เรื่องย่อ : Midnight Run (1988) 2 กวนได้ 3 กำ ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ ดูหนังHD ดูหนังฟรี MovieHD24 หนัง2024 หนังออนไลน์ Full HD
ดูหนัง Midnight Run (1988) 2 กวนได้ 3 กำ นักล่าเงินรางวัลไล่ตามอดีตนักบัญชีมาเฟียที่ถูกนักล่าเงินรางวัลคู่แข่งอย่าง F.B.I. และหัวหน้ามาเฟียเก่าของเขาตามหลังหลังจากกระโดดประกันตัว นักล่าเงินรางวัลแจ็ค วอลช์ ถูกจ้างโดยนายประกันตัวเอ็ดดี้ มอสโคน เพื่อตามหาโจนาธาน มาร์ดูคัส นักบัญชีและนำตัวเขามาที่ลอสแองเจลิส มาร์ดูคัสยักยอกเงิน 15 ล้านเหรียญจากจิมมี่ เซอร์ราโน หัวหน้าแก๊งมาเฟียชิคาโก ก่อนที่จะไม่รับเงินประกัน 450,000 เหรียญที่มอสโคนประกาศไว้ มอสโคนเรียกร้องให้วอลช์นำตัวมาร์ดูคัสกลับมาภายใน 5 วัน วอลช์ขอเงินค่าปรับ 100,000 เหรียญ แม้ว่ามอสโคนจะรับรองว่างานนี้ง่าย “ต้องรีบทำในเที่ยงคืน” จากนั้นวอลช์ก็ถูกเจ้าหน้าที่พิเศษเอฟบีไอ อลอนโซ มอสลี เข้าหา ซึ่งต้องการให้มาร์ดูคัสเป็นพยานเพื่อเอาผิดกับเซอร์ราโน มอสลีสั่งให้วอลช์อยู่ห่างจากมาร์ดูคัส
วอลช์เพิกเฉยต่อคำสั่งของโมเสลีและขโมยบัตรประจำตัวของโมเสลี ซึ่งเขาใช้เพื่อปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่เอฟบีไอตลอดการเดินทาง ลูกน้องของเซร์ราโนเสนอเงิน 1 ล้านเหรียญให้วอลช์เพื่อส่งมอบมาร์ดูคัสให้พวกเขา แต่วอลช์ปฏิเสธ วอลช์จับมาร์ดูคัสในนิวยอร์กซิตี้และโทรหาโมเสลีจากสนามบินโดยไม่รู้ว่าเอฟบีไอดักฟังสายของโมเสลีและเจอร์รีผู้ช่วยของเขากำลังแอบบอกลูกน้องของเซร์ราโน มาร์ดูคัสบอกวอลช์ว่าเขากลัวการบิน วอลช์ไม่เชื่อมาร์ดูคัสจนกว่าพวกเขาจะขึ้นเครื่องบิน และมาร์ดูคัสแกล้งทำเป็นตื่นตระหนก ทำให้พวกเขาต้องเดินทางด้วยรถไฟ เมื่อพวกเขามาไม่ถึงลอสแองเจลิสตรงเวลา โมเสลีจึงส่งมาร์วิน ดอร์เฟลอร์ นักล่าเงินรางวัลซึ่งเป็นคู่แข่งของวอลช์ไปตามหาพวกเขา ดูหนังออนไลน์
Martin Brest
City Light Films
Robert De Niro
Charles Grodin
Yaphet Kotto
John Ashton
Dennis Farina
Joe Pantoliano
ดูเป็นหนังแนวที่สมัยนี้ไม่ค่อยนิยมสร้างกันเท่าไรแล้ว พล็อตผสมกันระหว่าง road movies + อาชญากรรม + โทนคอมเมดี้เบา ๆ
• ในความรู้สึก(ไม่ได้อ้างอิงสถิติ) ยุคนี้ดูจะเน้นคอมเมดี้แบบต้องยิงมุกไปเลยมากกว่า เลยคิดว่า Midnight Run หายาก
• เช่นเดียวกับความแอ็คชั่นของหนังที่ไม่ต้องพึ่งฉากต่อสู้ใหญ่โตลากยาวเป็นจุดขาย มันเล่นสั้น ๆ เบา ๆ ก็เพียงพอแล้ว
• เหมือนกับการเดินทางระหว่างนักล่าค่าหัวกับนักบัญชีที่ FBI ต้องการตัว ซึ่งความสัมพันธ์แบบกึ่ง ๆ คู่กัดแบบดูไม่จงใจกัด เป็นสิ่งที่สนุกด้วยเคมีนักแสดงล้วน ๆ
• ความสนุกของหนังที่ไม่ได้ทำตัวซับซ้อนฉลาดล้ำ จึงเป็นความอลหม่านของหลายฝ่ายที่ต่างแย่งชิงนักบัญชีคนนี้ด้วยจุดประสงค์ต่างกันออกไป
• เสน่ห์เฉพาะตัวของ โรเบิร์ต เดอ นิโร หาคนเลียนแบบยากจริง ๆ
• เข้าชิงลูกโลกทองคำสาขาหนังคอมเมดี้ ปีเดียวกับ Working Girl, Big, A Fish Called Wanda, และ Who Framed Roger Rabbit คลาสสิกทั้งนั้น
————————————-
‘แจ็ค วอลช์’ (Robert De Niro) เป็นนักล่าค่าหัวรับงานจากสำนักประกันตัว ออกตามจับ ‘โจนาธาน’ (Charles Grodin) นักบัญชีที่ยักยอกเงินของมาเฟียยาเสพติดไป เขาจะได้เงินจากงานนี้สูงถึง 1 แสนเหรียญฯ เพียงพอให้เขาเลิกทำอาชีพเสี่ยงตายนี้สักที แต่ปรากฏว่าพอได้ตัวโจนาธานปุ๊บ เขาถึงเพิ่งรู้ว่า FBI ก็ต้องการตัวไปเป็นพยาน, ส่วนมาเฟียก็ส่งคนมาตามเก็บ, และสำนักประกันตัวยังส่งนักล่าค่าหัวอีกคนมาชิงตัวจากเขาอีก เรียกว่าชุลมุนกันไปหมด
.
ความเจ๋งของหนังคือใช้การเดินทางระหว่างส่งตัวกลับเป็นการปอกเปลือกตัวตนของแจ็ค วอลช์ ออกมาจนหมด อดีตตำรวจที่ต้องออกจากงานเพราะไม่รับเงินสินบนจนต้องมาทำงานล่าค่าหัวแทน ถูกภรรยาเก่าทิ้งไปแต่ยังเก็บของที่เธอให้ไว้ ดูเป็นตัวละคร loser ที่เราตกหลุมรักในความซื่อตรงของเขา(ทั้งที่ในเรื่องการทำงานโคตรกะล่อน) ในขณะเดียวกันเส้นเรื่องของโจนาธานก็มีความสนุกในจังหวะพยายามหลบหนีพร้อม ๆ กับความสัมพันธ์แบบพึ่งพาแจ็ค วอลช์ ไปด้วย มีความน่ารักยามช่วยเหลือกัน มีความตลกเวลากัดกันแบบที่หนังหลายเรื่องไม่ค่อยมีสไตล์นี้ เพราะทั้งสองคนไม่ได้ตั้งท่าไม่ถูกกัน คนหนึ่งก็ทำงานตามหน้าที่ อีกคนก็แค่พยายามเอาตัวรอด โดยพื้นฐานก็เป็นคนดีทั้งคู่
.
หนังยุคหลัง ๆ ตัวละครดูจะเน้นไหวพริบความฉลาดแข่งกันพอสมควร แต่ Midnight Run เล่นง่ายไว้ก่อน ตัวเอกก็ไม่ได้ฉลาดมากมาย จับไต๋ได้ช้า ไม่ได้คิดหน้าคิดหลังรอบคอบเป็นขั้นเป็นตอน เช่นเดียวกับตัวร้ายและตำรวจก็ตายน้ำตื้นพอ ๆ กับเวลาจะฉลาดก็ฉลาดขึ้นมาเชียว การต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปเรื่อย ๆ เลยเป็นความสนุกอย่างหนึ่งระหว่างเดินทาง ยิ่งพอหนังขมวดปมการตามล่าของหลายฝ่ายเข้าหากันได้เลยต้องยกนิ้วให้ความฉลาดในการเขียนบท
.
ที่ชอบเป็นพิเศษคือโทนคอมเมดี้ ตัวร้ายไม่ได้ตั้งท่าต้องโหด คู่กัดไม่ได้เล่นกันรุนแรง ดนตรีประกอบก็ฟังแล้วสดใส มันไม่ใช่หนังที่ตลกเอาเป็นเอาตาย ตรงนี้แหละจุดขายสำคัญ บนเรื่องราวไล่ล่าเป็นเส้นเรื่องหนึ่ง อีกเส้นเล่าการเดินทางพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครแปลกหน้า ผสมกันได้ด้วยโทนเบา ๆ เพลิน ๆ กลมกล่อมจริง แนะนำให้ลองดูชิลล์ ๆ ครับ
Director: Martin Brest (ผู้กำกับ Beverly Hills Cop, Meet Joe Black)
screenplay: George Gallo (เขียนเรื่อง Bad Boys)
Genre: crime, comedy, thriller
8/10
โอ้โหเสียดาย คือจริงๆเราดูไปเกือบจะเดือนแล้วแต่ลืมเขียน เพราะเหมือนตอนนี้มันไม่อยู่ใน Netflix ละ แม้หนังจะล่วงเลยผ่านมา 30 กว่าปี แต่มันยังคงสุดยอดมากๆ ทั้งในแง่ของการเป็นหนังคู่หู และหนัง Road Movie มันเป็นหนังที่พล็อตง่ายๆ แต่กลับเต็มไปด้วยเสน่ห์ และความสนุก เป็นหนังที่เรื่องเคลื่อนที่ไปข้างหน้าตลอด เต็มไปด้วยความเซอร์ไพรซ์ ความพลิกผัน และการพัฒนาความสัมพันธ์ของคนที่เริ่มต้นด้วยการเป็นศัตรู แต่จบลงด้วยมิตรภาพในระยะเวลาไม่กี่วัน อาจจะฟังดูไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่ถ้ามาดูจริงๆ จะพบว่า Midnight Run ทำหน้าที่เหล่านี้ได้สุดยอดมากๆ เป็นหนังที่เราพูดได้เต็มปากจริงๆว่าสนุก ซึ่งเกิดมาจากความแพรวพราวของทุกองค์ประกอบภาพยนตร์จริงๆ
.
หนังเล่าเรื่องของ แจ็ค อดีตตำรวจฝีมือดีที่ผันตัวมาเป็นนักล่าค่าหัว รับจ้างล่าตัวทั่วราชอาณาจักรเพื่อรับเงินก้อนใหญ่ โดยงานล่าสุดของเขาคือการไปจับตัว เดอะดุ๊ค นักบัญชีของแก๊งมาเฟียรายใหญ่ที่ยักยอกเงิน 15 ล้านดอลลาร์ของแก๊ง ก่อนจะหนีไปกบดานอย่างไร้ตัวตน โดยมีระยะเวลางานทั้งหมด 5 วัน งานดูจะเหมือนง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่กลับกลายเป็นว่าแจ็คต้องเผชิญหน้ากับสารพัดอุปสรรคที่ทำให้สถานการณ์ยุ่งเหยิงเกินควบคุม ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ FBI ที่ต้องการตัวเดอะดุ๊คไปเป็นพยานในการโค่นแก๊งมาเฟีย, การถูกตามล่าโดยสมาชิกแก๊งที่ต้องการเก็บเดอะดุ๊ค จนถึงนักล่าค่าหัวอีกคนที่พยายามจะแย่งงานของเขา พอทุกอย่างเข้าปะทะพร้อมกันจึงเกิดเป็นความวายป่วงสุดขีดเกินกว่าจะรับมือได้
.
ฟังดูเหมือนจะเป็นสูตรหนัง Road Movie ที่จะมีนั่นมีนี่ถาโถมเข้ามา แต่สำหรับ Midnight Run ทุกอย่างมันแพรวพราว และมหัศจรรย์กว่าที่คุณคิดมากๆ หนังไม่เพียงแต่นำเสนอฉากต่างๆออกมาได้สนุกสร้างสรรค์ แต่คนทำยังควบคุมน้ำหนักของเรื่องได้อย่างลงตัว ตลอดระยะ 5 วัน หนังไม่ได้มีเพียงแต่ฉากแอ็คชั่นไล่ล่า แต่มันยังมีดราม่า มีคอมเมดี้ที่เกิดขึ้นระหว่างตัวละครสองคน ในทีแรกพวกเขาดูเหมือนจะไม่จำเป็นต้องความรู้จัก แต่ทำไปทำมาสถานการณ์ก็บีบให้พวกเขาต้องช่วยเหลือ และหนีตายไปด้วยกัน แต่มันก็ยังเต็มไปด้วยความเซอร์ไพรซ์ เต็มไปด้วยการตัดสินใจที่ทำให้เรื่องมันไกลออกไปเรื่อยๆ แต่เป็นไกลที่ไม่ใช่ออกทะเล เราได้เห็นความต้องการของทั้งสองชัดเจนตั้งแต่เริ่ม และมันถูกใช้อย่างคุ้มค่าในทุกๆนาทีของเรื่อง
.
สิ่งที่เมจิคสำหรับเรามากๆ คือความสัมพันธ์ของ แจ็ค และ เดอะดุ๊ค แม้ว่าเราจะรู้อยู่แล้วว่ายังไงทั้งสองก็ต้องเกิดมิตรภาพขึ้นต่อกันและกัน แต่ในหนังมันทำให้รู้สึกไปไกลกว่านั้น เพื่อพวกเขาค่อยๆได้เรียนรู้ชีวิตของอีกฝ่าย ทลายกำแพงสถานะ ถามถึงเหตุผลที่มาที่ไป จนสุดท้ายพวกเขาได้เปลี่ยนชีวิตของอีกคน ทั้งสนับสนุน และแนะนำความเห็นจากมุมมองของตัวเอง ซึ่งมันอบอุ่นน่ารักมากๆ เป็นบรรากาศที่ผสมผสานกับแอ็คชั่นคอมเมดี้ได้อย่างลงตัว อาจจะต้องชมสองนักแสดงอย่าง โรเบิร์ต เดอนีโร และ ชาร์ลส์ โกรดิน ด้วยที่เข้าขากันมากๆ เป็นตัวละครที่พร้อมจะหักหลังกันได้ทุกเมื่อ แต่พวกเขาก็ดูเป็นเพื่อนที่น่าจะไปด้วยกันได้ดีเช่นกัน
.
ชอบตอนจบมากๆ โคตรน่ารักเลย เราชอบกิมมิคเรื่องของนาฬิกาในหนัง (ซึ่งเหมือนจะเป็นไอเดียของเดอนีโรเองด้วย) ที่เอาไว้ใช้บอกเล่าความสัมพันธ์กับภรรยา หนังมันมีแบล็คกราวน์ที่น่าสนใจ และถูกเล่าผ่านสิ่งเล็กๆน้อยๆอยู่ทั้งเรื่อง พอถึงตอนจบ Execution ที่ทั้งสองตัวละครมอบให้กันมันงดงามมากๆ หุบยิ้มไม่ได้เลย เราดู Road Movie มาเรื่อยๆ แต่ต้องยอมรับว่า Midnight Run คือหนึ่งใน Top Tier จริงๆ เสียดายที่หายไปจาก Netflix แล้ว ยังไงถ้ามันกลับมาเราจะมาบอกให้เพื่อนๆไปดูแล้วกัน
________________________________________
MIDNIGHT RUN (dir. Martin Brest) – 8/10
Time and Tide (2000) มือปืน มือฆ่า เพชรฆาตพันธุ์พระกาฬ
Undisputed 2 Last Man Standing (2006) คนทมิฬ กำปั้นทุบนรก 2
Universal Soldier 1 (1992) 2 คนไม่ใช่คน