Security (2017) โคตรยามอันตราย

Security (2017) โคตรยามอันตราย

เรื่องย่อ

ดูหนัง Security (2017) โคตรยามอันตราย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยปกป้องเด็กหญิงอายุ 11 ขวบที่ตกเป็นเป้าหมายของแก๊งค์ที่เข้าร่วมเป็นพยานในการพิจารณาคดี 

เอ็ดดี้ ดีคอน อดีตกัปตันหน่วยรักษาความปลอดภัยของนาวิกโยธิน ได้งานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างสรรพสินค้า เขาได้พบกับแวนซ์ รูบี้ เมสัน และจอห์นนี่ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนอื่นๆ

ระหว่างนั้น ขบวนรถของเจ้าหน้าที่ US Marshal ที่ขนส่งเด็กหญิงชื่อเจมี่ ถูกทหารรับจ้างซุ่มโจมตี เธอเป็นพยานหลักในคดีอาชญากรรมที่ก่อขึ้น เจ้าหน้าที่ US Marshal ถูกซุ่มโจมตีและสังหาร แต่เจมี่หลบหนีและหาที่หลบภัยในห้างสรรพสินค้า ชาร์ลี หัวหน้าทหารรับจ้างพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อแลกกับเจมี่ แต่เอ็ดดี้ปฏิเสธ ชาร์ลีแจ้งลูกน้องของเขาว่าพวกเขาและครอบครัวจะถูกประหารชีวิตหากไม่สามารถช่วยเจมี่ได้

เอ็ดดี้และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสร้างระเบิดและกับดักที่ทำเองเพื่อป้องกันห้างสรรพสินค้า พวกเขาถ่วงเวลาและสังหารทหารรับจ้างหลายคน แต่จอห์นนี่ถูกมือปืนสังหารขณะพยายามส่งสัญญาณแจ้งตำรวจ และรูบี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะช่วยให้แวนซ์หลบหนี เจ้าหน้าที่ US Marshal คนอื่นๆ มาถึง แต่เอ็ดดี้สังเกตเห็นรอยสักของทหารรับจ้างที่คอของพวกเขาและฆ่าพวกเขา เมสันถูกฆ่า และแวนซ์ได้รับบาดเจ็บสาหัสและคาดว่าเสียชีวิตแล้ว

เอ็ดดี้ส่งเจมี่ไปที่วิทยุเพื่อขอความช่วยเหลือ จากนั้นก็ถูกเดดอายส์ผู้บังคับบัญชาคนที่สองของชาร์ลีโจมตี เขาทำให้เครื่องรบกวนสัญญาณวิทยุของทหารรับจ้างปิดใช้งานด้วยรถสามล้อที่เก็บไว้ในห้างสรรพสินค้า จากนั้นก็ฆ่าเดดอายส์และมือปืนด้วยปืนที่แวนซ์ซ่อนไว้ในรถของเขา ชาร์ลีพบเจมี่ในห้างสรรพสินค้า แต่เจมี่ช็อตเขาด้วยปืนช็อตไฟฟ้า และเอ็ดดี้ก็ยิงชาร์ลีที่ศีรษะด้วยปืนพกของแวนซ์ ทำให้เขาเสียชีวิต ดูหนังออนไลน์

ผู้กำกับ

Alain DesRochers

บริษัท ค่ายหนัง

Nu Image

นักแสดง

Jeffrey Greenstein
David Harris
Gisella Marengo
Jonathan Yunger

โปสเตอร์หนัง

รีวิว

เสพติดดูหนัง

SECURITY เป็นอีกหนังที่ประสบความสำเร็จในแง่การสร้างบันเทิงกับคนดูที่ตามสไตล์ฟอร์มกลางๆ ที่สนุกและเพลินเอามากๆ แต่หนังยังมีสิ่งที่สามารถเน้นให้ดูมีอะไรมากกว่านี้อีก แต่กลับเลือกที่จะไม่เอาเข้ามาใช้เสียนั่นเองเรื่องราวของ ” เอดดี้ ดีค่อน (Antonio Banderas) ” อดีตนายทหารมือดี ที่ต้องการทำงานในอาชีพอะไรก็ได้ที่สามารถอยู่เงียบ ๆ ได้แม้ว่ามันจะน่าเบื่อซักแค่ไหน เขาจึงได้งานเป็นเจ้าหน้าที่รีกษาความปลอดภัยให้กับห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แต่เขาดัน

ได้เริ่มงานในช่วงที่ผิดวันผิดเวลา เหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกะดึกอาทิ ” แว๊นซ์ (Liam McIntyre) , เมสัน (Chad Lindberg) , จอห์นนี่ (Jiro Wang Dong Cheng) และ รูบี้ (Gabriella Wright) ” ที่ปราศจากอาวุธจะต้องเผชิญหน้ากับเหล่าผู้ก่อการร้ายที่หมายชีวิตเด็กสาวคนนึง ” เจมี่ (Katherine de la Rocha) ” ที่หลบหนีเข้ามาในห้างสรรพสินค้า ผู้เป็นพยานปากสำคัญในการตัดสินคดีที่มีหัวหน้าของเหล่าผู้ก่อการร้ายเป็นผู้ต้องหา

พล็อตของตัวหนังค่อนข้างพบได้หนังแอ็คชั่นทั่วๆไป และไม่มีอะไรที่หลากหลายในประเด็นที่เล่นนั่นเอง ฉะนั้นหนังจึงใช้สถานที่ที่ประหยัดเวลาในการถ่ายทำมาก และใช้เวลาเดินเรื่องเพียง 87 นาที ซึ่งกระชับและรวดเร็งมาก แต่โอเคละ หนังให้ความสนุกแบบเพลิดเพลินมาก ในแต่ละช่วงคือสามารถ entertain ในคนดูสนุกได้ตลอดทั้งเรื่อง ถึงแม้มันจะไม่ค่อยเดือดระอุ วินาสสันตะโรเบอร์ใหญ่ก็ตามเถอะ แต่เรารู้สึกว่ามันไม่ได้แย่เลยนะ มันสนุกสมกับฟอร์มหนังที่ทำออกมา ใช้ทุนน้อยแต่บันเทิงตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ

พาร์ทการต่อสู้ ไล่ล่า จวบจนไปถึงการวางแผนชิงไหวชิงพริบกัน ค่อนข้างทำได้ดีในระดับนึงเลยแหละ มีความเท่ห์และมันส์อยู่ไม่น้อย ยิงกระหน่ำลั่นห้างเลยทีเดียว อีกทั้งเราจะยังได้เห็นการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าในยามคับขันที่ดูแล้วชวนติดตาม ดูฉลาดบ้าง ผิดพลาดบ้างแล้วแต่ความคิดตัวละครจะพาไป
สิ่งที่เรารู้สึกว่ามันค่อนข้างแปลกประหลาดก็คือลักษณะภายในห้างสรรพสินค้าที่ดูแล้วไม่เหมือนห้างสรรพสินค้าเอาซะเลย 5555555 หนักถึงขั้นมีความคล้ายจากพวก Index , Home Pro มาก ดูไม่ใช่แหล่งช้อปปิ้งที่ครบวงจร 5555 ก็เข้าใจเพราะหนังใช้ทุนไม่ค่อยเยอะ อาจจะจำลองฉากสถานที่ขึ้นมาก็เป็นได้ อันนี้ก็ไม่ค่อยแน่ใจ แต่เอาเถอะถึงยังไงมันก็สนองความบันเทิงให้เราได้โอเค

นักแสดงเล่นดีทุกคนนะสำหรับเรา มีบุคลิก คาแรคเตอร์ที่ดูมีอะไรให้เราติดตาม ขำและเอาใจช่วยไปตามๆกันบ้าง ซึ่งพอมาอยู่รวมกันแล้วมันลงตัวดี
สรุปแล้วเป็นหนังที่ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีเท่าหนังแอ็คชั่นทุนแน่นอะไรขนาดนั้น สนุกและบันเทิงแบบเพลินๆ ยิงกระสุนกันเลยทีเดียว ยิงแม่งกราดเกลื่อนมาก วันนี้ยามลุกขึ้นสู้แล้ว ในโรงภาพยนตร์
Score : 7/10

หนังโปรดของข้าพเจ้า

ไอเดียหนังทำให้นึกถึง Assault on Precinct 13 แต่คุณภาพหนังนี่ช่างห่างไกลเหลือเกิน เราเสียดายในแง่ที่ว่าคอนเซ็ปต์ของการปิดตายสู้ในห้างสรรพสินค้าเล็ก ๆ มันน่าจะมีลูกเล่นอะไรได้มากกว่าทำออกมาเป็นแอ็คชั่นสิ้นคิดที่มีอยู่ดาดดื่น หนังมีฉากเชย ๆ เต็มไปหมด กระทั่งว่าฝั่งตัวเอกสามารถปราบนักฆ่ามืออาชีพลงไปกองกับพื้นได้ทั้งฝูง อย่างเดียวที่น่าสนใจคือแอนโตนิโอ แบนเดอรัส ที่เคยโด่งดังเป็น action star ยุค 90’s จากเรื่อง Desperado, Assassins และ The Mask of Zorro พยายามกลับมาเล่นหนังแอ็คชั่นเต็มตัวอีกครั้ง ซึ่งเจ้าตัวก็คงหวังจะได้แจ้งเกิดใหม่ตอนแก่เหมือนพวกเลียม นีสันน่ะแหละ แต่ดูเหมือนว่าจะเลือกงานไม่ดีสักเท่าไร ยิ่งที่ไปแสดงนำ Gun Shy ของไซม่อน เวสต์นี่คำวิจารณ์เละเทะกว่านี้ ก็ได้แต่หวังว่าจะมีงานดี ๆ มาให้เจ้าตัวแสดงบ้างเพราะดูจากคาแรคเตอร์แล้วยังพอมีหวังจะคัมแบ็คในวัยเกือบ 60 ปีอยู่เหมือนกัน
.
‘เอ็ดดี้’ (Antonio Banderas) เป็นอดีตนาวิกโยธินที่ประสบปัญหา PTSD จากสงครามเหมือนทหารคนอื่น ๆ ทำให้เขาต้องอยู่ห่างไกลจากครอบครัว เขามาสมัครเป็นรปภ.ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งห่างไกลตัวเมือง ซึ่งในคืนแรกของการทำงานก็ต้องเจอปัญหาใหญ่นั่นก็คือแก๊งค้ายาได้ส่งสุดยอดมือปืนบุกเข้ามาหมายเอาชีวิตเด็กสาววัย 12 ปีที่หลบซ่อนตัวอยู่ในห้างแห่งนี้ หน้าที่ของเขาจึงต้องปกป้องเธอให้พ้นจากอันตราย
.
ความชอบเดียวในหนังคือการพยายามปรับคาแรคเตอร์ของแอนโตนิโอ แบนเดอรัส ให้กลายมาเป็น action star แนวเข้มเคร่งขรึม ประมาณว่าเห็นนิ่ง ๆ เงียบ ๆ อันตรายเพียบนะครัช ซึ่งเราว่าด้วยลุคและวัยของเขามันลงตัวกับมาดของตัวละคร พอจะทำให้เป็นภาพจำได้อยู่เหมือนกัน ถ้าสมมุติว่าหนังเปรี้ยงขึ้นมาคนจะติดลุคใหม่นี้ของเขาไปแล้วมันจะทำให้งานบทแอ็คชั่นแนว ๆ นี้เข้าหาเขามากขึ้นแต่ก็น่าเสียดายว่าคาแรคเตอร์ใหม่ของเขาดันไปอยู่ในหนังที่ไม่ประสบความสำเร็จเนี่ยสิ (ลองดูอย่างเมล กิ๊บสัน ยังได้หนังที่น่าสนใจกว่าอย่าง Blood Father ทำให้คัมแบ็คกลับมาเป็น action star วัยแก่ที่น่าสนใจทันที)
.
ปัญหาของ Security หลัก ๆ คือมันไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรจากคอนเซ็ปต์ของตัวเองสักเท่าไร อุตส่าห์วางพล็อตปิดตายห้างสรรพสินค้าทั้งทีแต่สุดท้ายก็มาบู๊กันบ้าน ๆ แบบแอ็คชั่นทั่วไป แถมฝั่งยาม 5 คนที่วางคาแรคเตอร์ไว้ดูธรรมดาที่สุดก็ยังอุตส่าห์จัดแจงให้สามารถเล่นงานตัวร้ายได้ด้วยความสามารถในการยิงปืนและผลิตระเบิด(โอ้โห) ไป ๆ มา ๆ หนังมันก็ขายแอ็คชั่นทั่วไปที่ไม่ได้มีอะไรใหม่เลย เราเชื่อว่าศักยภาพของแอนโตนิโอ แบนเดอรัส น่าจะทำอะไรหรือมีลูกเล่นอะไรได้มากกว่าที่เห็นในหนังเยอะ ยังไม่นับรวมฉากเชย ๆ ประเภทสไนเปอร์ส่องไรเฟิลจะยิงอยู่แล้วมีตัวร้ายอีกคนวิทยุมาบอกว่าอย่ายิงเดี๋ยวฉันจัดการมันเอง แล้วก็ตู้มเละเป็นโกโก้ครั้นช์ทั้งคู่ แถมฉากจบที่ดวลตัวต่อตัวกับเบน คิงสลีย์ หัวหน้าตัวร้ายนี่ก็เดาได้เลยว่าจะลงเอยแบบไหน เข้าใจว่าคิงสลีย์ไม่ใช่สายบู๊แต่พี่ดูเป็นตัวร้ายที่ไม่ฉลาดอย่างที่หนังปั้นขึ้นมาเลยอ่ะ
.
โดยรวมแล้วก็ถือเป็นหนังแอ็คชั่นดูเพลิน ๆ แบบอย่าไปคิดอะไรเยอะ ข้อดีคือเข้าประเด็นเร็วไม่เวิ่นเว้อ เปิดเรื่องมาไม่นานก็ให้ตัวเอกเผชิญหน้ากับตัวร้ายเลย จะว่าไปอาการ PTSD และดราม่าครอบครัวของตัวเอกก็แทบไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์เลย ซึ่งก็ดีแล้วแหละเพราะถ้าใส่มาก็คงเสียเวลายืดเนื้อเรื่องโดยที่หนังก็คงไม่ดีขึ้นกว่านี้หรอก สู้ทำเป็นแอ็คชั่นเพียว ๆ ให้มันบันเทิงเต็มตัวไปเลยแบบนี้แหละดีแล้ว
Director: Alain Desrochers
Genre: action, thriller
6/10

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

A Lonely Place To Die (2011) ฝ่านรกหุบเขาทมิฬ

The Killer (1989) โหดตัดโหด

Yoga Teacher Killer The Kaitlin Armstrong Story (2024)

The Beast (2019) ปิดโซลล่า

Gangs of New York (2002) จอมคนเมืองอหังการ์