Paris Texas (1984)

Paris Texas (1984)

รีวิวหนัง

Paris Texas Documentary Club

ใครได้ดู  คงยากจะปฏิเสธว่า “ภาพ” คือสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ตราตรึงติดค้างในความรู้สึกเรายาวนาน และมันคือเหตุผลที่ทำให้ “ร็อบบี้ มึลเลอร์” เป็นหนึ่งในผู้กำกับภาพที่โลกภาพยนตร์รักที่สุด
.
มึลเลอร์เป็นคนดัชต์ แต่เดินทางตามพ่อแม่ไปหลากหลายประเทศตั้งแต่ยังเด็ก “เมื่อมาทำหนัง ผมจึงทำงานกับคนอย่าง วิม เวนเดอร์ส และ จิม จาร์มุช ได้อย่างเข้าขา พวกเขาเป็นคนทำหนังอิสระ ไม่มีเงิน ทำหนังด้วยการเดินทางและการค้นหา ส่วนผมไม่มีปัญหากับการต้องเดินทางไกลลำบากลำบนตามท้องถนนหลายเดือน ต้องไปสู่สถานที่ไม่คุ้นเคยแปลกใหม่ และพบเจอคนแปลกหน้าตลอดเวลา ผมซึมซับความรู้สึกของชีวิตแบบนั้นได้ดี ผมรู้ดีว่ามันทำให้เราเป็นคนที่มองโลกแบบไหน”
.
จึงไม่แปลกที่เวนเดอร์สเลือกมึลเลอร์มากำกับภาพให้แทบทุกเรื่อง และทำงานด้วยกันโดยแทบไม่ต้องอธิบายอะไรเลย มึลเลอร์อ่านบทแล้วเข้าใจได้ทันทีว่าผู้กำกับของเขาต้องการงานภาพแบบใด
.
และใน   “ความสด” นั้นก้าวถึงขีดสุด เมื่อทั้งคู่เดินทางหาแรงบันดาลใจในเท็กซัสและสหรัฐอเมริกาด้วยกัน โดยตัดสินใจว่า จะไม่มีการวางแผนล่วงหน้าทั้งสิ้นว่าแต่ละวันจะถ่ายอย่างไร แต่ใช้วิธีปล่อยให้การแสดงและโลเคชั่นเป็นตัวกำหนดว่า ควรตั้งกล้องตรงไหน, ต้องถ่ายอะไรเพื่อจะเก็บ “ความเป็นอเมริกา” ที่ปรากฏในทิวทัศน์ตรงหน้าให้ได้ตามจริง พร้อมๆ กับใช้แสงธรรมชาติและแสงจริงเท่าที่มีให้เต็มที่ เพื่อให้หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วย “ชีวิต”
.
“เวลาผมเลือกว่าจะถ่ายให้หนังเรื่องไหน สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผมคือความรู้สึกของมนุษย์” มึลเลอร์กล่าว “ผมชอบทำงานกับผู้กำกับที่อยากให้หนังของเขาสัมผัสคนดู อยากให้คนดูยังพูดคุยถึงมันแม้เมื่อหนังจบลงไปแล้ว ผมสนใจหนังที่ต้องใช้เวลาในการค่อยๆ แทรกซึมลงสู่จิตใจของผู้ชม …หนังที่กล้าเสี่ยงต่อการเปิดเผยความรู้สึกอันแท้จริงระหว่างมนุษย์กับมนุษย์” ❤️

เดชา ปิยะวัฒน์กูล

10 กว่าปีก่อนผมดูสัตว์ประหลาดของเจ้ยในโรง แอบได้ยิน(น่าจะเป็น)นักเรียนฟิล์มด่าหนังสาดเสียเทเสียว่าห่วยอย่างโน้นอย่างนี้ ผมเห็นอะไรอย่างนี้บ่อยครั้งที่คนดูด่าหนังระดับนี้ว่าเลวทรามต่างๆนานาเพียงเพราะว่าตนเองไม่ชอบใจผมเสียดายแทนพวกเขา อยากจะบอกพวกเขาว่าการที่เราเข้าไม่ถึงหนังไม่ได้แปลว่าหนังมันแย่ ไม่ควรลองอดทนดูมันวันนี้ผมก็ได้ยินอะไรเช่นนี้อีก อยากจะจับเด็กคนนั้นมานั่งอธิบายให้ฟังว่าหนังเรื่องนี้ทรงพลังอย่างไร แล้วจะยิ่งทรงพลังมากขึ้นเพียงไรถ้าเขาได้มาดูมันอีกที 30 ปีข้างหน้า เหมือนกับที่ผมได้มาดูมันในวันนี้

นี่ไม่ใช่หนังที่เราจะวิจารณ์มันได้ง่ายๆ ไม่ควรแม้แต่จะไปให้ดาวมัน เนื่องด้วยมันคือตำนาน มันคือประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่งของศิลปะภาพยนตร์ ทุกบล็อกกิ้ง ทุกเฟรมมิ่ง ทุก camera works ทุกโมเมนท์การแสดง ทุกเสียงกีต้าร์ ผ่านการศึกษา ตรวจสอบ วิเคราะห์ทางศิลปะมาครั้งแล้วครั้งเล่า
Paris, Texas คือหนึ่งในภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศตวรรษที่ 20มีหนังนับพันเรื่องที่ทำเรื่องเกี่ยวกับความสูญเสีย ที่ตามหาความรักที่หลงทาง พล็อตพ่อแม่เลิกกันแล้วทิ้งลูกไว้นี่ใช้ซ้ำมาแล้วไม่รู้กี่ร้อยครั้ง แต่นี่เป็นเรื่องเดียวที่คุณจะไม่มีวันลืม

คุณจะรู้ว่าซีนนั้นของ In the mood for love ของหว่องกาไวได้รับแรงบันดาลใจจากอะไร คุณจะนึกขึ้นได้ว่า mise-en-scene ของฉากนั้นใน Blue velvet ของ David Lynch นี่มาจากไหน คุณจะเข้าใจว่าทำไม Sam Mendes หรือ Wes Anderson ถึงบอกว่า Wenders นั้นเป็นครู
นี่คือภาพยนตร์ที่เพราะมีมันอยู่ในโลกใบนี้ จึงมีภาพยนตร์อีกมหาศาลเป็นอย่างที่มันเป็น มีงานศิลปะอีกมากมายที่ตามแรงบันดาลใจมันมา ไล่ตั้งแต่ U2 ไปจนถึง Nirvana ตั้งแต่ Street art photography

ไปจนถึง graphic แบบ raygun มีแม้กระทั่งวงดนตรีที่ชื่อ Travis และ Texas ที่ตั้งชื่อวงจากหนังเรื่องนี้ผมจึงไม่อยากวิจารณ์อะไรไปมากกว่านี้ ผมอยากบอกแค่ว่า Paris, Texas คือภาพยนตร์เรื่องเดียวที่ให้ภาพความรักยิ่งใหญ่ที่สุดของสามีภรรยาคู่หนึ่ง โดยที่ทั้งเรื่องทั้งสองคนไม่ต้องสัมผัสกันแม้แต่วินาทีเดียว มันคือภาพยนตร์ที่ให้ภาพการสูญเสียครั้งแล้วครั้งเล่าที่งดงามที่สุด เท่าที่การสูญเสียของมนุษย์คนหนึ่งพึงจะมีได้ และนี่คือหนึ่งในภาพยนตร์ที่จบดีที่สุด เท่าที่ผมเคยดูมาในชีวิตไปดูซะ แล้วคุณจะรู้ว่าไอ้เสื้อแดงเสื้อดำในประเทศเล็กๆประเทศหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี่ ทำเสียของมาก 5555

ผู้กำกับ

วิม เว็นเดิร์ส

บริษัท ค่ายหนัง

Wim Wenders

นักแสดง

Road Movies Filmproduktion GmbH
Argos Films S.A.

โปสเตอร์หนัง

เรื่องย่อ

ดูหนัง  เรื่องนี้หมุนรอบ Travis Henderson (Stanton) ความจำเสื่อมที่กระเซิงซึ่งเดินออกจากทะเลทรายโมฮาวีหลังจากห่างหายไปสี่ปี เขาถูกพี่ชายของเขา วอลต์ (สต็อคเวลล์) รับเลี้ยงไว้ และในที่สุดก็กลับมารวมตัวกับฮันเตอร์ ลูกชายคนเล็กของเขา (คาร์สัน) อีกครั้ง อย่างไรก็ตามอดีตยังคงหลอกหลอนเทรวิสโดยเฉพาะความสัมพันธ์ของเขากับเจน ภรรยาที่ห่างเหินกัน (คินสกี้)

การเล่าเรื่องจะค่อยๆ เปิดเผย โดยรวบรวมความทรงจำที่แตกร้าวของ Travis เข้าด้วยกันผ่านเหตุการณ์ในอดีตและลำดับความฝัน เราได้เรียนรู้ว่าเขามีชีวิตสมรสที่สับสนอลหม่านกับเจนซึ่งเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาและความรุนแรง ในที่สุดเขาก็หนีไปโดยทิ้งเจนและฮันเตอร์ไว้ข้างหลัง ด้วยความรู้สึกผิดและความปรารถนาที่จะไถ่บาปเทรวิสจึงออกตามหาเจนซึ่งตอนนี้ทำงานเป็นนักแสดงโชว์ในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในเท็กซัส การพบกันใหม่ของพวกเขาเต็มไปด้วยความตึงเครียดและอารมณ์ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขแต่ยังบ่งบอกถึงความหวังที่ริบหรี่ในการคืนดี ดูหนังออนไลน์

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Last Resort (2023)

How to Succeed at Losing (2023) ครั้งนี้ขอกลับมาปัง

Paths of Glory (1957)

Quo Vadis (1951)

The Bricklayer (2023) เดอะ บลิคเลเยอร์