ดูหนังออนไลน์ เต็มเรื่อง หนังใหม่อัพเดททุกวัน ฟรี HD ชัด

ดูหนังออนไลน์ moviehd24 หนังใหม่HD ดูหนังเต็มเรื่อง2024 ซีรี่ย์ออนไลน์ ดูซีรี่ย์ฟรี

google search

Lost in Translation (2003) หลง เหงา รัก

ปีที่ฉาย : 2003
เสียง : พากย์ไทย
Episode : -
imdb 7.7
ความคมชัด : HD
Lost in Translation (2003) หลง เหงา รัก

ดูหนังออนไลน์ Lost in Translation (2003) หลง เหงา รัก

เรื่องย่อ : Lost in Translation (2003) หลง เหงา รัก ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ ดูหนังHD ดูหนังฟรี MovieHD24 หนัง2024 หนังออนไลน์ Full HD

Lost in Translation (2003) หลง เหงา รัก

รีวิวหนัง

Lost in Translation หนังโปรดของข้าพเจ้า

ตั้งใจไว้ว่าจะไปดู Her เลยหยิบ  มาดูรอบที่สอง เหตุผลก็คือได้ยินคนบอกว่า  คือหนังที่โซเฟียใช้ตัวละครหนึ่งในหนังแทนอดีตสามี ‘สไปค์ จอนซ์’ จึงมีคนเห็นความเป็นไปได้ที่ Her ก็อาจมีส่วนหนึ่งแทนภรรยาเก่าของสไปค์ จอนซ์เช่นกัน

‘บ็อบ แฮริส’ (Bill Murray) นักแสดงขาลงวัยกลางคน กำลังประสบปัญหาเบื่อหน่ายภรรยา แล้วยังต้องมารับงานถ่ายโฆษณาที่เขารู้สึกอึดอัดในญี่ปุ่นอีก
‘ชาล็อตต์’ (Scarlett Johansson) นักศึกษาพึ่งจบปริญญาด้านปรัชญา ติดตามสามีที่เป็นช่างภาพมาทำงานที่ญี่ปุ่น ด้วยความที่สามีต้องทำงานทั้งวันจึงไม่มีเวลาให้กับเธอ ตลอดเวลาที่เธออยู่คนเดียวจึงรู้สึกเหงาในดินแดนที่ไม่สามารถสื่อสารภาษาตัวเองกับคนอื่นได้

ทั้ง ‘บ็อบ’ และ ‘ชาล็อตต์’ จึงมีความเหมือนกันคือ ‘รู้สึกตัวคนเดียว’ เบื่อหน่ายตัวเองในญี่ปุ่น จนเมื่อทั้งสองคนเริ่มต้นทักกัน เห็นกันบ่อยขึ้น ผูกมิตรกัน จึงตกลงกันออกไป ‘สร้างพื้นที่ส่วนตัว’ ของตัวเองในญี่ปุ่น

หนังเรื่องนี้ของโซเฟีย คอปโปล่าไม่เน้นบทหนังซับซ้อนลึกซึ้งเยอะความ เพียงแค่สร้างตัวละคร 2 ตัวขึ้นมาให้คนดูสัมผัสถึงความโดดเดี่ยว สร้างพล็อตให้สองคนนี้มาเป็นเพื่อนคลายเหงาซึ่งกันและกันเท่านั้น แล้วไปอาศัยการถ่ายทอดอารมณ์ล้วน ๆ ครับ [หนังที่ใช้การดำเนินเรื่องลักษณะนี้ก็เช่นงานของหว่อง กา ไว เช่นอิทธิพลจาก In the Mood for Love ซึ่งคอปโปล่ากล่าวขอบคุณหว่อง กา ไวบนเวทีออสการ์ สำหรับอิทธิพลจากหนังของเขาที่มีต่องานของเธอ ที่ชัด ๆ หน่อยก็คือฉากจบที่ตัวละครชายเก็บความลับไว้ไม่บอกคนดู แต่โดยส่วนตัวผมเห็นว่าหนังได้อิทธิพลมาเกือบทั้งเรื่องเลย หะหะ, Days of Being Wild พวก Before Sunrise กับ Leaving Las Vegas ก็เข้าข่ายหนังเน้นอารมณ์มากกว่าพล็อต]

ตรงนี้ขอพูดถึงความรู้สึกส่วนตัวนิดหน่อย ผมชอบช่วงแรกของหนังมาก ดูแล้วเห็นถึงความอึดอัด ความเบื่อหน่ายของตัวละครต่อสิ่งรอบตัว เช่นถ่ายโฆษณารับคำสั่งผ่านล่าม, สามีไปทำงานต้องเดินเล่นในญี่ปุ่นคนเดียว, นั่งดูโทรทัศน์ภาษาญี่ปุ่น ฯลฯ แต่พอทั้งสองคนมาเจอกันซึ่งเป็นช่วงที่หนังดูมีชีวิตชีวา ผมกลับเริ่มเบื่อหนังขึ้นมาซะอย่างนั้น คือผมเบื่อจะมานั่งดูตัวละครตีกอล์ฟ, เล่นเกมตู้, ร้องคาราโอเกะ, เที่ยวบาร์หรือทานอาหารญี่ปุ่น ซึ่งมันขัดแย้งเหมือนกันนะที่ว่าตอนตัวละครเบื่อผมกลับสนุกกับหนัง แต่พอตัวละครในหนังสนุกผมกลับรู้สึกเบื่อ

ความเห็นที่มีต่อรางวัล ‘ออสการ์ – บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม’ พูดแบบไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับ Dirty Pretty Things, Finding Nemo, In America และ The Barbarian Invasions ต้องชมบทภาพยนตร์ (Screenplay) Lost in Translation ว่าพูดน้อยถ่ายทอดดี สิ่งที่ทำให้หนังแตกต่างจากหนังสือก็คือ ‘ภาพเคลื่อนไหว’ และ   ก็ใช้ ‘ภาพ’ ได้คุ้มมาก ทั้งภาพนักแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายก็แทนความรู้สึกของตัวละครโดยไม่ต้องบรรยายใด ๆ หรือการฉายให้เห็นความอึดอัดของตัวละครที่ต้องอยู่ท่ามกลางภาษาที่ตัวเองไม่เข้าใจ แม้กระทั่งตอนที่ทั้งสองคนจูนเข้าหากันก็ยังแทบไม่ต้องพึ่งบทสนทนาเลยครับ ดังนั้นการที่หนังเน้นอารมณ์เรื่องนี้จะได้บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมโดยไม่เน้นพล็อตหวือหวาจึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดครับ

การแสดงของ ‘บิลล์ เมอร์เรย์’ ยอดเยี่ยมจริง ๆ ครับ คนอะไรทำหน้าเบื่อได้เป็นธรรมชาติมาก ขนาดตอนยิ้มยังรู้สึกได้เลยว่าแกอึดอัดที่ต้องฝืนยิ้ม คู่ควรที่ได้เข้าชิงออสการ์การแสดงนำฝ่ายชายปีนั้นแล้วครับ ส่วน ‘สกาเล็ต โยแฮนสัน’ sexy เหมือนเดิม ถ้าเธอสูงกว่านี้สักหน่อยนะแหม่

คนวิจารณ์หนังไม่เป็น

ความเหงา เศร้า เราหลงไหล”เป็นหนังที่เล่าเรื่องของ “ความน่าเบื่อ” ได้อย่าง “ไม่น่าเบื่อ” เลย”จริงๆ ผมไม่เคยคิดที่จะหยิบหนังเรื่อง  มาดูด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเคยไปได้ยินบางคอมเม้นท์บอกมาว่า เป็นหนังอาร์ทระดับปีนบันไดดูหรือป่าว หรือบางคอมเม้นท์ที่เคยบอกมาว่า “น่าเบื่อมากๆ หลับแทบทุกนาที” ทำให้ผมกล้าๆกลัวๆที่จะซื้อเรื่องนี้มาดู ที่อยากซื้อก็เพราะในตอนนั้นไม่มีหนังอะไรให้สั่้ง จนสุดท้ายแล้วก็สั่งเรื่องนี้มาดูซักหน่อยซึ่งทำให้ผมได้เก็บกรุหนังดองไว้อีกเรื่อง (5555555) จนกระทั่งสิ่งที่ผมอยากดูเรื่องนี้อีกรอบคือ…..

การที่ผมไปได้อ่านรีวิวเรื่อง Her ของเพจๆหนึ่งนั้นเอง ทำให้ผมหยิบแผ่นหนังที่ถูกดองมาข้ามปี อย่างเรื่อง Lost in Translation ด้วยที่ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะซื้อมาเพื่ออะไร จนกระทั่งผมได้ไปอานรีวิวเรื่อง Her นี่แหละ ทำให้ผมลองเปิดใจดูเรื่องนี้จนกระทั่งได้รู้ว่า…..

ตัวหนังดีกว่าที่คิดอีกครับ  เป็นหนังที่ว่าด้วยเรื่องราวของ บ็อบ แฮริส (บิล เมอร์เร่ย์) อดีตดาราดังที่ตอนนี้ตกอับและไม่ค่อยได้รับงานการแสดงหนังเลย ซึ่งเขาเองได้รับงานโฆษณาวิสกี้ที่ญี่ปุ่น ทำให้เขาเดินทางมายังแดนซากุระ ซึ่งเขาเองที่ีเบื่อหน่ายชีวิตคู่มา 25 ปีแล้ว เขาเองยังต้องมาอึดอัดมากขึ้นในแดนซากุระนี้ เพราะเห็นได้ว่า ญี่ปุ่นนี้แทบจะไม่แตกต่างกับ “คุก” เลย และการที่เขาได้เห็นวิถีชีวิตที่นี่ ทำให้เขารู้สึก “เหงา และ อ้างว้าง” ในแดนแห่งนี้

ในขณะเดียวกัน ชาร์ล็อต (สการ์เ็ล็ต โจแฮนสัน) หญิงสาวที่เพิ่งจบการศึกษาในด้านปรัชญามา ติดตามสามีที่เป็นช่างภาพทีไ่ด้งานที่ญี่ปุ่น ด้วยที่สามีของเธอต้องทำงานทั้งวัน แทบจะไม่ได้เจอหน้ากันตลอด ทำให้ชาร์ล็อตเองก็รู้สึก “เหงา และ อ้างว้าง” ในแดนไกลนี้ เหมือนกัน

จนกระทั่งเมื่อที่ “บ็อบ” และ “ชาร์ล็อต” ได้มาพบกันในบาร์ของโรงแรมที่เดียวกัน ซึ่งเป็นที่ๆพวกเขาพักอาศัยทั้งคู่ นั้นทำให้พวกเขาทั้งคู่ได้พบสิ่งเดียวกันทั้งคู่ คือ “ความเหงา” เมื่อพวกเขาได้พับกัน เจอกัน พูดคุยกันมากๆ พวกเขาเองก็เริ่มที่จะ “กำจัดความเหงา” ด้วยกันทั้งคู่ในแดนปลาดิบแห่งนีั้

ผู้กำกับ

โซเฟีย คอปโปลา

บริษัท ค่ายหนัง

American Zoetrope
Elemental Films

นักแสดง

Bill Murray
Scarlett Johansson
Giovanni Ribisi
Anna Faris
Fumihiro Hayashi

โปสเตอร์หนัง

Lost in Translation (2003) - IMDb

Lost in Translation (2003) - IMDb

Lost in Translation (2003) - IMDb

เรื่องย่อ

ดูหนัง Lost in Translation (2003) หลง เหงา รัก ดาราหนังหน้าซีดและหญิงสาวที่ถูกละเลยสร้างสายสัมพันธ์ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้หลังจากพบกันในโตเกียว ดูหนังออนไลน์

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Predestination (2014) ยือเวลา ล่าอนาคต

Overboard (2018) ผัวแบบนี้ น้องไม่ได้ขอ

Paycheck (2003) แกะรอยอดีต ล่าปมปริศนา

Oblivion (2013) อุบัติการณ์โลกลืม

Requiem for a Dream (2000) บทสวดแด่วัน…ที่ฝันสลาย

แสดงความคิดเห็น

ดูหนังออนไลน์ ดูซีรี่ย์ฟรี เรื่องอื่นๆ

ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่2024 moviehd24 ดูหนังเต็มเรื่อง หนังHD ดูหนังฟรีไม่กระตุก