An Autumns Tale (1987) ดอกไม้กับนายกระจอก

An Autumns Tale (1987) ดอกไม้กับนายกระจอก

เรื่องย่อ

ดูหนัง An Autumns Tale (1987) ดอกไม้กับนายกระจอก ถ่ายทำในนิวยอร์ก เรื่องราวของหญิงสาวไร้เดียงสาจากฮ่องกงที่ไปนิวยอร์กเพื่อเรียนหนังสือ ลูกพี่ลูกน้องคนขับแท็กซี่ผู้ชาญฉลาดดูแลเธอในเมืองใหญ่

เจนนิเฟอร์ ลี เดินทางจากฮ่องกงไปยังนิวยอร์กซิตี้โดยมีแผนที่จะเรียนหนังสือกับวินเซนต์ แฟนหนุ่มของเธอ ซามูเอล ปัง เป็นญาติของเจนนิเฟอร์ที่เดินทางไปสนามบินกับเพื่อนสองคนคือคาวและบูลเพื่อรับเธอ ปังพาเจนนิเฟอร์ไปที่อพาร์ทเมนต์ของเธอ และบอกเจนนิเฟอร์ว่าเธออาจเหยียบพื้นได้หากต้องการอะไร เนื่องจากเขาอาศัยอยู่ชั้นล่าง

วันรุ่งขึ้น เจนนิเฟอร์ปลุกปังเพื่อให้เขาแสดงวิธีขึ้นรถไฟเพื่อไปพบวินเซนต์ ปังยืนกรานที่จะขับรถพาเธอไปที่สถานีรถไฟด้วยตัวเอง ขณะที่รอให้เจนนิเฟอร์เปลี่ยนเสื้อผ้า เขาก็พูดว่าผู้หญิงคือ “ชะโบ” ซึ่งแปลว่ามีปัญหา ปังล้อเลียนเจนนิเฟอร์ที่ไม่รู้ภาษาอังกฤษ

ที่สถานีรถไฟ เจนนิเฟอร์เห็นวินเซนต์อยู่กับผู้หญิงชื่อเพ็กกี้ เธอพยายามซ่อนตัวจากวินเซนต์แต่ถูกจับได้ก่อนที่เธอจะจากไป วินเซนต์ไม่คาดคิดว่าจะได้พบเจนนิเฟอร์ที่สถานีรถไฟ และรู้สึกว่าเจนนิเฟอร์เป็นคนไร้เดียงสาที่เดินทางไปนิวยอร์กซิตี้เพื่อส่งกล่องตุ๊กตาจากฮ่องกงให้เขา เจนนิเฟอร์โกรธมาก จึงเดินกลับไปที่รถแล้วโยนกล่องตุ๊กตาลงบนถนน รถของปังชนตุ๊กตาขณะที่พวกมันออกเดินทาง

ในคืนนั้น ปังรับสายโทรศัพท์จากวินเซนต์ เขาบอกให้เจนนิเฟอร์ไปพบเขาเพื่อรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารซิลเวอร์พาเลซในวันรุ่งขึ้น ปังทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารและได้ยินการสนทนาของพวกเขา เจนนิเฟอร์ตั้งใจจะไปเรียนที่นิวยอร์กเพื่ออยู่กับวินเซนต์ แต่เขาบอกให้เจนนิเฟอร์สำรวจเมืองและพบปะผู้คนใหม่ๆ แทนที่จะตามเขาไปทุกที่ เธอพบว่าเขาจะออกเดินทางไปบอสตันพรุ่งนี้

เจนนิเฟอร์ที่ซึมเศร้ากลับบ้านและชงชา ปังได้กลิ่นแก๊สจากชั้นบนและสืบหา เขาพบเจนนิเฟอร์ที่หมดสติ เขาพาเธอลงไปชั้นล่างและให้มีคนโทรเรียกรถดับเพลิง เมื่อเห็นว่าเจนนิเฟอร์หลงรักวินเซนต์ ปังจึงพาเธอออกไปเดินเล่น

ผู้กำกับ

Mabel Cheung

บริษัท ค่ายหนัง

D&B Films

นักแสดง

Chow Yun-fat
Cherie Chung
Danny Chan

โปสเตอร์หนัง

รีวิวหนัง

เก้ากระบี่เดียวดาย

“ดอกไม้กับนายกระจอก” An Autumn’s Tale วันที่สายคู่ควรกับเรือนนาฬิกา
“ดังยังไงก็ดังไม่สู้ จงฉู่หง เด่นยังไงก็เด่นไม่เท่าโจวเหวินฟะ” เป็นประโยคที่สื่อมวลชนยกย่อง ราชาและราชินีจอเงินในยุค 80s
จงฉู่หง มีชื่อเสียงในช่วงยุค80s เป็นอย่างมาก จนได้รับการยกย่อง เป็น “ราชินีจอเงิน ยุค 80” อีกทั้งยังได้รับการขนานนามว่าเป็น 1 ใน 4 นักแสดงหญิงแถวหน้าของวงการภาพยนตร์เอเชีย ร่วมกับ หลินชิงเสีย จางม่านอวี้ และ เหมยเยี่ยนฟาง
จงฉู่หงเริ่มเข้าวงการในปี 1979 ภายใต้การสนับสนุนของมารดา โดยเธอเข้าประกวดมิสฮ่องกง ซึ่งเธอจัดว่าเป็นผู้เข้าประกวดที่หน้าตาโดดเด่นเป็นที่จับตามองอย่างมากในปีนั้น ทว่าในท้ายที่สุดกลับไม่ได้ตำแหน่งนางงามติดไม้ติดมือจากการประกวดแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม จงฉู่หง ยังได้รับคำชื่นชมจากสื่อมวลชนว่าเป็นผู้สมัครนางงามฮ่องกงที่สวยที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์การประกวดเลยทีเดียว
ภายหลังพลาดหวังจากเวทีนางงาม จงฉู่หง มีโอกาสเทสต์หน้ากล้องกับทีวีบีทว่าไม่ผ่านการคัดเลือก แต่การตกรอบครั้งนั้นถือว่าเป็นโชคดี เพราะบุคลิกอ่อนหวานใสซื่อไม่ปรุงแต่งของเธอไปเข้าตา หลิวสงเหยิน นักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์ชาวฮ่องกงผู้รงอิทธิพลแห่งยุค จง ฉู่หง ถูกชักนำเข้าสู่โลกเซลลูลอยด์ ประเดิมบทนางเอกในภาพยนตร์เรื่อง กระบี่สะท้านฟ้า (The Enigmatic Case) ปี 1980 ซึ่งเป็นงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของผู้กำกับชื่อก้อง ตู้ฉีฟง จากนั้นความสามารถทางด้านการแสดงของนางเอกใหม่เริ่มเป็นที่ประจักษ์ในวงการ เมื่อ ปี 1982 จงฉู่หงแสดงนำคู่กับ โจวเหวินฟะ ในภาพยนตร์คุณภาพเรื่อง โหดเด็ดเดี่ยว (The Story Of Woo Viet) ของผู้กำกับหญิงมือรางวัล “แอน ฮุย”
ส่วนทางด้านโจวเหวินฟะ เกิดบนเกาะลัมมา นอกชายฝั่งของเกาะฮ่องกง ชีวิตวัยเด็กมีฐานะค่อนข้างยากจน แต่เขาก็โชคดีได้เรียนจนจบระดับวิทยาลัย ชีวิตของโจว เหวินฟะ ถึงจุดพลิกผันเมื่อได้เป็นนักแสดงสังกัดค่ายสถานีโทรทัศน์ทีวีบีฮ่องกง โจว เหวินฟะ ได้รับความนิยมสูงมากในช่วงยุคปลาย 70’s ถึง ต้นยุค 80’s ถูกยกย่องให้เป็น นักแสดงซีรีส์ยอดนิยม (Popular TV star) ของเกาะฮ่องกง เขามีละครซีรีส์ระดับตำนานหลายเรื่อง เช่น เทพบุตรชาวดิน และ เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้(1980) ที่ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายไปทั่วเอเชีย ส่งให้โจว เหวินฟะ กลายเป็น พระเอกซีรีส์ยอดนิยมแห่งเอเชีย (Popular TV star of Asia) นอกจากความโด่งดังเป็นพลุแตกจากซีรีส์ชุดนี้แล้ว บุคลิกของโจว เหวินฟะ ยังได้รับยกย่องให้เป็น ต้นแบบตัวละคร ในซีรีส์ และภาพยนตร์ประเภทเจ้าพ่อมาเฟียอีกด้วย
ในต้นยุค 80’s โจว เหวินฟะ แม้จะประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นกับการเป็นนักแสดงละครซีรีส์ (หรือจอแก้ว) แต่ผลงานภาพยนตร์ (หรือจอเงิน) ล้วนล้มเหลวโดยสิ้นเชิง จนได้รับฉายาว่า “ความหายนะแห่งจอเงิน” จนกระทั่งในปี 1986 ได้ร่วมงานกับ จอห์น วู ผู้กำกับหน้าใหม่ของวงการภาพยนตร์ ในหนังแอ๊คชั่นแนวสากลเรื่อง โหด เลว ดี หรือ A Better Tomorrow (1986) ตัวหนังประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลไปทั่วเอเชีย และดังไกลถึงระดับโลก เป็นปรากฏการณ์หนังแอ๊คชั่นสากล
จากความสำเร็จของโหด เลว ดี ทำให้มีการสร้างตามกระแสเป็นจำนวนมาก จนวงการภาพยนตร์โลก ยกย่องให้ภาพยนตร์เรื่อง โหด เลว ดี , จอห์น วู ในฐานะผู้กำกับ , โจวเหวินฟะ ในฐานะนักแสดง เป็น “สัญลักษณ์ หรือไอคอนของหนังแอ๊คชั่นสไตล์ฮ่องกง” ที่ทรงอิทธิพลต่อหนังแอ๊คชั่นทั่วโลก รวมทั้งวงการหนังฮอลลีวู้ด เป็นตำนานจนถึงทุกวันนี้ หลังจากนั้นภาพยนตร์ที่ โจว เหวินฟะ ร่วมงานกับ จอห์น วู ล้วนประสบความสำเร็จอย่างสูงในตลาดโลก เช่น โหดตัดโหด (The Killer 1989) ทะลักจุดแตก (Hard Boiled 1992) รวมทั้งหนังแอ๊คชั่นแนวยิงปืนเรื่องอื่น ๆ เช่น บอกโลกว่าข้าตายยาก (Full Contact 1992) ของผู้กำกับหลิน หลิ่มตง (Ringo Lam) ตัวโจว เหวินฟะ ยังได้รับยกย่องว่าเป็น “นักแสดงที่ถือปืนสองมือได้สง่างามที่สุดในโลกด้วย”
นอกจากความสำเร็จภาพยนตร์แนวแอ๊คชั่น โจวเหวินฟะ ยังแสดงภาพยนตร์แนวรักโรแมนติก และหนึ่งในหลายเรื่องนั้น ก็คือ หนังโรแมนติกที่ขึ้นชื่อว่าน่าประทับใจที่สุดในยุค 80s
An Autumn’s Tale (1987) มีชื่อไทยว่า “ดอกไม้กับนายกระจอก” เป็นหนังที่ โจว เหวิน ฟะ (Chow Yun Fat) เล่นคู่กับ จงฉู่หง (Cherie Chung) กำกับโดย มาเบล เช็ง(Mabel Cheung)
ดอกไม้และนายกระจอก เป็นหนังลำดับที่สองของไตรภาค “ชีวิตของคนอพยพ” ของมาเบล เช็ง ซึ่งประกอบไปด้วย Illegal Immigrant (1985), An Autumn’s Tale (1987) และ Eight Taels of Gold (1989) และติดอยู่อันดับ 100 ภาพยนตร์พูดภาษาจีนที่ดีที่สุดตลอดกาล ในลำดับที่ 55
An Autumn’s Tale เล่าถึงเจนนิเฟอร์ (จงฉู่หง) สาวสวยจากฮ่องกงที่เดินทางมานิวยอร์คเพื่อศึกษาการแสดงต่อ และหวังจะพบกับคนรัก วินเซนต์ (Danny Chan เฉินไป่เฉียง ) โดยเธอมาพักอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนต์เดียวกับลูกพี่ลูกน้อง สำปั้น ((โจวเหวินฟะ) ชื่อมาจากชื่อเรือสำปั้น Sampan เป็นตัวแทนของการอพยพย้ายถิ่นฐานของคนจีน) ที่เป็นญาติผู้พี่ห่างๆ
เจนนิเฟอร์ต้องการแอบเซอร์ไพร์ซ ไปดักรอพบกับ วินเซนต์ ก่อนจะเซอร์ไพร์ซกว่า คือเขามีผู้หญิงคนอื่นแล้ว เธอมอบตุ๊กตาที่เธอนำมาให้แก่เขาแล้วตัดความสัมพันธ์(ฉากการคืนตุ๊กตาผู้หญิงที่นำมาจากฮ่องกงเป็นสัญลักษณ์การคืนตัวตนของเด็กสาวที่เฝ้าหลงรักชายหนุ่มสู่การเปลี่ยนแปลงเป็นหญิงสาวและรักครั้งใหม่)
วันที่เธอไปปรับความเข้าใจกับคนรักเก่า(วินเซนต์) สำปั้นเองก็เด็กเสิร์ฟในร้านอาหารนั้น วินเซนต์พยายามยกเหตุผล และปรัชญา แต่สำปั้นพยายามพูดปกป้องเธอด้วยคำพูดของคนธรรมดา คืนนั้นด้วยความเสียใจเจนนิเฟอร์ทำแก๊สรั่ว และสำปั้นช่วยชีวิตเธอไว้
ทั้งคู่ใช้ชีวิตร่วมกันอยู่ในตึกที่ทั้งเก่า สกปรกและเสียงดัง เจนนิเฟอร์เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยมีสำปั้นเป็นกำลังใจให้แบบห่ามๆ เจนนิเฟอร์จัดห้องพักใหม่ สำปั้นมาช่วยเขาเอารูปสะพานที่เขาวาดให้เธอ ทั้งคู่เริ่มซึมซับในการอยู่ร่วมกัน สำปั้นเป็นคนห่ามๆไม่มีอนาคต เขาไม่เคยมีจุดมุ่งหมาย ใช้ชีวิตไปวันๆกับการทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟ เพื่อนฝูง และการพนัน
เจนนิเฟอร์กลับเป็นคนแบบตรงกันข้าม เธอมีความฝัน เธออยากมีชีวิตที่ดีขึ้น เธอจึงทำงานและเรียนไปด้วย สักพักเธอบอกทางบ้านที่ฮ่องกงว่า เธอสามารถดูแลตัวเองได้แล้ว เธอทำตุ๊กตาให้สำปั้นตัวนึง เป็นตุ๊กตาของสำปั้นเอง ซึ่งเป็นตุ๊กตาที่เป็นแบบที่ตัวสำปั้นจริงๆ(เป็นตัวแทนภาพความจริงของเธอ)
ความใกล้ชิดให้ชายหนุ่มหญิงสาวรู้สึกดีๆต่อกัน สำปั้นเล่าความฝันว่า เขาอยากเปิดร้านอาหารตรงปลายของท่าเรือ เจนนิเฟอร์รับฟังและให้กำลังใจเขา ความรักที่ก่อเกิด ทำให้สำปั้นอยากเป็นคนที่ดีขึ้น เขาเริ่มจดสิ่งที่เขาต้องเปลี่ยนแปลง เพื่อให้คู่ควรกับเธอไว้บนกระจก
แต่สุดท้ายด้วยความคลุมเครือไม่ชัดเจนของทั้งคู่ก็ทำให้เกิดความเข้าใจผิด และแยกจากกันไป

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Viva La Vida (2024) จะฝ่าไปให้ถึงตะวัน

The Naval Commandos (1977) 5 พญายมสิงห์นาวี

Rivals of Kung Fu (1974) สิงโตคำรณ

Rendezvous With Death (1980) ถล่มเจ้ากระบี่จอมสังหาร

Empress Wu (1963) พระนางบูเช็กเทียน