อง โฮ-ย็อน
โอ ย็องซู
ฮอ ซ็องแท
อนุปัม ตรีปาฐิ
คิม จู-รย็อง

โปสเตอร์หนัง

เรื่องย่อ

ดูซีรี่ย์ Squid Game (2021) สควิดเกม เล่นลุ้นตาย  เรื่องย่อ   หรือชื่อไทย สควิดเกม เล่นลุ้นตาย ไม่ใช่แค่ซีรีส์แม้กระนั้นเป็นปรากฏการณ์  เป็นซีรีส์พื้นที่ Netflix ทุ่มทุนให้สร้าง นับว่าเป็นซีรีส์ฟอร์มดี เงินดก กระแสเลิศเลอสุดๆเป็นซีรีส์ที่มีความคิดดีโดยการใช้จิตวิทยากับการนำสิ่งใกล้แบบอย่างการละเล่นท้องถิ่นของเด็กมาทำให้เกิดเรื่องร้ายแรงได้ เป็นซีรีส์ที่กระแสแรงแบบเบียดทุกสถิติขึ้นอันดับ 1 Netflix Thailand อย่างเร็ว ปังต่อกับยอดผู้ติดตามใน IG ส่วนตัวนักแสดงที่มากขึ้นอย่างรวดเร็วภายในข้ามคืน  ดูซีรี่ย์ออนไลน์  (เรียกว่ากลับชีวิตแบบดาราหนังตื่นเช้ามามองเห็นแล้วสะดุ้งไปเลย)

ซ็อง กีฮุน (รับบทโดย อี ช็อง-แจ) พระเอกของเรื่องเป็นคนขับรถที่หย่าร้างและเป็นหนี้ ได้รับเชิญให้เล่นชุดเกมสำหรับเด็กเพื่อลุ้นรับรางวัลเงินสดก้อนโต เมื่อยอมรับข้อเสนอ เขาถูกนำตัวไปยังสถานที่ที่ไม่รู้จักซึ่งเขาพบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางผู้เล่นอีก 455 คนที่เป็นหนี้ก้อนโตเช่นกัน ผู้เล่นถูกสร้างให้สวมชุดวอร์มสีเขียวและอยู่ภายใต้การดูแลตลอดเวลาโดยยามสวมหน้ากากในชุดจั๊มสูทสีชมพู กับผู้ดูแลเกมโดยฟรอนต์แมน ที่ใส่หน้ากากดำเครื่องแบบดำ ในไม่ช้าผู้เล่นก็พบว่าการแพ้ในเกมส่งผลให้พวกเขาตาย โดยแต่ละการเสียชีวิตจะเพิ่ม 100 ล้านวอนให้กับรางวัลใหญ่ที่อาจเกิดขึ้น 4.56 พันล้านวอน กีฮุนเป็นพันธมิตรกับผู้เล่นอื่นรวมทั้งเพื่อนสมัยเด็กของเขาอย่าง โช ซังอู (รับบทโดย พัก แฮ-ซู) เพื่อพยายามเอาชีวิตรอดจากความบิดเบี้ยวทางร่างกายและจิตใจของเกม

ซีรี่ย์ที่คล้ายกัน

My Name (2021)

Itaewon class (2020) ธุรกิจปิดเกมแค้น

All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้

The 8 Show (2024) เกมโชว์เลือดแลกเงิน

Bitter Sweet Hell (2024) วิมานขุมนรก