Ghostbusters 1 (1984) บริษัทกำจัดผี 1

Ghostbusters 1 (1984) บริษัทกำจัดผี 1

เรื่องย่อ Ghostbusters 1 (1984) บริษัทกำจัดผี 1

 นักจิตศาสตร์สามคนถูกบังคับให้ออกจากเงินทุนของมหาวิทยาลัยและตั้งร้านเป็นบริการกำจัดผีที่ไม่เหมือนใครในนิวยอร์กซิตี้ เพื่อดึงดูดลูกค้าที่หวาดกลัวแต่ยังสงสัย

ผู้กำกับ

Ivan Reitman

บริษัท ค่ายหนัง

• Columbia-Delphi Productions
• Black Rhino

นักแสดง

• Bill Murray
• Dan Aykroyd
• Sigourney Weaver
• Harold Ramis
• Rick Moranis

โปสเตอร์หนัง Ghostbusters 1 (1984)

รีวิวหนัง Ghostbusters 1 (1984)

คนวิจารณ์หนังไม่เป็น

Ghostbusters (1984) สามมหากาฬ ล่าผีสะท้านนิวยอร์ค

ผมต้องขอโทษด้วยที่รีวิวหล้าช้าเพราะ วันนี้ต้องไปเปลี่ยนหน้าจอ พูดง่ายๆ ซื้อหน้่าจอคอมพ์ใหม่ซึ่งมันเจ๊งไปเ้เล้ว ไปซื้อเเถวพันทิพย์นะครับ

เนื้อเรื่องของเรื่องเกี่ยวกับสามศาตราจารย์ด้านจิตวิทยา ปีเตอร์ เเวงค์เเมน (บิล เมอร์เร่) , เรย์มอนด์ สเเตนซ์ (เเดน เเอคคอย)
อีกอน สเปนเจอร์ (ฮาโรล์ เรมิส) ที่โดนไล่ออกจากวิทยาลัย

โดยที่ไม่รู้ว่ามีภูติผีปีศาจเต็มทั่วนครนิวยอร์ค ทั้งสามต้องทำอะไรสักอย่างโดยสร้างเครื่องมือจับผีเเละสร้างที่อยู่ที่เก็บผี เพื่อไล่ผีออกจากเมืองนครนิวยอร์คเเห่งนี้

หนังไล่ผีทั่วไป คุณอาจคิดเเต่เรื่องผีเเบบน่ากลัวเเบบพวก ผีเอคโซซิส (ผมไม่เคยดูนะ) เเต่หนังเรื่องนี้ืืทำให้ความคิดเเบบน่ากลัวหายไปเลยเพราะเพิ่ม เเนวคอเมดี้ เพิ่มไปทำให้หนังมีสีสันมากขี้น

หนังกำกับโดย ไอเเวน เรทเเมน ผู้กำกับชาวเเคนาดา ที่ชอบกำกับหนังตลก

มาดูส่วนเนื้อเรื่องกัน เนื้อเรื่องค่อนข้างเเหวกเเนวไปเหมือนกันเเต่ยังคงเป็นความน่ากลัวอยู่บ้างในเเบบเหนือธรรมชาติ (ประมาณพวกลมเเรงๆ ใบไม้ปลิวตามลมเเบบเเเรงๆ พวกข้างของปลิวประมาณนี้นะครบ)

โดยก็เข้าท่านะเเต่ยังมีข้อเสียตรงที่ว่า การเพิ่มสมาชิกโดย ตอนกลางๆเรื่องเพิ่งจะมีสมาชิกใหม่ชื่อว่า วินสตั้น (เออร์นี่ ฮัตสัน) โดยที่เขาเข้ามาสมัครเองเพราะสนใจ เเต่ดันเหมือนตัวละครนี้ไม่ค่อยสำคัญในทีมเท่าไร

มาดูส่วนของคะเเนนกันผมให้ถึง 7.9/10 ครับ

ekka_eak

[CR] [#Review] Ghostbusters บริษัทกำจัดผี – หนัง Classic ที่ถูก Reboot ใหม่ พร้อม CG ที่จัดเต็ม ดูเอาเพลินก็สนุกดีนะ

นี่แทบจะจำเรื่องราวของ Ghostbusters ในสมัย 30 กว่าปีที่แล้วไม่ได้เลยนะครับ เพราะหนังนานมากกกกกก ตั้งแต่ผมยังไม่สิบขวบ แต่ก็พอจำคร่าวๆ ได้ว่าเป็นหนังปราบผีที่สนุกและฮามาก กับทำนองเพลงที่ฟังแล้วติดหู พอดู teaser ของเวอร์ชั่นนี้แล้วได้ยินเสียงเพลงก็อดไม่ได้ที่จะฮัมตาม จริงๆ ตอนแรกผมเลือกอยู่ระกว่าง Ghostbusters กับ The Purge Election Year แต่อารมณ์ตอนนั้นอยากดูอะไรที่บันเทิงและไม่เครียดมากกว่า

เรื่องราวของกลุ่มนักวิชาการสาวผู้สนใจในสิ่งลี้ลับเหมือนกัน ได้รวมตัวกัน เพื่อใช้ความรู้ความสามารถ ผนวกเข้ากับการใช้เครื่องมือ และเทคโนโลยีทางวิทยาศาตร์ เข้าศึกษาปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติต่างๆ จนกระทั่งได้ก่อตั้งเป็นบริษัทกำจัดผี และแล้วระหว่างที่พวกเธอกำลังปฏิบัติหน้าที่ตามล่าเหล่าผีร้ายอยู่นั้น พวกเธอก็พบว่ามีใครบางคนได้ทำเครื่องมือปลดปล่อยเหล่าผีร้ายให้ออกอาละวาดทั่วเมือง จนเกิดเป็นความวุ่นวายทั่วนิวยอร์ก ความหวังเดียวที่จะหยุดยั้งได้ จึงตกอยู่กับสาวๆ บริษัทกำจัดผีทั้ง 4 คน

หนังค่อนข้างดูง่ายถึงง่ายมาก ไม่มีอะไรซับซ้อน จะมีงงๆ อยู่บ้างตอนที่แก๊งค์มนุษย์ป้าพูดเรื่องวิทยาศาสตร์กัน ซึ่งก็มองข้ามๆ มันไปเถอะ หนังดูแล้วค่อนข้างให้เกียรติความคลาสสิคของเวอร์ชั่นเก่าอยู่พอสมควร กลิ่นอายความคลาสสิคใน Ghostbusters มาเต็มเลยทีเดียว ความตลกในหนังก็จัดมาค่อนข้างเยอะ ถึงแม้จะมีความฝืดอยู่บ้างในมุขก็ตาม แต่บางมุขก็ฮากันลั่นโรงเลยทีเดียว

ด้วยตัวละครหลัก 4 ตัวเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างพูดมากทุกคน บางครั้งเวลาทั้งสี่คนพูดออกมาพร้อมกัน มันทำให้ดูเหมือนแย่งกันพูดจนหนวกหู แต่ก็ไม่ได้ทำให้ใครเด่นขึ้นมาเกินหน้าเกินตาเพื่อนฝูง หนังแบ่งความสำคัญให้ตัวละครทั้ง 4 อย่างเท่าเทียม ทั้ง Melissa McCarthy, Kristen Wiig ที่รับส่งบทกันได้อย่างสนุกในบทเพื่อนซี้ที่จิกกัดกันตลอดเวลา Leslie Jones ในบทคนดำคนเดียวที่มาพร้อมมุขแปลกๆ ฮาๆ ตลอดเวลา และคนที่เรียกว่าฉายแสงมากกว่าใครเพื่อนคือ Kate McKinnon ในบท Jillian Holzmann ที่ทำออกมาได้มีเสน่ห์เอามากๆ จะมีก็แค่ Chris Hemsworth เท่านั้นที่หลายๆ คนบอกเด่นเพราะความเกรียน แต่สำหรับผม ผมว่าบทน้อยและไม่ได้มมีความสำคัญอะไรเลย ถ้าไม่ได้โดนผีสิง และที่เซอร์ไพรส์ที่สุดคือการเอา Bill Murray ซึ่งเคยเล่นบท Ghostbusters มารับเชิญในหนังด้วย

จุดแข็งโป๊กที่สุดของหนัง อยู่ที่ CG ครับ ด้วยเทคโนโลยียุคปัจจุบัน ทำให้หนังสามารถเล่นอะไรได้เยอะขึ้น แล้วสตูดิโอก็ทำออกมาได้ค่อนข้างเจ๋งเลยล่ะ ถ้าให้ดี แนะนำดู 3D หรือ IMAX จะยิ่งได้อรรถรสแน่นอน เพราะมาเต็มและมาใหญ่มาก มีความคูลสุดๆ

รวมๆ แล้วสำหรับผม Ghostbuster เป็นหนังเพื่อความบันเทิงโดยเฉพาะเลยล่ะ ไม่ต้องเน้นอะไรมาก เข้าไปดูหนังเพื่อความขำ และดูฉาก Action CG ให้เต็มตา แล้วจะได้ความสนุกแบบอารมณ์ดีกลับบ้านแน่ๆ (หนังมี End Credit ด้วย น่าจะมีภาคต่อแน่ๆ)

elicopperman

8/10
Bustin’ Still Makes me Feel Good

40 ปีที่แล้ว ผู้กำกับตลกหน้าใหม่ Ivan Reitman และดาราตลกชื่อดัง Bill Murray, Dan Aykroyd และ Harold Ramis ได้ออกฉายภาพยนตร์ตลกเหนือธรรมชาติเรื่อง Ghostbusters ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากแนวคิดของ Aykroyd เอง และประสบความสำเร็จอย่างไม่คาดคิดเมื่อเข้าฉายในช่วงฤดูร้อนปี 1984 และกลายเป็นจุดเปลี่ยนทางวัฒนธรรมตั้งแต่ทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา โดยมีภาคต่ออีกหลายภาค ภาคแยกทางโทรทัศน์ และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อมองย้อนกลับไปที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เมื่อครบรอบ 40 ปี ก็ยังคงถือเป็นภาพยนตร์ตลกสยองขวัญคลาสสิก และยังมีอีกหลายอย่างที่พิสูจน์ให้เห็นว่าทำไมภาพยนตร์เรื่องนี้ถึงพิเศษ

เรื่องราวหลักเป็นเรื่องราวของนักจิตวิทยาพาราไซแอนซ์ผู้แปลกประหลาดสามคน ได้แก่ Peter Venkman, Ray Stantz และ Egon Spengler ซึ่งเริ่มต้นธุรกิจจับผีในนิวยอร์กซิตี้ โครงเรื่องที่ค่อนข้างชัดเจนสำหรับหนังตลกสยองขวัญที่ยังคงความสมบูรณ์ และผลลัพธ์สุดท้ายคือกลุ่มที่ไล่จับผีทั่วแมนฮัตตัน จากนั้นต้องจัดการกับโกเซอร์ ภัยคุกคามเหนือธรรมชาติที่อาจนำประตูนรกเข้าสู่เมือง นอกจากจะเป็นหนังตลกที่ทะเยอทะยานแล้ว Ghostbusters ยังเป็นหนังสยองขวัญที่สร้างสรรค์ด้วยผีและปีศาจจำนวนมากที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความหลงใหลของแดน

แอ็กครอยด์ที่มีต่อสิ่งเหนือธรรมชาติ เสียงหัวเราะส่วนใหญ่มาจากเคมีของเพื่อนอย่างเมอร์เรย์ แอ็กครอยด์ และรามิส และความแปลกประหลาดและบุคลิกภาพของแต่ละคนก็เข้ากันได้ดีในขณะที่พวกเขาพยายามไล่จับผีต่างๆ ในเมือง นอกจากนี้ ยังมีเรื่องรักเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างเวนก์แมนกับดาน่า บาร์เร็ตต์ นักเล่นเชลโลที่อพาร์ตเมนต์ของตัวเองนำไปสู่ประตูนรก และแม้ว่าเสียงหัวเราะและความตื่นเต้นจะเป็นสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ แต่เรื่องราวความรักเล็กๆ น้อยๆ นี้ทำให้หัวใจของหนังยังคงผูกพันกัน

นอกจากนักแสดงนำทั้งสามคนแล้ว นักแสดงทั้งหมดก็ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ดำเนินไปได้ดีด้วยตัวของมันเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Sigourney Weaver ในบท Dana ที่สวยงามและแข็งแกร่ง แม้ว่าจะถูก Zuul เข้าสิง Rick Moranis ก็เล่นได้ดีในบท Louis Tully เพื่อนบ้านของ Dana ซึ่งบุคลิกเนิร์ดของเขาจะตรงกันข้ามเมื่อเขาถูกเข้าสิงเช่นกัน แม้ว่าจะเห็นได้ชัดว่าบทบาทของเขากับ Dana นั้นดีกว่าในบทของ

Venkman มาก Ernie Hudson รับบทเป็น Ghostbuster ที่เพิ่งได้รับการว่าจ้างใหม่อย่าง Winston Zeddemore ด้วยความนุ่มนวลที่ลื่นไหล และ Annie Potts ก็เล่นบทที่ตลกที่สุดบทหนึ่งในบทของ Janine Melnitz เลขานุการ ในขณะที่ William Atherton รับบทเป็น Walter Peck ตัวแทนของ EPA ด้วยความเย้ยหยันและเอาแต่ใจจนเกินไป จนทำให้คุณสงสัยว่าเขาใส่ใจกับความเป็นอยู่ของผู้อื่นมากเพียงใดเมื่อเทียบกับความเชื่อของตัวเอง ผีปอบเองก็น่ากลัวพอสมควร และการปรากฏตัวของ Gozer ก็ทำให้เสียงอันชั่วร้ายของ Paddi Edwards ดังขึ้น ด้วยหนังตลกสยองขวัญแอคชั่นทุนสูงอย่างนี้ นักแสดงคือสิ่งที่ทำให้ Ghostbusters เป็นหนังที่น่าดูจริงๆ

แต่แน่นอนว่าเหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้ต้องชมภาพยนตร์เรื่องนี้หลังจากผ่านมาสี่ทศวรรษก็คือเอฟเฟกต์พิเศษและการออกแบบสัตว์ประหลาดอันน่าทึ่งที่นำโดยริชาร์ด เอ็ดลันด์ เมื่อพิจารณาว่าทีมงานมีตารางงานที่ค่อนข้างแน่นหนา รายละเอียดจำนวนมากและการจัดองค์ประกอบภาพที่พวกเขาทำสำหรับผีก็ยังคงน่าสนใจอยู่มาก แม้ว่าการจัดองค์ประกอบภาพแบบกรีนสกรีนบางส่วนจะดูล้าสมัยไปบ้างก็ตาม แม้ว่าหลายคนจะจำการออกแบบที่ขายได้ของสไลเมอร์และสเตย์ พัฟต์ มาร์ชเมลโลว์แมนได้จนถึงทุกวันนี้

แต่สต็อปโมชั่นที่น่ากลัวและหุ่นเชิดธรรมดาของซูลและวินซ์ยังคงรักษาไว้ได้ในแง่ของความน่ากลัวและความน่าขนลุกเมื่อเคลื่อนไหวอย่างแท้จริง เมื่อพิจารณาว่ามีการใช้หุ่นเชิดมากเพียงใดในภาพยนตร์เรื่องนี้ก่อนที่ CGI จะกลายเป็นบรรทัดฐานของอุตสาหกรรม เอฟเฟกต์เลเซอร์ของ Ghostbuster ก็ดูเจ๋งดีเมื่อดูจากความเข้มข้นเพียงอย่างเดียว แม้ว่าฉากแอ็กชันจริงจะค่อนข้างเรียบง่ายด้วยตัวของมันเอง ซึ่งอาจเป็นเพราะข้อจำกัดทางเทคโนโลยีในสมัยนั้น เมื่อรวมกับงานถ่ายภาพที่มืดหม่นตามธรรมชาติของ Laszlo Kovacs และดนตรีประกอบสุดหลอนเหนือกาลเวลาของ Elmer Bernstein คุณก็จะได้ภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยเอฟเฟกต์พิเศษสุดล้ำสมัย

ด้วยการผสมผสานอารมณ์ขันและความสยองขวัญเข้ากับนักแสดงที่ยอดเยี่ยม Ghostbusters ยังคงเป็นภาพยนตร์ตลกเหนือธรรมชาติที่ไม่เหมือนใครซึ่งมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมป๊อปและภาพยนตร์เป็นอย่างดีตลอดสี่ทศวรรษที่ผ่านมา ตอนนี้ Ghostbusters: Frozen Empire ภาคล่าสุดได้ออกฉายให้ผู้ชมได้เพลิดเพลินแล้ว ปีนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่าอย่างแท้จริงที่จะเฉลิมฉลองและให้เกียรติภาพยนตร์ต้นฉบับสำหรับความสำเร็จทั้งหมดที่ได้รับมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพลงประกอบที่ติดหูไม่รู้จบของ Ray Parker jr. กล่าวไว้ได้ดีที่สุด การหยุดทำให้เรารู้สึกดีแม้จะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม

ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Ghostbusters 2 (1989) บริษัทกำจัดผี 2

Ghostbusters 3 (2016) บริษัทกำจัดผี 3

Ghostbusters Afterlife (2021) โกสต์บัสเตอร์ ปลุกพลังล่าท้าผี

Ghostbusters Frozen Empire (2024) โกสต์บัสเตอร์ส มหันตภัยเมืองเยือกแข็ง