เรื่องย่อ : House of the Dragon Season 1 (2022) ตระกูลแห่งมังกร ซีซั่น 1 EP.1-10 (จบ) ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ ดูหนังHD ดูหนังฟรี MovieHD24 หนัง2024 หนังออนไลน์ Full HD
ดูซีรี่ย์ House of the Dragon Season 1 (2022) ตระกูลแห่งมังกร ซีซั่น 1 รื่องย่อของซีรีส์ ซีรีส์ประเด็นนี้ผลิตจากนิยายแฟนตาซีขายดิบขายดีของ George RR Martin เรื่อง “Fire & Blood” เล่าถึงตอน 200 ปีกลายสถานะการณ์มหาศึกชิงบัลลังก์ โดยคราวนี้รายละเอียดของซีรีส์จะมีความสนใจกับเรื่องราวความไม่ลงรอยกันด้านในเครือญาติ Targaryen เป็นหลัก เกี่ยวกับการช่วงชิงอำนาจของลูกพี่ลูกน้องสายโลหิตมังกร ชนวนเหตุเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการที่ Princess Rhaenyra ถูกวางตัวให้เป็นรัชทายาทผู้สืบทอดบัลลังก์เหล็กต่อจาก ดูซีรี่ย์ออนไลน์
King Viserys I แต่ว่าตามขนบธรรมเนียมประเพณีเริ่มแรกของ Westeros เพศหญิงไม่เคยได้ได้โอกาสขึ้นครองบัลลังก์เหล็กมาก่อนแม้กระทั้งในสมัยของพ่อคุณก็ด้วยเหมือนกัน แทนที่ Princess Rhaenys หลานสาวคนโตของพระมหากษัตริย์องค์ก่อนที่จะแก่กว่า Viserys จะได้ขึ้นครองราชย์ แม้กระนั้นเพราะว่าคุณเป็นสตรีก็เลยทำให้สิทธิ์สำหรับการขึ้นครองบัลลังก์เหล็กเป็นของ Viserys แทน ด้วยประการฉะนี้เองก็เลยทำให้เพศชายที่มีสิทธิ์ในบัลลังก์เท่าๆกับ Rhaenyra กำเนิดความรู้สึกไม่ถูกใจที่จะจะต้องมาทนมองเห็นสตรีก้าวขึ้นมาดูแลอาณาจักร จนถึงแปลงเป็นสงครามกลางเมืองครั้งใหญ่ที่จะนำพาอาณาจักรในยุครุ่งโรจน์ที่สุดลงมาอยู่ในจุดที่ไม่มีผู้ใดคาดหวัง
Kingdomsรวมตัวกันโดยการพิชิตของ Targaryen เกือบ 200 ปีก่อนเหตุการณ์ใน Game of Thrones และ 172 ปีก่อนที่ Daenerys Targaryenจะเกิด ซีรีส์มีนักแสดงมากมาย โดยถ่ายทอดเหตุการณ์ต่างๆ ที่นำไปสู่การล่มสลายของ House Targaryen ซึ่งเป็น สงครามสืบราชบัลลังก์ที่เลวร้ายที่เรียกว่า “Dance of the Dragons”House of the Dragonได้รับคำสั่งซื้อแบบซีรีส์โดยตรงในเดือนตุลาคม 2019 โดยเริ่มการคัดเลือกนักแสดงในเดือนกรกฎาคม 2020 และการ
ถ่ายทำหลักเริ่มในเดือนเมษายน 2021 ในสหราชอาณาจักร ซีรีส์นี้ฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2022 โดยซีซันแรกประกอบด้วยสิบตอน ซีรีส์นี้ได้รับการต่ออายุสำหรับซีซันที่สองห้าวันหลังจากรอบปฐมทัศน์ Sapochnik ลาออกจากตำแหน่งผู้จัดรายการหลังจากซีซันแรก ทำให้ Condal ทำหน้าที่เป็นผู้จัดรายการเพียงคนเดียวสำหรับซีซันที่สอง ซีซันที่สองฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2024 โดยมีแปดตอน ในเดือนมิถุนายน 2024 ก่อนที่จะถึงรอบ
ปฐมทัศน์ของซีซันที่สอง ซีรีส์นี้ได้รับการต่ออายุสำหรับซีซันที่สามซีซั่นแรกได้รับการวิจารณ์ในเชิงบวก โดยได้รับคำชมในเรื่องการพัฒนาตัวละคร เอฟเฟกต์ภาพ บทภาพยนตร์ ดนตรีประกอบโดยRamin Djawadiและการแสดง อย่างไรก็ตาม จังหวะโดยเฉพาะการกระโดดข้ามเวลาและแสงไฟที่มืดในบางฉากก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ซีรีส์รอบปฐมทัศน์มีผู้ชมมากกว่า 10 ล้านคนทั่วช่องทางเชิงเส้นและHBO Maxในวันแรก ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงสุดในประวัติศาสตร์ของ HBO ใน
งานประกาศรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 80 House of the Dragonได้รับ รางวัล ซีรีส์ทางโทรทัศน์ยอดเยี่ยม – ดราม่าและEmma D’Arcyได้รับการเสนอ ชื่อเข้าชิงรางวัล นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในซีรีส์ทางโทรทัศน์ – ดราม่า ซีรีส์นี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง รางวัลเอ็มมีถึงเก้ารางวัลรวมถึงซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยม และได้รับ รางวัล British Academy Television Craft Awardsสามรางวัล
Miguel Sapochnik
GRRM
Bastard Sword
1:26 Pictures Inc.
HBO Entertainment
แพดดี้ คอนซิดีน
แมตต์ สมิธ
เอ็มม่า ดาร์ซี
รีส อีฟานส์
สตีฟ ทัสเซนต์
อีฟ เบสท์
โซโนยะ มิซูโนะ
ฟาเบียน แฟรงเคิล
มิลลี่ อัลค็อก
เอมิลี่ แครี่
เกรแฮม แมคทาวิช
แมทธิว นีดแฮม
เจฟเฟอร์สัน ฮอลล์
โอลิเวีย คุ๊ก
แฮร์รี่ คอลเล็ตต์
ทอม กลินน์-คาร์นีย์
ยวน มิทเชลล์
เบธานี แอนโทเนีย
ฟีบี แคมป์เบลล์
เปียสบัน
คะแนน: 8 /10
House of the Dragonเป็นซีรีส์ทางโทรทัศน์แนวแฟนตาซีสัญชาติอเมริกันสร้างสรรค์โดย George RR Martinและ Ryan Condalสำหรับ HBOเป็นภาคก่อนของ Game of Thrones (2011–2019) ซึ่งเป็นซีรีส์ทางโทรทัศน์เรื่องที่สองในแฟ รนไชส์ A Song of Ice and Fireของ MartinCondal และ Miguel Sapochnikเป็นผู้จัดรายการในซีซั่นแรก ซีรีส์นี้อิงจากบางส่วนของหนังสือ Fire & Blood ของ Martin ในปี 2018 โดยเริ่มต้นประมาณ 100 ปีหลังจากที่ Seven
Kingdomsรวมตัวกันโดยการพิชิตของ Targaryen เกือบ 200 ปีก่อนเหตุการณ์ใน Game of Thrones และ 172 ปีก่อนที่ Daenerys Targaryenจะเกิด ซีรีส์มีนักแสดงมากมาย โดยถ่ายทอดเหตุการณ์ต่างๆ ที่นำไปสู่การล่มสลายของ House Targaryen ซึ่งเป็น สงครามสืบราชบัลลังก์ที่เลวร้ายที่เรียกว่า “Dance of the Dragons”House of the Dragonได้รับคำสั่งซื้อแบบซีรีส์โดยตรงในเดือนตุลาคม 2019 โดยเริ่มการคัดเลือกนักแสดงในเดือนกรกฎาคม 2020 และการ
ถ่ายทำหลักเริ่มในเดือนเมษายน 2021 ในสหราชอาณาจักร ซีรีส์นี้ฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2022 โดยซีซันแรกประกอบด้วยสิบตอน ซีรีส์นี้ได้รับการต่ออายุสำหรับซีซันที่สองห้าวันหลังจากรอบปฐมทัศน์ Sapochnik ลาออกจากตำแหน่งผู้จัดรายการหลังจากซีซันแรก ทำให้ Condal ทำหน้าที่เป็นผู้จัดรายการเพียงคนเดียวสำหรับซีซันที่สอง ซีซันที่สองฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2024 โดยมีแปดตอน ในเดือนมิถุนายน 2024 ก่อนที่จะถึงรอบ
ปฐมทัศน์ของซีซันที่สอง ซีรีส์นี้ได้รับการต่ออายุสำหรับซีซันที่สามซีซั่นแรกได้รับการวิจารณ์ในเชิงบวก โดยได้รับคำชมในเรื่องการพัฒนาตัวละคร เอฟเฟกต์ภาพ บทภาพยนตร์ ดนตรีประกอบโดยRamin Djawadiและการแสดง อย่างไรก็ตาม จังหวะโดยเฉพาะการกระโดดข้ามเวลาและแสงไฟที่มืดในบางฉากก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ซีรีส์รอบปฐมทัศน์มีผู้ชมมากกว่า 10 ล้านคนทั่วช่องทางเชิงเส้นและHBO Maxในวันแรก ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงสุดในประวัติศาสตร์ของ HBO ใน
งานประกาศรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 80 House of the Dragonได้รับ รางวัล ซีรีส์ทางโทรทัศน์ยอดเยี่ยม – ดราม่าและEmma D’Arcyได้รับการเสนอ ชื่อเข้าชิงรางวัล นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในซีรีส์ทางโทรทัศน์ – ดราม่า ซีรีส์นี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง รางวัลเอ็มมีถึงเก้ารางวัลรวมถึงซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยม และได้รับ รางวัล British Academy Television Craft Awardsสามรางวัล
คะแนน: 8.4/10
สงครามสืบทอดอำนาจภายในตระกูลทาร์แกเรียนในช่วงที่มีอำนาจสูงสุด 172 ปี ก่อนที่เดเนริส ทาร์แกเรียนจะถือกำเนิดราชวงศ์ทาร์แกเรียนอยู่ในจุดสูงสุดของอำนาจโดยมีมังกรมากกว่า 10 ตัวอยู่ภายใต้การควบคุม อาณาจักรส่วนใหญ่ล่มสลายจากจุดสูงสุดดังกล่าว ในกรณีของราชวงศ์ทาร์แกเรียน การล่มสลายของพวกเขาเริ่มต้นขึ้นเมื่อกษัตริย์วิเซริสแหกกฎประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนานกว่าศตวรรษด้วยการแต่งตั้งเรนีรา ธิดาของพระองค์ให้เป็นรัชทายาทแห่งบัลลังก์
เหล็ก แต่เมื่อต่อมาวิเซริสมีลูกชาย ราชสำนักก็ตกตะลึงเมื่อเรนีรายังคงสถานะของเธอในฐานะรัชทายาท และเมล็ดพันธุ์แห่งความแตกแยกก็หว่านเมล็ดแห่งความขัดแย้งไปทั่วอาณาจักรในโลกที่สตูดิโอต่าง ๆ กำลังค้นหา GoT ภาคต่อไป (The Witcher, The Rings of Power) ซีรีส์นี้เป็นเพียงซีรีส์เดียวเท่านั้นที่พยายามอ้างสิทธิ์ในสถานะนั้นได้ แต่ทำไม่ได้ เพราะซีรีส์จะไม่มีทางไปถึงระดับบทสนทนาของ GoT ในช่วงพีค (ซีซัน 1-4) ดังนั้นจึงหันไปใช้การเล่าเรื่องด้วย
ภาพและการแสดงแทน และด้วยผู้กำกับอย่างแคลร์ คิลเนอร์ เราน่าจะได้เจอกับสิ่งที่วิเศษจริง ซีซันที่ 2 นี้มีทุกอย่างที่จะก้าวขึ้นไปอีกขั้น และแสดงให้เห็นว่าสงครามครั้งนี้ส่งผลต่อทั้งครอบครัวที่แตกแยกและคนตัวเล็ก ๆ อย่างไรโปรดอย่าหลงกลการตลาดของ HBO ไม่มีวงดนตรีที่ถูกต้องในสงครามครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีข้อบกพร่อง และแน่นอนว่าเรื่องราวนี้เป็นโศกนาฏกรรม หากซีรีส์ทำได้ถูกต้อง ก็จะทิ้งมรดกที่ดีของแก่นแท้ของเรื่องราวของ GRR M ไว้
คะแนน: 8.5/10
เกมชิงบัลลังก์ของจริง ถ้าซีรีส์ Game of Thrones (2011–2019) คือการตะเกียกตะกายกลับมาชิงบัลลังก์เหล็กของทาร์แกเรียนคนสุดท้ายจากที่ไกลแสนไกล House of the Dragon คือการช่วงชิงบัลลังก์กันตรงหน้าในฐานะขุมพลังอำนาจของเจ็ดอาณาจักร ผ่านการต่อรองของความเป็นหญิงจากเรื่องพื้นฐานที่ว่า การเปลี่ยนถ่ายอำนาจทางสายเลือดนั้นเกิดขึ้นแค่กับเพศชายเท่านั้น การถกเถียง ช่วงชิงตำแหน่งแห่งที่ของทายาทจึงซับซ้อนเมื่อมันผูกโยงอยู่กับเพศสภาพและ
ลำดับขั้นตั้งแต่เอพิโซดแรก ก่อนจะถูกตั้งคำถามและกลายเป็นประเด็นอีกครั้งเมื่อกษัตริย์ วิเซริส (แพดดี คอนซิดีน -และการแสดงระดับกราบตีน) ปรารถนาจะให้ลูกสาวเป็นผู้สืบทอดลำดับแรก ตำแหน่งของกษัตริย์และผู้สืบทอดจึงถูกตั้งคำถาม ถูกต่อต้าน ไม่เพียงแต่ในราชสำนัก แต่ยังไล่เรื่อยไปถึงประชาชนผู้ไร้ใบหน้าและไม่ถูกพูดถึงเลยในเรื่อง House of the Dragon Season 1
ซีรีส์มันพูดเรื่องการกดทับความเป็นหญิงเข้มข้นมากๆ ทั้งผ่านประเด็นการสืบทอดอำนาจทางสายเลือด (ใช่ เธอเป็นลูกฉัน แต่เธอเป็นผู้หญิง เธอจึงไม่มีสิทธิได้สิ่งนี้ไปครอบครอง) กับการตั้งครรภ์ที่เป็นสนามรบสนามใหญ่ของผู้หญิง เปิดมาเอพิโซดแรก มิกูเอล ชาโปนิค ผู้กำกับก็เล่นหมัดหนักด้วยการถ่ายทำฉากคลอดของราชินีได้รุนแรงและชวนทรอม่ามากๆ การถือกำเนิดของมนุษย์หนึ่งคนยังหมายถึงความตายของผู้หญิงอีกหนึ่งคน การกำเนิดจึงเต็มไปด้วยเลือด ความทุรนทุรายและต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดของคนสองคน -หมายถึงตัวแม่และตัวเด็ก- หนักหนาเท่าเทียมกันหรืออาจจะมากกว่าในสนามรบอันเป็นพื้นที่ซึ่งผู้ชายถือ
สิทธิยึดครองด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งซีซั่นมีฉากคลอดเด็กหลายต่อหลายฉากแต่ไม่มีฉากไหนที่อำมหิตและรุนแรงได้เท่าฉากนี้ ชาโปนิคเคยกำกับ GOT หลายเอพิโซด หนึ่งในนั้นคือ Battle of the Bastards หรือคือตอนที่ถึงเลือดถึงเนื้อและได้รับคำชมมากที่สุดตอนหนึ่งตัวละครหลักของซีรีส์ทั้งเรื่องคือ เรนีรา – อลิเซนต์ ที่เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็กและค่อยๆ ถูกเส้นทางของอำนาจพรากพวกเธอให้ห่างกันออกไปเรื่อยๆ นึกถึงที่ เอ็มมา ดาร์ซีย์
(รับบทเป็นเรนีราวัยผู้ใหญ่) บอกว่าหน้าที่ของปิตาธิปไตยคือมันจะทำลายความสมานฉันท์ของผู้หญิงออกจากกันเพื่อเปลือยเปล่าให้พวกเธอโดดเดี่ยวและเกาะกลุ่มกันไม่ได้ในที่สุด เรนีราใช้ชีวิตในฐานะผู้สืบทอดลำดับแรก ขณะที่อลิเซนต์ใช้เวลาทั้งชีวิตอยู่ใต้ร่มเงาของชายผู้มีอำนาจ พ่อ ผัว และพยายามผลักดันลูกชายให้ไปอยู่ในจุดนั้นโดยไม่เคยเอาตัวเองไปวางไว้ในตำแหน่งของบัลลังก์เหล็กเลย เป็นตัวละครที่ทำงานเพื่อผู้ชายมาตลอด
เราชอบตัวละครอลิเซนต์มากๆ ไม่ได้ชอบในเชิงเห็นด้วย (ค่อนไปทางไม่ชอบด้วย) แต่ชอบในเชิงการเขียนตัวละครที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและเปราะบาง การเป็นเด็กสาวที่ต้องมาโตไกลบ้าน มีเพื่อนเล่นเป็นเจ้าหญิงเพียงคนเดียวก็ต้องมาแยกจากกันเพราะไปแต่งกับพ่อเขาตามคำแนะนำของพ่อตัวเอง และต้องใช้ชีวิตส่วนใหญ่หลังจากนั้นไปกับความรู้สึกโดดเดี่ยวอย่างรุนแรงเมื่อพ่อถูกสั่งย้ายไปยังเมืองอื่น ยิ่งเมื่อตัวละครมันโตและถูกผลักให้เข้าไปอยู่ในเกมอำนาจ เรายิ่งเห็นความซับซ้อนของตัวละครชัดมากๆ และทำให้บอกได้ว่าทำไมเราจึงไม่ชอบคนแบบอลิเซนต์
เพราะคนแบบนี้คือคนที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองกำลังกระหายบางอย่างอยู่ หรืออ้างเรื่องความชอบธรรม เรื่องศีลธรรมมาบังหน้าความต้องการของตัวเองเสมอ (ซึ่งสิ่งที่อ้างอาจจะถูกก็ได้ แต่คุณเอามาใช้อ้างแค่เฉพาะกับตัวเอง ถ้าคนอื่นทำมันจะกลายเป็นความผิดบาปหรืออ่อนแอทันที) และทั้งหมดทั้งมวลนี้ โอลิเวีย คุก มาในระดับเหนือเมฆ เก็บหมดทุกห้วงอารมณ์ โกรธ เกลียด รักและผูกพัน ฉากร้องไห้ข้างศพกษัตริย์นี่ยังเป็นการร้องไห้เงียบๆ ที่อารมณ์มันปะทะปะทังหลายอย่างมาก House of the Dragon Season 1
ในอีกด้าน ซีรีส์ก็เขียนตัวละครชายได้น่าสนใจ เซอร์คริสตัน โคล (ฟาเบียน แฟรงเคล) จากอัศวินมาดดีที่ควรจะเป็นผู้พิทักษ์เจ้าหญิง กลายมาเป็นคนที่น่าสมเพชเอามากๆ ฉากพล่ามสิ่งที่ตัวเองต้องการและสิ่งที่ตัวเองสูญเสียไปบนเรือมันบอกถึงความเปราะบางของตัวละครหมดเลย ขณะที่ เดมอน (แม็ตต์ สมิธ) เป็นเจ้าชายที่เอาแน่เอานอนไม่ได้และมีแนวโน้มจะเป็นพวกเผด็จการสูงด้วย แม้จะชอบที่บุกไปลุยเดี่ยวกับไอ้คนเลี้ยงปู (Crabfeeder) มากก็ตาม เป็นการรบที่
เต็มไปด้วยความดื้อดึง เอาแต่ใจอย่างที่สุด คือท่ามกลางเรื่องราวที่เต็มไปด้วยการถักร้อยความสัมพันธ์และซ้อนกลกัน ตัวละครที่มันขึ้นๆ ลงๆ แบบนี้มันชวนให้เอาใจช่วยอยู่ก็จริง แต่โดยรวมแล้วไม่ได้คิดว่ามันเป็นตัวละครที่ดีเด่นอะไรขนาดนั้น อย่างไรก็ดี ตัวละครที่เราคิดว่าซีรีส์รักมากๆ คือ เรนิส ทาร์แกเรียน ที่เขียนออกมาได้น่าเอาใจช่วยและรู้เลยว่าคนจะไม่เกลียดเธอแน่นอน
Stranger Things Season 4 (2022) สเตรนเจอร์ ธิงส์ ซีซั่น 4
Stranger Things Season 3 (2019) สเตรนเจอร์ ธิงส์ ซีซั่น 3
Game of Thrones Season 8 (2018) เกมส์ ออฟ โธรนส์ มหาศึกชิงบัลลังก์ ซีซั่น 8
Game of Thrones Season 6 (2016) เกมส์ ออฟ โธรนส์ มหาศึกชิงบัลลังก์ ซีซั่น 6
Game of Thrones Season 7 (2017) เกมส์ ออฟ โธรนส์ มหาศึกชิงบัลลังก์ ซีซั่น 7