ดูหนังออนไลน์ เต็มเรื่อง หนังใหม่อัพเดททุกวัน ฟรี HD ชัด

ดูหนังออนไลน์ moviehd24 หนังใหม่HD ดูหนังเต็มเรื่อง2024 ซีรี่ย์ออนไลน์ ดูซีรี่ย์ฟรี

google search

X-Men 7 Days of Future Past (2014) X-เม็น : สงครามวันพิฆาตกู้อนาคต

ปีที่ฉาย : 2014
เสียง : พากย์ไทย
Episode : -
imdb 8
ความคมชัด : HD
X-Men 7 Days of Future Past (2014) X-เม็น : สงครามวันพิฆาตกู้อนาคต

ดูหนังออนไลน์ X-Men 7 Days of Future Past (2014) X-เม็น : สงครามวันพิฆาตกู้อนาคต

เรื่องย่อ : X-Men 7 Days of Future Past (2014) X-เม็น : สงครามวันพิฆาตกู้อนาคต ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ ดูหนังHD ดูหนังฟรี MovieHD24 หนัง2024 หนังออนไลน์ Full HD

online X-Men 7 Days of Future Past (2014)  X-เม็น : สงครามวันพิฆาตกู้อนาคต

เรื่องย่อ X-Men 7 Days of Future Past (2014)

เรื่องราวของโลกปัจจุบันที่มนุษย์กลายพันธุ์คือความหวาดกลัวของมนุษย์ธรรม ทำให้ถูกตามล่าและจับกุม โดยกองกำลังหุ่นยนต์ยักษ์เซ็นติเนลของ โบลิวาร์ ทราสก์ (Trask Industries) ทำให้ความอยู่รอดของเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์คือการส่งวูล์ฟเวอรีนย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ในอนาคต! ด้วยความสามารถของโปรเฟสเซอร์ X และได้รับความร่วมมือกับคู่ปรับตลอดกาล แม็กนีโต

ผู้กำกับ

  • ไบรอัน ซิงเกอร์

บริษัท ค่ายหนัง

นักแสดง

  • ฮิวจ์ แจ็คแมน
  • เจมส์ แม็คอวอย
  • มิชชาเอล ฟาสเบ็นเดอร์
  • เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์
  • นิโคลัส เฮาลท์
  • ฮาลล์ เบอร์รี่
  • ชอว์น แอชมอร์
  • เอลเลน เพจ
  • แอนนา แพควิน
  • อดาน คานโต
  • แดเนียล คัดมอร์
  • ปีเตอร์ ดิงเคลจ
  • ฟาน บิงบิง
  • จอช เฮลแมน
  • อีแวน ปีเตอรส์
  • บูบู สจ๊วต
  • โอมาร์ ซาย
  • เอียน แมคเคลเลน
  • แพทริก สจ๊วต

โปสเตอร์หนัง X-Men 7 Days of Future Past (2014) X-เม็น : สงครามวันพิฆาตกู้อนาคต

X-เม็น สงครามวันพิฆาตกู้อนาคต - วิกิพีเดีย

X-Men: Days of Future Past (2014) - IMDb

X-Men: Days of Future Past - ภาพยนตร์ใน Google Play

รีวิว X-Men 7 Days of Future Past (2014) X-เม็น : สงครามวันพิฆาตกู้อนาคต

thepriceofpayne

9/10
X-Men: The BEST ONE

การผสมผสานนักแสดงชุดเดิมและลูกเรือชั้นหนึ่งชุดใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะเดียวกันก็เล่าเรื่องราวจากหนังสือการ์ตูนคลาสสิกและถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้อย่างยุติธรรม “X-Men: Days of Future Past” นำเสนอทุกสิ่งที่เราชื่นชอบเกี่ยวกับแฟรนไชส์นี้และอีกมากมาย พร้อมด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยมรอบด้านและบทสรุป/จุดเริ่มต้นที่ผสมผสานกันอย่างงดงามซึ่งสร้างบรรยากาศให้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

beobnoxious

9/10
นี่คือสิ่งที่ภาพยนตร์เป็นเกี่ยวกับ

ในความคิดของฉัน Days of future Past ครองตำแหน่งภาพยนตร์ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งตลอดกาล ฉันพูดแบบนี้ทันทีหลังจากดูภาพยนตร์เรื่องนี้ ฉันพูดแบบนี้ตอนนี้หลายปีต่อมา 8.0 และไต่อันดับขึ้นไป

นี่เป็นการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ที่คุณจะต้องลุ้นระทึก เรื่องราวที่เล่าออกมาเป็นผลงานชิ้นเอกที่สมบูรณ์แบบ ไปดูเลย
53 จาก 57 คนพบว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ รีวิวนี้มีประโยชน์หรือไม่ ลงชื่อเข้าใช้เพื่อโหวต

gogoschka-1

การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างดราม่าที่เน้นตัวละครและฉากที่สนุกสนานจนลุ้นจนนั่งไม่ติดเก้าอี้!

ต้องยอมรับว่าตัวอย่างหนังไม่ได้ทำให้ฉันเชื่อเลย และหลังจากที่ได้ลิ้มรสชาติอันขมขื่นของ ‘แจ็คผู้ฆ่ายักษ์’ เข้าปาก ฉันก็รู้สึกคลางแคลงใจ ฉันชอบแนวทางของ Matthew Vaughn ในเรื่อง ‘First Class’ มาก (ซึ่งมีงานยากในการรีบูตแฟรนไชส์หลังจาก ‘Last Stand’ ที่น่าเบื่อและ ‘X-Men Origins: Wolverine’ ที่ซ้ำซากจำเจและน่าเบื่อ) และฉันก็ไม่รังเกียจเลยหากเขาจะกลับมา แต่ปรากฏว่า Bryan Singer (ใช่ ฉันกล้าพูดชื่อเขา) ยังมีกลเม็ดบางอย่างซ่อนอยู่ในมือ สำหรับขนาดและการเล่าเรื่องที่ยิ่งใหญ่เพียงอย่างเดียว ‘Days of Future Past’ ก็ยอดเยี่ยมมาก
น่าเสียดายที่มีการโต้เถียงกันมากมายเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ฉันคิดว่าใครก็ตามที่เลือกที่จะกีดกันตัวเองจากความสุขดังกล่าวโดยสมัครใจจะต้องตระหนักอย่างเต็มที่ว่าเขากำลังทำสิ่งนั้นด้วยค่าใช้จ่ายของตัวเอง เพราะนี่เป็นภาพยนตร์ประเภทที่ทำให้ฉันตกหลุมรักภาพยนตร์ตั้งแต่แรก

แต่ถึงอย่างนั้น (แม้ว่าฉันจะให้คะแนน 10 ดาว) ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังไม่สมบูรณ์แบบ และไม่ใช่ ‘The Usual Suspects’ ที่มีมนุษย์กลายพันธุ์ – เป็นไปได้อย่างไร นี่ไม่ใช่ภาพยนตร์ประเภทนั้น แต่ฉันต้องบอกว่าสิ่งเดียวที่ฉันไม่พอใจเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้คือมีตัวละครมากเกินไปและบางตัวก็ไม่ค่อยมีเวลาออกจอ (หรือจริงๆ แล้วไม่มีตัวละครมากเกินไป: มีนักแสดงที่ยอดเยี่ยมมากเกินไปที่เล่นเป็นตัวละครเหล่านั้น – แต่ถึงอย่างนั้น นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของความสนุก) ในบรรดาภาพยนตร์ X-men ทั้งหมด เรื่องนี้มีโครงเรื่องที่ซับซ้อนที่สุด – และยังน่าสนใจที่สุดอีกด้วย การแบ่งไทม์ไลน์นั้นทำได้ยากและอาจติดตามได้ยาก แต่ด้วยบทภาพยนตร์ที่ (ฉลาดมาก!) ที่มีบทบาทที่ยอดเยี่ยมของโลแกน เราจึงไม่พลาด และนั่นคือข่าวดีที่สุด: แฟรนไชส์นี้ได้ฮิวจ์ แจ็คแมนกลับมาในภาคที่แล้ว (ยกเว้นการปรากฏตัวแบบรับเชิญที่ตลกขบขัน) และอย่างน้อยเราก็ได้เห็นเขาหลายเรื่อง เพราะเขาพาเราผ่านภาพยนตร์เรื่องนี้จริงๆ (แสดงได้ดีที่สุดในฐานะวูล์ฟเวอรีน) ถ้าโลแกนสามารถเรียกได้ว่าเป็นหัวใจของ X-men ชาร์ลส์ เซเวียร์ก็ต้องเป็นสมอง ส่วนแม็กนีโตและมิสทีกก็ทำหน้าที่จิตวิญญาณที่บิดเบี้ยวเล็กน้อย และการได้เห็นพวกเขาทั้งหมดมารวมกันอีกครั้งทำให้ฉันยิ้มกว้างและโง่เขลา (ซึ่งยิ้มกว้างขึ้นทุกครั้งที่ควิกซิลเวอร์ปรากฏตัวบนหน้าจอ ซึ่งคุณจะต้องหาเหตุผลเอาเอง)

สิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์ X-men แตกต่างจากภาพยนตร์ดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูนที่ลอกเลียนแบบมากขึ้น – อย่างน้อยก็เท่าที่ฉันรู้ – ก็คือฉันใส่ใจตัวละครจริงๆ และ ‘Days of Future Past’ ก็ไม่มีข้อยกเว้น ฉันชอบหนังแอ็คชั่นที่เสียงดังและน่าตื่นเต้นไม่แพ้คนอื่นๆ แต่ถ้าฉันไม่สนใจตัวเอกล่ะก็ ประเด็นคืออะไร? เหตุผลที่ฉันให้ 10 ดาวกับหนังเรื่องนี้ ซึ่งนับว่ายอดเยี่ยมมากในปัจจุบัน ก็คือ หนังแฟนตาซี/ไซไฟที่มีความซับซ้อนและชาญฉลาดที่เน้นไปที่ต้นกำเนิดของมันพอๆ กับที่ให้ความสำคัญกับอนาคต โดยไม่ลืมเลยว่าหน้าที่หลักของหนังคือการสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชม สำหรับการค้นหาความสมดุลที่สมบูรณ์แบบและหายากระหว่างเรื่องราวดราม่าของมนุษย์ที่เน้นไปที่ตัวละครและฉากแอ็คชั่นสุดมันส์ Days of Future Past จึงสมควรได้รับคะแนน 10 ดาวจากฉัน (ซึ่งเป็นครั้งแรกสำหรับฉัน ฉันไม่เคยให้คะแนนหนังการ์ตูน 10 ดาวเลย)

ดังนั้นคำตัดสินของฉันก็คือ ถ้าคุณอยากตื่นตาตื่นใจไปกับหนังที่จริงใจและเต็มไปด้วยจิตวิญญาณ หนังที่ “กลายพันธุ์” เรื่องนี้เหมาะกับคุณ และสิ่งที่คุณต้องทำคือยอมรับความระทึกขวัญแบบ X-citement เพลิดเพลินไปกับหนังเรื่องนี้

สมาชิกหมายเลข 823915

[CR] [Review] X-Men Days of The Future Past สงครามวันพิฆาตกู้อนาคต

สวัสดีครับ! ผม เอิ๊บ นะคร้าบบบ กลับมาพบกันอีกครั้งกับการ Review ภาพยนตร์ครั้งที่ 2 ของผมบน Pantip! ถ้ารีวิวผิดพลาดตรงไหนยังไง ติ/ชม ได้นะคร้าบบ ^^

**ไม่มีการสปอยเนื้อหาสำคัญ อ่านได้ตามสบายครับ ยิ้ม

กลับมาอีกครั้งกับภาพยนตร์ฮีโร่มนุษย์กลายพันธุ์ X-men กับการกลับมาขึ้นแท่นกำกับของผู้ให้กำเนิด X-men I,X-men II อย่าง Bryan Singer
ขอบอกเลยว่า “ผิดหวังเล็กน้อย” ผิดหวังตรงไหน? ภาคนี้เน้นเนื้อเรื่องที่เข้มข้นมากกว่าฉากแอคชั่นบู๊ระหํ่าสไตล์ X-men อย่างที่ภาคก่อนๆมี
(เอาเป็นว่าภาคก่อนๆผมว่ามันมีเยอะกว่านี้) ในภาคนี้จะเป็นยุคมืดของ ชาว X(มนุษย์กลายพันธุ์) เพราะหุ่นยนต์สังหาร Sentinel ได้ออกตามล่าและสังหารมนุษย์กลายพันธุ์ไปทุกที่รวมถึงจับกุมผู้ที่คิดช่วยเหลือพวกมนุษย์กลายพันธุ์ไม่ว่าคุณจะเป็น มนุษย์ หรือ มนุษย์กลายพันธุ์ ก็โดนครับผม พวกของ Prof.X ก็ต้องแก้ไขสิครับ โดยการย้อนเวลากลับไปและหยุดไม่ให้โครงการ Sentinel ถือกำเนิดขึ้นมาได้ เนื้อเรื่องคร่าวๆก็ประมาณนี้ โดยในภาคนี้ผมบอกเลยว่าใครที่ยังดู X-men First Class ไม่เต็มอิ่มภาคนี้คุณจะได้รับประสบการณ์ตลอด 2 ชม. อยู่กับทีมนักแสดงของ X-men First Class เต็มๆ ทั้ง
James Macavoy(Prof.X) Michael Fassbender(Magneto) Jennifer Lawrence(Mistique) ฯลฯ รวมถึงนักแสดงจาก X-men I/II/III ก็มากันเพียบครับผม ในเรื่องของ ภาพ/เสียง ไม่ขอพูดถึงละกันเพราะมันดีสมกับยุคปัจจุบันอยู่แล้ว และสำหรับใครที่หวังจะหาฉากแอคชั่นมันส์ๆ อย่างที่บอกไปข้างต้นกระทู้ครับ ฉากแอคชั่นในเรื่องนี้เป็นแค่ “ของกินเล่น” เพราะจานหลักคือ “ดราม่าที่เข้มข้นของ ชาล์ส กับ อีริค ที่ต้องกลับมาร่วมมือกันอีกครั้ง” ต่างหาก สุดท้าย ในภาคนี้มีมนุษย์กลายพันธุ์มากมายหลายคนมากทั้ง โคลอสซัส/บลิ้งค์(สวยมาก)/ชาโดว์ แคท(น่ารักมว๊าก)/ซันสปอต/บิชอป/สตอร์ม/ไอซ์ แมน และคนอื่นๆอีกมากมายครับ เต็มอิ่มกันไปเลย

สรุป เป็นภาคต่อของภาพยนตร์ X-men ที่ผิดคาดจากที่ผมคิดไว้ปานกลาง เพราะ ผมนึกว่าจะได้เจอการต่อสู้อันเมามันส์ของพวก พระเอก ในยุค 70 การถล่มกันระหว่าง X-men กับ Sentinel มากกว่านี้ซะอีก ผมให้

7.5/10 ครับ

ปล.สุดท้ายนี้ฝากบอกนิดนึงว่า “อย่าลืมดู End Credit กันนะครับ มันอยู่หลัง Credit อันหลักนะครับไม่ใช่อันสั้นรอนานหน่อยแต่คุ้มค่าที่จะรอดูครับ”

เจอกันเรื่องหน้า

สวัสดีครับ

สมุดคัดไทย

[CR] [Review] X-Men: Days of Future Past … เรามาเริ่มกันใหม่นะ (Spoil)

X-Men: Days of Future Past : เอ็กซ์-เม็น สงครามวันพิฆาตกู้อนาคต

จากมุมมองของ
– แฟนหนังมาร์เวล
– แฟนเอกซ์เมนของไบรอัน ซิงเกอร์
– แฟนเกิร์ลพี่ฮิวจ์ แจ็คเมน
– ดูภาพยนตร์เอกซ์เมนครบทุกภาค (X-Men / X2 / Last Stand / Origin: Wolverine / First Class / The Wolverine)

เอ่อ…อันนี้จริงๆ ไม่ค่อยอยากบอก แต่ทำคุณผู้ชายที่หลงเข้ามาอ่านรีวิวช็อกไปหลายทีแล้ว บอกก็ได้ค่ะ
จขกท.เป็นสาววายนะคะ แต่คิดว่ารีวิวอันนี้ไม่ได้เขียนวายนะ จริง! ฮ่า… /ก้มกราบขออภัยล่วงหน้า

เมื่อไหร่ / ที่ไหน / เท่าไร
– โรงภาพยนตร์ลิโด้ 1 รอบ 12.00 วันที่ 23/05/2014
– 100 บาท

หลังดูจบ
– สนุกดี ไม่ปังเท่าไร แต่สนุก
– งานรวมรุ่น รำลึกอดีต ย้อนความ
– นั่งดูพี่ฮิวจ์เต่งตึงอยู่นานเกือบทั้งเรื่อง (ไม่นับตอนแรก) พอพี่แกย้อนเวลากลับมา เอ้อ…สตันท์ไปแป้บ บางทีก็ลืมค่ะว่าพี่เหี่ยวและโรยรามาก
– ตูดพี่ฮิวจ์แน่นมากอ่ะคู๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน ตูดแน่น สวยมาก จริงๆ เรคคอมเมนด์ #มันใช่เหรอ
– พี่ฟาสเบนเดอร์หล่อล้ำปะล่ำปะเหลือมากค่ะ ฮึกๆ ;___;
– ฟ่านปิงปิงเลอค่ามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

เรื่องราวของภาคนี้มันเกี่ยวกับว่าในอนาคต X-Men และเหล่ามวลมนุษยชาติกำลังถูกคุกคามจากเซนติเนล
สิ่งมีชีวิต อุปกรณ์ เครื่องจักร หรืออะไรก็ตามที่ถูกสร้างและพัฒนาขึ้นเพื่อฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เหล่ามิวแทนท์
และมนุษย์ที่มีแนวโน้มว่าจะให้กำเนิดมนุษย์กลายพันธุ์ในอนาคต
เป็นเหตุให้มนุษย์กลายพันธุ์ทั้งอย่าง Professor X และแมกนีโตจับมือร่วมกัน เพื่อจะหาทางยับยั้งสงครามในครั้งนี้ที่พวกเขาแทบจะไม่มีทางรอด

สิ่งที่พวกเขาจะลองเสี่ยง…คือการย้อนเวลากลับไปแก้ไขสิ่งที่ทำให้เรื่องทั้งหมดมันมาไกลได้ขนาดนี้ตั้งแต่ยุค 70 โน่น

สำหรับเรามันเหมือนกับสภาพของหนังชุด X-Men ที่เดินทางมาตั้งแต่ปี 2000 จนถึงตอนนี้ 14 ปี
พวกเรามากันไกลเหลือเกิน…ถ้าหาไปไกลไปกว่านี้ โดยไม่ทำอะไรสักอย่าง มันก็คงจะพังน่าดู

แต่จริงๆ ก็ดูเหมือนว่าฟอกซ์เองก็พอจะรู้ตัวอยู่นะ ไม่อย่างนั้น First Class ก็คงไม่เกิดขึ้นมาหรอก
ก็ถ้าเรื่องมันเละเทะออกทะเลไปขนาดนั้นแล้ว ก็เริ่มใหม่เลยดิ! แถมยังทำออกมาได้ดีมาก…ทีเดียวเชียวล่ะ
แต่มันก็อุตส่าห์เป๋ไปอี๊ก! กับ The Wolverine ที่ขนาดเราเป็นแฟนเกิร์ลพี่ฮิวจ์ ตีตั๋วไปดูสองรอบยังทำหน้ากระอั่กกระอ่วนตอนดูเลยอ่ะ 555
คือมันก็สนุกดีนะ แต่มันเบา…แบบเบ๊า เบา ก็เข้าใจแหล่ะ ภาคสปินนี่ แต่เราว่าตอนออริจินก็ยังไม่ได้ทำให้อึ้งๆ ไปเท่านี้

สำหรับเราภาคนี้มันก็เลยเหมือนการรวบทุกภาคเข้าด้วยกัน ว่าทำไมแต่ละเรื่องมันถึงได้กระจัดกระจายและขัดแข้งขัดขากันซะขนาดนี้
จะว่าไปมันก็เหมือนคอมมิคล่ะนะ 555

X-Men เป็นคอมมิคที่เล่นได้เยอะมาก เพราะแทนที่จะมานั่งนึกเรื่องและปูมหลังให้ตัวละครเอกสักตัว ไอเดียมันเยอะนักก็ปั่นรวมกันเลยดิ
แต่ด้วยความที่ตัวละครมันเยอะมากกกกกกกกกกกก ก.ไก่ล้านตัว เรื่องมันจะเป๋ไปเรื่อย และขัดแย้งกันตลอดก็ไม่แปลก
วิธีแก้ปัญหาจากในคอมมิค ก็มาเป็นพอยท์ของภาคนี้แหล่ะ เราจะไปแก้ไขอดีตกัน

จริงๆ ก็คิดอยู่เหมือนกันว่านี่มันโคตรขัดกับเหตุผลทั้งปวงที่เคยดู เคยอ่านมาตลอดชีวิตว่า
คุณจะทำอะไร คุณต้องคิดให้มากที่สุด ให้ดีที่สุด เพราะเวลามันย้อนไม่ได้ มันแก้ไขไม่ได้ และต่อให้แก้ไขได้ มันก็จะต้องมีใครสักคนตะโกนขึ้นมาอีกว่า
เวลาเป็นสิ่งที่ไม่ควรไปยุ่งกับมากที่สุด ไม่อย่างนั้นมันจะบิดเบี้ยว
แต่ก็นั่นล่ะ สิ่งที่ทำให้เกิดความวินาศสันตะโรอย่างในตอนต้นของเรื่องที่ทำให้เหล่ามิวแทนท์และมนุษย์ต้องถึงกาลอวสาน
ก็เพราะว่า “การกระทำ” ของราเวน หรือ มิสทีค ที่โกรธและต้องการจะแก้แค้นให้กับเพื่อนของเธอ

มันก็เหมือนหนังทุกเรื่อง ถ้าหากตอนนั้นฉันรู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ ฉันก็จะไม่ทำ…

แต่กับภาคนี้มันไม่ง่ายแบบนั้นสิ มิสทีครู้แล้ว แล้วไง ฮูแคร์
ไหนจะเอริคกับชาร์ลส์อีก นี่ก็ดื้อฉิบ 55555
ไม่แปลกใจเลยที่ Professor X และแมกนีโตในอนาคตจะรู้สึกกังวลแทนวูล์ฟเวอรีน
ว่าพวกเขาไม่ได้ผ่านช่วงเวลามามากจนมองโลกอีกแบบ ทั้งใจร้อน หุนหัน น่ารำคาญ และประสาทแ-ก
แถมพี่วูล์ฟเอง แม้จะผ่านช่วงเวลามาเยอะแยะมากมาย แต่พี่แกก็ไม่ได้…เป็นคนใจเย็นเล้ย
ดูได้จากทุกภาคนั่นล่ะ แม้แต่ภาค First Class ที่โผล่มานิดๆ ให้พอได้ติ่งอย่างดิฉันได้จิกแขนคนข้างๆ ก็แบบ อั๊ย…คงคอนเซปท์มากค่ะพี่ขา
ฉันรักผู้ชายขนดก สูบซิการ์จัด และพ่นคำว่า Fu*k Off ออกมาได้ง่ายๆ อย่างพี่ละเกิล 5555

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาก่อนการลงทุน
แต่ถ้าพวกเขาไม่มีอะไรจะต้องเสียไปมากกว่านี้แล้ว เสี่ยงก็รอด ไม่เสี่ยงก็ตาย แล้วทำไมจะไม่ลองเสี่ยงถ้ามีทางรอดล่ะ?

ความพยายามในการจะเปลี่ยนแปลงไม่ให้โครงการเซนติเนลเกิดขึ้นของพี่วูล์ฟ ทั้งสะดุด ทั้งหน้าคะมำจนแทบจะล้มคว่ำเทกระดาน
ทำให้ใจตุ๊มๆ ต่อมๆ ไปทั้งเรื่อง ทั้งเหตุการณ์ในตอนยุค 70 และแม้แต่ช่วงใกล้ๆ จะจบอย่างที่เซนติเนลหาพวก Professor X ที่มาซ่อนตัวเจอก็ด้วย
อดีตก็วัดใจกับราเวนเสียเหลือเกิน กับเหตุการณ์ในอนาคตก็ลุ้นจนเหยี่ยวเหนียวว่านี่เมิงจะตายก่อนแก้ปัญหาได้ม้ายยยยย???

แต่แหงล่ะ…นี่หนังตลาดนะ ถึงมันจะพลิกล็อกก็ไม่ถึงกับคอหักมากหรอก ทุกคนก็รู้กันอยู่ละว่าไงๆ ก็รอด
ก็แค่ลุ้นตามพอเป็นกระสัยไง 555

สำหรับเราที่เป็นแฟนหนังชุดนี้ ก็บอกตามตรงว่ามันก็คงไบแอสอยู่แล้วแหล่ะ 555
แต่มันก็สนุกดีนะ ไม่ได้น่าเกลียดมาก แต่สิ่งที่ขาดหายไปสำหรับหนังชุดนี้ก็คือฉากแอคชั่นเจ๋งๆ
แม้จะมีให้ได้วาดลวดลายแบบประชิดตัวนิดหน่อยสำหรับวูล์ฟเวอรีนและราเวน
แต่แบบระเบิดภูเขา เผากระท่อม แลกหมัดกัน ตูมตาม โบ้มๆ มันไม่ค่อยจะมี
ซึ่งเราเข้าใจได้ว่าพอยท์ของภาคนี้มันคือการปรับความเข้าใจระหว่าง ราเวน ชาร์ลส์และอีริค
สัดส่วนฉากแอคชั่นมันจึงน้อยลงไป เพื่อให้พื้นที่กับความดราม่า

แต่ที่ประทับใจมาก แน่นอนว่าเป็นในส่วนของ Quick Silver พี่แกได้โชว์เต็มๆ เลย แม้จะมีส่วนไม่มากนัก แต่ฉากปล่อยของจัดเต็มมาก
ทั้งน่ารักมาก ยียวนมาก และขโมยซีนเต็มๆ ประทับใจจริงๆ ในส่วนนั้น

ส่วนฉากเปิดที่บู้กับเซนติเนลก็ไม่เลว รวมถึงฉากที่เซนติเนลบุกประชิดตัวกันแล้วด้วย
แต่ละคนก็ได้โชว์ของว่าทำอะไรได้นิดๆ หน่อยๆ แต่มันก็ยังไม่อิ่มเท่าไรล่ะนะ 555

โดยรวมแล้วสำหรับเรา ภาคนี้ถือว่าเป็นแค่จุดเชื่อม เพื่อจะเดินหน้าต่อไปในอนาคต
เพราะฉะนั้นถ้ามันจะดูไม่ค่อยสุดเท่าไรในส่วนของความบู๊ การตอบโจทย์ข้อสงสัยต่างๆ และความอิ่ม

แต่ในส่วนของความประทับใจในการกลับมาของบรรดา X-Men 1-3 เราบวกให้เยอะมาก
ด้วยรักและคิดถึงทุกๆ คนจริงๆ อ่ะ 555

ถึงเราจะชอบ First Class มากๆ จะเรียกว่าชอบมากที่สุดในบรรดาทุกภาคที่มีมาเลยก็ได้
แต่เราก็ยังคิดถึงบรรยากาศแบบ X-Men และ X-2 อยู่ดี (Last Stand ก็หยวนๆ เพราะไม่ปลื้มเจ๊จีน 555)
เพราะฉะนั้นการกลับมาของทุกๆ คนที่เราคิดถึง มันทำให้เรารู้สึกดีกับภาคนี้ และแทบจะกลบความเฉยชาในส่วนอื่นๆ ของหนังไปเลย

แม้จะไม่ชอบยัยจีนเท่าไร แต่การเห็นเธอกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เช่นเดียวกับสก๊อต ซัมเมอร์อปปร้า ก็ทำให้ดิฉันรู้สึกปริ่มเวอร์จริงๆ
(ถึงแม้ดิฉันจะไม่แฮปปี้เลยก็ตามที่ยัยจีนรอดมาพร้อมๆ กับสก็อตอปปร้า ทำให้พี่วูล์ฟของฉันอกหักซ้ำซาก และเอาสก็อตอปปร้าของพี่วูล์ฟไป เชอะ)
รวมทั้งโร้ค บ็อบบี้ คิตตี้ สตอร์ม และทุกๆ คนที่กลับมาในภาคนี้และน่าจะเป็นในภาคต่อๆ ไป

ถ้าจะไปดู
– ควรจะดูหนังเอกซ์เมนมาให้ครบทุกภาคก็ดีนะคะ มันจะได้ไม่งงมาก เพราะเราดูครบทุกภาค ภาคละหลายรอบยังแบบลืมๆ งงๆ เลย 55
– อย่าลืมรอฉากแถมหลัง End Credit อันที่สองจ้า ^^

บ่น
– ฟานปิงปิงงามหยาดเยิ้มมาก แต่ฉันเสียดายของลื๊ม…ออกมาได้พูดสองประโยค แค่ Time’s up กับ Run …
– ทีแรกตั้งใจจะไปดูตั้งแต่วันแรกที่เข้าโรง แต่…นั่นล่ะค่ะ 55 มีเคอร์ฟิวซะก่อน กลับบ้านก็ได้ ชิ

แล้วไงต่อ?
– เรารู้สึกว่าภาคนี้ก็ดีนะ อย่างน้อยเราก็ฟีลกู๊ดกว่า ที่ส่งพี่วูลฟ์ไปญี่ปุ่น…แต่มันก็ยังไม่แบบ ปังงง เลิฟๆ ชูป้ายไฟเท่าตอน First Class
แต่ก็จัดว่าใช้ได้ทีเดียว คิดถึงพี่ซิงเกอร์ค่ะ 555 ก็เอาเป็นว่าจะตามดู X-Men ต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ ไม่ว่ามันจะออกทะเล หรือจะเข้ารูปเข้ารอยต่อไปยังไงก็ตาม
ฮาาาาาาาาาาา ♥

สรุป

– ให้ 7.5/10
– สนุกดี ถ้าเป็นแฟนหนังเอกซ์เมนของไบรอัน ซิงเกอร์ก็คิดว่าเป็นการรวมรุ่นที่ดีมากๆ

อย่าลืมเข้ามาคุยกันนะคะ ว่าชอบไม่ชอบยังไง
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

X-Men 3 The Last Stand (2006) X-เม็น : รวมพลังประจัญบาน

X-Men (2000) X-เม็น 1 : ศึกมนุษย์พลังเหนือโลก

X-Men 7 Days of Future Past (2014) X-เม็น : สงครามวันพิฆาตกู้อนาคต

X-Men 5 First Class (2011) X-เม็น : รุ่นที่ 1

X-Men Apocalypse (2016) X-เม็น : อะพอคคาลิปส์

แสดงความคิดเห็น
movie onlineดู หนัง ฟรี ออนไลน์ ไม่ สะดุดดู หนัง ออนไลน์ 037ดู หนัง ออนไลน์ 2023ดู หนัง ออนไลน์ 2024ดู หนัง ออนไลน์ ไม่ กระตุกดู หนัง ใหมดู หนังซับไทยดูหนัง พากย์ไทยดูหนัง เต็มเรื่องดูหนังHDดูหนังฝรั่งดูหนังฝรั่ง พากย์ไทย ออนไลน์ฟรีไม่กระตุกดูหนังฟรีดูหนังออนไลน์ดูหนังออนไลน์ ชัดดูหนังออนไลน์ ไม่มี โฆษณาดูหนังออนไลน์24ชั่วโมงดูหนังออนไลน์ชัด hd ฟรีหนัง ออนไลน์หนัง เต็ม เรื่องหนัง เต็มเรื่องหนัง เต็มเรื่องพากย์ไทยหนังชนโรง พากย์ไทยหนังออนไลน์ มากมายหนังออนไลน์ เต็มเรื่องหนังออนไลน์movieหนังออนไลน์ฟรี ไม่สะดุดหนังออนไลน์ฟรีไม่สะดุดหนังเต็มเรื่องหนังใหม่ เต็มเรื่องเว็บ ดู หนัง ไม่ สะดุดเว็บดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมงเว็บดูหนังไทยออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมงเว็บหนัง

ดูหนังออนไลน์ ดูซีรี่ย์ฟรี เรื่องอื่นๆ

ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่2024 moviehd24 ดูหนังเต็มเรื่อง หนังHD ดูหนังฟรีไม่กระตุก