Cars 3 (2017) สี่ล้อซิ่ง ชิงบัลลังก์แชมป์

Cars 3 (2017) สี่ล้อซิ่ง ชิงบัลลังก์แชมป์

เรื่องย่อ Cars 3 (2017) สี่ล้อซิ่ง ชิงบัลลังก์แชมป์

หลังจากพ่ายแพ้ต่อเหล่านักแข่งไฟแรงรุ่นใหม่ ไลท์นิ่ง แมคควีนผู้เป็นตำนาน (ให้เสียงโดย โอเว่น วิลสัน) ได้หลุดออกจากวงการแข่งรถที่เขารัก การที่จะกลับเข้าไปสู่การแข่งขันได้อีกครั้ง เขาต้องการความช่วยเหลือจากช่างเทคนิครุ่นใหม่อย่าง ครูซ รามิเรซ (ให้เสียงโดย คริสเตล่า อลองโซ่) ด้วนแผนที่จะเอาชนะของเธอเอง บวกกับแรงบันดาลใจจาก ฮัดสัน ฮอร์เนท ยอดฝีมือผู้ล่วงลับ และเหตุการณ์ไม่คาดคิดอีกนิดหน่อย การพิสูจน์ว่าหมายเลข 95 ยังไม่จบง่าย ๆ จะทดสอบหัวใจของแชมเปี้ยนในสนามแข่งที่ใหญ่ที่สุดของพิสตันคัพ!

ผู้กำกับ

•  John Lasseter
• Brad Lewis

บริษัท ค่ายหนัง

• Walt Disney Pictures

นักแสดง

• Owen Wilson
• Larry the Cable Guy
• Michael Caine
• Emily Mortimer
• Jason Isaacs
• Thomas Kretschmann

โปสเตอร์หนัง

รีวิวหนัง

ฮีโร่ตัวน้อย

[CR] ##REVIEW## Cars 3 (2017) สี่ล้อซิ่ง…ชิงบัลลังก์แชมป์ | ประทับใจที่สุด [มีส้มป่อย]

หลังจากสาปส่งภาคสองเป็นที่เรียบร้อย(555) โอ้แม่เจ้า! รถสายลับ คิดได้เยี่ยงไร? แต่มันก็มีข้อดีอยู่เหมือนกันนะ ข้อดีของการดูภาคสองก็คือ มันทำให้เราลดความคาดหวังต่อภาคสามลงมาอยู่ติดดินมาก คือคิดไว้ว่ามันต้องแย่กว่าภาคสองแน่ๆ นั่นทำให้ผมชอบภาคสามมากกว่าที่คิด เออ จริงๆ ภาคสองมีข้อดีนะครับ (ซึ่งข้อดีมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกันกับตัวหนังของมันเลย)

เรื่องย่อ

หลังจากพ่ายแพ้ต่อเหล่านักแข่งไฟแรงรุ่นใหม่ ไลท์นิ่ง แมคควีนผู้เป็นตำนาน (ให้เสียงโดย โอเว่น วิลสัน) ได้หลุดออกจากวงการแข่งรถที่เขารัก การที่จะกลับเข้าไปสู่การแข่งขันได้อีกครั้ง เขาต้องการความช่วยเหลือจากช่างเทคนิครุ่นใหม่อย่าง ครูซ รามิเรซ (ให้เสียงโดย คริสเตล่า อลองโซ่) ด้วนแผนที่จะเอาชนะของเธอเอง บวกกับแรงบันดาลใจจาก ฮัดสัน ฮอร์เนท ยอดฝีมือผู้ล่วงลับ และเหตุการณ์ไม่คาดคิดอีกนิดหน่อย การพิสูจน์ว่าหมายเลข 95 ยังไม่จบง่าย ๆ จะทดสอบหัวใจของแชมเปี้ยนในสนามแข่งที่ใหญ่ที่สุดของพิสตันคัพ!
ผมชอบภาคนี้มากกว่าที่คิดครับ มันเหมือนพาเรากลับไปบ้านหลังเก่า เจอเพื่อนเก่าๆ (อีพวกที่อยู่ในภาคสองไม่รวมด้วยเพราะผมไม่นับญาติด้วย) ได้ยินเสียงพากย์เก่าๆ (ภาคนี้ผมดูพากย์ไทยนะครับ ซึ่งภาคแรกผมก็ดูพากย์ไทยเช่นกันทำให้มันตราตรึงใจมาก) บรรยากาศเก่าๆ ที่ผมเคยเห็นตอนเด็ก มันได้ผุดขึ้นมาในหัวผมอีกครั้ง

ผมชอบประเด็นครูกับลูกศิทย์นะครับ มันเหมือนกับว่าแม็คควีนส์เขาเคยรุ่งตอนเขายังหนุ่ม เพราะมีด๊อคคอยสอนเขาตลอด ทั้งเรื่องหักเลี้ยวขวาเพื่อไปทางซ้าย เรื่องถนนลาดยาง มันคือเทคนิคที่ใช้ได้จนวันตาย และเมื่อเวลาผ่านไป เขาก็เริ่มแก่ขึ้นแล้วครับ เขาก็ต้องโดนรุ่นใหม่เข้ามาแย่งตำแหน่งดาวรุ่งเป็นธรรมดา แล้วทีนี้เขายังคงคิดว่าเขายังไหวอยู่ครับ เขาแค่ต้องการฝึกให้มากขึ้น ทำให้ครูซ ต้องมาเป็นเทรนเนอร์ให้ แต่ว่าเขาไม่ได้อยากให้ครูซมาเทรนให้อยู่แล้วครับ เขาอยากฝึกด้วยตัวเองเพราะเขาคิดว่าเขาไหวพอ ครูซฝันมานานแล้วครับว่าอยากจะเป็นนักแข่ง แต่เมื่อโอกาศมาถึงเธอกลับกลัวขึ้นมาและปล่อยให้โอกาศเดียวของเธอหลุดลอยหายไป ส่วนแม็คควีนส์เขาได้โอกาศหลายรอบมากครับ แต่เขาเห็นโอกาศเหล่านั้นเป็นแค่ทางผ่านเพื่อให้เขาได้ชื่อเสียงมากขึ้นแค่นั้น เขาไม่ได้รักในการแข่งรถมากเท่าครูซ พอแม็คควีนส์ลองเข้าแข่งขันแข่งรถเล็กๆ กับเธอ ปรากฏว่าเธอชนะครับ แต่แมคควีนส์แพ้และทำชื่อเสียงของเขาเสื่อมลง เขาโวยวายใส่ครูซใหญ่เลยครับว่าทุกอย่างคงไม่เละเทะขนาดนี้เพราะเธอ

ผมชอบคำพูดที่เธอระบายใส่แม็คควีนส์มากครับ เธอถามเขาว่าเขาคิดว่าเธออยากจะมาเป็นเทรนเนอร์ให้ตั้งแต่แรกรึเปล่า? เธอไม่ได้อยากมาเป็นเทรนเนอร์ตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ แต่ว่าเธออยากเข้าใกล้นักแข่งให้มากที่สุดครับ แค่นั้นมันทำให้เธอมีความสุขแล้ว เชื่อมั้ยครับ…ระหว่างที่ผมนั่งดูเธอระบายความในใจออกมา ผมดันน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว T_T
จนในที่สุดแม็คควีนส์ก็คิดได้และก็ถอนตัวออกจากการแข่งขันและให้ครูซเข้าแข่งขันแทน เพราะเขาเห็นความพยายามในตัวเธอครับ จนในที่สุดเธอก็ได้โชว์ศักยภาพความเป็นนักแข่งคุณภาพให้เขาและคนทั้งโลกได้เห็น และแม็คควีนส์ก็ตัวครับว่าเขาควรจะหยุดแข่งและถ่ายทอดความรู้และความสามารถให้นักแข่งรุ่นต่อๆ ไป และก็เป็นครูที่ดีต่อไป
ประเด็นที่ว่ามาคือข้อดีที่ยิ่งใหญ่ของหนังเรื่องนี้ครับ มันสอนใจคนได้เยอะเลยนะหนังเรื่องนี้ ดูจบผมถึงกับปรบมือให้กับความพยายามของ Disney·Pixar เลยครับพร้อมกับพูดออกมาลอยๆ ว่า “นี่สิถึงเรียกว่า Cars หนังแอนิเมชั่นน้ำดีของค่ายนี้”

งานภาพผมว่ายอดเยี่ยมเลยนะ ไม่เคยผิดหวังในด้านนี้ครับสำหรับหนังแอนิชั่นหรือว่าหนังแฟนตาซีของค่ายนี้ และภาพมัน Realistic มากอ่ะ ผมชอบฉากที่ฝึกวิ่งในชายหาดมากๆ เพราะภาพมันสวยมาก ส่วนทางด้านพากย์ไทยผมว่าทำได้ดีนะ ทีมพากย์เดิมกลับมาพากย์ให้ตัวละครเก่าๆ กันเกือบครบหน้าเลย บางตัวละครก็เปลี่ยนเสียงพากย์ใหม่ แต่ก็ยังพากย์ได้ดีเช่นเดิม ผมตกใจกับรายได้พอสมควรครับ ทำเงินไม่ถึง 400 ล้านเลยอ่ะ ทีแรกผมก็นึกว่าหนังจะเจ๊งครับ แต่ทางบริษัทก็หากำไรจากของเล่นด้วย ทำให้ผมอุ่นใจขึ้นครับ

สรุป

๏ หนังยอดเยี่ยมมาก ประทับใจที่สุดในสามภาค
๏ ใครที่ชอบภาคแรก ก็ไม่ควรพลาดภาคนี้
๏ ส่วนใครที่ผิดหวังกับภาคสอง ก็ไม่ต้องกังวลเพราะภาคนี้ดีกว่าอยู่หลายกิโล
๏ ภาพสวยมาก ฉากแข่งรถทำได้สมจริง
๏ ให้ข้อคิดดีและงดงามที่สุด

คะแนนเฉลี่ยรวม : 10/10
เรตหนัง : หนังยอดเยี่ยมที่ไม่ควรพลาด

ทำเรื่องเล่นให้เป็นเรื่องใหญ่

รีวิว – Cars 3
เมื่อเทียบกับหนัง Pixar เรื่องอื่นๆ Cars ดูเหมือนจะเป็นหนังที่ไม่ค่อยได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์เท่าไหร่ แต่ถ้าพูดถึงการทำรายได้ โดยเฉพาะจากการขายของเล่นแล้ว มันก็ถือได้ว่าเป็นหนังที่ทำเงินสูงสุดเรื่องนึงของ Pixar เลยก็ว่าได้
Cars 3 เล่าถึงเรื่องราวบทต่อไปของ ไลท์นิ่ง แมคควีน ซึ่งครั้งนี้ ความท้าทายของเขาก็คือการรับมือกับรถซิ่งรุ่นใหม่ๆ โดยเฉพาะรถสายฟ้าอย่าง แจ็คสัน สตอร์ม ซึ่งมีฝีมือเหนือกว่าเขามาก
หลังจากที่พ่ายแพ้อย่างหมดรูปและบาดเจ็บสาหัส แมคควีนก็สูญเสียความมั่นใจไปนาน ก่อนที่เพื่อนๆ จะช่วยผลักดันให้เขากลับลงสนามอีกครั้งด้วยการเข้าเทรนในศูนย์ฝึกรุ่นใหม่ภายใต้การดูแลของเทรนเนอร์สาวอย่าง ครูซ รามิเรซ
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดใน Cars 3 ก็คือคาแรคเตอร์ของ แมคควีน เองซึ่งต้องพบกับสัจธรรมแห่งชีวิตไม่ต่างอะไรกับที่ ด๊อก ฮัดสัน รถที่เปรียบเสมือนอาจารย์ของเขาเคยเจอมาก่อน และมันก็คือพัฒนาการของตัวละครที่ทำให้เขามีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
หัวใจสำคัญอีกอย่างของหนังก็คือ ครูซ รามิเรซ ตัวละครใหม่ซึ่งเป็นเหมือนเมนเทอร์ให้กับแมคควีนในด้านการแข่งขันรถยุคใหม่ แต่ในขณะเดียวกัน ด้วยประสบการณ์ชีวิตที่มากกว่า แมคควีน เองก็เป็นเมนเทอร์ให้กับครูซในหลายๆ เรื่องเช่นกัน
Cars 3 ทำให้ผมนึกไปถึงหนัง Rocky ในภาคหลังๆ ซึ่งศัตรูที่น่ากลัวที่สุดของเขาก็คือสังขารของตัวเขาเอง แต่นั่นก็เป็น ‘ข้อจำกัด’ ที่ผลักดันให้เขาต้องหา ‘วิธีต่อสู้’ ที่ฉลาดมากขึ้นในการรับมือกับคู่ต่อสู้ที่ทั้งหนุ่มและมีพละกำลังมากกว่าเขา
พล็อตของ Cars 3 อาจจะไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อนมาก แต่หนังก็เล่าเรื่องได้น่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง นอกจากนี้ งานโปรดักชั่นของหนังในภาคนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี โดยเฉพาะฉากการแข่งรถต่างๆ ที่พัฒนาขึ้นกว่าภาคก่อนๆ
ในภาพรวม Cars 3 ก็ถือว่าเป็นหนังอนิเมชั่นที่ดูสนุกอีกเรื่องหนึ่ง และมันยังสะท้อนให้เห็นถึงสัจธรรมชีวิตและแฝงข้อคิดเกี่ยวกับการปล่อยวางได้อย่างน่าสนใจ
เรื่องเล่น รีวิว – 7.5 เต็ม 10

ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Cars 1 (2006) 4 ล้อซิ่งซ่าท้าโลก

Ice Age 3 Dawn Of The Dinosaurs (2009) ไอซ์ เอจ 3 : จ๊ะเอ๋ไดโนเสาร์

Ice Age 4 Continental Drift (2012) ไอซ์ เอจ 4 : กำเนิดแผ่นดินใหม่

Ice Age The Great Egg-Scapade (2016) ไอซ์ เอจ เจาะยุคน้ำแข็งมหัศจรรย์

The Ice Age Adventures of Buck Wild (2022) ไอซ์ เอจ การผจญภัยของบั๊ค ไวด์