เรื่องย่อ : Kingdom 3 The Flame of Destiny (2023) สงครามผงาดบันลังก์จิ๋นซี 3 ภาค เพลิงกาฬแห่งโชคชะตา ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ ดูหนังHD ดูหนังฟรี MovieHD24 หนัง2024 หนังออนไลน์ Full HD
ดูหนัง Kingdom 3 The Flame of Destiny (2023) สงครามผงาดบันลังก์จิ๋นซี 3 ภาค เพลิงกาฬแห่งโชคชะตา เรื่องราวของ ชิน (เคนโต ยามาซากิ) เด็กหนุ่มจากหมู่บ้านเฮียวกิที่ฝันอยากเป็นแม่ทัพ เขาถูกลักพาตัวไปโดยกองทัพฉินและกลายเป็นทาสทหาร เขาพบกับ เหว่ยอี้ (มาซาทากะ คุโบตะ) เด็กหนุ่มจากแคว้นจ้าวที่สูญเสียครอบครัวไป พวกเขาทั้งสองคนต่างมุ่งมั่นที่จะเอาชนะโชคชะตาและสร้างอนาคตของตัวเอง ดูหนังออนไลน์
ในภาคนี้ ชินและเหว่ยอี้ได้เข้าร่วมศึกที่จตุรจัตุรัสแห่งเมืองหม่าหยาง ซึ่งเป็นศึกระหว่างแคว้นฉินกับแคว้นจ้าว ทั้งสองคนต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ทั้งจากศัตรูบนสนามรบและจากภายในจิตใจของตัวเองเรื่องราวของ ชิน (เคนโต ยามาซากิ) เด็กหนุ่มจากหมู่บ้านเฮียวกิที่ฝันอยากเป็นแม่ทัพ เขาถูกลักพาตัวไปโดยกองทัพฉินและกลายเป็นทาสทหาร เขาพบกับ
เหว่ยอี้ (มาซาทากะ คุโบตะ) เด็กหนุ่มจากแคว้นจ้าวที่สูญเสียครอบครัวไป พวกเขาทั้งสองคนต่างมุ่งมั่นที่จะเอาชนะโชคชะตาและสร้างอนาคตของตัวเอง ในภาคนี้ ชินและเหว่ยอี้ได้เข้าร่วมศึกที่จตุรจัตุรัสแห่งเมืองหม่าหยาง ซึ่งเป็นศึกระหว่างแคว้นฉินกับแคว้นจ้าว ทั้งสองคนต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ทั้งจากศัตรูบนสนามรบและจากภายในจิตใจของตัวเอง
ในภาคลำดับที่สามของซีรีส์ ที่รอกันอย่างใจจดใจจ่อ “The Flame of Destiny” ผู้เล่นจะถูกผลักไปสู่โลกที่โหยกเหยกบนขอบที่ความปั่นป่วน ปรับปรุงโดยสตูดิโอมีชื่อ QuestWorks การเสี่ยงภัยแฟนตาซีครั้งยิ่งใหญ่นี้จะนำผู้เล่นไปสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยอันตราย การศึกษาและทำการค้นพบ แล้วก็การทดลองความกล้าขั้นที่สูงที่สุด
โดยมีเบื้องหลังเป็นอาณาจักรที่เต็มไปด้วยการสู้รบรวมทั้งความมืดดำมิด ผู้เล่นจะแสดงบทบาทเป็นวีรบุรุษผู้กล้าหาญที่ถูกชะตากรรมเลือกให้ถือครองเปลวเพลิงที่ชะตาชีวิตในตำนาน ประดิษฐกรรมลึกลับนี้ว่ากันว่ามีพลังสำหรับเพื่อการนำความสมดุลมาสู่อาณาจักร เปลี่ยนเป็นใจกลางของภารกิจอันยิ่งใหญ่เพื่อกัดกันพลังที่ความเถื่อนรวมทั้งคืนความสงบสุขให้กับแผ่นดิน
การเล่าเรื่องดำเนินไปในสิ่งแวดล้อมแบบโลกเปิดที่กว้างขวางและก็ซาบซึ้ง เต็มไปด้วยทำเลที่ตั้งที่น่าทึ่ง ดันเจี้ยนที่ทรยศหักหลัง แล้วก็เมืองที่จอแจที่พร้อมสำหรับเพื่อการตรวจ ตั้งแต่ยอดดอยสูงลิ่วของแนวเขา Dragonspine ไปจนกระทั่งป่าอันน่าคลั่งไคล้ของ Feywild ทุกมุมของอาณาจักรมีความลับที่คอยการเปิดเผย
เมื่อผู้เล่นเจริญไป พวกเขาจะได้เจอกับผู้แสดงที่นานัปการ ซึ่งแต่ละตัวก็มีแรงบันดาลใจ ผู้ช่วยเหลือ และก็ความลับเป็นของตนเอง ตั้งแต่บิดามดผู้ลึกลับไปจนกระทั่งอัศวินผู้มีฐานันดรศักดิ์ ทุกความเกี่ยวข้องจะกำหนดทางของการเสี่ยงอันตราย พรีเซนเทชั่นผู้เล่นที่มีปัญหาทางด้านศีลธรรมรวมทั้งการหักมุมที่นึกไม่ถึงในทุกก้าวย่าง
ต้นแบบการเล่นใน ผลิตมาจากกลไกอันเป็นสุดที่รักของภาคก่อน โดยพรีเซนเทชั่นการประสมประสานที่พอดีระหว่างส่วนประกอบแอ็คชั่น แผนการ รวมทั้งหน้าที่สมมุติ การต่อสู้เป็นแบบไดนามิกแล้วก็ลื่นไหล โดยผู้เล่นสามารถเลือกอาวุธ มนต์ และก็ความรู้ความเข้าใจที่นานาประการเพื่อปราบศัตรูได้ ไม่ว่าจะประจันหน้ากับฝูงลูกสมุนอันเดดหรือการดวลอันดุดันกับแชมเปี้ยนคู่แข่งขัน ทุกการเผชิญหน้าจำต้องใช้ความชำนาญ จังหวะเวลา แล้วก็ความกล้าทางกลยุทธ์
นอกเหนือจากการต่อสู้แบบเริ่มแรกแล้ว ผู้เล่นยังจำต้องต่อสู้กับปัญหาสภาพแวดล้อม กับที่สลับซับซ้อน แล้วก็การต่อสู้กับบอสที่ท้าที่จะทดลองความเด็ดเดี่ยวของพวกเขาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ตั้งแต่การถอดรหัสอักษรรูนโบราณไปจนกระทั่งการสำรวจดันเจี้ยนเขาวงกต การบรรลุเป้าหมายมักขึ้นกับความฉลาดหลักแหลมและก็ความฉลาดมากเท่ากับความแข็งแกร่งแล้วก็ความอาจหาญ
หนึ่งในคุณลักษณะที่สะดุดตาของ เป็นระบบปรับปรุงนักแสดงที่เข้มแข็ง ซึ่งช่วยทำให้ผู้เล่นปรับปรุงวีรบุรุษให้เหมาะสมกับสไตล์การเล่นที่พวกเขาอยากได้ ไม่ว่าจะชำนาญสำหรับเพื่อการเล่นกระบี่ ชำนิชำนาญศาสตร์ลี้ลับ หรือฝึกหัดการลักขโมยลอบแล้วก็เล่ห์เหลี่ยม ทุกทางเลือกจะมีผลกระทบต่อคำตอบของการเสี่ยงภัย ซึ่งระบุเคราะห์กรรมของทั้งยังผู้เล่นแล้วก็อาณาจักรเอง
นอกเหนือจากนี้ เกมนี้ยังมีระบบระเบียบคุณธรรมแบบไดนามิกที่ติดตามความประพฤติปฏิบัติแล้วก็การตัดสินใจของผู้เล่นตลอดการเดินทาง มีผลต่อทางของเรื่องแล้วก็สร้างชื่อในสายตาของโลก คุณจะรักษาคุณงามความดีที่เกียรติรวมทั้งความปรานี หรือเห็นด้วยเสน่ห์ที่พลังรวมทั้งความทะยานอยากไหม? หนทางเป็นของคุณ แม้กระนั้นขอเตือนไว้ว่า ทุกการตัดสินใจจะส่งผลที่ตามมาซึ่งกระเพื่อมไปทั่วอีกทั้งอาณาจักร
ด้วยภาพที่น่าทึ่ง การเล่าเรื่องที่สมจริงสมจัง แล้วก็ต้นแบบการเล่นที่น่าติดตาม พร้อมที่จะยั่วยวนใจผู้ชมและก็สร้างนิยามใหม่ของเกมแนว RPG แนวแฟนตาซีในอีกนับเป็นเวลาหลายปีด้านหน้า คุณพร้อมที่จะเริ่มภารกิจอันยิ่งใหญ่เพื่อระบุเคราะห์กรรมของอาณาจักรแล้วก็เรียกร้องชะตาชีวิตของคุณแล้วหรือยัง? ไฟกำลังรอ
ชินสุเกะ ซาโต้
เรียกว่ากลายเป็นประเด็นถกกันไม่น้อย เกี่ยวกับเรื่องชุดเกราะขุนพลจ้าวในหนังตัวอย่างหนัง และภาพจากตัวนักแสดง
ที่งานนี้ ทีม Costume เหมือนทำออกมาแบบลวกๆ เมื่อเทียบกับภาพ จนหลายๆคนบ่นว่า เหมือนเกราะยุุโรปมากกว่า หากไม่นับหมวกอ่ะนะซึ่งเอาจริงๆ ก็ใช่
เมื่อเทียบกับชุดในภาคก่อนที่งานทำออกมาปรานีตมาก ที่เกราะดูมีความเป็นเกราะหนังสัตว์ หรือเกราะเหล็กแผ่น แบบจีน
ไม่ว่าจะเป็น ปลัดทัพฝ่ายแคว้นเว่ยอย่าง กงหยวน และตัวจอมทัพอย่าง อู๋ฉิ่งเอง
หรือแม้กระทั้งนายกองฝ่ายฉินที่เกราะทำออกมาได้เนียบดูมีความเป็นเกราะจีนจริงๆทุกตัว ไล่ตั้งแต่พลทหารไปจนถึงจอมทัพ
ในขณะที่เกราะของจ้าวนั้นตามความเป็นจริง เกราะจะมีความคล้ายกับชาวซยงหยู(หรือซงหนู) เพื่อให้เกิดความคล่องตัวบนการรบบนหลังม้าตามแนวคิดปฎิรูป
ของ จ้าวอู่หลิงหวัง ในสมัยนั้น(สมัยเดียวกับฉินจาวเซียงหวัง ปู่ทวดของอิ๋งเจิ้ง)
ถ้าไม่นับเรื่องอาวุธหลักอย่างหอกยาวทรงตะขอที่ทำออกมาได้ตรงกับประวัติศาสตร์จีนดีมาตัดแปลงแก้ในฉบับหนัง ซึ่งในมังงะเป็นหอกสั้นโง่ๆแทบจะตลอดทั้งเรื่องที่กระผมออกมาโพสต์ถึงเรื่อง เพราะมันรู้สึกขัดตากับชุดขุลพลจ้าวจริงๆ แม้กระผมจะไม่ได้มีความรู้เรื่องชุดเกราะจีนโบราณแต่ละยุคสมัยอ่ะนะ
ซึ่งทาง Twitter official ได้เปิดเผยตัวละครใหม่ชุดชุดที่ (ซึ่งจริงๆ อันนี้ควรเป็นชุดที่ 2 เพราะมันออกมาก่อนแต่ผมไม่เห็น) มีด้วยกันสองคนขอรับบน: ย่าเหมิน 亜門
พี่น้องร่วมพ่อบุญธรรมกับซีอเสี่ย(วาตานาเบะ เอน)
รับบทโดย อาซาริ โยสุเกะ 浅利陽介
ล่าง: เต้าเจี้ยน 道剣
บ่ายใต้อานัติของชางเหวินจวิน
รับบทโดย สุกิโมโตะ เท็ตสึตะ 杉本哲太
ชะตากรรมของทั้งสองเป็นยังไง ถ้าใครอยากรู้สปอย แนะนำให้ไปหามังงะมาอ่านเสีย
จากที่ดูตัวละครที่เผยออกมา แน่นอนว่าฉบับคนแสดงมีการตัดตัวละครบางตัวซึ่งมีอยู่ในมังงะออกไปด้วย
ตัวหนังกำหนดฉายโรง วันที่ 28 เม.ย.(เฉพาะในโรงที่ญี่ปุ่น)
ภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้น 6 เดือนหลังจากเหตุการณ์ในภาพยนตร์เรื่องก่อน ซึ่งกองทัพเว่ยได้เดินทัพเข้าสู่รัฐฉิน กษัตริย์แห่งรัฐฉินได้ยินข่าวว่าหลี่ซิน (ชิน) ถูกพบในดินแดนไร้กฎหมายซึ่งเขาได้รับการฝึกฝนภายใต้การดูแลของนายพลโอวกี (หวางฉี) เพื่อเป็นผู้บัญชาการ 100 คนกองทัพ Zhao เริ่มรุกรานในเวลานี้ โดยพวกเขาได้ลงมือสังหารหมู่ที่ปราสาทและพลเมืองเพื่อแก้แค้นการสังหารหมู่ที่ Qin กระทำกับ Zhao หลายปีก่อน
ครึ่งแรกของภาพยนตร์ดำเนินเรื่องในรูปแบบที่หลินเจิ้งอธิบายแก่แม่ทัพโอวคีถึงเหตุผลที่เขาต้องการรวมจีนเป็นหนึ่ง ส่วนนี้ของเรื่องจะแสดงให้เห็นว่าหลินเจิ้งตัดสินใจและพูดอย่างไรในภาพยนตร์ภาคแรกแม่ทัพโอวคีตัดสินใจที่จะเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพฉินครึ่งหลังของภาพยนตร์ นำเสนอการต่อสู้ขนาดใหญ่ระหว่าง Qin และ Zhao ในตอนท้าย นายพล Ou Ki มอบหมายให้ Shin และหน่วยใหม่ 100 นายทำภารกิจแอบเข้าไปในสนามรบด้านซ้ายเพื่อกำจัด
แม่ทัพของฝั่งนั้น เพื่อเป็นรางวัลสำหรับการรับภารกิจในการลอบสังหารครั้งนี้ Ouki จึงมอบชื่อหน่วย Hi Shin ให้กับหน่วยที่อยู่ภายใต้การนำของ Shin ภายใต้การนำของ Shin หน่วย Hi Shin สามารถเข้าถึงการป้องกันชั้นที่ 2 ที่ปกป้องกองทัพฝั่งซ้ายได้สำเร็จ พวกเขาฝ่าด่านได้แต่ก็พบกับอุปสรรคในภูเขาสูงที่ลาดชัน ซึ่งหน่วยถูกบังคับให้แยกออกเป็นสองส่วน ผ่านการกระทำนี้ Shin, Kyokai (Qiang Lei) จากภาพยนตร์เรื่องก่อนและส่วนที่เหลือของหน่วยสามารถฝ่าด่าน
ไปยังสำนักงานใหญ่ของศัตรูได้ ในขณะที่ผู้บัญชาการ Zhao กำลังจะล่าถอย Shin ก็ได้โจมตีครั้งสุดท้ายที่ทำให้กองทัพ Zhao แยกออกจากกัน กองทัพ Qin ฝั่งซ้ายมาถึงทันเวลาเพื่อเสริมกำลังหน่วย Hi Shinหลังจากกองทัพจ่าวถอยทัพเข้าไปในเทือกเขาใกล้เคียง เมื่อกลับมาที่พระราชวังฉิน พบว่ามีผู้บัญชาการจ่าวที่ซ่อนตัวอยู่ซึ่งใช้ชื่อว่าโฮวเคน (พังหนวน) และเป็นผู้สังหารแม่ทัพใหญ่เคียว (เหลียว) ซึ่งเป็นผู้บัญชาการร่วมกับโชวบุนคุนและโอวคิ เมื่อแม่ทัพคนเดียวกันนี้เข้าใกล้ค่ายของหน่วยไฮชิน จึงสันนิษฐานว่าโฮวเคนมาถึงเพื่อสังหารแม่ทัพโอวคิหลังจากที่พ่ายแพ้ต่อเขาเมื่อ 9 ปีก่อน