Gundala (2019)

Gundala (2019)

เรื่องย่อ

ดูหนัง Gundala (2019) ซูเปอร์ฮีโร่จากหนังสือการ์ตูนชื่อดังของอินโดนีเซียและ Sancaka ผู้มีอัตตาที่เปลี่ยนไปของเขาเข้าสู่จักรวาลภาพยนตร์เพื่อต่อสู้กับ Pengkor ผู้ชั่วร้ายและกลุ่มนักฆ่าเด็กกำพร้าที่โหดร้ายของเขา 

Sancaka เป็นลูกชายของคนงานโรงงานชาวอินโดนีเซียที่มีอาการกลัวความสูง ซึ่ง Sancaka อยู่เคียงข้างขณะที่เขาเป็นผู้นำการหยุดงาน ขณะที่คนงานที่โกรธแค้นปะทะกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พ่อของ Sancaka ถูกเพื่อนร่วมงานแทงและเสียชีวิต ในความสิ้นหวัง Sancaka ปล่อยสายฟ้าออกจากร่างของเขา หนึ่งปีต่อมา แม่ของ Sancaka ออกเดินทางไปยังเมืองอื่นเพื่อหางานทำและไม่กลับมาอีกเลย เขากลายเป็นคนไร้บ้านในจาการ์ตา และได้พบกับ Awang เด็กเร่ร่อนอีกคนที่สอนการป้องกันตัวให้เขา พวกเขาวางแผนที่จะขนของและเดินทางไปยังสถานที่ปลอดภัยใน Tenggara แต่มีเพียง Awang เท่านั้นที่สามารถกระโดดขึ้นรถไฟได้ ตอนนี้ Sancaka เป็นผู้ใหญ่แล้ว และทำงานเป็นยามและช่างเครื่องในโรงพิมพ์หนังสือพิมพ์

สมาชิกสภานิติบัญญัติของอินโดนีเซียส่วนใหญ่ถูกควบคุมโดย Pengkor หัวหน้ากลุ่มอาชญากร ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชากองทัพเด็กกำพร้าทั่วประเทศที่เติบโตมาเป็นนักฆ่า Pengkor วางแผนที่จะวางยาพิษในแหล่งข้าวด้วยยาที่ยับยั้งความสามารถของทารกในครรภ์ในการแยกแยะสิ่งที่ถูกต้องจากสิ่งผิดหลังคลอด หากประสบความสำเร็จ แผนการดังกล่าวจะมอบคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพให้กับเขา หลายคนเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยยาแก้พิษที่ไม่ได้รับการทดสอบ สมาชิกรัฐสภา ริดวัน บาห์รี เป็นผู้นำเพื่อนร่วมงานในการสนับสนุนการแจกจ่ายยาแก้พิษ แต่พันธมิตรของเพงกอร์คัดค้าน ดูหนังออนไลน์

ผู้กำกับ

Joko Anwar

บริษัท ค่ายหนัง

Screenplay Films
Bumilangit Studios
Legacy Pictures
Ideosource Entertainment

นักแสดง

Abimana Aryasatya
Tara Basro
Bront Palarae
Ario Bayu
Rio Dewanto

โปสเตอร์หนัง

รีวิว

อยากดูมานานแล้ว

หนังซุปเปอร์ฮีโร่เอาจริงๆทำออกมาไม่ได้ง่ายๆกว่า Marvel จะมาถึง Avengers: Endgame (2019) ได้ก็เริ่มต้นด้วยการคว่ำหลายรอบในช่วงยุค 80-90
แม้แต่ DC ก็ผีเข้าผีออกมาจนถึงทุกวันนี้ดังนั้นนับประสาอะไรกับหนังฮีโร่ทุนต่ำหรือหนังฮีโร่นอกฮอลลีวูดที่ผลิตผลงานออกมาส่วนใหญ่เรียกว่า
ไม่คุณภาพไม่ถึง บทก็ห่วย เละเทะระเนระนาดหลายเรื่องด้วยความที่ไม่ประสบความสำเร็จเหล่านี้ทำให้ผู้ชมไม่อยากเสี่ยงมากนักกับการดูหนังแนวนี้ที่นอกเหนือจากผลผลิตจาก Marvel และ DCมาถึงคิวของประเทศเพื่อนบ้านที่วงการภาพยนตร์กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างอินโดนีเซียบ้าง ก็มี ‘Gundala’ ฮีโร่จากการ์ตูนยุค 60 ของอินโดนี่แหล่ะมาทำเป็นหนังแล้ว ทำรายได้ในประเทศถล่มทลาย แถมมีค่ายจัดจำหน่ายนอกเอเซียซื้อไปฉายแล้ว (เค้าเคลมมานะ)
••••
หนังเริ่มต้นจากเด็กชาย ‘ซันคาก้า’ได้รับความพิเศษโดยการโดน’ฟ้าผ่า’ แล้วไม่ตาย
เมื่อพ่อตาย แม่หายตัวไป เค้าจึงเดินทางสู่เมืองใหญ่
ด้วยแรงยึดเหนี่ยวที่พ่อพูดไว้ครั้งสุดท้ายว่า..
“ถ้า(เอ็ง)เจอใครเค้าเดือดร้อนแล้วไม่ไปช่วย (เอ็ง)ก็อย่าถือว่าเป็นคนเลย”
ด้วยเหตุนี้ ซันคาก้า เลยพยายามขัดขวางความชั่วหากพบเจอ
แต่อนิจจา เด็กชาย ยังไม่รู้ถึงความสามารถ’พิเศษ’ของตัวเองและยังไร้ฝีมือเลยมักเป็นฝ่ายถูกระดมตีน จนมีอีกเด็กหนุ่มคนหนึ่งมาช่วยและสอนศิลปะป้องกันตัวให้ ซันคาก้า จนมีดีพอตัว
จากนั้นหนังตัดฉับมาอีกทีตอนโต
พระเอกของเรามีอาชีพเป็น รปภ ซึ่งก็ยังไม่รู้พลังของตัวเอง แต่ก็ดันทุลังช่วยคนจนครั้งหนึ่งเกือบตายแต่พอโดนฟ้าฝ่าปรากฎว่าเค้ารอด และนั่นทำให้เค้าเริ่มรู้ถึงความสามารถและพลังของตนเองที่เมื่อถูกฟ้าผ่านอกจากจะไม่ตาย ไม่ไหม้เป็นตอตะโกแล้วเค้ายังมีกำลังกายเพิ่มขึ้น ความเจ็บปวดและบาดแผลก็หาย
คอสตูมที่ใส่ยังสามารถกักพลังไฟฟ้าไว้ใช้โจมตีและรักษาตัวเองอีกด้วย
นั่นคือจุดเริ่มต้นของ Gundala
แต่อีกด้านหนึ่งก็มีเหล่าวายร้ายที่มากันเป็นองค์กรลับพยายามสร้างความเดือดร้อนและดีสเครดิตรัฐบาล
และเมื่อประเทศเริ่มรู้จัก Gundala รัฐบาลจึงต้องขอให้เค้ามาช่วยปราบเหล่าวายร้ายที่มีทั้งอำนาจ พลัง และ ความโหด
••••
หากอ่านเรื่องย่อที่เขียนมา
จะเห็นได้ว่าหนังทำคอนเซปทั้งเนื้อเรื่องและแบ็คสตอรี่ (รวมถึงพลัง) ของฮีโร่ทำออกมาได้น่าสนใจ
แถมหนังยังใส่CGIได้อย่างลงตัวที่ไม่ง่อยๆแบบบ้านเรา หรือ มากล้นจนเกินพอดีแบบหนังจีนอีกด้วย
นอกจากนี้หลังยังผสมผสานกับสิ่งที่หลายรอคอยนั่นคือการต่อสู้แบบที่มีใน The Raid ซึ่งหนังก็มีมาให้
ภาพรวมดูแล้วหนังสนุกดีคือดูไปได้เรื่อยๆ เป็นหนังฮีโร่ต่อสู้ ผสมผสานการดูความเป็นไปของคนอินโดแบบเรียลๆตามเคย
แต่เสียดายหนังช่วงต้นดำเนินเรื่องช้ามากปูเพราะเรื่องช่วงต้นยาวนาน แถมบางอย่างขาดที่มาที่ไปนิดนึง เช่น การประท้วงของคนงาน การบอกว่าทำไม่ไม่ไว้ใจคนรวย การที่อยู่ดีๆก็มีคู่สามภรรยาจะมารับพระเอกวัยเด็กเป็นลูกบุญธรรม
ช่วงกลางดูสนุกขึ้นเน้นมีซีนพลัง มีซีนต่อสู้
แต่เสียดายการต่อสู้ไม่เร้าใจเท่าไหร่ดูค่อนข้างธรรมดา ใครที่หวังอะไรแบบ The Raid คงไม่ได้อย่างที่หวังเต็มร้อย
ส่วนตอนจบเนื่องจากหนังค่อนข้างจะปักหลักให้มีภาคต่อ การต่อสู้ 1 ต่อ 10 กับเหล่าวายร้าย(ที่มีพลัง)ที่เหมือนจะอลังการแน่ๆดันมีแค่ 10 นาทีเพื่อให้ไปตามกันในภาคต่อไป ทำให้ซีนนี้ไร้ความสนุก
กลายเป็นหนังที่ขาดไฮไลต์ไปเลย
สรุปว่าเรื่องปูซะยาวในตอนต้นแต่ดันจบห้วนพิกลๆ ตัวหนังมีความตั้งใจที่ดีและทำออกมาอย่างมีสติ ไม่หลุดโฟกัสส่งผลให้หนังนั้นดูพอได้

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

The Hole (2001) โพรงสยองเขย่าประสาท

The Oxford Murders (2008) สืบจากคณิตศาสตร์

48 Hrs. (1982) จับตาย 48 ชั่วโมง

Another 48 Hrs. (1990) จับตาย 48 ชม. ภาค 2

Faster (2010) ฝังแค้นแรงระห่ำนรก