เรื่องย่อ : First Cow (2019) ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ ดูหนังHD ดูหนังฟรี MovieHD24 หนัง2024 หนังออนไลน์ Full HD
ดูหนัง First Cow (2019) ในช่วงทศวรรษที่ 1820 ชายผู้เงียบขรึมและพ่อครัวฝีมือดีเดินทางไปทางตะวันตกสู่ดินแดนโอเรกอน ซึ่งเขาได้พบกับผู้อพยพชาวจีนที่แสวงหาโชคลาภของเขาเช่นกัน ในไม่ช้าทั้งสองก็ร่วมมือกันในแผนการที่เป็นอันตรายเพื่อขโมยนมจากวัวเจอร์ซีย์อันทรงคุณค่าของเจ้าของที่ดินผู้มั่งคั่ง ซึ่งเป็นวัวตัวแรกและตัวเดียวในดินแดน ดูหนังออนไลน์
ปัจจุบันมีผู้หญิงคนหนึ่งพาสุนัขของเธอเดินเล่นริมแม่น้ำ First Cow พบโครงกระดูก 2 ท่อนนอนอยู่ด้วยกันในหลุมศพตื้นๆ ในปี 1820 โอทิส “คุกกี้” ฟิโกวิตซ์เป็นเชฟเงียบๆ ที่กำลังเดินทางอยู่ในโอเรกอนคันทรี่พร้อมกับกลุ่มคนวางกับดักขนสัตว์ที่ดังและก้าวร้าว ซึ่งคอยรังควานเขาเพราะหาอาหารไม่เพียงพอ คืนหนึ่ง เขาได้พบกับคิง-ลู่ ผู้อพยพชาวจีนที่กำลังหลบหนีคดีฆ่าชายชาวรัสเซีย คุกกี้ยอมให้ลูซ่อนตัวในเต็นท์ทั้งคืนและเฝ้าดูเขาหนีข้ามแม่น้ำในวันรุ่งขึ้น
กลุ่มของคุกกี้ไปถึงป้อมแห่งหนึ่ง และลูก็พบเขาที่นั่น First Cow กำลังดูแลเด็กทารกอยู่กลางการต่อสู้ในบาร์ และเชิญเขาไปที่บ้านของเขา คุกกี้ย้ายเข้ามาและรู้ว่าลูกำลังคิดจะเริ่มฟาร์ม ขณะที่คุกกี้พูดถึงการเปิดร้านเบเกอรี่หรือโรงแรมในซานฟรานซิสโก
Kelly Reichardt
FilmScience
IAC Films
John Magaro
Orion Lee
Toby Jones
Ewen Bremner
Scott Shepherd
Gary Farmer
Lily Gladstone
First Cow ถ้าจะต้องพูดถึงแพลตฟอร์มดูหนังของซีเนไฟล์สายลึกอย่าง MUBI (ที่ความน่าเสียดายเดียวคือคอนเทนต์ของเขาไม่มีซับไตเติลไทย) แล้ว เรามักนึกถึงแต่หนังอาร์ตสายประกวดที่ไม่เน้นมอบความบันเทิงให้กับผู้ชมสักเท่าไหร่ แต่ขณะเดียวกับที่มันไม่ได้มอบความบันเทิงนั้น มันก็หยิบยื่นโมเมนต์ที่พาให้เราตกตะกอน และฉุกคิดกับเรื่องราวที่ผู้กำกับตั้งใจคราฟต์มาเป็นพิเศษ ซึ่งหลายเรื่องก็ย่อยง่ายและสร้างอิมแพคต่อใจเราได้เกินคาดทีเดียว หนึ่งในหนังสตรีมผ่าน MUBI ที่เรารักมากก็คือ ‘First Cow’ ที่สร้างจากงานเขียนเรื่อง ‘The Half-Life’ โดย โจนาธาน เรย์มอนด์ (Jonathan Raymond) ที่ในเรื่องนี้เขาก็มาร่วมเขียนบทกับผู้กำกับ เคลลี ไรคาร์ดต์ (Kelly Reichardt) ด้วย
.
First Cow เป็นหนังปี 2019 เล่าเรื่องราวปี 1820 ในยุคที่ผู้คนต่างมุ่งหน้าไปแสวงโอกาสทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา ดินแดนนี้ดูจะใหม่และเต็มไปด้วยโอกาสมากมายสำหรับทุกคน แต่ก็กลับไม่เป็นเช่นนั้นเสียทีเดียว เมื่อคนทำอาหารฝีมือดีประจำขบวนคาราวานสุดโหดพบว่าตัวเขาไม่เหมาะจะใช้ชีวิตป่าเถื่อนเช่นที่เป็นอยู่ ได้มาพบกับผู้อพยพเชื้อสายจีนที่ต้องการแสวงโชคในดินแดนใหม่ ทั้งสองคนจึงเลือกที่จะร่วมกันสานฝัน ‘อเมริกันดรีม’ ในแบบที่พวกเขาถนัดและไม่ขึ้นอยู่กับบรรทัดฐานของใคร ในฐานะที่ต่างคนต่างก็เป็น ‘คนชายชอบ’ ของทุกสังคมที่เคยใช้ชีวิตอยู่
.
แต่วิถีอเมริกันดรีมต้องมีต้นทุน First Cow และบางต้นทุนก็ไม่ใช่ว่าใครหน้าไหนจะมีได้ เช่น วัวสักตัว โดยในเขตที่พวกเขาอาศัยอยู่นั้นมีวัวแค่เพียงตัวแรกและตัวเดียว เป็นของเจ้าของที่ดินผู้มั่งคั่ง ชายหนุ่มทั้งสองที่หวังเก็บเงินให้ได้สักก้อนและตัดสินใจเริ่มธุรกิจเล็กๆ ด้วยกัน จึงเลือกที่จะใช้ต้นทุนของคนอื่น หรือวัตถุดิบจาก ‘วัว’ ตัวที่ว่า เพื่อสานฝันการก่อร่างสร้างอาชีพครั้งนี้ แล้วพวกเขาจะทำแบบนี้ไปได้นานแค่ไหนกันนะ? แล้วการ ‘หยิบยืม’ จากคนมีอันจะกิน โดยคนไม่มีอันจะกินนั้น เป็นเรื่องที่รอมชอมกันได้ และควรจะปล่อยไปหรือไม่?
.
“คนทำขนมอบกับขอทานเหมือนกันตรงไหน?”
.
หนึ่งในตัวเดินเรื่องปล่อยมุกติดตลกคำพ้องเสียง Baker กับ Beggar First Cow ซึ่งแสดงถึงทั้งอารมณ์ขันในภาวะคับขัน และทั้งความเป็นจริงที่ขมขื่นที่พวกเขากำลังเผชิญ สุดท้ายแล้ว ทุกสิ่งล้วนมีต้นทุน และไม่ใช่ทุกคนที่ไขว่คว้าจะได้มาซึ่ง ‘ความต้องการพื้นฐาน’ ที่สมควรได้รับเสมอไป โดยรวมแล้ว ผลงานของ เคลลี ไรคาร์ดต์ เรื่องนี้ ทั้งละเมียดละไม ลุ่มลึก และสะเทือนอารมณ์อย่างไม่น่าเชื่อ เป็นอีกหนังคุณภาพที่เราอยากเชียร์ให้ซีเนไฟล์ทุกคนได้รับชมกัน ซึ่งจากที่บทสนทนาในเรื่องมีไม่มากและไม่ซับซ้อนแล้ว การไม่มีซับไตเติลไทยเลยไม่น่าจะเป็นปัญหาในการรับชมนัก
First Cow เคลลี ไรชาร์ดต์ เป็นคนทำหนังที่จับจ้องเรื่องราวความอ่อนโยน ความผูกพันของมิตรภาพได้งดงามมากๆ ในช่วงเวลาแห่งความป่าเถื่อนของโอเรกอนยุค 1820 ผู้คนออกล่าและดักจับสัตว์กันกลางป่า ใช้ชีวิตห้อมล้อมด้วยอันตรายทุกย่างก้าว แต่พอมาอยู่ในหนังของเธอแล้วเรากลับพบว่าแม้ตัวหนังมันจะห่มคลุมด้วยอันตราย แต่มันยังมีน้ำเสียงของความละมุนบางอย่างผ่านภาพ เสียงดนตรีและเสียงกระซิบกระซาบของผู้คนในนั้น
มิตรภาพก่อตัวขึ้นระหว่างชายสองคนที่แทบไม่มีสิ่งใดเหมือนกันเลย คุกกี้ (จอห์น มากาโร) เป็นพ่อครัวผิวขาวที่ถูกรังแกอยู่เสมอๆ จนแยกตัวออกมาอยู่คนเดียวกับ ลู (โอเรียน ลี) ชายชาวจีนพลัดถิ่นที่ครั้งหนึ่งคุกกี้เคยช่วยชีวิตเขาไว้สมัยที่ลูเปล่าเปลือยและถูกคนรัสเซียตามล่าเพราะพลั้งมือฆ่าเพื่อนของพวกนั้นไปคนหนึ่ง มันได้กลายเป็นอดีตที่ยึดโยงคนทั้งสองเข้าหากัน กลายเป็นคู่หูปลูกกระท่อมหลังน้อย เก็บของป่าล่าสัตว์ ก่อนที่พวกเขาจะได้ยินข่าวลือว่ามีชายชาว
อังกฤษผู้ร่ำรวยและครอบครองที่ดินอยู่ชายป่า จะเอา ‘วัวตัวแรก’ เข้ามาเพื่อรีดนมมาใส่พร้อมชาแบบอังกฤษ คุกกี้กับลูจึงหาทางลอบเข้าไปหาเจ้าวัวตัวเมียเพื่อรีดนมมันมาทำ ‘บิสกิต’ แล้วเอาไปขายที่ตลาด ปรากฏว่ามันได้รับความนิยมมหาศาลจนพวกเขาต้องลอบกลับไปรีดนมแม่ตัวตัวนั้นคืนแล้วคืนเล่า ก่อนที่เรื่องจะไปถึงหูเศรษฐีเจ้าของวัวที่อยากมาชิมขนมชิ้นนั้นด้วยตัวเอง…
จะมองว่ามันเป็นหนังคู่หูก็ย่อมได้ เพราะบุคลิกของคุกกี้กับลูต่างกันโดยสิ้นเชิง ขณะที่คุกกี้ซึ่งหนังฉายให้เห็นลักษณะ ‘ไม่สู้คน’ มาตั้งแต่ต้นเรื่อง เป็นชายหนุ่มอ่อนโยนที่แสดงความเสียใจต่อแม่วัวที่คู่ของมันตายจากระหว่างเดินทาง กลับกันคือลูซึ่งระหกระเหินเดินทางมาจากจีนและพบเจอโลกมามากกว่า มีลักษณะแพรวพราวด้วยไหวพริบหรือกระทั่งมีความเป็นสัตว์ป่ามากกว่าคุกกี้
และด้วยองค์ประกอบเช่นนี้เองที่ทำให้คนทั้งสองเข้าขา กอดคอกันวาดฝันถึงชีวิตที่ดีกว่า แลกเปลี่ยนอนาคตที่อยากเห็นด้วยกัน และมันอบอุ่นมากๆ เพราะเรารู้สึกว่าต่างฝ่ายต่างมีกันและกันในนั้นเสมอ เป็นมิตรภาพแบบที่หาได้ยาก และหนังก็ไม่ได้ฟูมฟายถึงมันแบบเล่นใหญ่ด้วย แต่มันอยู่ในคำพูดที่ตกหล่นมาจากปากตัวละคร อยู่ในท่วงท่าการห่วงหาและใยดีต่อกันตลอดทั้งเรื่องยิ่งฉากจบนี่คือขนลุกมากๆ และงดงามมากๆ ด้วย เพราะมันโยงไปถึงฉากเปิดเรื่องและตอกย้ำถึงมิตรภาพที่ผูกพันแน่นแฟ้นกันจนข้ามศตวรรษเช่นนี้