Anna and the King (1999) แอนนาแอนด์เดอะคิง

Anna and the King (1999) แอนนาแอนด์เดอะคิง

เรื่องย่อ

Anna and the King (1999) เรื่องราวความรักระหว่างกษัตริย์แห่งสยามกับครูโรงเรียนชาวอังกฤษผู้เป็นม่าย แอนนา ลีโอโนเวนส์ ในช่วงทศวรรษที่ 1860 ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของแอนนา ลีโอโนเวนส์และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) แอนนาเป็นแม่หม้ายที่เข้ามาในประเทศสยามพร้อมกับหลุยส์ลูกชายของเธอเพื่อที่จะเข้ามาสอนภาษาอังกฤษให้พระราชทายาททั้งหมด 68 พระองค์

ผู้กำกับ

• Andy Tennant

บริษัท ค่ายหนัง

• Fox 2000 Pictures

นักแสดง

• Jodie Foster
• Chow Yun-Fat
• Bai Ling
• Tom Felton
• Syed Alwi
• Randall Duk Kim
• Lim Kay Siu

โปสเตอร์หนัง

รีวิว

เกร็ดประวัติศาสตร์

ส่วนตัวมองหนังเรื่องนี้ Anna and the King (1999) เป็นงานสนุกที่ดูเพลินได้บ้างและแอบเบื่อไปบ้าง โดยเฉพาะแหม่มแอนนา ที่ดูหยิ่งเหย่อมากกับ รัชกาลที่ 4 และแลดูสำคัญตัวเองมาก และในหนังใช้นักแสดงต่างชาติพูดไทย เป็นอะไรที่ขัดหูมาก (เหมือนพม่าเพิ่งหัดพูดไทย) นอกนั้นก็พอดูแบบบันเทิง โดยไม่ต้องไปอิงความจริงใดๆ (แต่ในส่วนของท้ายเรื่องเป็นอะไรที่ขัดใจสุดติ่ง เพราะหนังบอกว่าที่ รัชกาลที่ 5 เลิกทาสเพราะได้แนวคิดจากแหม่มแอนนา เป็นอะไรที่แบบว่า

ในส่วนของงานสร้างถือว่าอลังการมาก แม้จะไม่เป๊ะ แต่ก็ดูเป็นไทยพอสมควร งดงามพอควร ถ้าได้ถ่ายทำในไทย คงจะละเอียดและงดงามกว่านี้ แต่เพราะหนังไม่ได้รับอนุญาติให้ถ่ายในไทย ทีมงานจึงย้ายมาถ่ายทำที่มาเลเซียแทน โดยมีเผ่าทอง ทองเจือ เป็นที่ปรึกษาของกองถ่าย ส่วนตรงนี้คือความเห็นจากท่านมุ้ย ตามความเป็นจริงแล้ว มีอาจารณ์เพียงท่านเดียวเท่านั้นที่ค้านหัวชนฝาว่าหนังเรื่องนี้ไม่ควรจะถ่ายในเมืองไทย เพราะจะเป็นการหมิ่นพระบรมเดชาณุภาพ เราได้ขอร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงบทซึ่งทางฝรั่งก็ตกลงเปลี่ยนให้ตามที่เราขอร้องทุกประการ เปลี่ยนจนกระทั่งร.๔ของเราดูเป็นพระเอกหนังคาวบอย ขี่ม้าสูบซิการ์ที่สะพานที่จะระเบิด แต่อาจารณ์ท่านนั้นก็ยังไม่ยอมอยู่ท่าเดียว

“ต้องข้ามศพฉันไปก่อน” หนังเรื่องนั้นถึงไม่ได้ถ่ายทำในเมืองไทย ทำให้เราเสียโอกาศที่จะแก้ใขให้คำปรึกษาแก้ผิดให้เป็นถูก หลังจากหนังถ่ายทำจบไปแล้วผมนำเอาหนังเรื่องนี้ไปฉายในวังให้เจ้านายของผมทอดพระเนตร ทรงรับสั่งว่าตลกดี แต่ไม่เห็นว่าเขาดูถูกอะไรเรา  Anna and the King (1999) และถ้าคนดูเชื่อตามในหนังก็คงจะไม่ใช่คนไทยเพราะ ทรงพระราชทานที่พักให้แหม่มแอนนา แต่เป็นที่อยุธยา แล้วคุณแหม่มจะเดินทางมาสอนหนังสือในวังหลวงทุกวันได้อย่างไร ระหว่างทางไปอยุธยาสองข้างทางเป็นภูเขา ก็คงจะไม่มีใครเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง หรือเดินทางจากกรุงเทพไปขอนแก่นโดยทางเรือ (ไปได้ยังไงกันวะ) หรือ บางโพอยู่ชายแดนไทยพม่า, รถช้าง, ประหารชีวิตเจ้าจอมทับทิมในวัดพระแก้ว ผมเห็นด้วยกับพระราชวินิจฉัยว่าไม่มีคนไทยคนไหนจะเห็นว่าเรื่องนี้เป็นหนังจริงจังอะไร ดูเล่นสนุกๆ เท่านั้นเอง และพระองค์ก้ไม่เห็นว่าจะไปแบนหนังเรื่องนั้นเพื่ออะไรที่ผมเขียนเล่ามาก็เพื่อที่อยากจะบอกว่าไม่ใช่ในวังเป็นผู้ห้ามฉายหนังเรื่องนี้อย่างที่หลายคนเข้าใจ เป็นเพียงแต่อาจารย์ท่านหนึ่งที่เถียงหัวชนฝาไม่ยอมให้ถ่ายไม่ยอมให้ฉาย

mick

ก่อนอื่นเลย หนังเรื่องนี้ถูกแบนในประเทศไทย ทั้งสถานที่ถ่ายทำและที่นำมาฉายที่นี่ ผมต้องหาดีวีดีมาดู โอเค นี่ไม่ใช่เรื่องจริงในประวัติศาสตร์ของเรา เป็นเพียงหนังต่อจากหนังสือที่มีชื่อปลอม ยศศักดิ์ และการเข้าใจผิดทางวัฒนธรรม อย่างไรก็ตาม ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ทำหน้าที่ได้ดีที่จะไม่ดูหมิ่นกษัตริย์ของเรา ในหนังเรื่องนี้ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงแสดงบทบาทผู้นำที่ยิ่งใหญ่ บิดาสูงสุดของประเทศของเรา บทบาทของพระองค์ในภาพยนตร์ที่รับบทโดยเจ้าหยุนฟะนั้นเป็นที่ยอมรับสำหรับผม ต่อมา อาคาร อุปกรณ์ และฉากต่างๆ ก็ยอดเยี่ยมมาก ดูเหมือนที่นี่ในประเทศไทยเลย นั่นเป็นงานที่ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตาม การออกเสียงภาษาไทยบางครั้งก็ไม่ดี มีนักแสดงเพียงไม่กี่คนที่สามารถออกเสียงได้ดี หลายครั้งที่ผมไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่พวกเขาพูดเป็นภาษาไทยและต้องดูคำบรรยายภาษาอังกฤษ เนื้อเรื่องก็โอเค ไม่แย่ บางครั้งก็น่าเบื่อ บางครั้งก็มีการบรรยายที่น่าสนใจ ตอนจบหนังที่เป็นกบฏ ผมว่ามันน่าจะช่วยทำให้หนังน่าสนใจขึ้นมากกว่าจะเป็นหนังดราม่าธรรมดาๆ สำหรับคนไทย ผมว่าหนังเรื่องนี้ดีนะ ไม่ได้ทำลายภาพลักษณ์กษัตริย์ของเรา

TheLittleSongbird

เรื่องนี้เป็นที่รู้จักกันดีและถูกเล่าขานกันมาหลายครั้งแล้ว โดยภาพยนตร์เพลงเรื่อง The King and I ที่ออกฉายในปี 1956 ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งของการแข่งขันดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในภาพยนตร์เพลงที่ฉันชอบมากที่สุด มีเรตติ้งใกล้เคียงกับ Anna and the King of Siam ที่ออกฉายในปี 1946 และดีกว่า  Anna and the King (1999)  เวอร์ชันแอนิเมชั่นที่ไม่ค่อยดีในปี 1999 มาก โดยที่เวอร์ชันแอนิเมชั่นดังกล่าวได้รับการดัดแปลงแบบคนขายเนื้อ และเวอร์ชันแอนิเมชั่นทุนต่ำที่น่าเบื่อจาก Burbank Animation Studios เนื้อเรื่องค่อนข้างยาวกว่าที่ควรจะเป็นเล็กน้อย ทำให้บางส่วนดูยืดเยื้อไปเล็กน้อย ในขณะที่เนื้อเรื่องรองที่มีนายพลกบฏนั้นดูไม่น่าเชื่อและไม่ได้ให้ความตึงเครียดมากเท่าที่ควร ในทางกลับกัน เป็นหนังที่ดูน่าทึ่งมากด้วยเครื่องแต่งกายที่มีสีสันและหรูหรา และการกำกับศิลป์ที่ประณีตทำให้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์อย่างถูกต้อง ประกอบกับการถ่ายภาพที่สวยงามจับใจ

ดนตรีประกอบของจอร์จ เฟนตันนั้นเร้าใจ เรียบง่าย และสร้างแรงบันดาลใจ และเพลงประกอบก็เข้ากันได้ดี อีกสิ่งดีคือเรื่องราวที่มีการผสมผสานระหว่างความยิ่งใหญ่ ดราม่าที่สะเทือนอารมณ์ ความโรแมนติกที่สง่างามและตึงเครียดในบางครั้ง และประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ แม้จะไม่ถูกต้องก็ตาม ความขัดแย้งค่อนข้างซับซ้อนในตอนแรก แต่สามารถจัดการได้อย่างน่าสนใจโดยไม่ทำให้หนังขาดความชัดเจน บทภาพยนตร์ชวนคิด และแอนดี้ เทนแนนต์ (ซึ่งเพิ่งกลับมาจาก ‘Ever After: A Cinderella Story’ ที่น่ารื่นรมย์ของปีที่แล้ว ซึ่งยังคงเป็นหนังโปรดของฉัน) กำกับได้อย่างมั่นใจ โจดี้ ฟอสเตอร์แสดงได้อย่างสง่างามและเข้มแข็งด้วยสำเนียงที่ไร้ที่ติ แม้ว่าจะไม่ค่อยมั่นใจนักในบางครั้ง การแสดงของโจวเหวินฟะในบทบาทกษัตริย์นั้นยอดเยี่ยมมาก โดยถ่ายทอดความแตกต่างและความอ่อนหวานออกมาได้อย่างดี นักแสดงทุกคนต่างก็แสดงออกมาได้ดี รวมถึงทอม เฟลตันที่เล่นก่อนเรื่อง ‘Harry Potter’ ด้วย

JamesHitchcock

ปัจจุบัน แอนนา ลีโอโนเวนส์เป็นที่รู้จักดีที่สุดในบทบาทที่รับบทโดยเดโบราห์ เคอร์ ในภาพยนตร์เรื่อง “The King and I” แต่เธอเป็นบุคคลจริง ไม่ใช่ตัวละครสมมติ และเรื่องราวของเธอก็ถูกเล่าขานในภาพยนตร์เรื่อง  Anna and the King (1999) ซึ่งออกฉายเมื่อปี 1946 (ซึ่งฉันไม่เคยดูเลย) “Anna and the King” เป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่องที่สองที่ไม่ใช่มิวสิคัลที่ดัดแปลงมาจากเรื่องราวของเธอ

แอนนาเป็นครูโรงเรียนชาวอังกฤษที่เป็นหม้ายซึ่งเดินทางไปสยาม ซึ่งในขณะนั้นประเทศไทยเป็นที่รู้จักในนามประเทศไทย เพื่อเป็นครูสอนให้กับลูกๆ และภรรยาของพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจำนวนมาก ในความเป็นจริง เธอแทบจะไม่ได้ติดต่อกับพระองค์เลย แต่บันทึกของเธอบอกเป็นอย่างอื่น และชาวตะวันตกต่างก็หลงใหลในมิตรภาพที่เติบโตขึ้นระหว่างพวกเขามานานแล้ว องค์ประกอบบางอย่างของภาพยนตร์เรื่องนี้คงจะคุ้นเคยกันดีกับใครก็ตามที่คุ้นเคยกับ “The King and I” ภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องกล่าวถึงนวนิยายเรื่อง “กระท่อมลุงทอม” ของแฮเรียต บีเชอร์ สโตว์ และนำเสนอเรื่องราวความรักที่ล้มเหลวระหว่างเลดี้ทับทิม ซึ่งเป็นสนมของกษัตริย์ และคนธรรมดาสามัญ แน่นอนว่ามีเด็กๆ ที่น่ารักมากมายวิ่งเล่นไปทั่วทุกที่ เรื่องราวรองที่สมมติขึ้นซึ่งแอนนาช่วยกษัตริย์ขัดขวางการรัฐประหารโดยนายพลผู้ทรยศ ดูเหมือนว่าจะเป็นการคิดขึ้นโดยผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้

เช่นเดียวกับเรื่อง ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกห้ามฉายในประเทศไทยเนื่องจากมีการพรรณนาถึงพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวอย่างไม่ให้เกียรติ ดูเหมือนว่ากฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของประเทศจะคุ้มครองไม่เพียงแต่กษัตริย์องค์ปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบรรพบุรุษของพระองค์ด้วย การเซ็นเซอร์ที่เข้มงวดเกินไปนี้ดูแปลกในประเทศที่อ้างว่า (หรือเคยอ้างจนกระทั่งเกิดการรัฐประหารเมื่อไม่นานนี้) เป็นประชาธิปไตย ลองนึกภาพพายุแห่งการประท้วงที่น่าจะปะทุขึ้นหากรัฐบาลอังกฤษพยายามเซ็นเซอร์ “นางบราวน์” เนื่องจากภาพยนต์เรื่องนี้ถ่ายทอดเรื่องราวของสมเด็จพระราชินีวิกตอเรียได้อย่างชัดเจน

แน่นอนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่สามารถถ่ายทำในประเทศไทยได้  Anna and the King (1999) แต่การถ่ายทำเกิดขึ้นในประเทศมาเลเซีย การเลือกโจวเหวินฟะแทนชาวยุโรปอย่างยูล บรินเนอร์มารับบทมงกุฏดูเหมือนจะเป็นความพยายามของผู้สร้างภาพยนตร์ที่จะบรรเทาความกังวลของคนในพื้นที่ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ ความอ่อนไหวทางเชื้อชาติในตะวันออกไกลไม่เหมือนกับในตะวันตกเสมอไป การเลือกนักแสดงหญิงชาวจีนสามคนมารับบทเป็นตัวละครชาวญี่ปุ่นใน “Memoirs of a Geisha” ทำให้เกิดการประท้วงทั้งในจีนและญี่ปุ่น และสำหรับชาวไทย การเลือกนักแสดงชาวจีนมารับบทเป็นกษัตริย์ที่เคารพนับถือมากที่สุดคนหนึ่งของประเทศอาจดูไม่อ่อนไหวเท่ากับการเลือกชาวตะวันตก

การตีความบทบาทของโจวเหวินฟะแตกต่างจากบรินเนอร์เล็กน้อย คือ อ่อนไหวกว่า เผด็จการน้อยกว่า และมั่นใจในตัวเองน้อยกว่า สิ่งหนึ่งที่อาจทำให้ชาวไทยไม่พอใจก็คือการพรรณนาถึงความสัมพันธ์ระหว่างแอนนาและกษัตริย์ สำหรับเคอร์และบรินเนอร์ ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ของพวกเขามีพื้นฐานมาจากมิตรภาพและความเคารพซึ่งกันและกัน แต่คำถามที่ว่าพวกเขาตกหลุมรักกันจริงหรือไม่นั้นไม่ได้รับคำตอบอย่างเงียบๆ สำหรับโจวและโจดี้ ฟอสเตอร์ ชัดเจนมากว่าพวกเขาตกหลุมรักกัน หรืออาจจะเรียกว่าเป็นคู่รักกันในแง่เพศก็ได้ และความถูกต้องทางประวัติศาสตร์ของเรื่องนี้ (อย่างน้อยที่สุด) ก็ยังน่าสงสัย

ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

The Apprentice (2024) ดิ แอพเพรนทิซ

The Legend of Nang Nak (2024) นางนาคพระโขนง

The Red Sea Diving Resort (2019) ปฏิบัติการแหวกทะเลแดง

Empire of Dreams The Story of the Star Wars Trilogy (2004)

Charlie Wilsons War (2007) ชาร์ลี วิลสัน คนกล้าแผนการณ์พลิกโลก