Bloodshot (2020) จักรกลเลือดดุ

Bloodshot (2020) จักรกลเลือดดุ

เรื่องย่อ

ดูหนัง Bloodshot (2020) จักรกลเลือดดุ    ดูหนังออนไลน์ เรย์ แกร์ริสัน (วิน ดีเซล) ชายผู้กลายเป็นเครื่องจักรสังหารทำภารกิจเสี่ยงตายตามคำสั่งขององค์กร ความทรงจำของเขาได้หายไป สิ่งเดียวที่เขารู้คือเขาต้องทำภารกิจช่วยเหลือคนรักของเขา และเขาไม่ใช่เพียงแค่คนธรรมดาเพราะภายในเลือดของเขาได้มีหุ่นขนาดเล็กที่เรียกว่า นาไนต์ ที่จะช่วยให้เขามีพลังเหนือมนุษย์ธรรมดาและมีพลังในการเยียวยารักษาสูง แทบพูดได้เลยว่าเขานั้นเหมือนจะเป็นเครื่องจักรสังหารอมตะ เป็นแฟรงค์เกนสไตน์ในยุคปัจจุบัน แต่แล้วเมื่อวันหนึ่งความผิดปกติบางอย่างมันก็ทำให้เขารู้ว่า เขากำลังถูกองค์กรนี้หลอกใช้ และคอยลบความทรงจำ หลอกลวงเขาให้ทำภารกิจเสี่ยงตายเพื่อผลประโยชน์ขององค์กรอยู่เสมอ

หลังจากนำปฏิบัติการช่วยเหลือตัวประกันที่ประสบความสำเร็จในมอมบาซานาวิกโยธินสหรัฐ เรย์ การ์ริสัน และจีน่า ภรรยาของเขา เดินทางไปเที่ยวพักผ่อนที่เมืองชายหาดแห่งหนึ่งในอิตาลีบนชายฝั่งอามาลฟีพวกเขาถูกลักพาตัวโดยกลุ่มทหารรับจ้างที่นำโดยมาร์ติน แอ็กซ์ ซึ่งต้องการทราบว่ากองทัพสหรัฐทราบเรื่องตัวประกันและสถานที่ที่พวกเขาอยู่ได้อย่างไร เมื่อเรย์อธิบายว่าเขาตอบไม่ได้ แอ็กซ์จึงประหารจีน่าต่อหน้าเขา เรย์สาบานว่าจะแก้แค้น และแอ็กซ์ก็ฆ่าเรย์เช่นกัน

เรย์ผู้สูญเสียความทรงจำได้ตื่นขึ้นมาในห้องทดลองของบริษัท Rising Spirit Technologies (RST) ซึ่งเป็นบริษัทในกัวลาลัมเปอร์ที่เชี่ยวชาญด้านการเพิ่มประสิทธิภาพไซเบอร์เนติกส์สำหรับทหารสหรัฐที่ทุพพลภาพ ดร. เอมิล ฮาร์ติง ซีอีโอและนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำได้บอกกับเรย์ว่าเขาเป็นมนุษย์คนแรกที่ประสบความสำเร็จในโครงการ โดยเขาได้คืนชีพและรักษาเขาด้วยการฉีดนาโนไนต์ซึ่งเป็นเทคโนโลยี ทดลอง ที่เข้ามาแทนที่เลือดทั้งหมดของเขาในปัจจุบัน เทคโนโลยีนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและรักษาอาการบาดเจ็บของเขาได้ แต่ต้องเปลี่ยนนาโนไนต์และชาร์จใหม่เป็นประจำ มิฉะนั้นเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานจากการบาดเจ็บและเสียชีวิตอีกครั้งในที่สุด

เรย์ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับคนไข้คนอื่นๆ ของดร. ฮาร์ติ้ง รวมถึงอดีตนักดำน้ำ หญิง ของกองทัพเรือสหรัฐฯ “เคที” อดีตเรนเจอร์ของกองทัพสหรัฐฯมาร์คัส ทิบบ์ส และอดีตหน่วยซีลของกองทัพเรือจิมมี่ ดาลตัน หลังจากที่ได้เห็นภาพย้อนอดีตของจีน่าและแอ็กซ์ เรย์ก็ออกเดินทางทันทีเพื่อแก้แค้นการตายของจีน่า เรย์ใช้นาโนไนต์และเซิร์ฟเวอร์ RST เพื่อแฮ็กเข้าไปในฐานข้อมูล ติดตามแอ็กซ์ไปที่บูดาเปสต์และฆ่าเขาพร้อมกับบอดี้การ์ดของเขา เมื่อกลับมาที่ RST เรย์ถูก

ทำให้หลับขณะที่นาโนไนต์ของเขาถูกรีบูต เช่นเดียวกับที่เขาเคยทำมาหลายครั้งก่อนหน้านี้ ฮาร์ติ้งแทนที่ความทรงจำของเรย์ด้วยสถานการณ์ใหม่เกี่ยวกับการตายของจีน่า คราวนี้มีนิค บาริส อดีตเพื่อนร่วมงานของเขาที่ RST เป็นผู้กระทำความผิด KT คัดค้านที่ฮาร์ติ้งบิดเบือนความทรงจำของเรย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อที่เขาจะได้ไล่ล่าเป้าหมายต่างๆ โดยไม่ตั้งคำถามหรือสำนึกผิด แต่เธอถูกเพิกเฉยและถูกเตือนว่า RST สามารถฆ่าเธอได้โดยการปิดการใช้งานการเสริมพลังของเธอ

ผู้กำกับ

• David S. F. Wilson

บริษัท ค่ายหนัง

• Columbia Pictures
• Bona Film Group
• Cross Creek Pictures
• Original Film
• Annabell Pictures
• The Hideaway Entertainment
• One Race Films
• Valiant Entertainment

นักแสดง

• Vin Diesel
• Eiza González
• Sam Heughan
• Toby Kebbell
• Talulah Riley
• Lamorne Morris
• Guy Pearce

โปสเตอร์หนัง

รีวิว Bloodshot (2020) จักรกลเลือดดุ

ekka_eak

หนังจาก Comic พล็อตเรื่องเชยสุดๆ ดูแค่เอามันส์จากฉากแอ็คชั่นละกัน

ผมว่าต้องมีหลายคนที่ไม่มั่นใจในหนังเรื่องนี้ของเฮียเหม่ง VIn Diesel เหมือนผมแน่ๆ ส่วนตัวที่ผมไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ เพราะหนังเฮียแกพักหลังๆ เนื้อหามันไม่ค่อยมีอะไรใหม่เลย คอนเซ็ปต์เดิมๆ เดินเรื่องราวแบบเดิมๆ จบแบบเดิมๆ และหลายเรื่องหลังๆ ก็เจ๊งแบบเดิมๆ เช่นกัน ซึ่งกับเรื่องนี้ก็พอเข้าใจได้ว่ามันมีที่มาที่ไปจากการ์ตูน Comic Book ที่เหมือนเอาความสามารถพิเศษและเรื่องราวของตัวละครหลายๆ ตัวที่เราเห็นมาแล้วมารวมออกมาเป็นตัวละครที่ชื่อว่า

หนังเป็นเรื่องราวของ “Ray” ทหารที่เสียชีวิตจากการออกปฏิบัติการและตื่นขึ้นมาในห้องแล็บพร้อมกับความสามารถพิเศษหลายอย่างเพราะถูกปลูกถ่ายเทคโนโลยีที่เรียกว่า “นาไนต์” เข้าไปในเลือด ทำให้เขามีความเร็ว ความแข็งแกร่ง และการฟื้นตัวที่เหนือมนุษย์ ส่ิงเหล่านี้ที่เกิดขึ้นกลับต้องลแกด้วยความทรงจำที่หายไป แต่เมื่อความทรงจำเริ่มกลับมา เขาก็เริ่มรู้เบื้องลึกเบื้องหลังขององค์กรลับ และต้องตามสืบสาวเรื่องราวที่แท้จริงให้ได้

เอาจริงๆ พล็อตเรื่องหนังน่ะ อย่างที่บอกว่ามันค่อนข้างจะเชยสุดๆ กับทหารที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่แล้วถูกเอามาทำเป็นมนุษย์แปลง มันก็ไม่ได้แปลกใหม่อะไรกับหนังสไตล์นี้เลย แล้วยิ่งมาบวกกับเรื่องราวของการถูกหักหลังจากองค์กรที่ตัวเองสังกัด แล้วยิ่งกว่านั้นคือเรื่องของการโปรแกรมความทรงจำผิดๆ เข้าไปในสมองของพระเอก นี่มันแทบจะไม่ได้คิดอะไรขึ้นมาใหม่เลยใช่มั๊ยเนี่ย คือไม่ต้องเดาก็รู้อ่ะว่าหนังจะเดินไปทางไหนยังไงต่อตั้งแต่ต้นจนจบ

สำหรับหนังแอ็คชั่นเรื่องหนึ่ง ถ้าความดีงามของหนังไม่ใช่ฉากต่อสู้ ก็ไม่รู้จะเอาอะไรมาขายแล้ว ซึ่งหนังเรื่องนี้มีฉากแอ็คชั่นที่ดูสนุกและดีเลยทีเดียว เพียงแต่ฉากแอ็คชั่นมันดันใส่มาน้อยไปนิด เอาจริงๆ มันมีฉากต่อสู้เจ๋งๆ ยาวๆ แค่ 3-4 ฉากแค่นั้นเองนะ แต่ว่าแต่ละฉากก็ดูมันส์ลุ้นสนุกเพลินๆ ทุกฉาก ถือว่าเป็นความดีงามของหนังแล้วล่ะเมื่อเทียบกับหนังทั้งหมด โดยเฉพาะฉากที่สู้กันบนลิฟท์นี่สนุกมาก

จุดที่หนังทำได้ไม่ดีเลย ส่วนตัวคือเอกลักษณ์ของ Ray ที่ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อ Vin Diesel เลย มันถูกสร้างมาเพื่อให้ใครแสดงก็ไม่ได้แตกต่างกัน เพียงแต่เรื่องนี้โชคดีที่ได้ Vin Diesel มารับบท มันเลยเป็นจุดขายเรียกแฟนคลับพี่เหม่งได้เพิ่มเติมอีกนิด แต่พี่เหม่งแกก็ยังสลัดภาพเดิมๆ ไม่ได้อยู่ดี มันไม่ได้ เรื่องนี้เหมือนเอาคาแรคเตอร์ของ ดอมินิค ทอเร็ตโต้ มาบวกเข้ากับ ริดดิค ออกมาเป็นนาย Ray แห่ง

ตัวละครอื่นๆ ถูกสร้างมาเพื่อเติมเต็มให้กับหนัง แต่ใช้งานไม่ค่อยคุ้ม ตัวร้ายตัวหลักอย่าง Guy Pearce ที่น่าจะมีบทบาทสำคัญอะไรมากกว่านี้ รวมไปถึงสาวสวยอย่าง Eiza González ที่บทน้อยจนน่าเสียดาย มีตัวละครตัวเดียวที่เด่นสูสีกับพระเอกคือ Sam Heughan ในบทของตัวร้ายตัวรอง แต่เก่งกว่าบอสใหญ่ ที่ค่อนข้างเด่นและเก่งพอๆ กับพระเอกและใช้คุ้มที่สุดในเรื่องละล่ะ

หนังทิ้งท้ายไว้น่าจะมีภาคต่อแน่ๆ แต่ก็คงต้องรอดูแหละว่าหนังจะไปได้สวยแค่ไหน แต่ถ้าภาคต่อไปยังพัฒนาเนื้อหาได้ไม่ดีหรือไม่สดใหม่ ก็คงเป็นแค่หนังมนุษย์ดัดแปลงธรรมดาๆ เรื่องหนึ่งที่มีจุดเด่นแค่ Vin diesel เท่านั้น ไม่ได้มีอะไรน่าประทับใจหรือให้จำชื่อ Superhero คนนี้ได้เลย

ฮีโร่ตัวน้อย

เปิดตัวจักรวาลได้ธรรมดาไปหน่อย [ไร้ส้มป่อย]

สำหรับผม Blood shot มีคอนเซปต์ที่น่าสนใจครับ เพราะหนังสร้างมาจาก comic ที่ไม่ได้เป็นของ Marvel หรือ DC แต่เป็นฮีโร่จากค่าย Valiant Comics ที่มียอดขายสูงไม่แพ้ค่ายที่ว่ามาเลย เพราะฉะนั้นสำหรับผมถือว่าเรื่องนี้น่าสนใจอยู่ในระดับนึงครับ ความคาดหวังก็อยู่ในระดับกลางๆ เพราะเอาจริงๆ ผมไม่ค่อยไว้วางใจค่าย Sony เสียเท่าไหร่ เพราะตอนที่เขาทำ Venom ผมผิดหวังครับ ผิดหวังสุดๆ สำหรับเรื่องนี้ผมเลยไม่ค่อยหวังอะไรมาก ขอให้มันออกมาเข้าท่ากว่าเรื่องนั้นก็พอใจแล้ว

เล่าเรื่องราวของ เรย์ แกร์ริสัน (Vin Diesel) ชายผู้กลายเป็นเครื่องจักรสังหารทำภารกิจเสี่ยงตายตามคำสั่งขององค์กร ความทรงจำของเขาได้หายไป สิ่งเดียวที่เขารู้คือเขาต้องทำภารกิจช่วยเหลือคนรักของเขา และเขาไม่ใช่เพียงแค่คนธรรมดาเพราะภายในเลือดของเขาได้มีหุ่นขนาดเล็กที่เรียกว่า นาไนต์ ที่จะช่วยให้เขามีพลังเหนือมนุษย์ธรรมดาและมีพลังในการเยียวยารักษาสูง แทบพูดได้เลยว่าเขานั้นเหมือนจะเป็นเครื่องจักรสังหารอมตะ เป็นแฟรงค์เกนสไตน์ในยุคปัจจุบัน แต่แล้วเมื่อวันหนึ่งความผิดปกติบางอย่างมันก็ทำให้เขารู้ว่า เขากำลังถูกองค์กรนี้หลอกใช้ และคอยลบความทรงจำ หลอกลวงเขาให้ทำภารกิจเสี่ยงตายเพื่อผลประโยชน์ขององค์กรอยู่เสมอ

หลังจากดูจบ ผมว่าหนังมีจุดที่เข้าท่าคือ CG ที่เนรมิตเทคโนโยีนาไนต์ออกมาได้น่าสนใจ และการแสดงที่ดีของนักแสดงครับ อย่าง Eiza González นี่ก็เซ็กซี่มากจนสามารถแย่งซีนได้หลายฉากเลย แต่ว่าไม่ได้มากพอที่จะแย่งพื้นที่จากพี่ Diesel ได้ เพราะพี่แกเล่นเป็นตัวละครที่พี่แกเล่นมาตลอดครับ ผมว่าผมชอบเลเวลการแสดงของเฮียแกช่วง 10 นาทีแรกมากครับ อย่างฉากที่ถูกมัดไว้ในเก้าอี้เนี่ยแววตาพี่แกนี่น่าสงสารสุดๆ แต่หลังจากพ้น 10 นาทีแรกไป พี่แกก็กลับมาสู่ pattern เดิมเลย เหมือนที่พี่แกเล่นเป็น Dominic Toretto หรือว่า Riddick เลยเป๊ะ! ถึงแม้ผมจะไม่ค่อยถูกใจ แต่ยอมรับครับว่ามันทำให้ตัวละครพี่แกดูมีเสน่ห์มากขึ้นแต่ก็น่าเสียดาย ที่จุดที่เข้าท่าสำหรับผมมันดันมีแค่นั้นจริง ส่วนที่เหลือค่อนข้างที่จะธรรมดา

จะว่าไปทางด้านเนื้อเรื่องดูเหมือนซับซ้อนครับ ช่วงแรกของหนังจะมีการพลิกไปพลิกมาของบทซึ่งเหมือนว่าจะสับขาหลอกคนดู แต่ว่าผมเดาได้หมดเลยครับ เดาได้ตั้งแต่ต้นเรื่องเลย แถมเดาตอนจบได้ด้วย(เอาจริงๆ ตอนดูนี่นึกถึง RoboCop ตลอดทั้งเรื่องเลย เพราะเนื้อเรื่องคล้ายกัน แต่เรื่องนั้นสนุกกว่าเยอะมาก) และพอมันเป็นไปตามที่เดาไว้หมดเนี่ย ความสนุกมันก็หดหายไปด้วยครับ กลายเป็นว่าเบื่อแทน สารภาพว่าช่วงเกือบไคล์แมกซ์ผมสัปงกไปหลายรอบเลย เพราะมันเดาได้หมดแถมหนังยังเล่าเรื่องเรื่อยๆ และไม่มีทีท่าว่าจะเร่งเครื่องตอนไหน ทำให้ช่วงแรกถึงกลางดูน่าเบื่อและจำเจสุดๆ ครับ ยังโชคดีที่ช่วงท้ายมันดูสนุกขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่พอที่จะช่วยหนังไว้ได้ทั้งเรื่อง ตรงนี้แอบเสียดายครับ

เอาจริงๆ ผมก็ไม่แปลกใจกับบทเท่าไหร่หรอก เพราะบทหนังเขียนโดย Jeff Wadlow ครับ ซึ่งพี่แกก็เคยกำกับหนังมาอย่าง Kick-Ass 2, Truth or Dare และก็ล่าสุดอย่าง Fantacy Island ซึ่งสองเรื่องแรกที่ว่ามาผมชอบนะครับ ถึงแม้บทจะตามสูตรแต่ว่าผกก. แกเล่าได้กล่อมกล่อม แต่สำหรับเรื่องนี้ ผมว่า Dave Wilson ซึ่งเคยกำกับ Love, Death & Robots ตอน Sonnie’s Edge มาก่อน ผมว่าแกฝีมือตกครับ เพราะเรื่องนั้นมันสนุกกว่าเรื่องนี้หลายขุมเลย ถึงแม้หนังจะสื่อถึงอำนาจมืดของฝ่ายเบื้องบนที่เป็นคนควบคุมตัวเราแทนที่เราจะควบคุมตัวเอง ทำให้ตัวเราเหมือนสิ่งของของเขาที่จะเรียกใช้งานตอนไหนก็ได้ ซึ่งประเด็นนี้ดีครับ แต่ก็น่าเสียดายอีกที่หนังแตะประเด็นนี้แบบผิวเผินมากๆ

สรุปแล้ว  ก็เป็นหนังเปิดจักรวาลใหม่ของค่าย Sony ที่ดูได้เพลินๆ เพราะองค์ประกอบต่างๆ ของหนังนั้นสามารถทำได้ดีกว่านี้ แต่ก็นำเสนอออกมาได้จืดชืด และซ้ำซากไปหน่อย ส่วนตัวชอบมากกว่า Venom นิดหน่อย แต่ยังห่างไกลจากคำชอบอยู่ดี

คะแนนเฉลี่ยรวม : 6/10

เรตหนัง : หนังโอเค พอดูได้

ดาราปังหนังเปรี้ยง

by #แอดนม – [7.0/10]
—
ก่อนดูก็แอบคาดหวังเบาๆ ว่าถ้าหากมันปังขึ้นมาก็คงได้เปิิดจักรวาลฮีโร่แบบดิบๆ กันขึ้นมาอีกสักจักรวาลนึงที่จะฉีกภาพลักษณ์จากฝั่ง Marvel หรือ DC ไปบ้าง แต่ด้วยตัวอย่างหรืออะไรต่ออะไรที่ปล่อยมา ก็ดูเหมือนว่าหนังน่าจะต้องใช้ความพยายามมากที่จะไปถึงจุดนั้น ซึ่งพอดูเข้าจริงก็พบว่า หนังน่าจะโดนนักวิจารณ์สับอยู่ไม่น้อย แต่ก็ยังพอที่จะถูกใจคนดูสายแอคชั่นได้อยู่
..
เล่าเรื่องของเรย์ นายทหารที่เพิ่งกลับมาจากภารกิจ แล้วกำลังพักผ่อนกับแฟนสาว แต่แล้วก็เกิดเหตุที่ทำให้เขาและแฟนสาวต้องเสียชีวิต เขาตื่นขึ้นมาใหม่พร้อมกับความทรงจำอันเลือนรางในองค์กรแห่งหนึ่งที่อัพเกรดเขาให้เป็นยอดมนุษย์ที่มีพลังแข็งแกร่ง รักษาตัวเองได้ และสามารถเจาะเข้าระบบต่างๆ ผ่านระบบประสาทได้ (ขี้โกงสุดๆ) เมื่อวันนึงเขาเกิดจำความได้ เขาจึงออกตามล่าล้างแค้นแก่คนที่เคยฆ่าเขาและแฟนสาว แต่ความทรงจำนั้นมันจะเชื่อได้สักแค่ไหน?
..
พล็อตเรื่องหนังแม้จะมีบิดนิดขยับหน่อย แต่โดยรวมก็ยังเป็นสูตรสำเร็จในแบบที่เดากันได้ทั้งเรื่องอยู่ กิมมิคของหนังจึงไปอยู่ที่พลังพิเศษของตัวเอกบวกกับวิชวลที่ดูเท่ๆ ซะมากกว่า ทีมวายร้ายก็มีชุด มีอะไรที่เท่ดี ตอนเอามาบวกกันในฉากต่างๆ รวมถึงไคลแม็กซ์ก็ทำออกมาได้น่าตื่นเต้น หวือหวา พอประมาณอยู่เหมือนกัน ทำให้ภาพรวมแม้ว่า   จะไม่มีอะไรที่โดดเด่นกว่าหนังแอคชั่นในตลาดยุคนี้ทั่วๆ ไป แต่ถ้าดูแบบปล่อยตัวปล่อยใจก็พอที่จะสนุกไปกับหนังได้อยู่เหมือนกัน

หนังโปรดของข้าพเจ้า

• ใช้ได้เลยนะ ไปดูแบบไม่ได้คาดหวังอะไรนอกจากฉากแอ็คชั่น ซึ่งเราว่ามันออกแบบมาค่อนข้างสร้างสรรค์ระดับหนึ่ง ไม่ถึงกับว้าวแต่ไม่ขี้เหร่แน่นอน

• ด้วยความที่พระเอกพลังเหนือมนุษย์ ฟื้นตัวเร็วยิ่งกว่าวูล์ฟเวอรีน เลยทำให้การออกแบบคิวบู๊กับทหารไม่ต้องกั๊กความสามารถบรรดาตัวประกอบ พวกทหารอารักขาก็เก่งจัดเต็มแล้วแต่พระเอกสกิลขี้โกงแค่นั้นแหละ จัดแสงและฉากสวยเลย แถมคิวบู๊ก็มันส์ใช้ได้

• ยิ่งบรรดาทหารพิการที่ถูกอัพเกรดความสามารถกลายมาเป็นลูกเล่นในการขายฉากแอ็คชั่นได้อีก คนตาบอดกลายเป็นมีตารอบทิศ มีโดรนควบคุมมุมสูง ส่วนคนขาขาดก็กลายเป็นตัวที่อัพเกรดขาเทียมว่องไว มีแขนกลสู้มันส์ ๆ อีก ไม่ผิดหวังกับฉากแอ็คชั่น

• ไอเดียไซไฟไม่ใหม่ ตัวอย่างก็ใบ้ค่อนข้างเยอะ ถึงอย่างนั้นการเล่าเรื่องก็ยังสนุก และไอเดียไซไฟที่ใช้ก็เสริมให้หนังเป็นแอ็คชั่นไซไฟดูสนุกระดับหนึ่งเลย

• ผู้กำกับมาจากสาย visual effects อัพเลเวลมากำกับหนังใหญ่เรื่องแรก อาจจะเป็นเหตุผลที่ได้เห็นฉากโชว์เทคนิคพิเศษสวย ๆ
————————————-
พล็อตหนังไม่มีอะไรมาก ‘เรย์’ (Vin Diesel) เป็นทหารระดับมือสังหารฝีมือดีที่ถูกคนร้ายลักพาตัวไปฆ่า พอตายปุ๊บก็ถูกกองทัพส่งศพไปทดลองนาโนเทคโนโลยี ซึ่งเขาเป็นคนแรกที่การทดลองประสบความสำเร็จ สามารถฟื้นจากความตายได้พร้อมความสามารถพิเศษที่มีหุ่นนาโนขนาดเล็กซ่อมแซมร่างกายได้ตลอดเวลา เพียงแต่เขาฟื้นมาโดยไม่มีความทรงจำหลงเหลืออยู่ จำได้แค่ว่าภรรยาถูกใครฆ่าตาย เขาจึงออกไปตามล้างแค้นทันที แต่อะไรคือความจริงกันแน่

ก่อนดูไม่ได้คิดว่าหนังจะถึง 7 คะแนนเพจเราได้นะ แต่พอดีวันนี้ต้องออกไปห้างพอดีเลยแวะดูสักหน่อย ซื้อตั๋วหนังใน AirPay ได้โปรโมชั่นเงินคืนตลอดด้วย ตั๋ว 260 เงินคืน 100 บาท คิดแล้วอยู่ในระดับลองเสี่ยงดูหน่อยก็ได้ ฮ่าๆ หนังเดินเรื่องค่อนข้างเร็วแล้วโครงจริง ๆ มันเป็นไอเดียไซไฟแบบโม้ ๆ หน่อย มีนาโนซ่อมร่างงี้ ใช้นาโนเข้าถึงฐานข้อมูลทั่วโลกงี้ หรือกระทั่งการเขียนโค้ดป้อนคำสั่งให้เจ้านาโนที่อยู่ในร่างกาย พล็อตไซไฟถูกเขียนมาเพื่อรองรับฉากแอ็คชั่นเดือด ๆ แล้วก็เดือดในระดับที่น่าพอใจ แอ็คชั่นขายความถึกเต็มขั้น ในเมื่อยิงไม่ตายจะไปกลัวอะไร พี่วิน ดีเซล เลยเดินหน้าลุยไม่ยั้งแบบไม่ต้องโชว์คิวบู๊สวยงาม

ฉากแอ็คชั่นมีอยู่ 3 ฉากใหญ่ ต้นเรื่อง/กลางเรื่อง/ท้ายเรื่อง ครบทุกส่วนพอดี ต้นเรื่องคือฉากสู้กองทัพทหารบอดี้การ์ดในอุโมงค์มืด ชอบการออกแบบแสงควันฉากนี้มาก ใช้แป้งเป็นเอฟเฟ็คต์ผงฟุ้ง ๆ มีแสงแดง ๆ จากพลุแฟลร์ให้ฉากสวยเลย คิวบู๊สนุกดี พอพระเอกเก่งเลเวลเหนือมนุษย์เลยไม่ต้องไปลดความสามารถทหารให้อ่อนลงเหมือนหนังหลายเรื่อง ก็ให้พวกทหารเก่งสมค่าจ้างไปเลยเพราะยังไงพระเอกก็เก่งกว่าอีกระดับหนึ่งไปละ ส่วนฉากที่เหลือเป็นโชว์ของวิน ดีเซล vs. สองทหารที่ถูกอัพเกรดร่างกายมาเหมือนกัน ชอบไอเดียการยกขีดความสามารถของร่างกายนะ ทั้งตาและขารวมถึงอาวุธที่เอามาใช้เท่เลย

ป.ล. เสียดายนิดหน่อยแค่ว่าจริง ๆ โปรเจ็คต์นี้เคยทาบทามสองผู้กำกับ John Wick มาทำ เห็นเขาทำเลเวลมนุษย์ธรรมดาแล้วอยากเห็นวิสัยทัศน์ตอนทำหนังแอ็คชั่นอัพเกรดพลังมาก

Director: Dave Wilson

story: Jeff Wadlow

screenplay: Jeff Wadlow, Eric Heisserer

Genre: action, sci-fi

7/10

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน Bloodshot (2020) จักรกลเลือดดุ

Project Power (2020) โปรเจคท์ พาวเวอร์ พลังลับพลังฮีโร่

Push (2009) โคตรคนเหนือมนุษย์

The Old Guard (2020) ดิ โอลด์ การ์ด

Gemini Man (2019) เจมิไน แมน

Hitman (2007) ฮิทแมน โคตรเพชฌฆาต 47