News of the World (2020) สู่เส้นทางกลับบ้าน

News of the World (2020) สู่เส้นทางกลับบ้าน

รีวิวหนัง

Sam Movieman ผู้ชายบ้าดูหนัง

News of the World (2020) สู่เส้นทางกลับบ้าน เห็นชื่อหนังแล้วแวบแรกอาจนึกถึงชื่อหนังสือพิมพ์แทบลอยด์ของอังกฤษ ส่วนแฟนเพลงร๊อคจะนึกถึงชื่ออัลบัมหนึ่งของวง Queen แต่แท้จริงมันไม่ใช่ทั้งคู่ แม้จะพอโยงกับเรื่องการรายงานข่าวได้ โดยกัปตันคิดด์ (ทอม แฮงค์) ตามเรื่องมีอาชีพเป็นผู้ประกาศข่าว แต่ไม่ใช่ทางทีวีแบบที่เราคุ้นกัน เพราะหนังเกิดในยุคสงครามกลางเมืองของอเมริกา การติดตามข่าวสารของผู้คนในพื้นที่ห่างไกล ต้องอาศัยคนเล่าข่าวที่ตะลอนไปตามหมู่บ้านต่างๆ แล้วอ่านข่าวให้ฟัง (คล้ายๆ นักร้องที่ตระเวณแสดงคอนเสิร์ต) คิดด์เป็นอดีตทหารผ่านศึกที่มีอดีตฝังใจ ไม่กล้าเผชิญความจริง ดูไปเราจะเข้าใจว่าทำไมเขาถึงเลือกอาชีพนี้

วันหนึ่งเขาไปพบโจฮานนา (Helena Zengel) เด็กสาวเผ่า Kiowa ที่พูดอังกฤษไม่ได้ มีเพียงจดหมายบ่งบอกว่าพ่อแม่เสียชีวิตแล้ว มีลุงอยู่อีกเมือง ทีแรกส่งไปให้ทางการ แต่กว่าจะทำได้ต้องอีกหลายเดือน คิดด์ผู้มีใจเมตตาจึงรับภาระพาไปให้ถึงที่ แม้การเดินทางจะยากลำบากและเสี่ยงอันตรายก็ตาม หลังจากนี้หนังเดินเข้าสูตรที่เราคุ้นเคย คือการประสานความแตกต่างจนเกิดเป็นมิตรภาพ และตอนท้ายได้เฉลยถึงปมคาใจของพระเอก อันนำไปสู่บทสรุปที่ควรจะเป็น
ความโดดเด่นด้านการแสดงของทอม แฮงค์

คือฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยพาคนดูไปถึงที่หมายอย่างราบรื่น ด้วยสไตล์การเดินเรื่องที่สุดเนิบ เป็นอุปสรรคของคนใจร้อน แต่ด้วยพลังของทอม บวกกับคู่หูฝ่ายหญิงที่ทำหน้าที่ได้ดี โปรดักชั่นที่เนี๊ยบ การถ่ายภาพที่สวยงาม ดนตรีประกอบที่ซ่อนตัวอย่างละมุมละม่อม เรื่องราวที่แม้จะค่อนข้างเรียบ แต่ก็มีบางรายละเอียดที่น่าสนใจ ทำให้หนังมอบความบันเทิงในระดับหนึ่ง เพียงแต่ช่วงไคลแม็กซ์ที่ทำให้พระเอกเปลี่ยนความคิดได้ มันเหมือนไปไม่สุดสักเท่าไหร่ และผลพวงเป็นสิ่งที่คาดเดากันได้ไม่ยาก

Hollywood GossipGun

#รีวิว ถ้าเทียบกับงานชิ้นก่อนๆของผู้กำกับ พอล กรีนกราส อย่างหนังชุด Jason Bourne, United 93 หรือแม้แต่ Captain Phillip จะพบว่าผลงานชิ้นล่าสุดนี้ มีความลุ่มลึกมากขึ้น ละมุนละไมมากขึ้น แต่ก็ยังสอดแทรกประเด็นสังคมที่ค่อนข้างแรง และแทรกด้วยฉากระทึกขวัญที่บีบอารมณ์ไม่แพ้ผลงานชิ้นก่อนๆ สิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนคือ หนังค่อนข้างเล่าเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่กลับสามารถตรึงอารมณ์ผู้ชมได้ตลอด ส่วนสำคัญคือ การแสดงของทั้ง ทอม แฮงค์ และนักแสดงหน้าใหม่วัย 12 ปีจากเยอรมนี อย่าง เฮเลน่า เซนเกล ที่ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม พอสองตัวละครนี้สื่อสารกันคนละภาษา ทำให้การสื่อสารทางกาย และอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญ ความรู้สึกเหล่านั้นจึงถูกถ่ายทอดออกมายังผู้ชมด้วย
.
แม้ว่าบรรยากาศของ จะเป็นหนังแบบ Western หรือที่บ้านเราเรียกกันว่าหนังคาวบอย แต่โครงเรื่องจริงๆอาจกล่าวได้ว่ามันเป็นหนัง Road Movie เสียมากกว่า คือ ตัวละครหลักเดินทางไปร่วมกัน แล้วพบเจอเหตุการณ์ต่างๆ ทำให้ได้เรียนรู้อะไรซึ่งกันและกัน ซึ่งในกรณีนี้คือ เจฟเฟอร์สัน และโจฮานน่า ทหารผ่านศึกและเด็กหญิงกำพร้า ที่ต่างเผชิญกับอดีตอันปวดร้าว และพยายามเดินทางไปข้างหน้า เพื่อค้นหาเป้าหมายชีวิต ที่ก็ไม่รู้ว่ามีจริงหรือไม่ แม้ว่าสองตัวละครจะต่างวัย ต่างเพศ ต่างเชื้อชาติ แต่กลับสามารถเรียนรู้และค้นหาเป้าหมายชีวิตจากการอยู่ร่วมกันได้
.
นอกจากประเด็นเรื่องการเยียวยาของตัวละครแล้ว ประเด็นภาพกว้างที่หนังฉายให้เห็นค่อนข้างชัดเจน มีทั้งเรื่องของเชื้อชาติและสีผิว ที่ในหนังเผยให้เห็นถึงความร้ายแรงและการเหยียดของคนขาว ซึ่งแม้ว่าหนังจะเล่าถึงเหตุการณ์ 150 ปีก่อน แต่ก็เป็นที่ชัดเจนว่าแม้เวลาจะผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ยังคงเป็นปัญหาเรื้อรังที่ไม่มีวันหมดไปง่ายๆในอเมริกา รวมถึงหนังยังใส่ประเด็นเรื่องการทำหน้าที่ของสื่อสารมวลชนเข้ามา เมื่อพระเอกทำหน้าที่เป็นผู้เล่าข่าว และคัดกรองข่าวเพื่อนำเสนอกับประชาชน เขาจึงต้องเลือกสิ่งที่เหมาะสม เลือกจะสื่อสารสิ่งที่นำพาสังคมไปสู่จุดที่ดีกว่า ดูแล้วก็หันกลับมามองสังคมปัจจุบัน ที่สื่อมวลชนกลายเป็นเครื่องมืออันเลวร้ายของคนบางกลุ่มเท่านั้น และไม่ได้พาสังคมไปในจุดที่ดีขึ้น หรือพัฒนาไปมากกว่าเดิม
.
#สรุป โดยรวม มีงานสร้างที่ดี จนแอบเสียดายนิดๆที่พวกเราจะไม่ได้ชมกันในโรงภาพยนตร์ เพราะหนังมีคุณค่าในความเป็นภาพยนตร์ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว หนังเข้าฉายในโรงที่อเมริกาเมื่อช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา ส่วนนอกอเมริกานั้นยูนิเวอร์แซล ขายสิทธิ์ให้กับ Netflix พวกเราจึงได้ชมกันในจอขนาดเล็กลงมา แต่กระนั้นคุณค่าก็หนังก็ไม่ได้ลดทอนไป แม้จะได้ดูในจอที่เล็กลง แต่สิ่งที่หนังพยายามจะสื่อสารกับผู้ชม ก็ยังคงมาครบ รวมถึงการแสดงของ ทอม แฮงค์ และเฮเลน่า เซนเกล ที่ไม่ว่าจะดูในจอขนาดไหน ก็ยังสื่ออารมณ์มาได้อย่างดีเยี่ยม
.
(ให้ 9 คะแนนจากเต็ม 10 คะแนน)

เสพติดดูหนัง

เรื่องราวของอดีตทหารผ่านศึก “ผู้กอง เจฟเฟอร์สัน คิดส์ (Tom Hanks)” ที่ได้ทำอาศัยเป็นนักเล่าข่าว ตระเวนไปตามเมืองต่างๆ เพื่อเล่าข่าวแลกเงินในการเชี้ยงชีพของตนเอง จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้พบกับเด็กหญิงผิวขาวคนหนึ่ง “โจฮานนา (Helena Zengel)” และเจฟเฟอร์สันได้รู้ว่าเธอถูกลักพาตัวมาก่อนหน้านี้ ตั้งแต่เธอยังเล็กๆ และใช้ชีวิตร่วมอยู่กันกับชางอินเดียนแดง ทำให้เธอไม่สามารถสนทนาและเข้าใจในภาษาอังกฤษได้ จนทำให้เจฟเฟอร์สันจึงทำการจะส่งมอบเธอให้กับเจ้าหน้าที่ที่ดูแล แต่กลับมีเหตุบางอย่าง จวนตัวทำให้เขาต้องพาเธอไปหาญาติเอง ที่อยู่ ณ เมืองที่ห่างไกลจากที่เคยอยู่มากทำให้ทั้งคู่ได้มีโอกาสสร้างมิตรภาพ และเรียนรู้ปรับตัวซึ่งกันและกัน

นี่เป็นอีกหนึ่งผลงานการกำกับของ “Paul Greengrass” ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือในชื่อเดียวของผู้แต่ง “Paulette Jiles” ซึ่งเป็นอีกผลงานที่เราดูจบแล้วชอบมาก หลังจากเคยชมผลงานการกำกับที่ผ่านๆมาของเขามาอย่าง “Jason Bourne” , “Captain Phillips” และเรามองว่าตัว มีเรื่องราวที่เต็มไปด้วยหัวใจ และลุ่มลึกมากกว่า ผ่านการเดินทางของตัวละครนำทั้งสอง ที่ทำให้รูปแบบของหนังจะออกแนว Road Movie ซะส่วนใหญ่

เราจะเห็นทั้งสองตัวละครได้สร้างมิตรภาพที่ดีต่อกัน ผลัดกันแบ่งปันเรียนรู้การใช้ชีวิต ภาษา และปรับตัวเข้าหากัน เมื่อพบกับอุปสรรค ความเลวร้ายของมนุษย์มากมายหลากหลาย ที่ก็เป็นจุดสะท้อนประเด็นเหยียดเชื้อชาติ การกดขี้ด้านชนชั้นแรงงาน ที่มาในจังหวะที่ดีและสอนใจกับคนดูและตัวละครที่ทั้งสองคนเผชิญในเรื่องไปพร้อมๆกันด้วย

ผู้กำกับ

• พอล กรีนกราส

บริษัท ค่ายหนัง

• Universal Pictures
• Perfect World Pictures
• Playtone
• Pretty Pictures

นักแสดง

• Tom Hanks
• Helena Zengel

โปสเตอร์หนัง

เรื่องย่อ

ดูหนัง News of the World (2020) สู่เส้นทางกลับบ้าน ทหารผ่านศึกในสงครามกลางเมืองตกลงที่จะส่งมอบเด็กสาวที่ชาว Kiowa จับตัวไปเมื่อหลายปีก่อนให้กับป้าและลุงของเธอโดยที่เธอไม่ต้องการ พวกเขาเดินทางหลายร้อยไมล์และเผชิญกับอันตรายร้ายแรงขณะค้นหาสถานที่ที่เรียกได้ว่าเป็นบ้าน ในปีพ.ศ. 2413 กัปตันเจฟเฟอร์สัน ไคล์ คิดด์ อดีตนายทหารสัมพันธมิตรที่รับราชการในกองทหารราบเท็กซัสที่ 3 หาเลี้ยงชีพด้วยการเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งในรัฐเท็กซัส และอ่านเรื่องราวในหนังสือพิมพ์ให้คนในท้องถิ่นฟังโดยเสียค่าธรรมเนียมแรกเข้าสิบเซ็นต์ ดูหนังออนไลน์

หลังจากออกจากวิชิต้าฟอลส์ Kidd ก็เจอเกวียนที่พลิกคว่ำอยู่บนถนนและพบว่าคนขับซึ่งเป็นคนอิสระผิวดำถูกรุมประชาทัณฑ์ นอกจากนี้เขายังพบเด็กสาวผิวขาวที่พูดได้เฉพาะ Kiowa และสวมชุดและรองเท้าบูทของ Kiowa Kidd เรียนรู้จากเอกสารของเด็กผู้หญิงว่าเธอคือ Johanna Leonberger ที่ถูก Kiowa ลักพาตัวและรับเลี้ยงเมื่อหกปีก่อน กองทหารของกองทัพสหภาพค้นพบ Johanna ขณะแยกย้ายค่าย Kiowa และเสรีชนพาเธอไปหาป้าและลุงที่ยังมีชีวิตอยู่ หน่วยลาดตระเวนของกองทัพสหภาพที่ผ่านไปได้สั่งให้คิดด์พาเด็กสาวไปหาเจ้าหน้าที่ของสหภาพที่ด่านหน้าในเมืองที่อยู่ติดถนน คิดด์ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมจำนน

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

You Can t Run Forever (2024)

Forrest Gump (1994) ฟอร์เรสท์ กัมพ์

Hustlers (2019) ยั่ว สวย รวย แสบ

The Man Who Knew Too Much (1956)

Date Night (2010) คืนเดทพิสดาร ผิดฝาผิดตัวรั่วยกเมือง