Civil War (2024) วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด

Civil War (2024) วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด

เรื่องย่อ

ดูหนัง Civil War (2024) วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด ในอนาคตอันใกล้ของอเมริกา ดูหนังออนไลน์  สังคมถูกแบ่งแยกตามแนวทางการเมืองอย่างรุนแรง รัฐบาลเผด็จการปกครองโดยประธานาธิบดีที่โหดเหี้ยม (รับบทโดย Nick Offerman) ประชาชนแบ่งออกเป็นสองฝ่าย: ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลและฝ่ายต่อต้านรัฐบาล กลุ่มนักข่าวเดินทางไปทั่วอเมริกาเพื่อบันทึกความวุ่นวายและความรุนแรงของสงครามกลางเมือง พวกเขาเห็นความสูญเสียและความทุกข์ทรมานที่เกิด

ขึ้นกับทั้งสองฝ่ายสงครามกลางเมืองได้แผ่ปกคลุมสหรัฐอเมริกา รัฐบาลกลางเผด็จการที่นำโดยประธานาธิบดี ที่ดำรง ตำแหน่งเป็นสมัยที่สาม กำลังเผชิญกับการเคลื่อนไหว แบ่งแยกดินแดนแม้ว่าประธานาธิบดีจะอ้างว่าชัยชนะใกล้เข้ามาแล้ว แต่คาดว่า ในไม่ช้านี้ “กองกำลังตะวันตก” (WF) ที่นำโดย เท็กซัสและแคลิฟอร์เนียจะเข้าถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในไม่ช้านี้ ภายในวันที่4 กรกฎาคมหลังจากรอดชีวิตจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในนิวยอร์กซิตี้ ลี สมิธ ช่างภาพสงครามผู้

มากประสบการณ์และโจเอล นักข่าวเพื่อนร่วมงานได้เข้าพบกับแซมมี่ ที่ปรึกษาของพวกเขาเพื่อแบ่งปันแผนการสัมภาษณ์ประธานาธิบดีผู้โดดเดี่ยว ขณะที่พยายามเกลี้ยกล่อมพวกเขาไม่ให้มุ่งหน้าไปยังเมืองหลวง แซมมี่ก็เข้าร่วมกับพวกเขาเพื่อไปที่แนวหน้าที่ชาร์ลอตส์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนียเช้าวันรุ่งขึ้น ลีพบว่าโจเอลได้อนุญาตให้เจสซี่ คัลเลน ช่างภาพข่าวสาวผู้ใฝ่ฝันที่ลีพบในเหตุระเบิดเข้าร่วมกับพวกเขา

หลังจากออกจากเมือง กลุ่มคนดังกล่าวหยุดที่ปั๊มน้ำมันซึ่งมีชายติดอาวุธคอยคุ้มกัน โดยจ่ายเงินสามร้อยดอลลาร์แคนาดาเพื่อเติมน้ำมัน เจสซีสำรวจร้านล้างรถที่อยู่ใกล้ๆ และพบชายกลุ่มดังกล่าวกำลังทรมานผู้ต้องสงสัยปล้นสะดมสองคน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งติดตามเจสซีไป แต่ลีคลี่คลายสถานการณ์ด้วยการถ่ายรูปเขากำลังโพสท่ากับเหยื่อของเขา ต่อมา เจสซีตำหนิตัวเองที่กลัวเกินกว่าจะถ่ายรูป

หลังจากหยุดพักค้างคืนใกล้กับการสู้รบที่ยังคงดำเนินอยู่ กลุ่มได้บันทึกภาพการสู้รบในขณะที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนสวมเสื้อเชิ้ตฮาวายบุกโจมตีอาคารที่กลุ่มจงรักภักดียึดครองสำเร็จ ลีมองเห็นศักยภาพของเจสซีในฐานะช่างภาพสงครามและเริ่มเป็นที่ปรึกษาให้เธอ ในขณะที่เจสซีถ่ายภาพกลุ่มแบ่งแยกดินแดนขณะประหารชีวิตนักโทษ กลุ่มใช้เวลาทั้งคืนที่ค่ายผู้ลี้ภัยก่อนจะผ่านเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งภายใต้การเฝ้าระวัง ชาวเมืองพยายามใช้ชีวิตอย่างไม่รู้เรื่องราวสงครามอย่างมีความสุข

ต่อมา พวกเขาถูกจับได้ระหว่างการสู้รบของมือปืนท่ามกลางซากปรักหักพังของงานคริสต์มาส มือปืนที่อยู่ใกล้เคียงล้อเลียนคำถามของโจเอลที่ว่าพวกเขาสู้เพื่อฝ่ายใด โดยสรุปสถานการณ์ว่าเป็นการฆ่าคนที่พยายามฆ่าพวกเขา สติสัมปชัญญะและทักษะการถ่ายภาพของเจสซีดีขึ้นเมื่อเธอเริ่มชินกับความรุนแรงมากขึ้น เธอถามว่าลีจะถ่ายรูปเธอตอนถูกฆ่าหรือไม่ ซึ่งลีตอบว่าใช่

ขณะขับรถ ทั้งสี่คนได้พบกับ นักข่าว ชาวฮ่องกง สอง คนที่พวกเขารู้จัก โทนี่และปั๋วไห่ โทนี่และเจสซี่เปลี่ยนรถก่อนที่ปั๋วไห่จะขับรถออกไปพร้อมกับเจสซี่ในรถ คนอื่นๆ ไล่ตามทันและพบว่าทั้งคู่ถูกกองกำลังติดอาวุธไม่ทราบชื่อในเครื่องแบบจี้ด้วยปืนและฝังคนในหลุมศพหมู่ แซมมี่อยู่ด้านหลังขณะที่อีกสามคนพยายามเจรจาปล่อยตัวพวกเขา แต่หัวหน้ากองกำลังติดอาวุธกลับประหารชีวิตปั๋วไห่และโทนี่เพราะไม่ใช่ “คนอเมริกัน” คนอื่นๆ ได้รับการช่วยเหลือจากแซมมี่หลังจากที่เขาพุ่งชนรถบรรทุกของกลุ่มทหารติดอาวุธ แต่ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ทั้งสามที่เหลือได้รับบาดแผลทางจิตใจ เมื่อมาถึงฐานทัพ WF ในชาร์ลอตส์วิลล์ และพบว่าผู้จงรักภักดีที่เหลือส่วนใหญ่ได้ยอมจำนน ทำให้วอชิงตันไม่มีใครปกป้อง ยกเว้นกลุ่มผู้คลั่งไคล้ที่เหลือจากกองทัพสหรัฐและหน่วยข่าวกรองโจเอลเมาและโวยวายเกี่ยวกับการตายของแซมมี่ที่เขาคิดว่าไร้เหตุผล ในขณะที่ลีพยายามปลอบใจเจสซีว่าแซมมี่อยากตายในหน้าที่ ลีพบว่าตัวเองไม่สามารถบันทึกเหตุการณ์การตายของแซมมี่ได้ จึงรีบลบรูปถ่ายศพของเขาที่เธอถ่ายไว้

นักข่าวโทรทัศน์ชาวอังกฤษสองคนร่วมด้วยสามคนนี้เข้าไปพัวพันกับ WF ขณะบุกโจมตีกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งเจสซีเสี่ยงอันตรายซ้ำแล้วซ้ำเล่าระหว่างการต่อสู้เพื่อถ่ายภาพ ในขณะที่ลีต้องดิ้นรนกับความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้เมื่อ WF บุกเข้าไปในเขตป้องกันของทำเนียบขาวรถลีมูซีนของประธานาธิบดีก็หนีไป แต่ถูกสกัดกั้นอย่างรวดเร็ว และผู้โดยสาร (รวมถึงผู้หญิงที่คาดว่าเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ) ถูกสังหาร เมื่อเข้าใจว่าเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจ ทั้งสามคนจึง

เข้าไปข้างในพร้อมกับทหารห้าคนขณะเดินผ่านอาคารที่ถูกทิ้งร้างไปเป็นส่วนใหญ่ ความพยายามที่ล้มเหลวของเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองที่เหลืออยู่ไม่กี่นายซึ่งยังคงเฝ้าประธานาธิบดีเพื่อเจรจาเรื่องการยอมจำนนและการเดินทางที่ปลอดภัยกลับกลายเป็นการยิงต่อสู้ เจสซีก้าวเข้าไปในแนวไฟขณะถ่ายรูปและบันทึกภาพการเสียชีวิตของลีขณะที่เธอผลักเจสซีไปยังที่ปลอดภัย

เจสซีเดินเข้าไปในห้องทำงานรูปไข่ โดยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เฝ้าดูทหารลากประธานาธิบดีออกจากใต้โต๊ะและเตรียมที่จะประหารชีวิตเขาโดยด่วนโจเอลหยุดพวกเขาชั่วขณะเพื่อขอคำพูดจากประธานาธิบดี ซึ่งตอบว่า “อย่าให้พวกเขาฆ่าฉัน” โจเอลพอใจแล้วจึงหยุดถ่วงเวลาทหาร ขณะที่เจสซีถ่ายภาพทหาร WF ที่กำลังโพสท่ากับศพของประธานาธิบดี

ผู้กำกับ

อเล็กซ์ การ์แลนด์

บริษัท ค่ายหนัง

DNA Films
IPR.VC

นักแสดง

เคิร์สเตน ดันสท์
วากเนอร์ มูร่า
เคลลี่ สปานี
สตีเฟน แม็คคินลีย์ เฮนเดอร์สัน
โซโนยะ มิซูโนะ
นิค ออฟเฟอร์แมน

โปสเตอร์หนัง

รีวิวหนัง Civil War (2024) วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด

SpringNews

ถ้าการสาดน้ำกลางเมืองช่วงสงกรานต์ มันธรรมดาไป ขอแนะนำให้ไปดูคนสาดกระสุนใส่กันกลางเมืองอเมริกา “วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด (Civil War)” ผลงานของค่าย A24 สตูดิโอสร้างหนังอินดี้ ที่หันมาทำหนังฟอร์มยักษ์ครั้งแรก แต่มันจะเดือดสมชื่อไหม มาฟังรีวิวกันต้องบอกก่อนว่าทั้งตัวอย่างหนัง และโปสเตอร์ของ  ที่เน้นโชว์ยุทโธปกรณ์ทหารนั้น อาจทำให้ผู้ชมเกิดความคาดหวังว่า จะต้องเป็นหนังแอคชั่นแนวสงครามสมัยใหม่ ที่เน้นความระทึกในสงคราม เหมือน

แต่เอาเข้าจริงหนังกลับไม่ได้โฟกัสความแอคชั่นอย่างที่คิด กลับกันกลายเป็นหนังแนวโร้ดทริป ที่เน้นเอาชีวิตรอด มากกว่าเข้าปะทะ ไม่มีแม้แต่ฉากวางแผนการรบ หรือฉากตัวละครทำอะไรเท่ๆ เหมือนหนังแอคชั่นทั่วไปเพราะสงครามเป็นเพียงฉากประกอบ ที่ให้นักข่าวทั้ง 4 คนไปเจอแล้วถ่ายรูปเก็บเป็นหลักฐานเท่านั้น โดยแต่ละเมือง แต่ละพื้นที่ก็จะมีลักษณะความขัดแย้งมากน้อยต่างกันไป แต่บอกได้เลยว่าไม่ได้เป็นฉากใหญ่โต ขนอาวุธหนักมาถล่มกัน แต่เป็นแค่ไปเฝ้าดูหน่วยติดอาวุธเล็กๆ ปะทะกัน ความเป็นอยู่ในค่ายลี้ภัย พลซุ่มปืนยิงกัน ไปจนถึงการพบเห็นคนในชาติเดียวกันฆ่ากันเป็นว่าเล่น เพียงเพราะความคิดไม่ตรง

กัน ซึ่งถูกเล่าออกมาจนเหมือนหนังกึ่งสารคดีนิดๆทำให้จุดแข็งของเรื่อง   คือความสมจริง ทรงพลัง ในมุมของการนำเสนอความโหดร้ายของสงคราม เพราะเราลุ้นว่า ระหว่างที่นักข่าวทั้ง 4 คนเดินทางบนถนน และต้องแวะพักตามเมืองต่างๆ จะต้องเจอกับเหตุการณ์อะไรบ้างนั่นจึงทำให้หนังเรื่องนี้ เป็นหนังนักข่าว มากกว่าหนังสงคราม เพราะตัวละครหลัก ทั้ง 4 คนทำได้เพียงเก็บภาพโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเอาไว้ เพื่อเอาไปบอกเล่าต่อไปเท่านั้น พวกเขาไม่ได้เข้าไปช่วยฝั่งไหนสู้เป็นพิเศษ หรือทำให้ใครดูเป็นผู้ร้ายมากเกินไป กลับกัน บางฉากยังทำให้เราเห็นความเป็นนักข่าวสงครามมืออาชีพด้วย เช่น เห็นคนถูกซ้อมทรมาน

ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่ามีความผิดจริงหรือเปล่า คนทั่วไปคงเข้าไปช่วยแล้ว แต่ตัวละครหลักในเรื่องนี้ กับควักกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้เฉยๆ แล้วก็ไปที่อื่นต่อ
ฟังดูเหมือนนักข่าวเป็นคนเย็นชา ไม่เห็นความสำคัญของชีวิตคนอื่นๆ แต่ความจริงคือหนังต้องการบอกว่า นี่แหละคือ “นักข่าว” เพราะถ้าทุกสงครามปราศจากคนเหล่านี้ เราก็จะไม่มีวันรู้ความจริงที่เกิดขึ้นส่วนข้อเสียคือ บทที่ช้าในหลายๆ ช่วง และถึงแม้จะมีเหตุการณ์ระทึกแทรกเข้ามาเวลาผ่านตามเมืองต่างๆ อยู่บ้าง

แต่หนังก็จะตัดสลับไปมาระหว่างความระทึก กับความนิ่ง จนอาจทำให้คนดูเบื่อ เพราะดูแบบบันเทิงแบบต่อเนื่องได้ยากมาก ฉากสู้ส่วนใหญ่เราก็ไม่เห็นด้วยซ้ำว่ายิงกับใคร เห็นแต่ตัวละครหลักเดินตามหลังทหารเฉยๆ ยังดีที่ช่วงสุดท้ายยังมีฉากรบใหญ่ให้ดูแบบต่อเนื่องประมาณครึ่งชั่วโมง ซึ่งก็ได้อารมณ์ของสงครามกลางเมืองอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ตูมตามขนาด ที่จะทำให้คอหนังแอคชั่นชอบได้

ยิ่งไปกว่านั้น หนังแทบไม่ได้บอกว่าสู้กันเพราะอะไรแบบชัดเจน แต่ละกองทัพมีกำลังเท่าไหร่ หรือผู้นำแต่ละฝ่ายมีใครบ้าง ซึ่งอาจเพราะว่าเรื่องเหล่านี้เป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนมากในสหรัฐฯ{สรุป}คือ “วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด” หรือ “Civil War” เป็นหนัง ฟอร์มยักษ์ ที่ไม่ได้เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะคนที่อยากมาดูฉากยิงกันสนั่นจอ แบบหนังสงคราม เพราะ ขึ้นชื่อว่ามาจากค่าย A24 ย่อมมีความอินดี้ เน้นเฉพาะกลุ่ม ไม่ใช่หนังเนื้อเรื่องแนวตลาด

Kanin The Movie

Jesse Plemons กับซีนสั่นประสาทแห่งปีใน  เดิมทีไม่ใช่บทของเขา และได้มาเล่นเพราะภรรยาแนะนำผู้กำกับก่อนถ่ายทำสัปดาห์นึง
เดิมทีบททหารไร้นามใน  ไม่ได้วางตัว Jesse Plemons เอาไว้ แต่เป็นนักแสดงอีกคน (ไม่ทราบว่าใคร) แต่หนึ่งสัปดาห์ก่อนการถ่ายทำหลักเริ่มต้น นักแสดงคนดังกล่าวก็ได้ขอออกจากโปรเจกต์ไป ในระหว่างที่ผู้กำกับ Alex Garland กำลังเครียดกับข่าวร้ายที่ว่า Kirsten Dunst ก็ได้แนะนำสามีของเธอ Jesse Plemons ให้มาเล่นบทนี้แทน — “ทำไมไม่ลองชวน Jesse ดูล่ะ” ซึ่งเขาก็เห็นด้วยว่าเป็นไอเดียที่เยี่ยมมาก
“จริงๆ เขากำลังจะไปอยู่กับลูกๆ ที่แอตแลนตาตอนที่ฉันถ่ายทำเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นการที่เขาเล่นจึงเป็นการช่วยเหลือจริงๆ เพราะไม่มีใครอยากแสดงบทแบบนี้” – Kirsten Dunst กล่าว
ฉากนี้ถ่ายทำกันทั้งหมดสองวัน และผลลัพธ์มันก็ออกมายอดเยี่ยมจริงๆ ประโยค “What kind of American are you?” น่าจะกลายเป็นโควตจำในโลกภาพยนตร์ปี 2024 แน่ๆ เช่นเดียวกับตัวละคร และการแสดงของ Jesse Plemons ที่น่าจะกลายเป็นฝันร้ายหลายนาทีของใครหลายคนแน่ๆ

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน Civil War (2024) วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด

BlacKkKlansman (2018) แบล็คแคลนซ์แมน

Flypaper (2011) ปล้นสะดุด มาหยุดที่รัก

Arcadian (2024)

Legend (2015) อาชญากรแฝด แสบมหาประลัย

Colombiana (2011) ระห่ำเกินตาย