เรื่องย่อ : Mission Impossible 6 (2018) มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล 6 ฟอลล์เอาท์ ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ ดูหนังHD ดูหนังฟรี MovieHD24 หนัง2024 หนังออนไลน์ Full HD
ดูหนังออนไลน์ Mission Impossible 6 (2018) มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล 6 ฟอลล์เอาท์ เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นสายลับอเมริกันปี 2018 ที่เขียนบทและกำกับโดยคริสโตเฟอร์ แมคควอรี ภาคต่อของ Mission: Impossible – Rogue Nation (2015) เป็นภาคที่หกของซีรีส์ภาพยนตร์ Mission: Impossible นักแสดงทั้งมวลประกอบด้วย ทอม ครูซ, เฮนรี คาวิลล์, วิง เรมส์, ไซมอน เพ็กก์, รีเบคก้า เฟอร์กูสัน, ฌอน แฮร์ริส, แองเจล่า บาสเซตต์, วาเนสซา เคอร์บี, มิเชล โมนาแกน และอเล็ก บอลด์วิน เรื่องราวเกิดขึ้นสองปีหลังจากเหตุการณ์ใน Rogue Nation Fallout เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสายลับ Impossible Missions Force อีธาน ฮันท์ (ครูซ) และทีมของเขาในความพยายามป้องกันการโจมตีด้วยนิวเคลียร์โดยผู้ก่อการร้าย Solomon Lane และ John Lark ผู้ก่อการร้ายหัวรุนแรงลึกลับ
การพัฒนาภาคต่อของ Rogue Nation เริ่มต้นก่อนที่จะออกฉายในปี 2015 การกลับมาของ McQuarrie ถือเป็นครั้งแรกที่ใครก็ตามจะกำกับภาพยนตร์มากกว่าหนึ่งเรื่องในซีรีส์นี้ เขาตั้งใจให้ Fallout สำรวจตัวละครและอารมณ์ของอีธานได้ดีขึ้น โดยเชื่อว่ารายการก่อนหน้านี้ทำให้เขากลายเป็นปริศนาสำหรับผู้ชม และทดสอบขีดจำกัดความสามารถ ศีลธรรม และความสัมพันธ์ส่วนตัวของอีธาน สคริปต์มีความยาวเพียง 33 หน้า ซึ่งทำหน้าที่เป็นโครงร่างที่ขับเคลื่อนโดยสถานที่ถ่ายทำที่น่าสนใจซึ่งทางทีมงานระบุเป็นหลัก
และอนุญาตให้มีการแสดงด้นสดและการเปลี่ยนแปลงฉากที่สำคัญตลอดการถ่ายทำ การถ่ายภาพหลักเริ่มต้นในเดือนเมษายน พ.ศ. 2560 ด้วยงบประมาณ 178–180 ล้านดอลลาร์ในปารีส ดำเนินการต่อไปยังลอนดอน นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ภายในต้นปี พ.ศ. 2561 การถ่ายทำล่าช้าไปหลายเดือนหลังจากที่ครูซหักข้อเท้าระหว่าง การแสดงผาดโผนทำให้งบประมาณเพิ่มขึ้นอย่างมากในขณะที่ทีมงานกำลังรอการกลับมาของเขา แต่ยังเปิดโอกาสให้แม็คควอรีพัฒนาฉากที่ยังสร้างไม่เสร็จในบทต่อไปอีกด้วย
Mission: Impossible – Fallout เปิดตัวครั้งแรกในปารีสเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 และเข้าฉายในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชม โดยเฉพาะฉากที่โดดเด่น และได้รับรางวัลหลายรางวัล นอกจากนี้ยังทำลายสถิติบ็อกซ์ออฟฟิศสำหรับซีรีส์นี้และทำรายได้ 791.1 ล้านเหรียญทั่วโลก ทำให้เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในซีรีส์ Mission: Impossible และเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 8 ประจำปี 2018 ภาคต่อ Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One เปิดตัวในปี 2023 และภาพยนตร์เรื่องที่แปดอยู่ระหว่างการพัฒนา
สองปีหลังจากการจับกุมเจ้าหน้าที่อันธพาลชาวอังกฤษ โซโลมอน เลน เครือข่ายผู้ก่อการร้ายของเขา ซินดิเคท ได้จัดระเบียบใหม่เป็นอัครสาวก ซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้ายรับจ้าง พวกเขาได้รับคัดเลือกโดยกลุ่มหัวรุนแรง จอห์น ลาร์ก เพื่อซื้อแกนพลูโทเนียม 3 แกนสำหรับวางระเบิดนิวเคลียร์ ที่เขาจะใช้ทำลายระเบียบโลกที่มีอยู่
อีธาน ฮันท์ เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการ Impossible Missions Force (IMF) ล้มเหลวในการกู้แกนกลางในกรุงเบอร์ลิน หลังจากที่อัครสาวกจับลูเธอร์ สติกเคลล์ เพื่อนร่วมทีมของเขาเป็นตัวประกัน อีธานเลือกที่จะช่วยลูเทอร์ แต่อัครสาวกขโมยแกนกลางไป Ethan, Stickell และเพื่อนร่วมทีม Benji Dunn จับ Nils Delbruuk ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธนิวเคลียร์ของ Lark
และหลอกให้เขาจัดเตรียมแผนผังสำหรับระเบิดของ Lark เอริกา สโลน ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลาง (CIA) เผชิญหน้ากับอีธานและอลัน ฮันลีย์ ผู้อำนวยการ IMF เกี่ยวกับความล้มเหลวของทีมในการกู้คืนพลูโตเนียม เธอยืนกรานที่จะส่งตัวแทนของเธอ ออกัสต์ วอล์กเกอร์ ไปพร้อมกับพวกเขาเพื่อค้นหาแกนกลาง โดยสั่งให้เขาพิจารณาใครก็ตามที่สามารถใช้จ่ายได้ในกระบวนการนี้
อีธานและวอล์คเกอร์แทรกซึมเข้าไปในไนต์คลับแห่งหนึ่งในปารีส โดยที่ลาร์คจะซื้อแกนจากนายหน้าซื้อขายอาวุธ อลันนา มิตโซโพลิส พวกเขาเข้าใกล้ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือน Lark แต่หลังจากการต่อสู้อย่างดุเดือดในห้องน้ำชาย อีธานเกือบถูกฆ่าตายจนกระทั่งอิลซา เฟาสท์ ซึ่งเป็นพันธมิตร MI6 ของเขาเข้ามาแทรกแซงและสังหารลาร์ค โดยสมมติว่าตัวตนของ Lark นั้น Ethan ได้พบกับ Mitsopolis ซึ่งมอบแกนหนึ่งแก่เขา โดยอธิบายว่า Apostles จะช่วยคนอื่นๆ หลังจากที่เขาโจมตีขบวนรถตำรวจและปลดปล่อยนักโทษ Lane
อีธานเบี่ยงเบนไปจากแผนและพุ่งชนรถบรรทุกที่บรรทุกเลนเข้าไปในแม่น้ำแซนเพื่อปกป้องตำรวจที่คุ้มกันจากทหารรับจ้างของมิตโซโปลิส เขานำตำรวจออกไปในขณะที่ทีมของเขายึดเลนและขัดขวางความพยายามลอบสังหารเลนโดยอิลซา เมื่อพบกับอีธาน อิลซาอธิบายว่า MI6 มอบหมายให้เธอสังหารเลนเพื่อป้องกันไม่ให้รัฐบาลต่างประเทศสอบปากคำเขาและพิสูจน์ความภักดีของเธอหลังจากทำงานนอกเครื่องแบบในฐานะสายลับซินดิเคท เธอถูกส่งมาเพื่อปกป้องลาร์คและดูแลเลนให้หลบหนี แต่ไม่เชื่อฟังเพื่อปกป้องอีธาน ในขณะเดียวกัน วอล์คเกอร์ให้หลักฐานแก่สโลนโดยบอกว่าอีธานคือลาร์คตัวจริง
ทีมงานนำเลนไปที่ลอนดอนเพื่อแลกเปลี่ยน แต่ฮันลีย์เผชิญหน้ากับพวกเขาพร้อมหลักฐานของวอล์คเกอร์ ทีมหลอกให้วอล์คเกอร์ยอมรับว่าเขาคือลาร์ค ส่วนสโลนส่งหน่วย CIA ไปจับกุมพวกเขาทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เหล่าอัครสาวกเข้าแทรกแซงและในการดวลปืนที่ตามมาวอล์คเกอร์ก็สังหารฮันลีย์และหนีไปข้างเลน อีธานไล่ตามจนกระทั่งวอล์คเกอร์เปิดเผยว่าเขาพบจูเลีย อดีตภรรยาของอีธานที่ถูกส่งไปซ่อนตัวเพื่อปกป้องเธอจากศัตรูของเขา และคุกคามชีวิตของเธอ วอล์คเกอร์ก็ไม่สามารถฆ่าอีธานได้เช่นกัน เนื่องจากเลนกำลังยึดแกนกลางที่เหลือไว้จนกว่า เขาแก้แค้นอีธาน
อีธาน เบนจิ ลูเธอร์ และอิลซาติดตามเลนและวอล์คเกอร์ไปยังค่ายแพทย์ใกล้กับธารน้ำแข็ง Siachen ในแคชเมียร์ เพื่อรักษาไข้ทรพิษที่อัครสาวกเป็นผู้จัดเตรียม อิลซาอนุมานได้ว่าเลนจะใช้ระเบิดเพื่อฉายรังสีแหล่งน้ำของประเทศอินเดีย ปากีสถาน และจีน ซึ่งทำให้ผู้คนหลายพันล้านคนอดอยาก เบนจิอธิบายว่าระเบิดทำงานเป็นวงจร ซึ่งหมายความว่าการปลดระเบิดลูกหนึ่งจะทำให้เกิดการระเบิดอีกลูกหนึ่ง
เว้นแต่ว่าตัวจุดชนวนจะถูกปิดการใช้งานในครั้งแรก ที่แคมป์ อีธานพบว่าจูเลียและสามีใหม่ของเธอเป็นผู้นำการรักษาพยาบาลตามคำขอของผู้บริจาคที่ไม่เปิดเผยนาม การนับถอยหลังการวางระเบิดติดอาวุธแล้ววอล์คเกอร์ก็ออกเดินทางพร้อมกับผู้จุดชนวนโดยเฮลิคอปเตอร์ ขณะที่เลนยังคงอยู่ข้างหลังเพื่อตาย ลูเทอร์และจูเลียร่วมมือกันเพื่อกลบเกลื่อนระเบิดลูกหนึ่ง ขณะที่อิลซาและเบนจิปราบเลนและเริ่มปลดชนวนระเบิดลูกที่สอง
ในขณะเดียวกัน อีธานจี้เฮลิคอปเตอร์และแกะของวอล์คเกอร์ ทำให้ทั้งคู่ชนกันบนหน้าผาและมีเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งห้อยอยู่เหนือขอบด้วยตะขอบรรทุกสินค้า อีธานปล่อยตะขอ ซึ่งแทงและสังหารวอล์คเกอร์ ก่อนที่จะปลดอาวุธของผู้จุดชนวนโดยเหลือเวลาอีกหนึ่งวินาที อีธานที่ได้รับบาดเจ็บได้รับการพักฟื้นที่ค่ายแพทย์โดยสโลน ซึ่งได้เลนกลับไปที่ MI6 และปล่อยตัวอิลซาออกไป อีธานขอโทษจูเลียสำหรับอันตรายที่เขาทำให้เธอต้องเผชิญ แต่เธอก็แสดงความขอบคุณสำหรับความพยายามของเขาในการปกป้องโลกและชีวิตใหม่ของเธอ อิลซาและอีธานแบ่งปันช่วงเวลาร่วมกันในขณะที่สโลนบรรยายยกย่องเขาที่ใส่ใจทุกชีวิต
คริสโตเฟอร์ แม็คควอรี่
Mission Impossible 6 (2018) มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล 6 ฟอลล์เอาท์ (Christopher McQuarrie, 2018)
คะแนน B+
“ฉากแอคชั่นดีงามและไหลลื่นสนุกสนานเพลิดเพลิน” Mission: Impossible น่าจะเป็นภาพยนตร์แฟรนไชส์แอคชั่นที่ดีที่สุด และมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับจากภาค 1 จนถึงภาค 6 เนื้อหาของตัวหนังยังคงมีพัฒนารวมทั้งฉากแอคชั่นที่ถูกออกแบบมาอย่างดี
สนองความมันส์และชวนลุ้นระทึกได้ตลอดเวลา แม้ว่าเราจะรู้ทั้งรู้ว่ายังไงตัวละครเอกก็คงรอดพ้นจากอันตรายต่างๆมากมายไปได้อย่างแน่นอน ถึงกระนั้น ‘Mission: Impossible – Fallout’ ก็ยังคงพยายามพาเราไปมีส่วนร่วมกับภารกิจเสี่ยงตายหรือภารกิจที่ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างลุ้นระทึกจนวินาทีสุดท้ายอย่างปฏิเสธไม่ได้ สิ่งที่ดีมากๆของงานภาคนี้ คือการพยายามทำให้ฉากที่เป็นไปไม่ได้ในเรื่องดูมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้จริง หนังพยายามรับผิดชอบต่อเหตุการณ์หรือฉากแอคชั่นให้อยู่ในความน่าจะเป็นของโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ ทำให้เราสามารถรับชมภาพยนตร์ได้แบบไหลลื่นและเพลิดเพลินไปกับเหตุการณ์ต่างๆภายในเรื่อง
และแม้ว่าภาพรวมทั้งหมดจะถูกออกแบบมาเพื่อให้ตัวละคร ‘อีธาน ฮันต์(ทอม ครูซ)’ โชว์เหนือเหมือนภาคก่อนๆ แต่ตัวละครสมทบต่างๆยังคงมีบทบาทและมีช่วงเวลาที่น่าจดจำสลับกันไป สิ่งที่ต้องชื่นชมคือตัว ‘ทอม ครูซ’ ด้วยวัยขนาดนี้ยังคงดูดีและปราดเปรียว มีแรงแสดงฉากแอคชั่น ขับมอเตอร์ไซค์เสี่ยงตาย ขับเฮลิคอปเตอร์ กระโดดร่ม ปีนหน้าผา เล่นเองหมดไม่ต้องมีสตั้นแมน
คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘ทอม ครูซ’ คือนักแสดงแอคชั่นที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกภาพยนตร์อย่างไม่ต้องสงสัย และเราน่าจะได้ดู ‘Mission: Impossible’ ต่อไปอีกอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม พล็อตเรื่องทั้งหมดของภาคนี้ไม่เกินคาดเดาและสามารถคาดการณ์ได้ตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งเป็นอะไรที่อาจจะไปลดทอนความสนุกสนานลงไปบ้าง แต่ด้วยการตัดสลับฉากที่ชวนสนุกและไม่ติดขัดน่าติดตามทำให้ฉากที่ไม่เกินคาดเดาสามารถลงตัวพอเหมาะพอดีและเข้าใจได้สำหรับภาพยนตร์แนวแอคชั่น
ดังนั้น ‘Mission: Impossible – Fallout’ เป็นภาพยนตร์แนวแอคชั่นที่มีคุณภาพงานที่ดีและมีฉากแอคชั่นสนุกสนาน พร้อมกันนี้ยังสามารถส่งมอบและตอบสนองความเพลิดเพลินด้วยฉากเวอร์วังที่พิถีพิถันใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ ผนวกด้วยความลื่นไหลของเหล่านักแสดงนำ และองค์ประกอบต่างๆที่ดูลงตัวสมน้ำสมเนื้อ ตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมง 27 นาที จึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าจะกลายเป็นภาพยนตร์แอคชั่นที่ดีที่สุดของปีนี้ได้อย่างสบายๆ
Mission Impossible 6 (2018) มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล 6 ฟอลล์เอาท์
( 9/10 )
” สุดยอดหนังแอ๊กชั่น-สายลับของปีนี้ ”
( เรื่องย่อ )
– ทอม ครูซ กลับมาทำภารกิจเสี่ยงตายอีกครั้ง ในหนังภาคต่อหลังเหตุการณ์โค่นซินดิเคตและจับกุมหัวโจกขององค์กร ทีมสายลับ อีธาน ฮันต์ ( ทอม ครูซ ) ก็ทำภารกิจผิดพลาดจนทำให้พลูโตเนียมหายไป และถูกกล่าวหาว่าเป็นคนทรยศต่อองค์กรและประเทศชาติ ดังนั้น ฮันต์ จึงต้องพิสูจน์ความจริงและความถูกต้องของตนเอง โดยต้องปฏิบัติการท้านรกอีกคำรบ กับภารกิจที่ไม่มีทางเป็นไปได้ในครั้งนี้
( รีวิว )
– นี่คือ สุดยอดหนังแอ๊กชั่น-สายลับของปีนี้ คงไม่ใช่เป็นคำกล่าวที่เกินความจริงนัก แต่ด้วยหนังมีองค์ประกอบที่ดีพร้อม เลยทำให้หนังมีทิศทางบวกต่อคนดูอย่างน่าชื่นชม
และเป็นเวลานานมากแล้ว ที่ผมไม่ได้ดูหนังแล้วรู้สึก ” เกร็ง ” และลุ้นจนจิกเบาะได้ขนาดนี้ แต่หนังเรื่องนี้กลับทำได้ และพาร์ทแอ๊กชั่นก็จัดเต็มจนหายใจหายคอกันไม่ทั่วท้องเลยจริงๆ
– แต่ที่ผมเกริ่นมา นี่เป็นเพียงแค่ข้อดีบางส่วนเท่านั้น สิ่งอื่นๆมีให้ควรชื่นชมในทางบวกอีกเยอะ ดังนั้นผมจะยกตัวอย่างของข้อดีกันมาก่อนแล้วกัน
– อย่างแรกเลยที่ผมชอบ คือ ” บท ” เป็นอะไรที่ดีมาก เพราะว่าไม่สามารถคาดเดาหนังได้เลยว่าจะไปในทิศทางไหน และมีพล็อตที่หักเหลี่ยมเฉือนคมตามสไตล์หนังสายลับ และพอมาในภาคนี้ ดันเล่าเรื่องได้ลงตัว จนทำให้คนดูคาดเดาทิศทางของหนังไม่ได้จริงๆ จนทำให้ตื่นเต้นและลุ้นไปกับบทที่เขียนออกมาดีจนน่าชื่นชม
– อย่างที่สอง พาร์ทแอ๊กชั่นจัดเต็มจริงๆ และลุ้นทุกครั้งที่ได้ดู ทอม ครูซ พาคนดูไปร่วมเสี่ยงตายกับเขา ตั้งแต่ภาคพื้นดินยันท้องฟ้า ซึ่งด้วยทุกฉาก เจ้าตัวลงทุนแสดงเองเกือบทั้งหมด และบวกกับความที่ใช้ซีจีในภาคนี้แทบจะน้อยมาก คนดูจึงได้รับผลประโยชน์เต็มๆ ทั้งฉากแอ๊กชั่นที่ดูเรียล และลุ้น บวกไปกับฉากที่ต้องเกร็งและเสียวท้องน้อยหลายๆฉาก ซึ่งแน่นอนว่าตัวอย่างยังกั๊กไว้ เพื่อให้คนดูต้องไปลุ้นกับหนังเองอีกที
– อย่างที่สาม ตัวละครทุกตัวล้วนมีเสน่ห์น่าติดตาม มาในภาคนี้ไม่ใช่แค่ อีธาน ฮันต์ ที่เด่นแค่คนเดียวเหมือนกับภาคก่อนๆ แต่ด้วยบทที่กระจายให้ทุกคน จนมีความเด่นชัดกว่าทุกภาค บวกกับสถานการณ์ที่ลุ้นและเอาใจช่วยกับทีมสายลับในเรื่อง ล้วนแล้วแต่อินไปได้กับตัวละครทุกตัว และนอกเหนือจากนั้น วายร้ายในภาคนี้ ก็ร้ายลึก และค่อนข้างที่จะทำให้คนดูรู้สึกทั้งเกลียด และน่ากลัวต่อแผนร้ายที่ถูกเปิดเผยออกมาให้คนดูได้อึ้งพอสมควรในช่วงท้ายที่เป็นไฮไลต์เด็ดของเรื่องครับ
– อย่างที่สี่ หนังนำข้อดีของแต่ละภาคมาผสมผสานมาเล่าได้อย่างลงตัวในภาคนี้ ( ภาคที่ 6 ) ทั้งสไตล์หักเหลี่ยมเฉือนคมในภาคแรก , พาร์ทแอ๊กชั่นแบบมันส์ระห่ำในภาคสอง , การดำเนินเรื่องแบบฉับไวในภาคสาม , ฉากเสี่ยงตายแบบในภาคสี่ และ ตัวร้ายที่ดูสูสีพอๆกับอีธานในภาคห้า ทุกอย่างถูกนำมาเล่าและดำเนินเรื่องแบบสมบูรณ์แบบจริงๆในภาคนี้ครับ
แถมทิ้งท้ายอีกนิดว่า ในช่วงท้ายมีเซอร์ไพรส์แบบสุดๆต่อแฟนคลับของตระกูลหนังมิชชั่นครับ
– อย่างสุดท้าย หนังเองก็มีพาร์ทดราม่าที่หนักหน่วงเข้ามาสอดแทรกในเรื่องได้ดี ทั้งคำถามคาใจของตัวละครอย่าง อีธาน ฮันต์ ว่าการกระทำของเขา นั้นคู่ควรต่อสิ่งที่ทำไปต่อประเทศชาติแล้วเหรอ ทั้งที่อาจจะต้องแลกกับการสูญเสียอะไรหลายๆอย่าง ในชีวิตของเขา ซึ่งประเด็นตรงนี้ทำออกมาให้คนดูคิดตามได้ดี และเป้าหมายหลักของวายร้าย ก็ดูน่ากลัวแต่ก็อดคิดตามไม่ได้ต่อหลักของความเป็นจริงของโลก ที่ทุกฝ่ายต่างตักตวงผลประโยชน์จนไม่คำนึงถึงความถูกต้อง การแสวงหาอำนาจของประเทศต่างๆ ซึ่งตรงนี้เอง ก็ทำให้คนดูอย่างผมคิดตามได้ทันทีเมื่อดูจบลงครับ
– ส่วนข้อเสียก็มีบ้าง ที่หนังค่อนข้างยาว 2 ชั่วโมงกว่าๆ อาจจะมีเนือยๆ และอืดๆนิดๆ และจุดเฉลยวายร้ายที่แท้จริง อาจจะดูเฉลยไวเกินไปนิด แต่ในภาพรวมถือว่าเป็นข้อเสียที่มีมาเพียงนิดเดียวที่ไม่ได้ทำให้หนังเรื่องนี้ลดความสนุกสนานลงเลยแม้แต่นิดเดียว
– สรุปเลยแล้วกันครับ นี่คือ หนังแอ๊กชั่น-สายลับที่ลูกเพจไม่ควรพลาด สมบูรณ์แบบทั้งในฐานะหนังภาคต่อ , สมบูรณ์ในฐานะแฟรนไชส์ของตระกูลมิชชั่น , สมบูรณ์แบบในฐานะหนังที่ตอบโจทย์ของความบันเทิงในรูปแบบบล็อกบัสเตอร์ และสุดท้ายหนังเรื่องนี้จะกลายเป็นมาตรฐานหลักที่หนังแอ๊กชั่น-สายลับต้องดำเนินรอยตามให้ได้ในฐานะหนังต้นแบบที่มอบทุกอย่างให้กับคนดูที่คุ้มค่าและสมบูรณ์แบบทั้งบทและความบันเทิงจริงๆที่หนังเรื่องนึงควรมีครับ ดังนั้นคะแนน 9/10 คู่ควรและยกย่องให้กับหนังเรื่องนี้ในฐานะสุดยอดหนังแอ๊กชั่น-สายลับของปีนี้นั้นเอง
Mission Impossible 6 (2018) มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล 6 ฟอลล์เอาท์
>รีวิว ไปดู ” MISSION IMPOSSIBLE FALL OUT” มา (8/10) สปอย
> ผู้กำกับ : คริสโตเฟอร์ แมคแควรี
นักแสดง : ทอม ครูซ, รีแบคก้า เฟอร์กูสัน, เฮนรี่ คาวิล
หมวดหมู่ : แอ็คชัน / ผจญภัย / ระทึกขวัญ / ภาคต่อ
วันที่ดู : 26 กรกฎาคม 2018
ปฎิบัติการที่เป็นไปไม่ได้ตอนที่ 6 ของลุง อีธาน ฮันท์ หุ่นอาจจะย้วยไปบ้าง เชื่องช้าบางลีลา แต่ก็ไม่น่าเกลียด วิ่งไวอยู่นะ
>เนื้อหา
ภาคนี้เนื้อเรื่อง อาจไมซับซ้อนเท่าไร มีส่วนต่อจากภาคที่แล้ว แต่สับขาหลอกคนดู หลายตอน ในเรื่องตามหา นิวเคลียร์ 3 ลูก อีธานและเพื่อนๆต้องตามหา ให้เจอ จากความผิดพลาดของพวกเขาเอง โดยมี พี่ Superman ตามมาเป็นตัวคอยสร้างเรื่องราวเพิ่มให้พลิกผันมากขึ้น เมื่อเจอนิวเคลียแล้วต้องช่วยกัน หาวิธีหยุดมัน ซึ่งยังคิดไม่ออก อีธานบอก 5555
>ฉากหวือหวา แอคชั่น ฉากน่าดู
ภาคนี้ไล่ล่าบนบก และอากาศ มีฉากรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ที่สุดมัน มีฉากเฮลิคอปเตอร์ไล่ล่าอย่างหวาดเสียว ฉากวิ่งบนหลังคาตึก กระโดดข้ามตึก คนดูต้องลุ้น แทบฉี่ลาด ทุกฉากไล่ล่า ฉากแอคชั่น ชกต่อย ทำได้รุนแรง ได้ลงตัว ภาคนี้ครบรส และน่าชม ระบบเสียงไม่ต้องห่วง ตูมตาม ตามสไตล์ มิชชั่น ภาคนี้ไม่ค่อยมี เครื่องมือที่มีเทคโนโลยีด้านต่างๆมากนัก แต่มีหลายฉากเสี่ยงตาย ที่ พี่ครูช เล่นเอง เจ็บเอง เช่นกระโดดข้ามตึก จนกระดูกหัก ขับบิ๊กไบท์ เกาะเฮลิคอปเตอร์ เริ่มจะเป็น เฉินหลง ซะแล้วแฮะ
มุมกล้องที่สุดยอด พาเราเข้าไปเหมือนเป็นนักแสดงเสียเอง ลุ้นดีในบางฉากเช่น ขับมอเตอร์ไซค์ไล่ล่า ฉากแอคชั่นบอกได้ว่าคุ้มจริงๆครับ
>ความคุ้มค่ากับราคาตั๋ว
เรื่องนี้ ผมว่าคุ้มค่าเงินที่จ่ายไปพอสมควร มีทีมเดิมๆเข้ามาเสริม มีสาวๆของอีธานจากภาคต่างๆ เข้ามามีส่วนหักเหของเรื่องทั้งแฟนเก่า จากภาค 3 และแฟนใหม่ ภาค 5 สุดท้าย อีธานคุณหล่อมาก ตามที่สาวๆบอก ฮันท์ยังห่วงสาวๆทั้ง 2 คน และเพื่อนๆ การถ่ายทำหลากหลายประเทศ ฉากสวยๆ การแสดงที่คุ้มค่า ของพระเอก superman และครูซ สาวๆในเรื่อง สวย และเก่งทุกคน มีการใช้มุข เดิมๆ เช่น เปลี่ยนหน้ากาก การจัดฉาก การหักหลัง การหลอกคนดู ฉากแอคชั่นยาวๆทำให้เราไม่เบื่อมุขเดิมๆย้ำว่าคุ้ม ไปดูหนัง Blockbuster ที่ทุนสร้าง 178 ล้านเหรียญกันครับ
คะแนนเต็ม10 ผมให้ 8 เต็ม 10 ดูไม่เบื่อบางฉากอาจเดาออก แต่ไปดูเถอะ มันสนุกแน่ๆถ้าใครชอบ 007 ไปดูเรื่องนี้ เราจะนึกว่าเรากำลังดู 007 ไปเสียแล้ว
ไม่มีสปอย ไม่อธิบายมาก เอาแบบสั้นๆ อย่าว่ากันนะครับ
Renegades (2017) ทีมยุทธการล่าโคตรทองใต้สมุทร
The Hit List (2011) โพยมรณะล้างบัญชีเลือด