เรื่องย่อ : The Secret Life of Pets (2016) เรื่องลับแก๊งขนฟู ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ ดูหนังHD ดูหนังฟรี MovieHD24 หนัง2024 หนังออนไลน์ Full HD
The Secret Life of Pets (2016) เรื่องลับแก๊งขนฟู
ณ ใจกลางนครแมนฮัตตัน แม็กซ์ (พากย์เสียงโดย หลุยส์ ซี.เค.) สุนัขเทอร์เรียร์ผู้ได้รับการพะเน้าพะนอเอาใจเป็นอย่างดี มีความสัมพันธ์แสนสุขกับ เคธี่ (พากย์เสียงโดย เอลลี่ เคมเปอร์) เจ้าของผู้เก็บเขามาเลี้ยง จนกระทั่ง เคธี่ สาวน้อยใจดี ได้รับ ดุ๊ค (พากย์เสียงโดย อีริค สโตนสตรีท) สุนัขพันธุ์ทางตัวใหญ่ขนปุกปุยมาเลี้ยงอีกตัว แม็กซ์ ถึงกับอึ้งเมื่อ เคธี่ บอกเขาว่า ดุ๊ค เป็นน้องชายตัวใหม่ของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อ ดุ๊ค ถือโอกาสครอบครองของเล่นและเตียงของ แม็กซ์ และทึกทักเอาเองว่าเขาและพี่ชายตัวใหม่ของเขาจะใช้ชีวิตที่แสนสุขสบายนี้ด้วยกัน
ขณะที่ แม็กซ์ ผู้ขาดความเชื่อมั่น พยายามจะยึดอาณาเขตของตัวเองเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ดุ๊ค ผู้จริง ๆ แล้วเป็นสุนัขน่ารักที่เจอกับช่วงเวลาเลวร้าย กลับไม่เข้าใจท่าทีแข็งกร้าวของ แม็กซ์ และรู้สึกกังวลว่า แม็กซ์ พยายามจะกำจัดเขา สิ่งหนึ่งที่ ดุ๊ค รู้คือเขาไม่สามารถกลับไปยังสถานสงเคราะห์สัตว์ที่เขาแทบเอาชีวิตไม่รอดได้อีกแล้ว
ความขัดแย้งระหว่างทั้งคู่รุนแรงไปสู่ท้องถนน และท้ายที่สุด มันก็ทำให้ทั้งคู่ถูกขังอยู่ในรถตู้ควบคุมสัตว์เพื่อมุ่งตรงไปยังสถานสงเคราะห์สัตว์ แต่เมื่อกระต่ายน่ารัก สติแตกที่ชื่อ สโนว์บอล (พากย์เสียงโดย เควิน ฮาร์ท) ผู้นำของแก๊งอดีตสัตว์เลี้ยงผู้ถูกเจ้าของทอดทิ้ง ผู้เรียกตัวเองว่า สัตว์เลี้ยงถูกทิ้ง ได้บุกเข้ามาในรถตู้เพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมแก๊งตัวหนึ่งของพวกเขา แม็กซ์ และ ดุ๊ค ก็มองเห็นโอกาสและได้เจรจาต่อรองเพื่อให้ได้รับอิสรภาพ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน สโนว์บอล เรียกร้องให้พวกเขาเข้าร่วมกองทัพสัตว์เลี้ยงถูกทิ้งและใช้ชีวิตอยู่กับพวกเขาในรังลับในท่อระบายน้ำ เพื่อวางแผนการแก้แค้นเหล่ามนุษย์ที่ทอดทิ้งพวกเขา
เมื่อ สโนว์บอล รู้ว่า แม็กซ์ และ ดุ๊ค มีเจ้าของที่พวกเขารักและใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย เขาก็ปล่อยลูกสมุนของเขาให้ไล่ล่าพวกเขาไปทั่วทั้งนิวยอร์กซิตี้ เมื่อถูกบีบให้ต้องดึงเอาสัญชาตญาณดิบออกมาใช้เพื่อความอยู่รอด สองพี่น้องที่เคยไม่ลงรอยกันก็ต้องบุกตะลุยป่าคอนกรีต เพื่อกลับไปถึงบ้านอย่างปลอดภัย ก่อนที่ เคธี่ จะกลับบ้าน
The Secret Life of Pets (2016)
น่าจะเป็นช่วงพีคของ Illumination Entertainment ที่โด่งดังจากการปั้นตัว Minions ให้กลายเป็นคาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนขวัญใจผู้ชมทั่วโลก เห็นเงียบ ๆ แต่ภาคเดี่ยว Minions ขึ้นทำเนียบหนังทำเงินทั่วโลกสูงสุดอันดับ 11 เลยนะ และเป็นแอนิเมชันที่ทำรายได้เป็นรองแค่ Frozen เรื่องเดียว ตรงนี้คงพอจะบอกได้ดีถึงความนิยมชมชอบ ซึ่งมันก็ส่งผลถึงเครดิตของบริษัทผู้ผลิตงานที่ได้รับความไว้วางใจจากคนดู และเรามั่นใจว่าความน่ารักของเหล่าสัตว์ใน The Secret Life of Pets คงทำให้หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จทั้งด้านรายได้และเสียงตอบรับจากผู้ชมวงกว้างจนไม่แคล้วจะมีภาคต่อตามมาอย่างแน่นอน
ชอบตัวอย่างหนังเรื่องนี้ตรงที่มันเก็บไฮไลท์เอาไว้ขายในหนังเต็ม ซึ่งพอดูแล้วบอกเลยว่าหนังโคตรน่ารัก เขาเอาสัตว์ต่าง ๆ มาทำเป็นตัวละครได้ชวนหัวเราะแล้วมากันอย่างเยอะ บทเด่นบ้างเป็นตัวประกอบบ้างแต่ขยันปล่อยแก๊กโชว์ความน่ารักทุกตัว ถ้าตั้งโจทย์ว่าจะเสพความบันเทิงอย่างเดียวคือสอบผ่านแบบไม่ต้องมีข้อสงสัย เนื้อเรื่องเป็นการผจญภัยที่สนุก ดูเพลินไปกับเสน่ห์ของเหล่าสัตว์เลี้ยง เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขัน และจบหนังลงด้วยความอบอุ่น
[CR] Review : The Secret Life of Pets (ผมหวังไว้มากกว่านี้)
Review : The Secret Life of Pets
ผู้กำกับ : Chris Renaud, Yarrow Cheney (คนที่สองหน้าใหม่ ส่วนคนแรกเคยกำกับ Despicable Me, Despicable Me 2, The Lorax ครับ)
เรื่องนี้ผมดูช้าหน่อยเพราะรอดูพร้อมภรรยาครับ แหะๆ สำหรับ The Secret Life of Pets นี้ก็เป็นภาพยนตร์การ์ตูนที่ผมตั้งความหวังไว้พอสมควรเหมือนกัน ด้วยกระแสรีวิวที่บอกว่าดีไปถึงดีมากครับ แต่อย่างไรก็ตามก็ยังไม่ค่อยวางใจเท่าไหร่เพราะผลงานล่าสุดของ Studio นี้อย่าง Minions ผมก็ไม่ค่อยชอบ ประกอบกับมีคนมาเป่าหูว่าพล็อตเรื่อง Pets นี้แทบจะลอก Toy Story มาเลย แต่ก็ตามเคยครับ ชอบพิสูจน์ด้วยตัวเอง (เมียอยากดูด้วย 55) เลยจัดไปครับ
The Secret Life of Pets เล่าถึง Max (Louis C.K.) สุนัขสุดเลิฟของ Katie (Ellie Kemper) ที่เลี้ยงเขาไว้ในอพาร์ตเมนท์แห่งหนึ่งในนิวยอร์ค โดยที่มีเพื่อนสัตว์เลี้ยงร่วมอพาร์ตเมนท์มากมายที่มักจะมาสังสรรค์กันในเวลาที่เจ้านายไม่อยู่ Max ติด Katie มากจนถึงกับทุรนทุรายทุกครั้งที่เธอออกจากบ้านไปทำงาน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังมั่นใจว่าเขาเป็นอันดับ 1 ในใจเธอเสมอ แต่ความมั่นใจนั้นก็เริ่มสั่นคลอนเมื่อวันหนึ่ง Katie ได้พา Duke (Eric Stonestreet) สุนัขขนฟูตัวยักษ์มาเลี้ยงอีกตัวหนึ่ง Max อยู่ร่วมกับ Duke ไม่ได้มักจะทะเลาะกันอยู่เรื่อยๆจนในที่สุดก็เกิดเรื่องขึ้นเมื่อเทศบาลคิดว่าทั้งคู่เป็นหมาจรจัดและจับตัวพวกเขาไปเดือดร้อนถึงเหล่าเพื่อนๆสัตว์ในอพาร์ตเมนท์ต้องออกหาตัวพวกเขา ทั้งสองจะกลับมาหา Katie ได้หรือไม่ ต้องติดตามครับ (สำหรับคนที่บอกผมว่ามันลอก Toy Story มา ผมเชื่อคุณแล้วล่ะ 555)
ถึงแม้พล็อตเรื่องจะคล้าย Toy Story อยู่พอสมควร แต่สำหรับผมคงเป็นได้แค่เวอร์ชั่น Dumbed Down ดูได้เพลินๆ เท่านั้นละครับ หากหวังไว้ว่าจะสนุกมากหรือหวังให้มี message ดีๆ จนหวังเทียบชั้น Pixar ได้นี่คงจะไม่ไหว การเล่าเรื่องของหนังค่อนข้างสะเปะสะปะทีเดียว จะมีการตัดฉากไปมาระหว่างฝั่ง Max กับฝั่งเพื่อนๆที่จะไปช่วย ซึ่งบางทีตัดมาแล้วเนื้อเรื่องดำเนินไปนิดเดียว เล่นมุกนิดหน่อยแล้วก็ตัดกลับ มันทำให้หนังดูไม่มีเนื้อหนังเลย มีแต่มุกๆๆ มุกก็ขำบ้างแป้กบ้างด้วยนะ บางมุกเป็นลักษณะ “แถ” คือจังหวะแรก ไม่ขำ แต่ก็เล่นไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนจังหวะที่ 3 อะกุขำแล้ว ไรงี้ ตัวละครต่างๆผมก็คิดว่ามีเยอะเกินไป และไม่สามารถเกลี่ยบทให้ทั่วถึงได้ บางตัวจึงออกมาเป็นแค่ตัวปล่อยมุกสองสามมุกเท่านั้น จนกลายเป็นหนังที่มีตัวละครแบบ ”เน้นปริมาณ” แต่ไม่เน้นคุณภาพครับ (ขนาดตัวเอกผมยังรู้สึกว่าทำตัวละครได้ไม่ค่อยดีเลย ซีนอารมณ์ที่ตัวบท build มาแล้วถึงเวลาก็ทำไม่ถึง อ้างว่าเป็นการ์ตูนไม่ได้ครับเพราะ Finding Dory ทำได้) สำหรับ Message ของเรื่อง มันทำเหมือนจะมีนะครับ แต่ตื้นมากๆจนเรียกว่าไม่มีดีกว่าครับ
สำหรับงานภาพ แน่นอนว่ารายละเอียดของภาพยังสู้เจ้าพ่อมาเฟียอย่าง Pixar ไม่ได้ เลยไปเน้นที่ Style ของภาพแทน ซึ่งก็สวยงามใช้ได้ครับแต่ก็ไม่ได้ว้าวมากมายเท่าไหร่ ส่วนดนตรีประกอบ อันนี้ชอบครับ หนังจะเน้นเพลงแจ๊สแบบ New York หน่อย ซึ่งไพเราะแปลกหูดีและเข้ากับอารมณ์หนังได้ด้วย ไม่ค่อยเจออนิเมชั่นฝรั่งที่ใช้ดนตรีแบบนี้ครับ ถือว่าดนตรีฉุดคะแนนขึ้นมาได้หน่อยนึงครับ
การพากย์เสียง ส่วนใหญ่จะทำได้ตามมาตรฐานนะครับ แต่จะมีตัวหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าโดดเด่นขึ้นมา (โดยที่หลายคนก็คงชอบ) คือตัวกระต่าย Snowball ที่พากย์โดยนาย Kevin Hart ดาราตลกผิวสีนั่นเองครับ ตัวละครกระต่ายตัวนี้ก็ตามสูตรของหนังสมัยใหม่คือดูน่ารักแต่นิสัยห้าวเป้ง แต่การพากย์เสียงโวยวายแรพโย่วแบบ Over the top ของนาย Kevin ก็ทำให้ตัวละครโดดเด่นขึ้นมาครับ (ถึงแม้ว่านานๆไปมันจะเริ่มเฝือ เพราะตัวบทมันไม่ช่วยส่งก็ตาม แต่ถามหลายๆคนก็เห็นว่าชอบกระต่ายกันนะครับ แต่แฟนผมดันไม่ชอบ 555)
สรุป : ผมไม่ทราบว่าหลายท่านที่ให้คะแนนสูงๆกันเห็นอะไรในหนังเรื่องนี้นะครับ แต่ผมไม่เห็น สำหรับผมมันได้แค่ดูเพลินๆไม่คิดอะไรเท่านั้น และถ้ายังทำได้แค่นี้โอกาสที่จะไปแข่งกับ Disney, Pixar ก็ริบหรี่ครับ
คะแนน : 7.3/10 (B) ครับ
SURF S UP (2007) เซิร์ฟอัพ ไต่คลื่นยักษ์ซิ่งสะท้านโลก
Khun Tongdaeng The Inspirations (2015) คุณทองแดง ดิ อินสไปเรชั่นส์