เรื่องย่อ : Fast And Furious 7 (2015) เร็ว…แรงทะลุนรก 7 ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ ดูหนังHD ดูหนังฟรี MovieHD24 หนัง2024 หนังออนไลน์ Full HD
Fast And Furious 7 ขอบสหนัง
#ขอบสหนังรีวิว
Fast And Furious 7 (2015) เร็ว…แรงทะลุนรก 7
หนังจากที่ผมวนเวียนกับแฟรนไชส์ Fast & Furious มาสักพักใหญ่ จนมาถึงงานลำดับที่ 7 ภาคที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลของหนังชุดเรื่องนี้ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว หนังได้เจมส์ วาน เจ้าพ่อหนังสยองขวัญ มาปรุงแต่งหนังและเล่าเรื่องได้มีอรรถรสเผลอๆอาจจะได้กว่า จัสติน ลิน ด้วยซ้ำ เพราะงานชิ้นนี้ เขาไม่ได้ทำได้งดงามในเรื่องการออกแบบฉากแอ็คชั่น การต่อสู้กันทั้งการเผชิญหน้า หรือการซิ่งรถ แต่ยังเชื่อมโยงพล็อคหนังเรื่องประเด็นความออกมาได้ไหลเลื่อนเลยละ
ข้อดี
ผมขอเว้นเรื่องราวประเด็นดราม่านักแสดงหรือการเสียชีวิตของพอล วอล์คเกอร์ ในระหว่างถ่ายทำ ขอเขียนในสิ่งที่ได้สัมผัสจากหนัง Furious 7 “เหมือนบาปกรรมจากลอนดอน จะตามเราถึงบ้าน” การรวมตัวของทีมแก๊งค์ซิ่ง ที่จากชีวิตอันแสนสงบไม่ได้เป็นอาชญากรกลับกลายเป็นว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญมาลายพวกเขา เพราะปมความแค้นจาก Furious 6 หนังเชื่อมต่อประเด็นการตายของ ฮาน จาก Tokyo Drift ผนวกเข้ากับการโผล่มาของตัวละครอย่าง เด็คการ์ด ชอว์ ประเด็นการแก้แค้นจึงเริ่มต้นขึ้น
พวก 1 ต้องการแก้แค้นให้เพื่อน อีกพวก 1 ต้องการมาเอาคืนแทนน้องชาย หนังจึงมาพร้อมกับการเผชิญหน้าต่อสู้กันโดยฉากแอ็คชั่นที่ดูจะวินาศสันตะโร ระห่ำถึงขีดสุด เจมส์ วาน แม้จะไม่เคยทำหนังแอ็คชั่นมาก่อนในเวลานั้น แต่เขาทำการบ้านมาดี นำเสนอให้ Furious 7 มีภาพปรากฏต่อสายตาคนดูไหลลื่น วางพล็อตเรื่องให้ดูง่าย สนุกมากยิ่งขึ้น โดยที่แต่ละซีนของหนังฉากบู๊มันค่อยๆไต่ระดับความพีคเข้าไปเรื่อยๆ ตั้งแต่การดิ่งพสุธาราเพื่อช่วยตัวแรมซี่ ในอาเซอร์ไบจาน, ซิ่งทะลุพิกัดทะลุ 3 ตึกในยูเออี, หรือการปล่อยของซีนสุดท้ายในแอลเอการซิ่ง นอกจากนี้การสร้างประเด็นตาเทพค้นหาบุคคลเข้ามาเพิ่ม ทำให้ทิศทางของหนังต่อยอดไปในภาค 8 อีกด้วย
หนังอาจจะดูเว่อไปบ้าง จนมีบางคนไม่ถูกจริตออกแนวขี้โม้ไม่สมจริง แต่ต้องยอมรับการทำงานของ วาน ในการใช้เทคนิค CGI มาคลุกเคล้าในตัวหนังทำให้เราได้ภาพซีนแอ็คชั่นที่ดูมันสะใจคนดู เพราะมันหวือหวา ชวนน่าติดตาม และมันก็ทำให้เราได้เห็นภาพตัวละครไบรอันที่อาจจะไม่สมบูรณ์แบบ เพราะน้องชายเขามาเล่นแทน และต้องตกแต่งใบหน้าให้ดูเนียน แถมยังเป็นการสั่งลาตัวละครนี้ให้ดูเท่ห์ส่งท้ายและปิดฉากให้สมกับที่ครั้งหนึ่งเขาได้อุทิศตัวเองเพื่อหนังเรื่องนี้ ไม่แปลกเลยที่ช่วงท้ายหนังจะเล่นเอาผู้ชมอย่างเราๆน้ำตาไหลพราก ในการอุทิศแด่พอล
นักแสดง
เราคิดว่าภาคนี้อาจจะท็อปฟอร์ม ยิ่งทีมดอม เหลือน้อย เราได้เห็นบทบาทสำคัญของครอบครัวชุดนี้ วิน ดีเซล หัวโจ๊กหัวนานทีมลีลาซิ่งกินขาด เป็นพี่ใหญ่, มิเชล โรดริเกวซ สาวซิ่ง 1 เดียวในทีมที่ลีลาไม่แพ้ผู้ชาย, ลูดาคริส ที่เป็นช่างปรับแต่งรถและผู้เชี่ยวชาญด้านไอที , นาตาลี เอ็มมานูเอล เทพคอมพิวเตอร์ที่มาช่วยซัพพอร์ทเทจ, ไทรีส กิ๊บสัน ดาราสายฮาที่มาพร้อมมุกแป๊กที่พร้อมจะสร้างสีสัน หรือพอล วอล์คเกอร์ และน้องชายของเขาอีก 2 ที่่มาช่วยเติมเต็มบทโอคอนเนอร์ ให้สมบูรณ์แบบ
รวมถึงเจสัน สเตแธม ที่มาเป็นนักฆ่าตัวแสบที่มาเพิ่มเคมีความมันส์ในการสู้ตัวต่อตัวกับดอมในเรื่อง ฝาก จา พนม ที่มาร่วมแสดงด้วย เราก็แอบได้ยินสำเนียงไทยของเขาในเรื่องนี้แม้จะน้อยกว่าเพื่อนในการปรากฏตัว แต่เราได้เห็นลีลาศิลปะแม้ไม้มวยไทยการต่อสู้ของเขาที่มาซัดกับไบรอัน 2 ฉากใหญ่จนเราจดจำเขาได้
ข้อเสีย
ถ้าไม่มีการเสียชีวิตของพอล และฉากแอ็คชั่นที่มันสะใจคนดู ประเด็นอื่นของหนังก็แทบไม่มีอะไรเลย
สรุป
นี่คือFast ที่ครบเครื่องในฉากแอ็คชั่นทั้งฉากการต่อสู้แบบเผชิญหน้าหรือการไล่ล่าบนท้องถนน โดยที่ใช้ปมความแค้นของตัวละคร 2 กลุ่มมาขยายความได้โคตรบันเทิง แถมช่วงท้ายหนังยังสั่งลาไบรอัน โอคอนเนอร์ ได้ลึกซึ้งจนแอบเสียน้ำตาเลยละ
หนังมีให้ชมแล้วใน Netflix
Overdrive (7.75/10) :
<<Repost – ช่วงที่ไม่มีภาพครับ>>
หนังปล้นรถ ได้กลิ่นอายของ FAST มาเต็มๆ
บทบางอย่างดูง่ายไปหน่อย แต่ก็ดูได้เพลินๆ สไตล์สูตรๆ
ถ้าไม่คิดอะไรมาก หาหนังดูเพลินๆ เรื่องนี้ก็ถือว่าโอเค
แม้ว่าจะมีบางชอตที่แอบรู้สึกขัดๆกับสิ่งที่บทหนังปูพื้นมาก็ตาม
แต่ก็เพื่อให้หนังมันเข็นต่อไปได้จนจบนั่นเอง
รีวิวหนัง : Fast and Furious 7 รถครอบครัว
ถ้าถามว่าได้ดูหนังตระกูล Fast and Furious เมื่อไหร่ก็ต้องย้อนไปไกลกว่า15ปีที่แล้ว ตอนนั้นผมยังไม่สามารถทำใบขับขี่ได้ด้วยซํ้า หนังเรื่องนี้เปิดตัวด้วยชื่อ The Fast And The Furious และใครจะไปคิดหละว่าทศวรรษต่อมามันจะเดินทางมาถึงภาค7แล้ว หนังเรื่องนี้เป็นมากว่าหนัง มันให้คำนิยามใหม่ว่ารถเป็นมากกว่าพาหนะ ขณะเดียวกันก็สร้างวัฒนธรรมการต่างๆขึ้นมามากมายทั้ง การขับรถแข่ง การแต่งรถ การแต่งตัวแนวสตีท และการฟังเพลงแนวฮิปฮอปอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์
Fast and Furious 7 เป็นภาพยนตร์ที่คนทั่วโลกตั้งตารอคอย เพราะมันมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นกับหนัง เจมส์ วาน ผู้กำกับเชื้อสายเอเชียได้เป็นผู้กำกับ จา พนม แอ็คชั่นสตาร์ชาวไทยได้ร่วมแสดง และ พอล วอล์คเกอร์ นักแสดงหลักเสียชีวิต โดยเฉพาะคนไทยที่มีคดีความฟ้องร้องให้ต้องลุ้นกันจนนาทีสุดท้ายว่าจะได้ดูหนังเรื่องนี้พร้อมกับทั่วโลกหรือไม่
บทหนัง Fast 7 ค่อนข้างครบรสมีทั้ง แอ็คชั่น คอเมอดี้ และดราม่า กระนั้นการจากไปของ พอล ทำให้พาร์ทดราม่าดร็อปลง ผู้กำกับคงแก้ไขโดยการนำฉากแอ็คชั่นมาใส่แทน สัดส่วนมันเลยดูไม่สมดุลกับตัวหนังที่มีความยาว2ชั่วโมงกว่า ผู้ชมบางส่วนที่ไม่ใช่คอหนังบู๊อาจรู้สึกว่าฉากทำลายล้างเยอะไปหน่อย จุดนี้เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า บทคงจะถูกแก้เป็นร้อยรอบ จะไปโทษ เจมส์ วาน ทั้งหมดคงไม่ได้ แต่ฝีมือการระเบิดตึกเผารถพังพินาศของแกนี่ทำให้เราอดเอาไปเปรียบกับ ไมเคิล เบย์ ผู้กำกับจอมล้างผลาญไม่ได้
สำหรับความโอเวอร์ของหนัง ต้องบอกว่ายิ่งกว่าภาคที่แล้ว เจมส์ วาน ซึ่งมาจากสายหนังเหนือจริง(หนังผี)เป็นทุนเดิมจัดหนักความมันส์โดยไม่สนหลักฟิสิกส์หรือแรงโน้มถ้วงใดๆ มุมกล้องมีความหลากหลาย การตัดต่อทำได้ยอดเยี่ยม เทคนิคภาพพิเศษสวยงามเนียนตา พล็อตไม่ฉีกมาก พอคาดเดาได้ Fast and Furious 7 กลายเป็นหนังแอ็คชั่นแก๊งสเตอร์เต็มตัว เพียงแต่นำรถมาเป็นพร็อพประกอบ มีภารกิจให้ทีมทำเป็นด่านๆ ทำให้นึกถึงหนังเรื่อง Mission: Impossible – Ghost Protocol และ Transformers 4 ที่คล้ายคลึงกันในแง่ของหนังแอ็คชั่นไล่ล่าในโลเคชั่นต่างแดน
ส่วนตัวชอบการเปรียบบทบาทชีวิตกับรถที่เราขับ จุดนี้ลึกซึ้งพอสมควร ซึ่งหากเทียบเป็นรถ Fast 7 ก็เปลี่ยนตัวเองจากรถซิ่งมาเป็นรถบ้านหรือรถครอบครัวได้ดีระดับหนึ่ง หนังไม่ได้เน้นเรื่องความเร็วเหมือนชื่ออีกต่อไป ตอกยํ้าแนวคิดคนสำคัญกว่ารถ สิ่งที่สร้างสีสันคือทีมตัวร้ายที่มีความโหดเหี้ยมไร้ปราณีนำโดย เจสัน สเตทแธม กับบท เดคการ์ด ชอว์ มือสังหารเงา พี่ชายของ โอเวน ชอว์ ที่คราวนี้มาเป็นคู่ชกที่สมนํ้าสมเนื้อกับ วิน ดีเซล รวมถึง จา พนม ที่แสดงเป็น เกียรติ สมุนมือขวาของ ดิจิมอน ฮอนซู ถือว่าได้เล่นหลายซีนทีเดียว แต่ละครั้งที่ออกก็โดดเด่นพอสมควร ได้โชว์ลีลาเยอะเพราะประกบกับ พอล หากจำ โจ ทัสลิม นักแสดงอินโดนีเซียที่เคยเล่น Fast and Furious 6 กันได้ ผมว่า จา ได้รับโอกาสมากกว่า เสียดายที่บทพูดอันน้อยนิดทำให้เขาเกือบกลายเป็นหุ่นยนต์สังหารไปซะ
ด้านนักแสดงนำหนังพยายามเกลี่ยบทให้ทุกคนได้ออกพอๆกัน ได้เห็น วิน ดีเซล มากหน่อยเนื่องจากเขาเป็นตัวเดินเรื่องหลัก ทว่าคนดูหลายคนคงอดโฟกัสไปที่ พอล วอล์คเกอร์ ไม่ได้ นักแสดงใหม่ เคิร์ท รัสเซล เล่นได้น่าสนใจทีเดียวกับบท มิสเตอร์โนบอดี้ ซีนน้อยแต่บทสนทนาแพรวพราวทุกคำ นี่สิที่เรียกว่าเก๋าเกมส์ ฉากจบจัดว่าเป็นไฮไลต์ทีเดียว ชื่นชมผู้กำกับกับที่ใช้เวลาไม่กี่นาทีหลอมรวมหนังเข้ากับโลกแห่งความเป็นจริงด้วยคำพูดของตัวละคร ตอนที่ ดอม โทเร็ตโต้ กับเพื่อนๆกำลังพูดถึง ไบรอัน โอคอนเนอร์ เราทุกคนกลับรู้สึกว่ามันเป็น วินดีเซล และนักแสดงคนอื่นๆที่กำลังพูดถึง พอล วอล์คเกอร์
ไม่ใช่ภาคที่ดีที่สุด ไม่ใช่หนังที่เพอร์เฟ็กต์ไร้ที่ติแบบที่หลายคนคาดหวัง มันไม่สมบูรณ์ตั้งแต่ที่ พอล จากไป ภายใต้ข้อจำกัด ต้องขอบคุณทีมงานทุกคนที่สามารถทำให้มันเป็นหนังที่ดูสนุกทีเดียว บันเทิงพอจะทำให้แฟนๆมองข้ามจุดอ่อนหรือลืมข้อเสียต่างๆได้หมด นอกจากนั้นแล้ว Fast 7 ยังเป็นหนังที่มีความหมายกับใครหลายคน มันเป็นภาพยนตร์ไม่กี่เรื่องที่ผู้ชมจำนวนมากติดตามมาตั้งแต่ภาคแรกนานเกิน10ปี มีความรู้สึกรักหนัง ผูกพันธ์กับตัวละครเสมือนเป็นคนในครอบครัว พวกเขาได้มองดูการเติบโตของตัวละคร เห็นพัฒนาการของนักแสดง จนถึงเวลาที่ตัวละครหลายตัวตายลง วันที่นักแสดงคนหนึ่งลาจากโลกนี้ไป และไม่ว่าตอนนี้เขาจะอยู่ห่างไกลกี่ล้านไมล์ เราก็จะจดจำดวงตาสีฟ้าคู่นั้นตลอดไป
Life moves very fast. Rip Paul Walker
คะแนน 8/10
โดย นกไซเบอร์
เจมส์ วาน
ดูหนังออนไลน์ หลังจาก โอเว่น ชอว์ (ลุค อีวานส์) โดนจัดเต็ม ทำให้ เดคการ์ด ชอว์ (เจสัน สเตทแธม) พี่ชายตัวแสบ อดีตมือสังหารหน่วยรบพิเศษ สุดคลั่ง บุกล้างแค้นคิดบัญชีกับคนที่ทำร้ายน้องชาย งานนี้ทั้งทีม ดอม (วิน ดีเซล) และ ฮ็อบส์ (ดเวยน์ จอห์นสัน) โดนจัดเต็มซึ่ง ฮาน (ซุง คัง) เป็นคนแรกที่ต้องเสียชีวิต
พร้อมกับการส่งระเบิดไประเบิดบ้าน ดอม และที่ทำงานของ ฮ็อบส์ ก่อนเปิดฉากไล่ล่า เดคการ์ด ชอว์ ของ ดอม และทีม ฝ่าย FBI มิสเตอร์โนบอดี้ (เคิร์ท รัสเซลล์) ก็มีข้อเสนอมาแลกเปลี่ยนโดยให้ ดอม และทีมไปตามเอาตัว แรมซีย์ (นาตาลี เอ็มมานูเอล) แฮกเกอร์ที่สร้างโปรแกรมดวงตาเทพ โปรแกรมแกะรอยระดับเทพ ซึ่งโดนผู้ก่อการร้าย โมซี่ จาคานดี้ (ไจมอน ฮอนซู) จับตัวไป หากงานนี้สำเร็จ ดอม และทีมก็จะได้รับการช่วยเหลือในการตามจับ เดคการ์ด ชอว์ เมื่อครอบครัวต้องกลับมารวมตัวกันเพื่อการล้างแค้นอย่างแสบสันอีกครั้ง
The Fast and the Furious 1 (2001) เร็ว…แรงทะลุนรก
2 Fast 2 Furious (2003) เร็ว…แรงทะลุนรก: เร็วคูณ 2 ดับเบิ้ลแรงท้านรก
The Fast and the Furious 3 Tokyo Drift (2006) เร็ว…แรงทะลุนรก ซิ่งแหกพิกัดโตเกียว
Fast and Furious 4 (2009) เร็ว…แรงทะลุนรก 4: ยกทีมซิ่ง แรงทะลุไมล์