Fantastic Beasts and Where to Find Them (2016) สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่

Fantastic Beasts and Where to Find Them (2016) สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่

เรื่องย่อ

ดูหนัง Fantastic Beasts and Where to Find Them (2016) สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ ในปี 1926 นักสัตว์วิเศษวิทยา นิวท์ สคามันเดอร์ เดินทางมาถึงนิวยอร์กระหว่างการเดินทางรอบโลกเพื่อค้นคว้าและช่วยเหลือสัตว์วิเศษ ในขณะที่สิ่งลึกลับทิ้งร่องรอยแห่งการทำลายล้างในเมือง และขู่ว่าจะเปิดเผยโลกแห่งเวทมนตร์

ที่ยุโรป เกิดเหตุสังหารมือปราบมารจำนวนมาก สื่อของชุมชนผู้วิเศษได้รายงานถึงเหตุการณ์ดังกล่าวและเหตุโจมตีอื่น ๆ โดยเป็นฝีมือของเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ พ่อมดฝ่ายมืด

ในปี ค.ศ. 1926 นิวท์ สคามันเดอร์ นักสัตว์วิเศษวิทยาชาวอังกฤษเดินทางมาที่สหรัฐอเมริกา เพื่อไปยังรัฐแอริโซนา เขาพบกับแมรี ลู แบร์โบน มักเกิ้ลผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มการกุศลเซเลมที่สองที่เชื่อว่าผู้วิเศษมีอยู่จริงและเป็นอันตราย ระหว่างนั้น นิฟเฟลอร์ สัตว์วิเศษในกระเป๋าของนิวท์ได้หลุดออกมา ทำให้เขาต้องตามจับแต่พลาดสลับกระเป๋ากับเจคอบ โควัลสกี มักเกิ้ลผู้มีความใฝ่ฝันอยากเปิดร้านขายขนมปัง นิวท์ถูกทินา โกลด์สตีน อดีตมือปราบมารที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดจับตัวและพาไปยังสภาเวทมนตร์แห่งสหรัฐอเมริกา (MACUSA) ขณะเดียวกัน เจคอบที่ถือกระเป๋าของนิวท์ไปถูกเมิร์ตแลป สัตว์วิเศษชนิดหนึ่งในกระเป๋าทำร้ายและทำให้สัตว์วิเศษตัวอื่น ๆ หลุดออกมา

ผู้กำกับ

เดวิด เยตส์

บริษัท ค่ายหนัง

เฮย์เดย์ฟิล์มส

นักแสดง

เอดดี เรดเมย์น
แคทเธอริน วอเตอร์สตัน
แดน ฟ็อกเลอร์
อลิสัน ซูดอล
เอซรา มิลเลอร์
ซามันทา มอร์ตัน
จอน วอยต์
คาร์เมน อีโจโก
โคลิน ฟาร์เรล
เอซรา มิลเลอร์

โปสเตอร์หนัง

รีวิว

Watchman

เป็นภาพยนตร์ที่จะมาขยายโลกเวทมนตร์ของ J.K. Rowling ให้กว้างขึ้นโดยการเล่าเรื่องราวของ นิวท์ สคามันเดอร์ นักสัตว์วิทยาที่เดินทางมาศึกษามหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ที่อเมริกา หนังกำกับโดย เดวิด เยตส์ ผกก. แฮรี่ภาค 5-7.2 และเขียนบทโดย เจ.เค. เอง ซึ่งการเขียนบทครั้งนี้เป็นการดัดแปลงจากสารานุกรมชื่อเดียวกันที่เธอเคยเขียนที่มีความยาวเพียง 128 หน้าเท่านั้นและยังเป็นการเขียนบทหนังครั้งแรกของเธออีกด้วย

ดังนั้นสิ่งที่จะพูดถึงเรื่องแรกขอเป็นเรื่องบทของหนังแล้วกัน โดยรวมแล้ว ถือว่า เจ.เค. สอบผ่านในฐานะนักเขียนบทหน้าใหม่และมีความเป็นมืออาชีพสูงหากเทียบกับคนที่เพิ่งเขียนบทหนังใหญ่ครั้งแรกคนอื่นๆ แต่หากพิจารณาลงลึกไปในด้านต่างๆ จะเห็นได้ว่าบทที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดยังไม่สามารถสอบผ่านความคาดหวังแฟนๆได้ และยังมีอะไรขาดๆเกินๆอยู่

บทหนังมีการขับเคลื่อนเรื่องราวช้าและมีไดนามิกน้อยมาก หนังใช้เวลา 1 ชั่วโมงแรกแบบเต็มๆไปกับการปูเรื่อง แนะนำตัวละคร และสร้างรากฐานอะไรหลายๆอย่างเพื่อนำไปต่อยอดในภาคต่อไป ซึ่งส่งผลให้ครึ่งแรกของหนังอืดมาก ข้อเสียอีกข้อคือบางอย่างถูกเล่าแบบฉาบฉวยด้วยเกินไป(อันนี้เป็นข้อผิดพลาดของคนเขียนบทหรือผู้กำกับอันนี้ไม่แน่ใจ) แต่สิ่งที่ดีที่สุดของบทที่เด่นชัดเลยคือบทสนทนาที่ดูชาญฉลาดและมีสเน่ห์ เหมือนที่ เจ.เค. เคยทำไว้ได้ดีเมื่อครั้งยังเขียนนิยายชุด แฮรี่ พ็อตเตอร์ อยู่

เรื่องการสร้างตัวละคร ตัวละครบางตัวมีเอกลักษณ์น่าจดจำ อย่างเช่น นิวท์, เกรฟส์, กรินเดลวัลด์, ครีเดนส์ และ มาดามพิกเคอรี ในขณะที่ตัวละครอื่นๆที่ไม่ได้กล่าวถึงรวมถึงนางเอกไม่น่าจดจำเลย โดยเฉพาะ “เจค็อบ” ที่เป็นตัวละครที่หนังใช้เป็นตัวละครฐานะเดียวกับคนดู ไม่ได้มีอคติอะไรับนักแสดงคนนี้นะ แค่ไม่รู้ว่าใครก็ตามที่เป็นคนคัดเลือกเลือกมาได้ยังไง เป็นลุงอ้วนธรรมดาๆที่หาได้ทั่วไปตามท้องถนนในประเทศอเมริกาเท่านั้น

หนังทำให้เรารู้สึกตื่นตาตื่นใจได้ มีอะไรสร้างสรรค์ๆหลายอย่าง แต่ไม่มากเท่ากับที่ภาพยนตร์ชุดแฮรี่เคยทำได้(ส่วนนึงเพราะเราดูแฮรี่กันมาแล้วด้วยมั้ง) จากที่เห็น โทนเรื่องและบรรยากาศนับว่าแตกต่างจากแฮรี่มาก และประเด็นสัตว์มหัศจรรย์ที่เป็นจุดขายของเรื่องยังไม่ถูกเน้นเท่าที่ควรจนกลายเป็นประเด็นรองไป เพราะเรื่องราวจะถูกเล่าควบคู่ไปกับประเด็นที่เด่นกว่าคือสงครามโลกเวทมนตร์ระหว่างสภาเวทมนตร์และฝ่ายจอมเวทย์ศาสตร์มืดไปด้วย

ถึงช่วงแรกจะอืด แต่ช่วงที่นิวท์พาเราไปแนะนำสัตว์และสิ่งที่อยู่ภายในกระเป๋าของเขา หนังก็เริ่มน่าสนใจขึ้น(ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรทำตั้งแต่แรกๆไม่ใช่หรอ?) พอทุกอย่างมันเท่าที่เข้าทาง เครื่องถึงจะสตาร์ทติดและทำเราสนุกไปกับเรื่องราวในหนังได้ ปมที่ปูมาตั้งแต่ครึ่งแรกก็ถูกนำมาใช้ทำให้เรื่องราวครึ่งหลังดูเข้มข้นมากขึ้น ตอนตามหาสัตว์ก็สนุกดี ช่วงท้ายมีฉากต่อสู้ ยิงเวทมนตร์ โชว์เอ็ฟเฟ็กต์ตระการตาอยู่หลายฉาก

เอาเข้าจริง FB ถือว่าเป็นหนังภาคแรกที่สร้างรากฐานไว้แกร่งพอสมควรเลยนะ ถึงจะมีอะไรที่ยังไม่ได้รับการอธิบายบ้าง แต่ตอนจบมันไม่ได้จบค้างคาและจงใจจบแบบเพื่อให้คนมาดูภาคต่อเหมือน Warcraft ขนาดนั้น แต่ก็ทำให้คนดูอยากดูต่อเร็วๆนี้ทันที และถึงจะใช้เวลาปูเรื่องอะไรนานไปหน่อยและตัวละครไม่น่าจดจำเท่าที่ควร แต่พอดูจบกลับกลายเป็นว่าเราได้รู้จักโลกเวทมนตร์ที่อเมริกาและรู้สึกสนิทกับตัวละครเหล่านั้นอย่างดีซะแล้ว

โดยรวมแล้วถือว่าเป็นหนังที่สนุกและแอดว่าไม่ควรพลาดไปดูในโรงนะ โดยเฉพาะระบบ IMAX 3D เพราะหนังมีฉากโชว์สามมิติทะลุจนทิ่มลูกตาหลายฉากมาก ถามว่าผิดหวังมั้ย บอกเลยว่า “ไม่” แต่ถ้าถามว่าสมกับการรอคอยมั้ย คงต้องบอกว่า “พูดไม่ถูกเหมือนกัน” ครับ รู้แค่ว่าชอบ แอดเป็นแฟนตัวยงแฮรี่ เชื่อว่าแฟนๆแฮรี่หรือคนส่วนใหญ่ที่กำลังถวิลหาอะไรที่มี “ความ แฮรี่ พ็อตเตอร์” อยู่ก็น่าจะชอบเช่นกัน

หนังเรื่องนี้กูจะรีวิว

Fantastic Beasts and Where to Find Them เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือเล่มแยกจากเรื่อง Harry Potter เป็นเหมือนตำราซะมากกว่าเรื่องราว เจเค โรวลิ่ง ได้หยิบผลงานแห่งเวทมนตร์อันน่าหลงไหลขึ้นมาปัดฝุ่นอีกครั้ง ก่อนจะเขียนบทเป็นภาพยนตร์นี้ ว่าด้วยเรื่องของ Newt Scamander (Eddie Redmayne) พ่อมดจากอังกฤษเดินทางมายังนิวยอร์กด้วยจุดประสงค์บางอย่าง พร้อมกับกระเป๋าถือใบหนึ่ง ซึ่งสิ่งที่อยู่ในนั้นมันคือสัตว์วิเศษหลากหลายชนิดที่สามารถรวมกันอยู่ในกระเป๋าใบนั้นได้ ทว่าเรื่องราวปั่นป่วนวุ่นวายก็เกิดขึ้น เมื่อสัตว์วิเศษตัวหนึ่งหลุดออกมานอกกระเป๋าและเริ่มก่อปัญหา จากที่ชายหนุ่มคิดว่าจะควบคุมมันได้ ก็กลายเป็นว่าปัญหายิ่งลามเมื่อสัตว์ต่างๆหลุดหนีออกมาจากกระเป๋าจนหมดสิ้น และกำลังจะสร้างความเดือดร้อนให้กับนิวยอร์ก ขณะที่ในอเมริกาก็มีกระทรวงสภาเวทมนตร์และมีกฏต้องห้ามเกี่ยวกับการปล่อยให้สัตว์วิเศษอยู่เหนือการควบคุม Newt จึงถูกคุมตัวและได้รู้จักกับหญิงสาวสองพี่น้อง Goldstein และ Jacob Kowalski พวกเขามีเป้าหมายออกตามหาสัตว์วิเศษเหล่านั้นและจับพวกมันกลับมาให้ได้ แต่ในขณะนั้นบางสิ่งชั่วร้ายกว่าก็กำลังคืบคลานมา และอาจถึงคราวอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้นกับโลกเวทมนต์นี้!

กล่าวได้ว่านี่ถือว่าเป็นการรอคอยของแฟนหนังแฟนตาซีท็อปฟอร์มนับตั้งแต่ Harry Potter ฉายออกมาทั้ง7ภาค จนเมื่อมีข่าว Fantastic beasts จะมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ก็เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดและเสียงฮือฮาจากคอหนังทั่วโลกเลยก็ได้ และวันนี้หนังเรื่องนี้ก็ได้คลอดออกมาแล้ว…ซะที! มีหรือผมเองจะพลาด?! เนื่องจากทั้งอ่านทั้งดู Harry Potter มาอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ใช่แฟนตัวยง แต่ก็ตัวสั่นระริกไม่แพ้กันในการรอคอยการกลับมาและได้ดูครั้งนี้ และต้องบอกว่าไม่มีผิดหวังเลย แต่หากจะเรียกว่าเป็นการคืนฟอร์มที่น่าภูมิใจไหม คงต้องไปอ่านรีวิวก่อน เพราะมีหลายเหตุผลที่ผมอยากอธิบายมาก เพราะเนื้อเรื่องจริงๆเบาและดาร์คน้อยกว่าที่คิด อาจพูดได้ว่า…ยังเป็นการคืนฟอร์มที่ยังไม่ ‘ท็อป’ สุดมากกว่า
.
.
ตัวหนังน่าสนใจมาก ทั้งเนื้อหา หนัง ตัวละคร และนักแสดง เพียงแค่ผมรู้ว่าพระเอกเป็น Eddie Redmayne ก็ดีใจและตื่นเต้นสุดๆ หนังเปิดเรื่องมาด้วยภาพที่ดูลึกลับ น่าสนใจ และมีเอฟเฟ็คกับมุมกล้องที่ทึ่งไม่น้อย หนังสามารถดึงดูดคนดูให้กลับไปสู่โลกเวทมนตร์อีกครั้ง และเจเค โรวลิ่ง ก็ยังสามารถเนรมิตโลกเวทมนตร์ได้น่าหลงไหลอยู่แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ กล่าวได้ว่าโลกเวทมนต์ไม่เคยแก่ตาม แต่กลิ่นอายครั้งนี้มันไม่เหมือน Harry Potter มันเต็มไปด้วยความสดใหม่ แปลกใหม่ น่าตื่นตา และยิ่งประเด็นหนังเกี่ยวกับ สัตว์วิเศษนั้น อะไรหลายอย่างเลยดูมีมิติขึ้น น่าสนใจ และน่าหลงไหล ซีจีทำได้สวย ตลก และดูทรงพลัง ปะปนไปกับสัตว์วิเศษหลายชนิดที่ทำผสมผสานออกมาได้ลงตัว สัตว์วิเศษบางตัวก็ตลกดี มีเหตุการณ์ขำๆชวนประทับใจเรียกร้อยยิ้มเพราะมันได้หลายครั้ง ส่วนอารมณ์ผิวเผินของหนังมันช่างเบา…จนเกือบไร้น้ำหนัก ดาร์คน้อย ไม่เครียด…และไม่มีลอร์ดโวลเดอมอร์ โผล่มาแน่นอน! (ยุคนั้นท่านยังไม่เกิด) เนื้อเรื่องจึงค่อนข้างไปในโทนสว่าง ติดตลกบ้าง มีสีสันให้ชวนประทับใจ
.
.
หากถามว่าส่วนไหนที่สำคัญและจำเป็นต่อการคืนฟอร์มหนังจักรวาลเดียวกันกับ Harry Potter คงตอบได้ว่าต้องเป็นบทแน่นอน เพราะทุกคนคงคาดหวังที่จะได้เห็นบทที่ใหญ่ขึ้น มีเรื่องราวความน่าสนใจที่มากขึ้น แปลก และสดใหม่ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวล หนังทำได้ประสบความสำเร็จในการทำให้มันดู ‘สดใหม่’ จริงๆ แต่การเล่าเรื่องนี่สิ ทำท่าว่าจะดีในช่วงแรก แต่พอดำเนินไปสักพักเนื้อเรื่องเริ่มนิ่ง เอื่อย ไม่มีจุดพีคหรือไคลแมกซ์ ซึ่งก็เอื่อยเกินจนจะหาวได้หวอดๆ ช่วงท้ายมีเรื่องการต่อสู้ซึ่งก็เข้มข้นกว่าพาร์ทอื่นๆของหนัง สนุก เอฟเฟ็ค ซีจีจัดว่าสวยงาม หวือหวาไม่มาก และที่น่าสังเกต คือยุคนั้นเวลาจะร่ายคาถา ไม่ต้องท่องคาถากันแล้วหรือไร? หรือเซียนมาก เพราะมีแต่พ่อมดแม่มดเก่งๆ…เห็นมีท่องคาถานิดหน่อย แต่การใช้ไม้กายสิทธิ์ ผมรู้สึกว่ามันเจ๋งและใช้ได้คุ้มกว่าที่หนัง Harry Potter มี แถมยังน่าตื่นตาและอันนี้ดูท็อปกว่า ตัวพ่อมดแม่มดก็ดูเซียนจริงๆอย่างว่า

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

The King s Daughter (2022)

The Curse of Sleeping Beauty (2016) คำสาปเจ้าหญิงนิทรา

The Man Who Invented Christmas (2017) ชายผู้คิดค้นคริสต์มาส

Fistful of Vengeance (2022) กำปั้นคั่งแค้น

The Portable Door (2023)