A Beautiful Mind (2001) ผู้ชายหลายมิติ

A Beautiful Mind (2001) ผู้ชายหลายมิติ

เรื่องย่อ A Beautiful Mind (2001) ผู้ชายหลายมิติ

 จอห์น แนช อัจฉริยะทางคณิตศาสตร์ได้ค้นพบสิ่งที่น่าอัศจรรย์ในช่วงต้นอาชีพของเขา และยืนอยู่บนขอบแห่งเสียงไชโยโห่ร้องระดับนานาชาติ แต่ในไม่ช้า แนชที่หล่อเหลาและเย่อหยิ่งก็พบว่าตัวเองอยู่ในการเดินทางที่แสนเจ็บปวดเพื่อค้นพบตัวเอง

ผู้กำกับ

• Ron Howard

บริษัท ค่ายหนัง

• Imagine Entertainment

นักแสดง

• Russell Crowe
• Jennifer Connelly
• Ed Harris
• Paul Bettany

โปสเตอร์หนัง

รีวิวหนัง

สมาชิกหมายเลข 1354712

[CR] A beautiful mind : พึ่งได้ดู แงงงง

A beautiful mind
เป็นหนังที่เล่าไปได้เรื่อยๆ แต่มีหลากหลายอารมณ์เกอดขึ้นในระหว่างสองชั่วโมงที่ดู

หาเรื่องนี้นานมากกกกก จนวันนี้ก็ได้ดู ฮืออออ จะบอกว่าคนแนะนำเรื่องนี้เยอะมาก ด้วยความที่เราชอบหนังแนวชีวประวัติอยู่แล้ว และจากที่เดาๆ เอาคิดว่าน่าจะมีความคล้ายกับ theory of everything

เราชอบ theory of everything มาก! แบบดูจบละแทบจะลุกขึ้นยืนตบมือ เลยคิดว่าเรื่องนี้มันต้องดีมากเช่นกัน…อาจเพราะหวังมากเกินไป หนังออกมาไม่ใช่แบบที่คิดเท่าไหร่

พาร์ทแรกเราง่วงนอนมาก555555 อาจเพราะเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ ง่วงแบบง่วงจริง จะหลับหนักมาก ทฤษฎีที่หนังพูดถึงทำให้เราเก็ตไม่ได้อ่ะ (อันนี้น่าจะเราโง่เอง55555) แต่คือความจริงมันไม่ได้น่าเบื่อขนาดนั้นนะ เพียงแต่มันไม่มีอะไรผ่างๆ ให้น่าติดตามต่ออะไรแบบนี้

พาร์ทกลางๆ เรื่อง ฟิลเริ่มมาละ รู้สึกดีมากที่ตัวเองยังดูต่อและไม่ปิดหนังไปนอน ชอบการเล่าเรื่องของหนังมาก มันทำให้เราสงสัยและสับสนไปกับจอห์น ว่าอันไหนกันแน่ที่เป็นเรื่องจริง อันไหนที่เป็นเรื่องหลอกกันแน่ คือมันดีมากอ่ะตรงนี้ ชอบตอนที่หนังเฉลยออกมา เป็นเราเราก็อึ้งแล้วก็ไม่เชื่อเหมือนกันนะถ้าไม่ได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง55555

พาร์ทจบ ตรงนี้มีดีตรงความรู้สึกของจอห์นและภรรยา คือเรารู้สึกอิน มันดูเป็นความรักที่แบบ…อิมพอสสิเบิลอ่ะ เรารู้สึกดีในความรู้สึกที่คนรักสองคนมีให้กัน แม้ว่าฝ่ายนึงจะไม่เพอร์เฟคอย่างที่อีกฝ่ายคิดไว้ แต่เธอก็ไม่หนีหายไปไหน พร้อมจะรักและดูแลกันไปตลอด มันดูเป็นรักแท้ชั่วนิรันดร์ดี สรุปคือชั้นว้อนเองแหละ รักแท้แบบนี้55555

ชอบตรงที่หนังค่อยๆ พาเราไปตั้งแต่พระเอกพึ่งเข้าเรียน จนเรียนจบ จนเข้าสู่วัยทำงาน เป็นผู้ใหญ่ เจอกับปัญหาในชีวิต วิธีแก้ปัญหา จนไปถึงวัยชรา ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อธิบายในแต่ละช่วงอย่างละเอียดยิบ แต่เราเห็นพัฒนาการของตัวละคร ทั้งตัวจอห์นและภรรยาของเค้า เราว่าตรงนี้ทำให้เราเข้าใจความรู้สึกของตัวละครได้มากขึ้น

เราชอบพระเอกมากกก แอคติ้งเลอค่าสุด สายตาที่เค้ามองแต่ละคนนี่คือแบบ เรารู้ว่าเค้าคิดอะไร เข้าใจความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจของเขา เข้าใจถึงความรักที่เค้ามอบให้ภรรยา เข้าใจถึงความสับสนมึนงงในชีวิต คือลูกตาคู่นั้นมันดีงามจริงๆ แสดงออกมาได้น่าเห็นใจมาก

สรุป หนังดีแหละ55555 คอหนังดราม่า ชีวประวัติ อะไรแบบนี้ควรหามาดูนะ แต่สำหรับเรา เราว่ามันเรียบไปหน่อย เราดูแล้วมันไม่ค่อยน่าติดตามให้ดูต่อ จะหลับ55555 แต่อารมณ์จัดเต็มจริงนะ มากันทุกฟิลเลย ทั้งเศร้า เสียใจ โรแมนซ์ ว่างๆ ก็หามาดูกันนะจ๊ะ

7/10
แค่นักวิจารณ์หนังกากๆ คนหนึ่ง

ทำเรื่องเล่นให้เป็นเรื่องใหญ่

A Beautiful Mind (2001)

A Beautiful Mind คือ หนังที่ได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตจริงของ จอห์น แนช นักเศรษฐศาสตร์อัจฉริยะเจ้าของรางวัลโนเบลผู้มีวิธีการมองโลกที่ไม่เหมือนใคร

แม้จะเป็นอัจฉริยะ แต่แนชก็ต้องพบกับอุปสรรคหลายอย่างโดยเฉพาะภาพหลอนในหัวที่เขาไม่สามารถแยกแยะมันจากความจริงได้ และคนที่อยู่เคียงข้างเขาในการต่อสู้กับความทุกข์ทรมานนี้ก็คือ อลิเชีย ภรรยาของเขา

#ข้อคิดจากหนัง

A Beautiful Mind คือหนังที่พูดถึงการต่อสู้กับความยากลำบากในชีวิต โดยสิ่งที่ยากยิ่งกว่าการแก้ปัญหาภายนอกก็คือการรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของเราเอง

จิตใจของมนุษย์เป็นสิ่งที่ซับซ้อน และมนุษย์เราต่างก็ต้องผ่านช่วงเวลาที่สับสนในชีวิตซึ่งต้องอาศัยระยะเวลาในการทำความเข้าใจตัวเอง และในช่วงเวลาแบบนี้ สิ่งที่จะช่วยเราได้ดีที่สุดก็คือความรักและความเข้าใจของคนใกล้ตัว

ฉันชอบดูหนัง

A Beautiful Mind (2001) ผู้ชายหลายมิติ

เป็นภาพยนตร์ดราม่า-ชีวประวัติ ที่สร้างจากเรื่องจริงของ จอห์น แนช นักคณิตศาสตร์ชาวอเมริกันที่เคยคว้ารางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ในปี 1994 แต่ชีวิตของเขากว่ามาถึงจุดนี้ได้ต้องผ่านอุปสรรคมากมาย ทั้งเรื่องปัญหาโรคประสาทหลอน ทั้งจิตใจที่หวาดระแวง จนทำให้ทั้งเพื่อนและภรรยาต้องช่วยกันดูแลให้เขาเอาชนะโรคร้ายนี้ไปให้ได้

A beautiful Mind เป็นภาพยนตร์ของผู้กำกับโดย รอน ฮาวเวิร์ด ที่ได้รวมเอานักแสดงมากมายมาร่วมงานอาทิเช่น รัสเซลล์ โครว์ ,เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี, เอด แฮร์ริส และ พอล เบตทานี ถือเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จทุกด้านจริงๆ เริ่มตั้งแต่คำวิจารณ์ที่ไปทางด้านบวก หรือแม้แต่รายได้ก็ไม่ธรรมดา ลงทุนไป 58 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ทำรายได้ทั่วโลกสูงถึง 313 ล้านเหรียญสหรัฐ และความสำเร็จอันยิ่งใหญ่คงเป็นการที่หนังสามารถเข้าชิงออสก้าได้ถึง 8 สาขา และสามารถคว้ามาได้ถึง 4 รางวัล รวมถึงรางวัลใหญ่สุดอย่างภาพยนตร์ยอดเยี่ยมก็ไม่พลาด ส่วนอีก 3 รางวัลคือ บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม , ผู้กำกับยอดเยี่ยม และนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม

เป็นหนังที่จะทำให้เราเห็นว่ากว่าคนๆนึงจะประสบความสำเร็จขนาดนี้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง ทั้งโรคร้าย ทั้งอาการต่างๆ คนที่เราต้องชื่นชมเป็นอันดับแรกเลยก็คือตัวภรรยาของ จอห์น แนช เขายอมทนดูแลแนชตลอดไหนจะลูกอีก บางทีก็สงสารนางมากที่ต้องมาทนอะไรแบบนี้ ขนาดตอนนางมีอารมณ์แนชยังให้เขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ (เพราะเป็นผลข้างเคียงของยาโรคประสาท) แถมมีฉากนึงตอนท้ายเรื่องที่นางเองทำเอาผมเกือบร้องไห้ นี่สินะความรักแท้จริง !!

บอกก่อนเลยว่าหนังมีหักมุมเเบบเดายากมาก ไม่คิดด้วยซ้ำว่าตอนแรกมันจะมาแนวนี้ ถือว่าเซอร์ไพรสุดๆ หันมาดูทางด้านการแสดง ทั้งรัสเซลล์ โครว์และเจนนิเฟอร์ คอนเนล พระเอกและนางเอกของเรื่องได้เข้าชิงออสก้าสาขานักแสดงไปทั้ง 2 คนเลย แค่นี้ก็การันตีคุณภาพแล้ว ส่วนอีกคนก็แสดงดีไม่แพ้กัน เจ้าพ่อแห่งนักแสดงวายร้าย เอด แฮร์ริส คนนี้สุดจริง และสุดท้ายคือเพื่อนรักเพื่อนตายของพระเอก พอล เบตทานี หรือเราอาจจะคุ้นหน้าเขาในบทวิชั่น เรื่องนี้ก็แสดงค่อนข้างยอดเยี่ยม ถือเป็นภาพยนตร์ที่รวมนักแสดงระดับคุณภาพไว้ด้วยกัน

ด้านบทภาพยนตร์ถือว่าดีจริง ไม่แปลกใจทำไมถึงชนะรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม มีการเล่าเรื่องที่หลายอารมณ์ ช่วงแรกเหมือนหนังสืบสวน สักพักโรแมนติกจนฟิน ช่วงท้ายนี่ดราม่าเต็มๆ แต่มันก็ไม่ได้ดูยากมาก เรียกว่าดูง่ายมากสำหรับหนังรางวัล หลายคนอาจจะเคยคิดว่าหนังรางวัลต้องดูยาก ต้องตีความอย่างนั้นอย่างนี้ แต่รับรองเรื่องนี้ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดแน่นอน ด้านงานภาพเหมือนมันดึงดูดเรากลับไปในยุคก่อนๆ ทั้งบรรยากาศและเสียงดนตรีมันทำให้ผมยิ่งชอบเรื่องนี้เข้าไปใหญ่

“การที่เราจะชนะเอาชนะอะไรสักอย่าง เราต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้เสียก่อน”

ปล.แถมเรื่องจริงให้นิดหน่อย ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2015 แนชและภรรยา อลิเซีย แนช ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิต ขณะทั้งคู่โดยสารรถแท็กซี

9/10 คะแนน

ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

The Theory of Everything (2014) ทฤษฎีรักนิรันดร

The Midnight Sky (2020) สัญญาณสงัด

The Imitation Game (2014) ดิ อิมมิเทชั่น เกม ถอดรหัสลับ อัจฉริยะพลิกโลก

Radioactive (2019) รังสีเรเดียม

The Man Who Knew Infinity (2015) อัจฉริยะโลกไม่รัก