Gone with the Wind (1939) วิมานลอย

Gone with the Wind (1939) วิมานลอย

รีวิว

จดอ. JUST ดู IT.

อันนี้ขอแอบสารภาพไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เลยว่าครั้งแรกที่ได้ชมผ่านแผ่นดีวีดีคือดูรอบเดียวไม่จบ เพราะตัวหนังมีความยาวร่วม 4 ชั่วโมงอีกทั้งก็ต้องพูดตามตรงว่าตัวหนังเน้นไปที่เรื่องราวความรักใคร่ของหนุ่มสาวกลุ่มนึงผ่านเหตุการณ์สงคราม Scarlett O’Hara Gone with the Wind (1939) วิมานลอย  หญิงสาวลูกเจ้าของไร่ฝ้ายผู้มีชีวิตสะดวกสบาย เธอแอบรัก Ashley Wilkes เพื่อนแถวบ้านที่เติบโตมาด้วยกัน แต่พอมาวันนึงเธอได้ทราบความจริงว่าชายที่เธอหลงรักนั้นมีคู่หมั้นอยู่แล้ว อีกทั้งเขายังไม่ได้สนใจในตัวเธออีกด้วย ประจวบกับการเข้ามาของสงครามในเขตใต้ของอเมริกาทำให้ครอบครัว O’Hara ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ความรักก็ไม่สมหวัง ชีวิตสุดแสนสบายก็เลือนหายไปราวกับทุกอย่างลอยไปกับสายลม

แม้ว่าตัวผมจะเกริ่นด้วยการดูครั้งแรกไม่จบ แต่นี่ก็ถือเป็นภาพยนตร์อีก 1 เรื่องเลยครับที่พอได้กลับมาตั้งใจ ตั้งสมาธิดูแล้ว พบว่ามันมีความสนุก น่าติดตามหลายอย่างมาก (แม้ว่านางเอกจะชวนให้รำคาญมากก็ตาม) แต่ลูกเล่นในการดำเนินเรื่องของผู้กำกับเป็นส่วนช่วยให้รู้สึกว่าหนังน่าติดตามขึ้นมาก จริตจะก้านรวมไปถึงการตัดสินใจเลือกของเธอมันทำให้เราอยากติดตามต่อไปเรื่อย ๆ

จนจบว่าท้ายที่สุดแล้วตัวละครนี้จะถูกนำพาไปอยู่ ณ จุดไหนกันแน่ อีกทั้งพอมาคิดดูแล้วการที่ชีวิตรักของคนเรามัน Epic ถึงขั้นถ่ายทอดออกมาเป็นหนังความยาวเกือบ 4 ชั่วโมงได้ จะน่าสนใจแค่ไหน หลาย ๆ องค์ประกอบที่ ณ เวลานั้นถูกถ่ายทำออกมาได้อย่างปราณีต ยอดเยี่ยม เราไม่อาจบอกได้ว่าหยิบมาดูทุกวันนี้แล้วยังไม่เชย แต่ถือเป็นภาพยนตร์คลาสสิกอีกเรื่องที่หากคุณตั้งใจชมจริงก็จะพบกับความบันเทิงและน่าจะดูจบรวดเดียวได้ไม่ยากครับ

paskuniag

⭐ 9/10

ฉันดูหนังเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้วและก็สนุกดี แต่เพิ่งได้อ่านหนังสือเล่มนี้เป็นครั้งแรก มันเป็นนวนิยายที่ยาวมาก  Gone with the Wind (1939) วิมานลอย และคุณต้องอ่านจนจบหากต้องการดูตอนจบ หนังสือเล่มนี้น่าอ่าน แต่ Margaret Mitchell อดีตนักข่าวหนังสือพิมพ์ ได้บรรยายถึงวัฒนธรรมทางใต้และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากสงครามกลางเมืองได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ขนาดของหนังสือเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับ David O Selznick ไม่ใช่ว่าจะทำส่วนไหน แต่ควรตัดส่วนไหนออกไป ตัวละครจำนวนมากที่ปรากฏในหนังสือไม่สามารถแนะนำในภาพยนตร์ได้หากไม่ยืดความยาวของภาพยนตร์ให้เกินสี่ชั่วโมง

ดังนั้นเขาจึงให้ Sidney Howard เขียนบทภาพยนตร์ จากนั้นจึงตัดให้เหลือความยาวพอเหมาะที่จะถ่ายทำโดยจ้างนักเขียนอีกหลายคนมาตัดบทให้สั้นลง และยังคงเขียนใหม่ด้วยตัวเองระหว่างการถ่ายทำ Selznick กำลังจะหมดเงิน เขาจึงขอให้ Jock Whitney เศรษฐีผู้เป็นเทวดาประจำตัวของเขายืมเงินเขาเพื่อสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ให้เสร็จ ในที่สุดภาพยนตร์ก็เสร็จสมบูรณ์และตัดต่อเสร็จ จากนั้นจึงนำไปฉายทดสอบตลาดที่โรงภาพยนตร์แห่งหนึ่งไม่ไกลจากแอลเอ ผู้ชมต่างตื่นเต้นกับการได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้และบอกเป็นนัยๆ ผ่านทางบัตรชมตัวอย่าง ซึ่งทำให้เซลซนิกสบายใจได้เมื่อรู้ว่าเขามีผลงานดีเด่นรออยู่

PCC0921

⭐ 9/10

ปี 1939 เป็นปีแห่งความวุ่นวายในอุตสาหกรรมฮอลลีวูด ภาพยนตร์มหากาพย์อันยิ่งใหญ่อลังการเรื่องใหญ่โตเป็นที่สนใจในปีนั้น คุณควรตรวจสอบรายชื่อภาพยนตร์ที่ออกฉายในปี 1939 เป็นปีแห่งความวุ่นวายมาก โดยมีภาพยนตร์ดังๆ จากยุคทองมากมายให้ความบันเทิงมากมายสำหรับผู้ชมก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 The Wizard of Oz (1939), Stagecoach (1939), Son of Frankenstein (1939), Drums Along the Mohawk (1939)

และภาพยนตร์เรื่องเล็กๆ เรื่องนี้ เป็นเพียงบางส่วนของชื่อภาพยนตร์ในรายการนั้น ทุกคนต่างแข่งขันกันเพื่อความสมบูรณ์แบบในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ สองอุปสรรคแรกคือฟิล์มเสียงและสี ซึ่งถูกนำมาใช้ในด้านเทคนิคของกระบวนการสร้างภาพยนตร์มาจนถึงจุดนี้ในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ จนถึงจุดนี้ เทคนิคคัลเลอร์ถูกนำมาใช้เป็นเวลาประมาณห้าปีจนถึงปัจจุบัน และถูกนำมาใช้ในภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างสมบูรณ์แบบ เทคนิคคัลเลอร์เป็นฟิล์มสต็อกที่ดีเสมอมา มีสีสันที่สดใสและโดดเด่นบนหน้าจอ ผู้กำกับภาพหลัก เออร์เนสต์ ฮัลเลอร์ ใช้กล้องถ่ายภาพจับภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อนบนฟิล์มและฉายสีให้กระจายไปทั่วหน้าจอใน Gone With the Wind (1939)

ฉันแน่ใจว่าทุกคนคงทราบเรื่องราวพื้นฐานของภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของหญิงสาว ลูกสาวของเจ้าของไร่ฝ้ายผู้มั่งคั่งในช่วงทศวรรษ 1860 ชื่อจอร์เจีย ซึ่งชีวิตของเธอเกี่ยวโยงกับเหตุการณ์ในชีวิตจริงของสงครามกลางเมืองอเมริกาและช่วงฟื้นฟูและสร้างใหม่  ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวสมมติที่ใช้เหตุการณ์จากโลกแห่งความเป็นจริงเป็นพื้นฐาน

แน่นอนว่าพวกเราส่วนใหญ่คงจำภาพบนโปสเตอร์ภาพยนตร์ของสการ์เล็ตต์ โอฮารา (วิเวียน ลีห์) และเรตต์ บัตเลอร์ (คลาร์ก เกเบิล) ที่อยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่นและโรแมนติกได้ และภาพนี้ยังอยู่บนปกดีวีดีและบลูเรย์ทุกแผ่นในทุกวันนี้ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับสการ์เล็ตต์และตัวละครอื่นๆ ที่อยู่ในแวดวงของเธอ และภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับสการ์เล็ตต์จึงจะประสบความสำเร็จ

angel_de_tourvel

⭐ 8/10

เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะดูถูกสิ่งดี ๆ และจับผิดคนอื่น ๆ หรือบางครั้งก็พูดจาไม่ดี ไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ยอดเยี่ยมมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราว เทคนิคพิเศษ การคัดเลือกนักแสดง (อาจมีข้อยกเว้นที่น่าเศร้าสำหรับเลสลี โฮเวิร์ดในบท “แอชลีย์”) และความน่าดึงดูดใจ วิเวียน ลีห์เป็นคนที่ทรงพลัง เร่าร้อน ยิ่งใหญ่ และงดงามมากจนคุณสามารถรับชมซ้ำได้เป็นพันครั้งด้วยสาเหตุนี้ เธอถ่ายทอดสิ่งที่น่าเชื่อถือและเป็นธรรมชาติให้กับบทบาทของสการ์เล็ตต์ผู้เห็นแก่ตัวและเอาแต่ใจได้อย่างน่าทึ่ง ตัวละครนี้ยิ่งใหญ่เกินจริง

Turanic

⭐ 10/10

ในตอนแรกคุณอาจคิดว่าธีมหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้คือความน่ากลัวของสงครามและความคิดที่ว่าทั้งสองฝ่ายต้องทนทุกข์ แต่ไม่ใช่กรณีเดียวใน “Gone with the Wind” สงครามเป็นเพียงฉากหลัง… สการ์เล็ตใช้ชีวิตเกือบทั้งชีวิตในภาพลวงตาของความรัก… เธอมีเป้าหมายที่เธอต้องการบรรลุและเธอคิดว่าถ้าเธอบรรลุได้เธอจะมีความสุขในขณะที่พลาดจุดสำคัญระหว่างทางไปสู่เป้าหมายนั้น…

สิ่งหนึ่งที่ฉันเข้าใจเมื่อดูครั้งที่สองคือ วิมานลอย สการ์เล็ตเป็นคนเห็นแก่ตัวและมีพฤติกรรมแบบต่อต้านสังคม เธอสามารถบงการผู้ชายและบางครั้งก็รวมถึงผู้หญิงเพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างง่ายดาย เธอสามารถฆ่าคนได้โดยไม่รู้สึกแย่ เธอสามารถใช้ประโยชน์จากนักโทษแทนที่จะจ้างผู้ชายที่เป็นอิสระ เป้าหมายคือสิ่งที่ผลักดันเธอให้ก้าวไปข้างหน้าและบางครั้งทำให้เธอทำสิ่งดี ๆ แต่การกระทำเหล่านี้ไม่เคยทำด้วยความจริงใจ พวกเขาทำเพื่อประโยชน์ของตัวเอง คุณคงคิดว่าเธอจะบรรลุทุกสิ่งที่เธอต้องการ แต่เธอไม่ได้ทำ สการ์เล็ตอาศัยอยู่ในนรกส่วนตัวที่เธอสร้างขึ้นเอง

และเมื่ออุปสรรคสุดท้ายต่อความรักอันยิ่งใหญ่ของเธอ เพื่อนสาวที่รักเธอหายไป เธอจึงตระหนักว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอใช้ชีวิตอยู่กับภาพลวงตาของความรัก เธอทำร้ายคนที่รักเธอ สการ์เล็ตเป็นคนเลวร้ายหรือเปล่า อาจจะเป็น… เธอชดใช้บาปของเธอหรือเปล่า เธอทำมากกว่าใครๆ… เธอเข้าใจหรือไม่ว่าความรักที่แท้จริงคืออะไร ใช่แล้ว ในท้ายที่สุด เธอเข้าใจ… สิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ยอดเยี่ยมมาก มันคือโศกนาฏกรรมอย่าง “สงครามและสันติภาพ” ที่มีการพัฒนาตัวละครอย่างยิ่งใหญ่ … ฉากสงครามและการเหยียดเชื้อชาติใดๆ ก็ดูเลือนลางไปเมื่อเทียบกับโศกนาฏกรรมของสการ์เล็ตที่ต้องอาศัยอยู่ในนรกส่วนตัว…

jotix100

⭐ 10/10

ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงให้เห็นสิ่งที่ดีที่สุดของวงการภาพยนตร์อเมริกัน ไม่ว่าเราจะชอบภาพยนตร์เรื่องนี้หรือไม่ก็ตาม ก็ต้องยอมรับว่าเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพรสวรรค์ด้านความคิดสร้างสรรค์ของผู้คนที่ทำงานในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ Gone with the Wind ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งยิ่งใหญ่และเป็นจุดเปลี่ยนของวงการภาพยนตร์เช่นเดียวกับที่เคยทำมาก่อนหน้านี้วิสัยทัศน์ของ David O. Selznick ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ของ Margaret Mitchell เกี่ยวกับภาคใต้ ก่อนและหลังสงครามกลางเมือง ส่งผลดีต่อภาพยนตร์ที่กำกับโดย Victor  Fleming ภาพยนตร์เรื่องนี้จะคงอยู่ตลอดไปเพราะช่วยเตือนเราว่าประเทศอันยิ่งใหญ่นี้ถือกำเนิดขึ้นมาได้อย่างไร แม้จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันจากสองฝ่ายหัวแข็งในสงคราม

Gone with the Wind เป็นการรวบรวมคนเก่งที่สุดของฮอลลีวูด ผลลัพธ์ที่ได้คือภาพยนตร์ที่น่าทึ่งซึ่งทำให้เราสนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนหน้าจอได้นานถึงสี่ชั่วโมง แน่นอนว่าต้องยกความดีความชอบให้กับผู้กำกับ Victor Fleming และวิสัยทัศน์ของเขา รวมถึงการดัดแปลงโดย Sydney Howard ที่ให้โทนที่เหมาะสมกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำอย่างงดงามโดยเออร์เนสต์ ฮัลเลอร์ ทำให้เราเห็นภาพภาคใต้ที่อ่อนโยนก่อนสงคราม และนกฟีนิกซ์ที่ฟื้นคืนชีพจากเถ้าถ่านของแอตแลนตาที่ถูกเผา เพลงประกอบของแม็กซ์ สไตเนอร์ถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมดในภาพยนตร์ได้อย่างยอดเยี่ยม

ไม่มีใครนึกภาพสการ์เล็ตต์ โอฮาร่าอีกคนที่เล่นโดยวิเวียน ลีห์ได้เลย ความงามของเธอ  Gone with the Wind (1939) วิมานลอย ความสามารถในการจับจังหวะเวลา และแนวทางที่ชาญฉลาดของเธอในการแสดงบทบาทนี้ ทำให้การแสดงครั้งนี้เป็นการแสดงที่โดดเด่น นางสาวลีห์แสดงได้ดีที่สุดในช่วงเวลาที่โดดเด่นของอาชีพการงานที่โดดเด่นของเธอ และมันแสดงให้เห็น สการ์เล็ตต์เปลี่ยนจากความร่ำรวยไปสู่ความยากจน และกลับมาร่ำรวยอีกครั้ง และในกระบวนการนี้ เธอค้นพบจุดแข็งภายในที่เธอไม่รู้ว่าตัวเองมี ความรักที่เป็นไปไม่ได้ที่เธอมีต่อแอชลีย์จะครอบงำเธอ และจะทำให้เธอไม่แสดงความรักต่อชายที่รักเธอจริงๆ อย่างเรตต์

ผู้กำกับ

• Victor Fleming
• George Cukor
• Sam Wood

บริษัท ค่ายหนัง

• Selznick International Pictures

นักแสดง

• Thomas Mitchell
• Barbara O’Neil
• Vivien Leigh
• Evelyn Keyes
• Ann Rutherford
• George Reeves

โปสเตอร์หนัง

เรื่องย่อ

สาวสวยทางใต้ที่ถูกกำบังและบงการและผู้แสวงหาผลประโยชน์จอมโกงต้องเผชิญหน้ากันในความรักที่ปั่นป่วน ในขณะที่สังคมรอบตัวพวกเขาพังทลายลงเนื่องจากการสิ้นสุดของความเป็นทาส ดูหนังออนไลน์  และถูกสร้างขึ้นใหม่ในช่วงสงครามกลางเมืองและช่วงการฟื้นฟูใหม่ ผลงานจากผู้กำกับ เดวิท โอ เซลซ์นิค เรื่องราวของความรักเมื่อ “แอชลี่ย์” ชายหนุ่มที่กำลังจะแต่งงานกับญาติของเขา “เมลานี ฮามิลตั้น” โดยที่ “สการ์เล็ต”  Gone with the Wind (1939) วิมานลอย หญิงสาวที่ได้แอบมีใจและได้บอกความรู้สึกของตนเองให้เขาได้รับรู้ แต่ทว่าแอชลี่ย์กลับไม่ปฎิเสธและไม่ยอมบอกให้เธอได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเขามีใจให้กับเมลานีแล้ว ซึ่งในขณะนั้น “เร็ตต์ บัตเลอร์ ” บังเอิญได้ยินเรื่องราวทั้งหมดที่พวกเขาคุยกัน

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

The Green Mile (1999) ปาฏิหาริย์แดนประหาร

Hostage (2005) ฝ่านรก ชิงตัวประกัน

Just Mercy (2019) เพียงแค่ความเมตตา

Con Air (1997) ปฏิบัติการณ์แหกนรกยึดฟ้า

Awake (2007) หลับ เป็น ตื่น ตาย