Sergio (2020) เซอร์จิโอ

Sergio (2020) เซอร์จิโอ

รีวิว

All in Movie

Score : 5.5/10 (D+)

มาสู่หนังชีวประวัติกันอีกครั้ง โดยเรื่องนี้ก็เป็นหนังเรื่องราวชีวิตของ “เซอร์จิโอ วิเอรา เดอ เมลโล” ที่เป็น เจ้าหน้าที่การทูตของ UN จริงๆแล้วมันเคยมีสารคดีที่เป็นชื่อเดียวกันกับหนังมาก่อนในปี 2009 ที่ทำโดยผู้กำกับคนเดียวกันกับเรื่องนี้ ภายในหนังก็เป็นการเล่าถึงเรื่องต่างๆของเซอร์จิโกที่ต้องไปทำการเจรจาในประเทศต่างๆทั้งติมอร์ กัมภูชา อิรัก รวมทั้งมันก็ยังมีเรื่องราวความรักเอง // Sergio (2020) เซอร์จิโอ  โดยหนังก็จะมีการเล่าที่ตัดสลับไทม์ไลน์กัน ซึ่งในแง่หนึ่ง ก็ทำให้หนังมีอะไรที่น่าสนใจมากขึ้น แต่เราก็รู้สึกมันก็อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก

เราว่าปัญหาหลักๆเลยคือพอหนังมันตัดสลับกัน มันค่อนข้างตัดอารมณ์ไปพอสมควร เรื่องที่จะเล่าก็ไม่ได้สุดนัก ทั้งประเด็นทางการเมือง และพาร์ทความรักโรแมนติกเอง เลยเสียดายไปพอสมควรที่ออมาจืดชืดไปหน่อย ไม่ได้อินกับเรื่องราวมากนัก ส่วนภาพรวมของหนังมันก็ค่อนข้างนิ่ง กราฟของหนังก็ไม่ได้พีคอะไรมาก ไม่ได้สนุกกับเรื่องราวเท่าไหร่ ส่วนนักแสดงเองก็ไม่ได้ดีเด่นน่าจดจำอะไรนัก ที่น่าติดตามจริงๆคงจะเป็นเรื่องราวที่พอมีอะไรน่าสนใจ

ให้ดูจนจบได้ และ “อนา เดอ อาร์มัส” ที่เคยแสดงเป็นสาวพยาบาลจาก Knives Out ก็ยังพอดึงหนังพออยู่ได้ (นางมีเสน่ห์ออร่าอย่างมาก) ซึ่งอย่างน้อย หนังก็ปิดท้ายได้โอเค ถึงการคารวะถึงเคารพถึงผู้สูญเสียในเหตุการณ์ในอิรักปี 2003 ส่วนพาร์ทงานโปรดักชั่นก็ค่อนข้างประทับใจพอสมควรที่ออกมาดี (ทั้งเผยให้เห็นถึงซากสงครามกลางเมืองของอิรักที่ชวนเศร้าสลด และภาพของติมอร์ที่อยากจะเป็นเอกราช) ได้ยินมาว่า หนังมาถ่ายทำที่ไทยด้วย ซึ่งในฉากหลังของหนังน่าจะเป็นประเทศติมอร์และกัมภูชา

SvenskMaori

⭐ 7/10

ฉันเห็นด้วยอย่างยิ่งกับบทวิจารณ์ก่อนหน้า สั้นๆ แต่ตรงประเด็น “คนสำคัญ หนังแย่” ฉันยังคิดว่าฉากเซ็กซ์ถึงแม้ความสวยงามในตัวมันเองจะไม่เหมาะสมหรือจำเป็น แต่จริงๆ แล้วฉันรู้สึกเป็นการบุกรุกความเป็นส่วนตัวมากกว่า เซอร์จิโอควรได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ แม้กระทั่งตอนนี้ ผมคิดว่ามันจะเหมาะสมมากสำหรับผู้ยิ่งใหญ่แห่งสันติภาพ ความเป็นอิสระ และสิทธิมนุษยชน

iamkeysersoze

⭐ 7/10

เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ของ Netflix ที่มีศักยภาพมากแต่ไม่เคยทำได้ ครอบคลุมเหตุการณ์สำคัญในลักษณะที่น่าเบื่อ  Sergio (2020) เซอร์จิโอ มันไม่ค่อยน่าสนใจเลยแม้ว่าจะมีการแสดงที่ยอดเยี่ยมก็ตาม ฉันไม่คิดว่าการเล่าเรื่องแบบไม่เชิงเส้นจะได้ผลในหนังเรื่องนี้ ฉันคิดว่าการเขียนยังอ่อนแอในขณะที่ครอบคลุมเหตุการณ์ต่างๆ ได้ดี มันไม่ได้ทำในลักษณะที่คุณเรียนรู้สิ่งต่างๆ จากภาพยนตร์ บางทีถ้ามีคนเขียนบทที่ดีกว่านี้ หนังคงจะทำงานได้ดีกว่านี้ ฉันชอบแง่มุมต่างๆ ของหนังเรื่องนี้ บางส่วนก็น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม สาเหตุหลักมาจาก Ana De Armas ซึ่งเก่งมากที่นี่ วักน่า มูราและอาร์มาสช่วยภาพยนตร์เรื่องนี้ให้พ้นจากหายนะโดยสิ้นเชิง โดยรวมแม้จะทำได้ดีและแสดงได้ดีก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นภาพยนตร์ที่สนุกสนานและให้ข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ มันไม่คุ้มที่จะดูจริงๆ ดังนั้นอย่าออกนอกเส้นทาง

wel2005

⭐ 7/10

ชาวบราซิลฝ่ายขวาบางคนให้คะแนนต่ำกับภาพยนตร์เรื่องนี้เพียงเพราะวากเนอร์ มูราเป็นนักแสดงที่รับบทเป็นเซอร์จิโอและโปรดิวเซอร์ นอกจากจะเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมและเป็นมนุษย์แล้ว เขายังมีบทบาททางการเมืองและต่อสู้กับการตัดสินใจที่ไม่ดีของรัฐบาลบราซิลที่แท้จริงของเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่เลวร้าย โดยรวมแล้วหนังก็สนุก แสดงดีมาก ละเอียดอ่อน และเป็นการแนะนำเรื่องราวของ Vieira de Mello มนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่อีกคนได้ดีมาก เพลงประกอบที่มี Cartola และ Caetano Velloso นั้นเป็นข้อดี

grcharis

⭐ 6/10

มันเกิดขึ้นที่ฉันรับใช้องค์กรเดียวกันกับพนักงานภาคสนาม Sergio (2020) เซอร์จิโอ  และฉันรู้สึกว่ามิติทางการเมืองมักจะถูกทำให้ง่ายเกินไป อีกทั้งยังมีข้อผิดพลาด “ทางเทคนิค” มากมาย (ตั้งแต่สีของเครื่องบินไปจนถึงวิธีที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแสดงรถยนต์ การตรวจสอบความปลอดภัย) ในด้านผู้กำกับ มีช่วงเวลาที่น่าเบื่อนานเกินไปโดยไม่มีเหตุผลและมีการแสดงธรรมดาๆ เพลงประกอบที่ดี 6 อาจจะรุนแรง แต่ 7 สูงเกินไป

paulijcalderon

⭐ 6/10

หนังที่น่าประหลาดใจอีกเรื่องหนึ่งที่ฉันไม่เคยรู้มาก่อน แต่ฉันก็คว้าโอกาสและปล่อยให้มันเล่นไป “Sergio” ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตจริงของ นักการทูตชาวบราซิลที่เดินทางไปแบกแดดในปี 2003 เมื่อมองเผินๆ เป็นเรื่องง่ายสำหรับภาพยนตร์ประเภทนี้ที่จะกีดกันองค์ประกอบทางภาพยนตร์/อารมณ์ และมัวแต่ยุ่งอยู่กับการบอกข้อมูลทั้งหมดให้คุณทราบ ของเหตุการณ์ในชีวิตจริง แม้ว่านี่จะเป็นกรณีที่แผนของ UN และแผนของมนุษย์เข้ากันได้ดี

จนถึงจุดที่ฉันได้ลงทุน แม้ว่าการเปิดตัวจะไม่ดึงดูดใจฉัน แต่มันก็ทำให้ฉันสนใจ ด้วยความอดทนพอสมควร ในที่สุดฉันก็ได้รับความสนใจอย่างเต็มที่ ฉันชอบที่มันบอกแบบไม่เชิงเส้น เซอร์จิโอมองย้อนกลับไปในชีวิตของเขาราวกับว่าเขากำลังนึกถึงช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเขา ขณะเดียวกันก็ต้องรับมือกับสถานการณ์ที่คุกคามถึงชีวิต ภาพย้อนอดีตมีเจตนาที่จะรบกวน ในกรณีนี้มันคลิกได้ดีกับฉัน เพราะมันทำให้คุณอยู่ในมุมมองของเขา

ล่องลอยจากความทรงจำอันแวบวับกลับสู่ความเป็นจริง สไตล์การถ่ายภาพยนตร์มีส่วนร่วมกับแรงจูงใจในเหตุการณ์ย้อนหลัง ขณะเดียวกันก็ปฏิบัติตามแนวทาง “สารคดี” ที่เรียบง่ายกว่าในปัจจุบัน ซึ่งทำให้ชีวิตของเขาในอดีตแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก มหาสมุทรที่อยู่ติดกับรีโอเดจาเนโรเป็นองค์ประกอบที่เกิดซ้ำชัดเจน มันเป็นตัวแทนของบ้านของเขา อิสรภาพของเขา และความปรารถนาของเขาที่จะมุ่งความสนใจไปที่คนที่เขารักสักวันหนึ่ง

jovoh

⭐ 9/10

ฉันดีใจที่ไม่ได้ตรวจสอบบทวิจารณ์ก่อนดูภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะมันเป็นเรื่องราวที่สวยงามของบางสิ่งที่มีหลายชั้นมากกว่าแค่โครงเรื่องเชิงเส้นตรง Sergio (2020) เซอร์จิโอ  นั่นคือความสมดุลระหว่างความทะเยอทะยานของเซอร์จิโอ ปัญหาภายใน ความรัก + ธรรมชาติที่ซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ . นี่ไม่ใช่ภาพยนตร์แอ็กชัน แต่เป็นเรื่องราวของชายผู้มีจุดมุ่งหมายในการเดินทางสู่การเป็นตัวตนที่แท้จริงของเขา การดำเนินเรื่องช้าลงซึ่งฉันไม่พบว่าน่าเบื่อเลย ตรงกันข้ามเลย คือให้พื้นที่มากพอที่จะสร้างโลกและตัวละครที่เหมาะสมยิ่งขึ้น เพียงแค่ดูมัน

ผู้กำกับ

• Greg Barker

บริษัท ค่ายหนัง

• Black Rabbit Media

นักแสดง

• Wagner Moura
• Ana de Armas
• Brían F. O’Byrne
• Bradley Whitford
• Garret Dillahunt
• Clemens Schick

โปสเตอร์หนัง

เรื่องย่อ

ดราม่าที่เข้มข้นซึ่งเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์วุ่นวายของการรุกรานอิรักของสหรัฐฯ ที่ซึ่งชีวิตของนักการทูตระดับสูงของสหประชาชาติ เซอร์จิโอ วิเอรา เด เมลโล แขวนอยู่บนเส้นด้ายระหว่างภารกิจที่ทรยศที่สุดในอาชีพของเขา ภาพยนตร์ผลงานของ Netflix  ดูหนังออนไลน์ ที่สร้างขึ้นจากเรื่องจริง บอกเล่าเรื่องราวผลงานของ ผู้แทนพิเศษสหประชาชาติ “เซอร์จิโอ วิเอียร่า เดอ เมลโล” ผู้อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือประเทศต่าง ๆ  Sergio (2020) เซอร์จิโอ ที่ได้รับความเดือดร้อน ชีวิตของ เซอร์จิโอ

ต้องใช้ชีวิตเดินทางไปทั่วโลกเพื่อช่วยเหลือประเทศต่าง ๆ ให้กลับมาเป็นปกติจากเหตุการณ์เลวร้ายที่ประเทศพวกนั้นได้พบเจอ ผลงานที่เขาทำสำเร็จและโด่งดังไปทั่วโลกคือ การช่วยเหลือสนับสนุนติมอร์ตะวันออกประกาศเอกราชจนแยกตัวเป็นอิสระจากอินโดนีเซียได้สำเร็จ เป็นหนึ่งในผลงานที่ถูกถ่ายทอดออกมาในเนื้อเรื่องของภาพยนตร์ด้วย เราจะได้เห็นวิธีแนวคิดของ เซอร์จิโอ ในการแก้ปัญหาที่เขาพบเจอ เขาเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นและรักในการช่วยเหลือผู้อื่นเป็นอย่างมาก

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Hostage (2005) ฝ่านรก ชิงตัวประกัน

In the Mouth of Madness (1994) ผีสมองคน

Memento (2000) ภาพหลอนซ่อนรอยมรณะ

The Orphanage (2007) สถานรับเลี้ยงผี

Awake (2007) หลับ เป็น ตื่น ตาย