Sicario Day of the Soldado (2018) ทีมพิฆาตทะลุแดนเดือด 2

Sicario Day of the Soldado (2018) ทีมพิฆาตทะลุแดนเดือด 2

เรื่องย่อ

ดูหนัง Sicario Day of the Soldado (2018) ทีมพิฆาตทะลุแดนเดือด 2 สงครามยาเสพติดบริเวณชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโกทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อกลุ่มผู้ค้ายาเริ่มลักลอบค้าผู้ก่อการร้ายข้ามพรมแดนสหรัฐฯ เพื่อต่อสู้กับสงครามนี้ เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลาง Matt Graver ได้กลับมาร่วมทีมกับ Alejandro ผู้ใจดีอีกครั้ง

ระเบิดฆ่าตัวตายของกลุ่ม ISIS ในร้านขายของชำในเมืองแคนซัสซิตี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย รัฐบาลสหรัฐฯ ตอบโต้ด้วยการสั่งให้เจ้าหน้าที่ CIA แมตต์ เกรเวอร์ ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดในการต่อสู้กับกลุ่มค้ายาของเม็กซิโกที่สงสัยว่าลักลอบขนผู้ก่อการร้ายข้ามพรมแดนระหว่างเม็กซิโกและสหรัฐฯ เกรเวอร์และกระทรวงกลาโหมตัดสินใจว่าทางเลือกที่ดีที่สุดคือการยุยงให้เกิดสงครามระหว่างกลุ่มค้ายารายใหญ่ และเกรเวอร์จึงคัดเลือกเจ้าหน้าที่อเลฮานโดร กิลลิกสำหรับภารกิจนี้ เกรเวอร์ยังได้พบกับแอนดี้ วีลดอน ผู้ประกอบการ PMC เพื่อซื้อทหารรับจ้าง เฮลิคอปเตอร์ และอุปกรณ์สื่อสารที่เข้ารหัส เพื่อให้สหรัฐฯ สามารถปฏิเสธข้อกล่าวหาได้อย่างสมเหตุสมผลในขณะที่ต่อสู้กับกลุ่มค้ายาของเม็กซิโก ดูหนังออนไลน์

กิลลิกลอบสังหารทนายความชื่อดังของกลุ่มมาตาโมรอสในเม็กซิโกซิตี้ ขณะที่เกรเวอร์และทีมของเขาลักพาตัวอิซาเบล เรเยส ลูกสาวของคาร์ลอส เรเยส (หัวหน้ากลุ่มโซโนรัน ซึ่งเป็นคู่แข่งของกลุ่มมาตาโมรอส) ในปฏิบัติการหลอกลวง

เกรเวอร์ กิลลิก และทีมของพวกเขาพาอิซาเบลไปยังบ้านที่ปลอดภัยในเท็กซัส และจัดการจู่โจมของ DEA โดยแสร้งทำเป็นว่าช่วยเธอจากกลุ่มค้ายา Matamoros พวกเขาพาเธอไปที่ฐานทัพทหารอเมริกัน ในขณะที่ทีมจัดการให้เธอเดินทางกลับเม็กซิโก พวกเขาวางแผนที่จะทิ้งเธอไว้ที่สถานีตำรวจสหพันธ์เม็กซิโกซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ควบคุมโดยคู่แข่งของพ่อของเธอ เพื่อยกระดับความขัดแย้งระหว่างกลุ่มค้ายาให้รุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พวกเขาข้ามไปยังเม็กซิโก ตำรวจคุ้มกันที่ทุจริตก็หันกลับมาต่อต้านพวกเขาและโจมตีรถหุ้มเกราะของอเมริกา ในการยิงต่อสู้ที่เกิดขึ้น เกรเวอร์และทีมของเขาสังหารตำรวจเม็กซิกันไป 25 นายเพื่อหลบหนีการซุ่มโจมตี

ผู้กำกับ

Stefano Sollima

บริษัท ค่ายหนัง

Sony Pictures Releasing (North America, Latin America and Spain)
Lionsgate Entertainment (International)

นักแสดง

Benicio del Toro
Josh Brolin
Isabela Moner
Jeffrey Donovan
Manuel Garcia-Rulfo
Catherine Keener

โปสเตอร์หนัง

รีวิว

หนังโปรดของข้าพเจ้า

ประเด็นความขัดแย้งมันไปได้ไม่ไกลเหมือนอย่างภาคแรก เหมือนภาคนี้จะมุ่งเน้นนำเสนอประเด็นการลักลอบขนคนข้ามชายแดนเม็กซิโก-สหรัฐฯ และปมเรื่องศีลธรรมกับคำสั่ง ซึ่งดูเหมือนว่าอย่างหลังจะเป็นการเปิดทางให้สำรวจตัวละครได้ลึกกว่าเดิม ในส่วนของฉากแอ็คชั่นดูจะเบาลงไปจากเดิม ยังคงความสมจริงแต่ความเข้มข้นลดลง โดยเนื้อเรื่องเล่าถึง ‘แมตต์’ (Josh Brolin) เจ้าหน้าที่รัฐผู้แก้ปัญหาด้วยวิธีนอกกฎหมายต้องกลับมาร่วมมือกับ ‘อเลฮานโดร’ (Benicio Del Toro) สุดยอดนักฆ่าอีกครั้งในภารกิจลักพาตัว ‘อิซาเบล’ (Isabela Moner) ลูกสาวเจ้าพ่อยาเสพติดเพื่อจุดชนวนความขัดแย้งระหว่างสองแก๊งค้ายารายใหญ่ในเม็กซิโก แต่เมื่อบอสใหญ่มีคำสั่งให้ฆ่าปิดปากเด็กทิ้งด้วยจึงทำให้บางด้านในตัวอเลฮานโดรตัดสินใจฝ่าฝืนคำสั่งนั้นแล้วเลือกจะปกป้องเด็กบริสุทธิ์คนนี้แม้เธอจะเป็นลูกสาวของศัตรูก็ตาม
.
สิ่งที่ยังคงเดิมเหมือนกับใน Sicario ภาคแรกคือใน ยังคงเป็นโลกที่ไม่มีกฎ แต่ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นคือตัวละครเริ่มตระหนักถึงผลกระทบจากสงครามที่เขาก่อขึ้นจนทำให้เกิดความลังเลด้านศีลธรรมขึ้นมาเมื่อต้องตอบรับคำสั่งฆ่าเด็กสาวลูกเจ้าพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ตรงนี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ตัวละครพัฒนาความคิดขึ้นไปอีกขั้นจากในภาคแรก และมันทำให้เราตอบรับด้านความเป็นมนุษย์ที่ยังคงเหลือในตัวนักฆ่าสุดเหี้ยมคนนี้ ยิ่งเมื่อมองจากมุมความเป็นหนังปฏิบัติการทางทหารแล้ว ทหารที่ดีคือต้องทำตามคำสั่งโดยไม่มีข้อสงสัยหรือโต้แย้ง แต่สำหรับใน   คงจะเรียกว่าการตั้งคำถามกับตัวเองเพื่อจะได้ตัดสินใจโดยคำนึงถึงความถูกต้อง เพราะถึงแม้พวกเขาจะเล่นนอกกฎเพื่อล้างบางอาชญากรแต่บางสิ่งก็อาจจะเป็นการล้ำเส้นมากเกินไป โดยเฉพาะเมื่อต้องตัดสินใจฆ่าปิดปากเด็กคนหนึ่ง
.
อันที่จริงเมื่อเรามอง Sicario ให้ดี ๆ ก็จะเห็นว่าตัวละครหลักล้วนเป็นสุดยอดนักรบที่เล่นนอกกฎมาตลอด จะเรียกเป็น anti-hero ก็ว่าได้ เป็นตัวละครฝ่ายดีแต่ก็ไม่ได้ดีแบบพระเอกจ๋า เพราะยังคงเห็นเขาทำเรื่องเลวร้ายแต่คนดูยอมรับเหตุผลได้ว่าเขาทำไปด้วยบริบทเพื่ออะไร ซึ่งในที่นี้คือการสู่กับแก๊งค้ายาเสพติด แต่เมื่อตัวละครเอกที่เป็น anti-hero จะต้องมาฆ่าเด็กสาวคนหนึ่งก็น่าจะไม่ได้ทำให้เขาเป็นฮีโร่อีกต่อไป มันจะกลายเป็นการข้ามเส้นบาง ๆ ของความต้องการปราบแก๊งค้ายาแบบไม่สนวิธีการ แต่เมื่อวิธีการนั้นต้องฆ่าเด็กที่ไม่เกี่ยวข้องก็ย่อมเกิดคำถามกระตุ้นต่อมศีลธรรมขึ้นมา ซึ่งทั้งอเลฮานโดรและแมตต์ จะต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินใจที่ท้าทายความเป็นมนุษย์ของตัวเอง ทำให้ภาคนี้น่าสนใจที่ทั้งสองตัวละครได้เผยแง่มุมอีกด้านของตัวเองขึ้นมา ซึ่งกลายเป็นจุดที่เด่นกว่าภาคแรก และพอจะชดเชยประเด็นความขัดแย้งที่เข้มข้นน้อยลงไปได้อยู่เหมือนกัน

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Werewolf The Beast Among Us (2012) ล่าอสูรนรก มนุษย์หมาป่า

The Liability (2012) เกมเดือดเชือดมาเฟีย

Hounds of War (2024)

The Critic (2024)

Strangers (2024) สเตรนเจอร์ส