ดูหนังออนไลน์ เต็มเรื่อง หนังใหม่อัพเดททุกวัน ฟรี HD ชัด

ดูหนังออนไลน์ moviehd24 หนังใหม่HD ดูหนังเต็มเรื่อง2024 ซีรี่ย์ออนไลน์ ดูซีรี่ย์ฟรี

google search

Raging Fire (2021) โคตรเดือดฉะเดือด

ปีที่ฉาย : 2021
เสียง : พากย์ไทย
Episode : -
imdb 6.7
ความคมชัด : HD
Raging Fire (2021) โคตรเดือดฉะเดือด

ดูหนังออนไลน์ Raging Fire (2021) โคตรเดือดฉะเดือด

เรื่องย่อ : Raging Fire (2021) โคตรเดือดฉะเดือด ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ ดูหนังHD ดูหนังฟรี MovieHD24 หนัง2024 หนังออนไลน์ Full HD

Raging Fire (2021) โคตรเดือดฉะเดือด

เรื่องย่อ

ชาน (ดอนนี่ เยน) ตำรวจระดับปรมาจารย์ Raging Fire (2021)  ต้องรับมือกับคดีก่อการร้ายทั่วเมือง ที่ตัวบงการคืออดีตลูกศิษย์มือหนึ่งอย่าง โอ (เซียะถิงฟง) ชายที่เต็มไปด้วยโทสะแรงกล้า พร้อมสังหารทุกคนที่มีส่วนทำให้เขาต้องเข้าคุก ไม่ว่ามันจะเป็นใครหน้าไหน หรือแม้แต่อาจารย์ของเขาก็ตาม สารวัตรฝีมือดีอย่าง จางเถี่ยซาน ได้พบกับคดีของกลุ่มอันธพาลสวมหน้ากากดำที่เข้าสังหารตำรวจอย่างเลือดเย็น ในขั้นตอนการสอบสวนเชิงลึกจางเถี่ยซาน พบว่าหัวหน้าแก๊งอันธพาลในคดีสังหารตำรวจนั้น คืออดีตเพื่อนร่วมงานอย่าง ชิวกางอ๋าว ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นคนดังของกองกำลังตำรวจ ที่ตอนหลังผันตัวเข้าไปอยู่ในขุมนรกแห่งความชั่วร้ายนั้น ส่วนหนึ่งก็เพราะจางเถี่ยซาน เอง

ผู้กำกับ

  • Benny Chan
  • Shane Comley-White

บริษัท ค่ายหนัง

  • Emperor Film Production

นักแสดง

  • Donnie Yen
  • Nicholas Tse
  • Lan Qin
  • Angus Yeung
  • Patrick Tam
  • Ben Lam

โปสเตอร์หนัง

Raging Fire (2021)

Raging Fire (2021)

Raging Fire (2021)

รีวิว

ดูไปบ่นไป

จุดเริ่มต้นก็คงเหมือนคนดูหนังจีนทั่วไป  Raging Fire (2021) ที่ชมชอบงานแอ็คชั่นเป็นจังหวะจะโคน แบบหนังจีนยุคเก่าของชอว์บราเธอร์ส ที่ผู้เขียนมี เดวิด เจียง เป็นดาราในดวงใจ ที่เล่นเรื่องไหนตายตอนจบทุกที ต่อมาก็คงจะเป็นจังหวะแต่ดุดัน กับมาดเท่ๆของ บรู๊ซ ลี ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ในความเป็นเขา แล้วหลังจากการจากไปของ บรู๊ซ ลี โลกก็ได้พบกับกังฟูปนตลกของ แจ๊คกี้ ชาน หรือที่คนไทยเรียกกันว่า เฉินหลง ล่วงเลยจนกระทั่งมาถึงยุค 90 ที่เป็นยุครุ่งเรื่องของหนังจีน แอ็คชั่นสตาร์ดารากังฟูที่โดดเด่นออกมาเลยคือ เจ๊ต ลี หรือที่คนไทยเรียกขานว่า หลี่เหลียนเจี๋ย คนนี้ นี่เอง

และยุคนั้นก็มีนักแสดงแนวกังฟู ที่พุ่งขึ้นมาอย่างน่าสนใจบ้าง อย่างอู๋จิง ที่ยังไปได้ไม่ถึงระดับที่รุ่นพี่เคยไปได้ และอีกคนหนึ่งที่เคยประมือกับทั้ง เฉินหลง และ หลี่เหลียนเจี๋ย มาแล้ว แต่เมื่อตอนนั้นยังรับแค่บทสมทบ กระทั่งปลายยุค 90 ต่อมายังยุค 2000 ที่หนังจีนเริ่มอ่อนแรงลง ด้วยความที่งานออกมามาก จนสวนทางกับคุณภาพ และนักแสดงแม่เหล็กอย่าง เฉินหลง และ หลี่เหลียนเจี๋ย ก็เริ่มโรยรา แล้วโกอินเตอร์ไปพิสูจน์ตัวเองที่ฝั่งฮอลลีวู้ด บุรุษหนึ่งจึงก้าวขึ้นมาทดแทนอย่างสวยสง่า ด้วยลีลากังฟูที่แตกต่าง เพราะหนังของเขาจะอัดหนักๆใส่แรงๆออกหมัดเตะต่อยแบบเร็วๆ สาแก่ใจผู้ชมยิ่งนัก นามนั้นคือ ดอนนี่ เยน หรือ ที่ผู้เขียนติดปากในการเรียกชื่อเขาว่า เจิ้นจื่อตัน

ทว่า การขึ้นมานั้นกว่าจะติดลมบนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อแรกเริ่ม เขาก็ยังเป็นไปตามาตรฐานแอ็คชั่นสตาร์ ที่ดูดีในฉากต่อยตี แต่เล่นไม่ได้ในบทที่ต้องมีมิติ และการเล่นหนังเยอะเกินไป และแนวกังฟูที่ซ้ำแนวเกินไป ก็ทำให้เขากลายเป็นดาราหน้าช้ำ ที่มีหนังมากมาย แต่ไม่ได้มีความประทับใจอะไร จนกระทั่ง การมารับบทปรมาจารย์มวยหย่งชุน ยิปมัน ชื่อของเขาก็ทะลุฟ้า เมื่อเขาสามารถพิสูจน์ตัวเองว่า เขาสามารถเล่นหนังเชิงลึกได้ จนกระทั่งภาพของเขาคือภาพของอาจารย์ยิปมัน ไม่ต่างจากภาพของ หลี่เหลียนเจี๋ย ในภาพอาจารย์ หวงเฟยหง

หลังจากนั้น งานของเขาก็ดูดีมีคุณภาพ มีหนังที่ขายมิติเชิงลึกออกมาหลากหลาย เช่น Wu-Xia : นักฆ่าเทวดาแขนเดียว (2011) เป็นอาธิ และนั่นก็ทำให้จากดาราหน้าช้ำ มาเป็นแอ็คชั่นสตาร์อันดับหนึ่งได้ เพราะหนังของเขาเริ่มมีมิติ ที่ทำให้ต่างจากหนังเรื่องก่อนๆ และเมื่อ เจิ้นจื่อตัน มาเล่นหนังที่จับปืนดวลกับ เซียะถิงฟง (นิโคลัส สวี) ในหนังเรื่องสุดท้ายของ เฉินมู่เซิง (เบนนี่ ชาน) แต่กระนั้นก็ต้องแลกด้วยคะแนนจำนวนมาก ถ้าเทียบกับหนังฝรั่ง แต่ก็ไม่มีอะไรจะมาหยุดยั้งผู้เขียนให้ตัดสินใจพิสูจน์หนังทำเงินถล่มทลายในประเทศจีนเรื่องนี้ได้ และต้องถูกลิขสิทธ์ แล้วผลที่ออกมา คุ้มค่าทุกคะแนนที่จ่าย

ดูไปบ่นไป

อย่างที่เคยบ่นไว้นานมาแล้ว คือผู้เขียนเป็นมนุษย์ผู้เติบโตมากับหนังจีน จนกระทั่งมีความผูกพันกันบางอย่างที่ตัดกันไม่ขาด และไม่ว่าเวลานั้น จะดูอะไรอยู่ก็ตาม ถ้ามีหนังจีนที่น่าสนใจมาให้ชมก็จะละวางสิ่งอื่นลง แล้วแทรกคิวดูก่อน และเช่นเดียวกันกับคนชอบดูหนังส่วนใหญ่ เมื่อแรกเริ่มต้นการรู้จักศาสตร์และศิลป์แห่งภาพยนตร์ ความหลงไหลมักจะเริ่มต้นมาจากความตื่นเต้น ความสนุก ความมันส์ ซึ่ง อาการเหล่านั้นมันมักจะมาในงานหนังแอ็คชั่น และเช่นกันที่เมื่อความมันส์ผ่านหนังจีน แน่นอนก็คือลีลากังฟู และในชีวิตผู้เขียน ก็ผ่านลีลากังฟูของแอ็คชั่นสตาร์เหมือนกับโตมากับพวกเขาหลายคน
ซึ่ง จุดเริ่มต้นก็คงเหมือนคนดูหนังจีนทั่วไป ที่ชมชอบงานแอ็คชั่นเป็นจังหวะจะโคน แบบหนังจีนยุคเก่าของชอว์บราเธอร์ส Raging Fire (2021)  ที่ผู้เขียนมี เดวิด เจียง เป็นดาราในดวงใจ ที่เล่นเรื่องไหนตายตอนจบทุกที ต่อมาก็คงจะเป็นจังหวะแต่ดุดัน กับมาดเท่ๆของ บรู๊ซ ลี ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ในความเป็นเขา แล้วหลังจากการจากไปของ บรู๊ซ ลี โลกก็ได้พบกับกังฟูปนตลกของ แจ๊คกี้ ชาน หรือที่คนไทยเรียกกันว่า #เฉินหลง จนกระทั่งมาถึงยุค 90 ที่เป็นยุครุ่งเรื่องของหนังจีน แอ็คชั่นสตาร์ดารากังฟูที่โดดเด่นออกมาเลยคือ เจ๊ต ลี หรือที่คนไทยเรียกขานว่า #หลี่เหลียนเจี๋ย คนนี้ นี่เอง
และยุคนั้นก็มีนักแสดงแนวกังฟู ที่พุ่งขึ้นมาอย่างน่าสนใจบ้าง อย่าง #อู๋จิง ที่ยังไปได้ไม่ถึงระดับที่รุ่นพี่เคยไปได้ และอีกคนหนึ่งที่เคยประมือกับทั้ง เฉินหลง และ หลี่เหลียนเจี๋ย มาแล้ว แต่เมื่อตอนนั้นยังรับแค่บทสมทบ กระทั่งปลายยุค 90 ต่อมายังยุค 2000 ที่หนังจีนเริ่มอ่อนแรงลง ด้วยความที่งานออกมามาก จนสวนทางกับคุณภาพ และนักแสดงแม่เหล็กอย่าง เฉินหลง และ หลี่เหลียนเจี๋ย ก็เริ่มโรยรา แล้วโกอินเตอร์ไปพิสูจน์ตัวเองที่ฝั่งฮอลลีวู้ด บุรุษหนึ่งจึงก้าวขึ้นมาทดแทนอย่างสวยสง่า ด้วยลีลากังฟูที่แตกต่าง เพราะหนังของเขาจะอัดหนักๆใส่แรงๆออกหมัดเตะต่อยแบบเร็วๆ สาแก่ใจผู้ชมยิ่งนัก นามนั้นคือ ดอนนี่ เยน หรือ ที่ผู้เขียนติดปากในการเรียกชื่อเขาว่า #เจิ้นจื่อตัน
ทว่า การขึ้นมานั้นกว่าจะติดลมบนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อแรกเริ่ม เขาก็ยังเป็นไปตามาตรฐานแอ็คชั่นสตาร์ ที่ดูดีในฉากต่อยตี แต่เล่นไม่ได้ในบทที่ต้องมีมิติ และการเล่นหนังเยอะเกินไป และแนวกังฟูที่ซ้ำแนวเกินไป  Raging Fire (2021) ก็ทำให้เขากลายเป็นดาราหน้าช้ำ ที่มีหนังมากมาย แต่ไม่ได้มีความประทับใจอะไร จนกระทั่ง การมารับบทปรมาจารย์มวยหย่งชุน ยิปมัน ชื่อของเขาก็ทะลุฟ้า เมื่อเขาสามารถพิสูจน์ตัวเองว่า เขาสามารถเล่นหนังเชิงลึกได้ จนกระทั่งภาพของเขาคือภาพของอาจารย์ ยิปมัน ไม่ต่างจากภาพของ หลี่เหลียนเจี๋ย ในภาพอาจารย์ หวงเฟยหง
หลังจากนั้น งานของเขาก็ดูดีมีคุณภาพ มีหนังที่ขายมิติเชิงลึกออกมาหลากหลาย เช่น Wu-Xia : นักฆ่าเทวดาแขนเดียว (2011) เป็นอาธิ และนั่นก็ทำให้จากดาราหน้าช้ำ มาเป็นแอ็คชั่นสตาร์อันดับหนึ่งได้ เพราะหนังของเขาเริ่มมีมิติ ที่ทำให้ต่างจากหนังเรื่องก่อนๆ และเมื่อ เจิ้นจื่อตัน มาเล่นหนังที่จับปืนดวลกับ #เซียะถิงฟง (นิโคลัส สวี) ในหนังเรื่องสุดท้ายของ #เฉินมู่เซิง (เบนนี่ ชาน) แต่กระนั้นก็ต้องแลกด้วยคะแนนจำนวนมาก ถ้าเทียบกับหนังฝรั่ง แต่ก็ไม่มีอะไรจะมาหยุดยั้งผู้เขียนให้ตัดสินใจพิสูจน์หนังทำเงินถล่มทลายในประเทศจีนเรื่องนี้ได้ และต้องถูกลิขสิทธ์ แล้วผลที่ออกมา คุ้มค่าทุกคะแนนที่จ่าย #RagingFire
#เรื่องย่อ
อาบง (เจิ้นจื่อตัน) นายตำรวจฮ่องกงที่ตามจับพ่อค้ายาคนหนึ่งมาสี่ปี วันนี้ฤกษ์งามยามดีจะจับให้ได้ แต่การที่ อาบง เป็นตำรวจตงฉิน ไม่ก้มหัวให้กับอิทธิพลจากเบื้องบน เขาจึงถูกขัดขวางไม่ให้ร่วมภารกิจไปกับ อายิว (#หลี่เหลียงเหว่ย) หัวหน้า และเพื่อนสนิทของ อาบง แต่แล้ว ปฏิบัติการกวาดล้างพวกค้ายา ก็ถูกแทรกแซงโดยพวกโจรมืออาชีพ ที่ลงเอยด้วยความล้มเหลวของตำรวจ เมื่อทั้งตำรวจและพวกค้ายาตายกันเป็นเบือ และหนึ่งในนั้นก็คือ อายิว และพวกโจรที่มาปล้นทังเงินทังทั้งยาก็ไม่ใช่ใคร ก็คือ อาเหยา (เซียะถิงฟง) อดีตตำรวจที่ออกจากคุกมาพร้อมกับลูกทีม
เมื่อ อาบง ต้องมาสืบหาคนที่ทำได้ขนาดนี้ เรื่องก็เผยความสัมพันธ์ของ อาบง และ อาเหยา ที่เคยมีร่วมกัน  Raging Fire (2021) และก็ตัดสลับกันไปมาระหว่างการสืบหาตัวโจรร้าย ก็คือ อาเหยา กับการเผยให้เห็นสามเหตุที่ อาบง และ อาเหยา ต้องมาอยู่คนละด้านของกฎหมาย และจำต้องพิฆาตเพื่อนรักให้ตักษัยด้วยสาเหตุนั้น กระทั่ง เมื่อการสืบสวนเข้าใกล้ตัว อาเหยา เต็มที่ แต่กลับเป็นเหมือนเกมแมวจับหนู การปล้นครั้งสุดท้ายก็มีขึ้น แต่มีหรือที่ตำรวจฝีมือดีอย่าง อาบง จะไม่รู้ทัน การตามจับคนร้ายที่ร้ายกาจก็เริ่มขึ้น ด้วยการดวลปืนสนั่นถนน และแม้เรื่องจะไม่ได้มีอะไรมากมายซับซ้อน เพราะมีแค่นี้จริงๆ แต่ก็มันส์ระอุเดือดได้อย่างถึงใจ จนลืมริ้วรอยไปได้บ้าง
#เจตนาชัดแจ้งที่จะขายความดุเดือดทำให้บทยังมีปัญหาเรื่องการเชื่อมโยง #เมื่อมีหลายจุดที่ต่อไม่ติดประปรายทั้งเรื่อง
นี่คือการพบกันของ ดอนนี่ เยน กับ เซียะถิงฟง ในงานกำกับและเขียนบท (ร่วม) ของ เฉินมู่เซิง ผู้ล่วงลับก็น่าสนใจแล้ว โดยที่ไม่ต้องไปมองเรื่องอื่นอย่างแนวหนัง แต่เมื่อหนังตั้งท่ามาขายเรื่องของสองฝั่งกฎหมาย ที่ต่างฝ่ายต่างเคยเป็นเพื่อนรักกัน ความคาดหวังในเรื่องของความละเมียดของงานด้านบท จึงต้องมีบ้าง เพราะอย่างตัว ดอนนี่ เยน เอง ก็มีงานขายฝีมือมากขึ้นในช่วงหลัง เซียะถิงฟง ก็คือหนึ่งในนักแสดงแนวขายฝีมือที่ไม่ห่วงหล่อ เฉินมู่เซิง เองก็มีงานที่เสียงวิจารณ์ทางชื่นชมมากมาย อย่าง ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ หรือ เส้าหลิน สองใหญ่ ก็ใช่
ทว่า ถ้าว่ากันแบบไม่เกรงใจคือ บทหนังมีริ้วรอยประปรายตามรายทางตั้งแต่ต้นจนจบ หนังเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจจากหนังเรื่องอื่นมากมาย ทั้งเรื่องของตำรวจกับผู้ร้ายที่ทันกัน หรือแก๊งโจรที่อดคิดถึงหนังอย่าง Wrath Of Man ที่เพิ่งดูจบไปไม่ได้ หรือกระทั้งฉากไคลแม็กซ์สุดท้าย ที่ดวลปืนกันกลางถนนที่คนพลุกพล่าน ก็มีภาพของหนังอย่าง HEAT มาทาบทับ หรือจะเอาหนังฮ่องกงด้วยกันอย่าง Firestorm : ปิดเมืองล่าโจร ก็ยังใช่ ทำให้ตัวบทออกมาไม่ค่อยเชื่อมโยงกัน เพราะมีอะไรบางอย่างที่โผล่มาและบางอย่างหายไปแบบไม่เนียน
ด้านการเชื่อมประเด็นของอดีตที่ส่งผลปัจจุบันก็ยังไม่ค่อยติด เมื่อในบางจุดแยกแทบไม่ออกว่าอันไหนอดีตอันไหนปัจจุบัน จนต้องกดปุ่มย้อนไปดูจึงจะถึงบางอ้อ ที่สำคัญแรงจูงใจที่ทำให้ตัวร้ายออกมาร้ายโรคจิตเบอร์นี้มันไม่ชัด แม้ว่าจะเห็นวี่แววของการสร้างตัวร้ายที่น่าสงสาร ให้มีความน่าเห็นใจในชะตากรรม แต่ก็ไม่ได้ขยี้จุดนั้น และมันทำให้มองไม่เห็นความสัมพันธ์ของคนสองคนที่ลึกพอ
อีกอย่างคือตัวพระเอกก็เสนอในมุมเดียวชัดเกินไป Raging Fire (2021)  แต่อีกมุมที่จะเป็นกำแพงหนุนหลัง คือเรื่องความรักและครอบครัวกลับเล่าน้อยเกินไป ทำให้ทั้งสองคนไม่ได้ใจผู้ชม นั่นคือผู้ชมไม่มีความรู้สึกร่วมไปกับตัวละคร หรือเรียกง่ายๆคือไม่ได้เอาใจช่วยฝั่งไหนเลย แถมยังไม่พอ การใส่ประเด็นเรื่องของการเป็นตำรวจด้วยหัวใจ ยังเหมือนมาผิดเวลาเลยกลายเป็นส่วนเกินจนเผลอตลกไปเสียได้ และสุดท้ายผู้ชมกลายเป็นผู้สังเกตการณ์อย่างเต็มรูปแบบ และมันเป็นเช่นนั้นทั้งเรื่อง
แต่กระนั้น สิ่งที่หนังทำได้เยี่ยมคือความชัดเจนในสิ่งที่ต้องการมาขาย นั่นคือความมันส์ระห่ำดุเดือด เพราะนี่คือหนังแอ็คชั่น ที่ต้องบอกเลยว่า มันส์จริง ระห่ำจริง ดุเดือดสุดขั้วจริง และจัดเป็นหนึ่งในหนังแอ็คชั่นที่สนุกสมใจจริงๆ ถ้าว่ากันที่แนวหนัง ส่วนหนึ่งเพราะการวางมิติของตัวละครให้ทันกัน และแม้จะดูจงใจไปบ้างแต่ก็ได้ผล เมื่อการพยายามใส่เรื่องของการเผชิญหน้ากันของสองตัวละครเอกให้ออกมาบ่อยๆ จนเมื่อถึงเวลาที่ต้องดวลกันก็มันส์สะใจจริงๆ
หนังยังอุดมไปด้วยฉากตามสูตร ทั้งการขับรถไล่ล่า การต่อสู้กันตัวต่อตัว และแน่นอนการดวลปืนกัน ที่ดูสมจริงที่สุดถ้านับว่านี่คือหนังจีน ด้วยงานเทคนิคที่ยังมีลอยๆบ้าง เทคนิคเร่งเความเร็วเร่งเฟรมเมื่อต้องการใช้ในฉากไล่ล่าในที่ชุมชน ก็ยังดูออก แต่ ทั้งหมดทั้งมวลที่เป็นริ้วรอยเหล่านั้น ได้ถูกความสนุก ความมันส์สะใจที่สะกดผู้ชมได้ จนทำให้แม้จะมองเห็นบ้าง แต่บางอย่างก็เพิ่งมานึกออกเมื่อดูหนังจบ นั่นหมายความว่า ความมันส์ ความสนุกด้วยความที่ชัดเจนในสิ่งที่จะมาขาย ได้ทำหน้าทีได้อย่างคุ้มค่าสมราคา เมื่อหนังออกมาดูสนุกจนมองข้ามอะไรต่อมิอะไรได้เกือบหมดแบบนี้ ก็นับว่านี่คือความตั้งใจที่ได้ผลเลิศ
#การแสดงที่ยังดูขาดๆเกินเกินแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าดีที่สุดเรื่องหนึ่งถ้าว่ากันที่แนวหนัง
บ่อยครั้งที่หนังแอ็คชั่นแบบนี้ จะออกมาไม่ได้ดังใจเท่าไหร่ เพราะความตั้งใจที่มากเกินไปในการขายความตื่นเต้น จนทำให้หลงลืมงานด้านบท แต่กับเรื่องนี้ แม้ว่าตัวบทโดยรวมจะมีอะไรที่เป็นริ้วรอยมากมาย แต่ในภาพรวมยังจัดการอารมณ์ผู้ชมได้ ถึงจะทำได้แค่มอบความสนุกสมใจแต่ไม่ได้กุมหัวใจก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่บทพาไปได้บ้างคือมิติตัวละคร ที่ความจริงมันมีมิติที่หลากหลาย ตัวละครพระเอกมีครอบครัว มีภรรยาที่ตั้งท้อง กำลังจะเป็นพ่อคน ต้องมาเจอกับผู้ร้าย ที่เป็นเหมือนกับลูกศิษย์ มันน่าจะขยี้ตรงนี้ได้ หรือตัวร้ายที่ทำตามคำสั่งแล้วถูกลอยแพ ทำให้กลายเป็นความคับแค้นต่อระบบตำรวจ แล้วต้องการจะแก้แค้น จากการเป็นคนดีแล้วมาร้ายสุดขั้ว Raging Fire (2021)  แถมยังต้องมาปะทะกับเพื่อนสนิทที่เป็นเหมือนอาจารย์ มิติเหล่านี้ ตัวบทก็เล่าได้นะ แต่มันไม่ลึกพอ
และมันทำให้นักแสดงพาตัวละครไปได้ไม่ลึกพอเช่นกัน เมื่อบทมีมาให้เท่านี้ ตัวละครตำรวจของ ดอนนี่ เยน จึงดูขาดพร่องบ้างในบางมิติ ไม่ใช่เล่นไม่ดี แต่มันไม่เรียบเสมอกันทั้งเรื่อง มีบ้างที่ดูดร็อปลงจนเห็นเป็นการแสดงชัดเจน ส่วนบทผู้ร้ายของ เซียะถิงฟง กลับดูล้นไป เมื่อพยายามให้เขาได้ฉายภาพพวกผู้ร้ายโรคจิต ที่ไม่รู้ว่าผู้เขียนคิดไปเองหรือไม่ที่มีแววของ Joker อยู่ข้างในการแสดงนั้น และด้วยการที่บทมีมาให้ไม่ถึง การแสดงของ เซียะถิงฟง จึงดูล้นๆไปบ้าง จนกลายเป็นเกินไป เหมือนกับโอเวอร์แอ็คติ้งไปบางชั่วขณะ
แต่ เท่าที่เป็นเท่านี้ ก็ต้องบอกว่าสองนักแสดงก็รับผิดชอบได้ดี เท่าที่บทจะเอื้อให้แล้ว เพราะในฉากที่ต้องเผชิญหน้ากัน ปะทะคารมกัน ก็มอบความตื่นเต้นเลือดลมสูบฉีดได้ เพราะถึงแม้บทจะมีริ้วรอยมากมาย แต่ยังมีมิติอยู่บ้าง ไม่ใช่จะตั้งท่ามาขายความมันส์อย่างเดียว นั่นคือแม้จะเป็นหนังแนวแอ็คชั่นที่ต้องมันส์ให้ได้ แต่อย่างน้อยยังมีหัวใจมีจิตวิญญาณอยู่บ้าง แม้ว่าจะไม่ถึงขนาดยอดเยี่ยม แต่ก็เพียงพอให้ผู้ชมสัมผัสมิติเหล่านั้นได้ และแม้จะไม่ได้ชัดเจน แต่อย่างน้อยก็คือรับรู้ได้ และทำใจยอมรับได้เมื่ออะไรบางอย่างมันมองเห็นว่า เอ๊ะ ทำไม
ส่วนนักแสดงคนอื่นๆก็คือนักแสดงสมทบเต็มรูปแบบ เพราะนี่คือหนังของ ดอนนี่ เยน ปะทะ เซียะถิงฟง ดังนั้น เอาใครมาเล่นก็คงได้ประมาณนี้ แต่ที่ผู้เขียนรู้สึกดี เพราะไม่ได้ดูหนังจีนแบบนี้มานาน ก็คือนักแสดงรับเชิญอย่าง หลี่เหลียงเหว่ย #เยิ่นต๊ะหัว หรือนักแสดงที่คุ้นหน้าคุ้นตา แต่ไม่ได้เห็นมานานอย่าง #ถันเย่าเหวิน หรือ #หลอฮุยกวง และสำหรับหนังเรื่องนี้ ยังเป็นหนังแอ็คชั่นที่มีเพลงประกอบที่ส่งเสริมอารมณ์ได้ดี ทำให้ภาพที่เห็นตรงหน้ามีอัตราความตื่นเต้นเพิ่มขึ้น จากเพลงที่ปลุกเร้า และรวมๆแล้ว แม้การแสดงอาจไม่ใช่ถึงขนาดลึกล้ำเหนือคำบรรยาย แต่ถ้าว่ากันที่บทมันให้ได้แค่นี้ กับแนวหนังแนวนี้ เท่านี้ก็นับว่าดีที่สุดแล้ว
นานแค่ไหนก็จำไม่ได้แล้ว ที่ไม่ได้ดูหนังจีนกับพากย์ไทยที่คุ้นเคย นานแค่ไหนที่ไม่ได้ยินเสียง #น้าโต๊ะ (ปริภัณฑ์ วัชรานนท์) กับ #น้าติ่ง (สุภาพ ไชยวิสุทธิกุล) ได้เชือดเฉือนกันบนจอในหนังใหม่ กับการให้เสียงภาษาไทยโดย #พันธมิตร ที่จะว่าไป เหมือนเป็นเอกลักษณ์ของหนังจีนในบ้านเราโดยแท้ และเรื่องนี้ เมื่อเป็นหนังที่ค่อนข้างเล่นกับอารมณ์ผู้ชม มุขตลกจึงมีมาบ้าง แต่ไม่เลอะจนล้น และเป็นการให้เสียงภาษาไทยที่ยอดเยี่ยมอีกหนึ่งเรื่อง
เพราะในช่วงหลังๆ หนังจีนที่ไม่ได้เข้ามาฉายในประเทศไทย หรือฉายก็ไม่ทราบได้ มักจะมีทีมพากย์ใหม่ๆหรือไม่ ทำให้การให้เสียงไทยไม่สมูธ คือบางตัวละครก็ออกมาดี เหมาะสมกับคาแร็คเตอร์ แต่กับบางตัวละครก็สุดจะทานทน นั่นทำให้บ่อยครั้งที่ผู้เขียน หรือผู้ชมหลายๆคนหันไปฟังเสียงจีน แล้วอ่านซับเอา แต่ ด้วยความที่ภาษาจีนเป็นภาษาที่พูดเร็ว ซับวิ่งเร็ว ฟังก็ไม่รู้เรื่อง ถ้าเป็นไปได้ ผู้เขียนก็ขอเลือกดูพากย์ไทยไว้ก่อน เป็นแค่หนังจีนเท่านั้นเป็นกรณีพิเศษ และเมื่อเสียงพากย์ไทยมันออกมาสมบูรณ์แบบ นั่นก็หมายถึงผู้ชมจะสามารถเสพความบันเทิงบนจอได้เต็มที่ โดยที่ไม่ต้องมามัวละสายตาก้มอ่านซับที่วิ่งแข่งร้อยเมตรของหนังจีน ที่จะเร็วไปไหน
ทำให้หนังที่ออกมาสนุกสมใจอยู่แล้วเรื่องนี้ มีอรรถรสที่เพิ่มขึ้น เพราะดูรู้เรื่องได้โดยไม่ต้องย้อนไปอ่านซับ แต่ ความเป็นจริงหนังก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน ไม่ได้มีอะไรพลิกผัน ยังคงเป็นไปตามที่ควรจะเป็น แต่หนังกลับสะกดผู้ชมได้จัดการอารมณ์ผู้ชมอยู่ เพราะในความมันส์มันมีมิติรองรับอยู่บ้าง และการทำออกมาได้ถึงใจประมาณนี้ ก็ทำให้สองชั่วโมงสามารถดูยาวๆได้โดยไม่ลุกไปไหน Raging Fire (2021)  คือเตรียมน้ำเตรียมขนมมาไว้แล้วเปิดดู แม้จะเห็นบ้างว่า ถ้าตัดออกไปสักยี่ยิบนาที หนังจะเร้าใจได้ขนาดไหน แต่ ถ้าว่ากันที่นี่คือหนังจีน ในแนวตั้งท่ามาเป็นงานแอ็คชั่นยิงกันแบบนี้ ที่เอาจริงก็แทบไม่ได้ดูงานดีๆมานาน เรื่องนี้ทำออกมาได้ในระดับนี้ ก็นับว่านี่คืองานที่ประทับใจ ทำให้เจ็ดร้อยยี่สิบเก้าคะแนนที่แลกไปคือความคุ้มค่าทุกนาที

ดูหนังกันมั๊ย

👊👊👊
ไม่ได้ดูหนังแนวนี้มานานแล้วเหมือนกัน กับทางถนัดของหนังฮ่องกงในเรื่องราวที่เราจะเห็นอยู่บ่อยๆ เรื่องของตพรวจตงฉิน กับตำรวจกังฉิน ที่ต้องมาห้ำหั่นกันเองในเรื่องที่มีทั้งแอ็คชั่น และดราม่าปูมหลังความสัมพันธ์เก่าก่อน ซึ่งเรื่องนี้ก็หนีไม่พ้นเนื้อเรื่องแบบนี้ แต่สิ่งที่ดึงดูดให้คนดูอยากดูเรื่องนี้มากๆ คือ การที่เอา ดอนนี่เยน มาซัดกับ เซียะถิงฟง นี่แหละ แถมเรื่องนี้ยังเป็นการกำกับครั้งสุดท้ายของ เบนนี่ ชาน ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตอีกด้วย
👊👊👊
เรื่องราวของ “เฉินบง” (ดอนนี เยน) สุดยอดตำรวจมือปราบระดับตำนานที่ต้องมารับมือกับคดีวินาศกรรมเดือดที่เป็นอันตรายกับทุกชีวิตในฮ่องกง ซึ่งผู้ที่เป็นตัวบงการทั้งหมดไม่ใช่ใครแต่กลับเป็นอดีตลูกศิษย์มือหนึ่งของเขา “หงอ” (เซียะถิงฟง) ชายหนุ่มซึ่งชีวิตเต็มไปด้วยโทสะและแรงอาฆาตแค้นที่พร้อมสั่งฆ่าล้างแค้นทุกคนที่เป็นตัวการทำให้เขาต้องเข้าคุก ไม่ว่าใครหน้าไหนแม้กระทั่งคน ๆ นั้นจะเคยเป็นอาจารย์ของเขาก็ตาม!
👊👊👊
อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่ามันคือหนังที่เป็นเรื่องราวของ ตำรวจดี และตำรวจเลว ที่ต้องมาห้ำหั่นกัน และทั้งสองฝ่ายก็มีปูมหลังความสัมพันธ์ระหว่างกัน ซึ่งมันก็ออกจะค่อนข้างเดิมๆ ไม่แปลกใหม่ จนบางเพจที่รีวิวบอกว่าเนื้อหาแย่ด้วยซ้ำ แต่ผมกลับมองอีกมุมหนึ่งที่เป็นมุมมองส่วนตัว  Raging Fire (2021) ซึ่งผมเองคิดว่าหนังแนวนี้คือหนังแนวที่วงการหนังฮ่องกงถนัดที่สุดพอๆ กับหนังแนวเจ้าพ่อมาเฟีย หรือหนังแก๊งสเตอร์ด้วย ซึ่งแต่ละเรื่องที่ออกมาในแนวนี้ อาจจะยอมรับว่าเนื้อเรื่องมันคงไม่ได้ฉีกไปจากนี้มากนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าหนังแนวนี้ก็ต้องฮ่องกงเท่านั้นที่ทำออกมาได้สนุกและมันส์จริงๆ
👊👊👊
หนังอาจจะเกริ่นเรื่องราวค่อนข้างยาว และตัวความยาวหนังคือ สองชั่วโมงกับอีกไม่กี่วินาที ซึ่งถามว่าหนังทำไมมันยาวจัง เพราะหนังปูเรื่องราวของคนสองฝ่ายไดค่อนข้างเจาะลึก และแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองตัวเอก และค่อยๆ เล่าจนมาเปิดเผยจุดแตกหัก ซึ่งในการเล่าเรื่องตลอดทาง หนังจะแทรกฉากแอ็คชั่นเข้าไปเพื่อให้ความสนุกเข้มข้นมันมากขึ้นและไม่น่าเบื่อกับการดูเรื่องราวแต่ปางก่อนของตัวละครเท่านั้น
👊👊👊
ฉากแอ็คชั่นมีสองรูปแบบหลักๆ คือการต่อสู้ด้วยมือซึ่งแนวนี้!  ดอนนี่เยน เป็นตัวชูโรงแน่นอน แต่ เซียะถิงฟงก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน ยิ่งฉากไคลแม็กซ์ที่สองคนสูกันท้ายเรื่องดูกันยาวๆ เลยทีเดียว แล้วในฉากท้ายเรื่องมันมีฉากที่ ดอนนี่เยน ถือกระทองตำรวจแบบที่ยืดได้แล้วตั้งท่าสู้ มันทำให้เหมือนย้อนกลับไปนึกถึงหนังเรื่อง SPL: Kill Zone ที่ ดอนนี่เยน เล่นตอนหนุ่มๆ เลย ส่วนฉากแอ็คชั่นอีกรูปแบบคือฉากไล่ล่า ผมชอบทุกฉาก!  ไม่ว่าจะขับรถไล่ล่า หรือฉากท้ายเรื่องที่ไล่ล่ากันใจกลางจิมซาจุ่ย เรียกว่าโคตรระทึก
👊👊👊
ตัวนักแสดง ดอนนี่เยน กับ เซียะถิงฟง ต้องเด่นสุดอยู่แล้ว เพราะหนังเรื่องนี้ชี้ไปที่คนแค่สองคนนี้ ซึ่ง ดอนนี่เยน ถอดชุดกังฟูของ ยิปมัน ซะทีซึ่งแนวนี้เป็นแนวที่เขาเล่นได้โคตรเท่มาตอนหนุ่มๆ พอแก่ตัวลงอาจจะไม่ได้คล่องแคล่วดุดันเท่าเดิม แต่ก็ยังดูแข็งแกร่งอยู่ดี ส่วน เซียะถิงฟง เหมือนไม่เห็นหน้าบนจอหนังค่อนข้างนาน กลับมาอีกทีดูมีความเป็นผู้ใหญ่ นิ่งและบทนี้ดูโหดมาก แล้วพอทั้งสองคนมาซัดกัน โอ้โห ไม่ต้องพูดเลย ต้องไปดูเอง และเรื่องนี้มีพี่ ติงลี่ หลี่เหลี่ยงเหว่ย และเยิ่นต๊ะหัว มารับเชิญด้วย
👊👊👊
ความเห็นส่วนตัว ถึงตัวเนื้อหาของหนังมาอาจจะไม่ได้ใหม่สดมากมาย บทอาจจะเดิมๆ เหมือนหลายๆ เรื่องด้วยซ้ำ แต่ผมกลับชอบมาก เพราะด้วยความเป็นแฟนตัวยงของ ดอนนี่เยน บวกกับความสนุกเข้มข้นของหนังด้วยแล้ว สำหรับผมผมว่าห้ามพลาดเลย ใครที่ชอบดูหนังฮ่องกงแนวนี้ ต้องดูครับ ไม่ได้ฉายโรง

ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Kung Fu Games (2024)

New York Ninja (2021)

Exploding Sun (2013) อุบัติการณ์หลุดห้วงจักรวาล

Kung Fury (2015) กัง ฟูรี่ ยอดตำรวจพันธุ์พระกาฬ

Reincarnation Land (2022) ตำนานลั่วหยาง อาณาจักรแห่งหยินหยาง

แสดงความคิดเห็น

ดูหนังออนไลน์ ดูซีรี่ย์ฟรี เรื่องอื่นๆ

ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่2024 moviehd24 ดูหนังเต็มเรื่อง หนังHD ดูหนังฟรีไม่กระตุก