Unfriended Dark Web (2018)

Unfriended Dark Web (2018)

เรื่องย่อ

ดูหนัง  วัยรุ่นคนหนึ่งครอบครองแล็ปท็อปเครื่องใหม่และไม่นานก็พบว่าเจ้าของคนก่อนไม่เพียงแต่เฝ้าดูเขาเท่านั้น แต่ยังจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ Matias นำ MacBook Pro ที่เหลือจากไซเบอร์คาเฟ่กลับบ้าน ขณะที่ Skype กับเพื่อนของเขา Damon, A.J., Lexx, Serena และ Nari เขาได้รับข้อความจาก “Erica” ซึ่งเป็นเจ้าของ Norah เพื่อเรียกร้องให้ MacBook คืน มาเทียสตัดสินใจคืนก่อนได้รับข้อความจาก “ชารอน68” เอ.เจ. ตระหนักว่า MacBook เชื่อมต่อกับเว็บมืด เมื่อชารอน68 พูดถึงการเจาะเลือด มาเทียสก็หยุดตอบสนอง ดูหนังออนไลน์

เป็นหนังภาคต่อของ Unfriended ในปี 2014 ครับ จะเรียกภาคต่อก็พูดได้ไม่เต็มปากครับมันเปลี่ยน Mood หนังเป็นคนละสไตล์เลย ดูภาคนี้แล้วแบบปวดหัวมากชอบภาคที่แล้วมากกว่าครับ คือภาษาศัพท์เฉพาะทางคอมพิวเตอร์เยอะเหลือเกิน คือไม่ต้องทำหนังละไปทำ How to แฮกคอม How to ซื้อขายทาง Dark web How to แฮกสไกป์เถอะครับ จะรุ่งมาก…Matias ได้ไปเจอแลปท็อปของใครบางคนอยู่ที่คาเฟ่แห่งหนึ่งเขาเลยหยิบมันกลับมาใช้เพราะแล็ปท็อปเครื่อง

เก่าของเขามันอืดเกินไป และเขาก็ได้นำมาใช้เขาก็ได้เจอความลับสุดสะพรึงบางอย่างเกี่ยวกับแลปท็อปเครื่องนี้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานของ ทาง Blumhouse tilt ครับ บริษัทบ้านหลอนที่เรารู้จักกันในชื่อ Blumhouse Production นั่นแหละครับแต่ เป็นบริษัทที่แตกแขนงออกมา เป็นบริษัทอินดี้ที่จะทำหนังสยองขวัญทุนต่ำเน้นไอเดียและเน้นความสร้างสรรค์มากกว่า Blumhouse Production และฉายภาพยนตร์ภายในทวีปยุโรปหรือประเทศไกล้เคียงเท่านั้น ส่วนเรื่อง DVD นั้นก็แล้วแต่ประเทศไหนจะซื้อไปจำหน่าย

การถ่ายทำ100% ของหนังอยู่ที่หน้าคอมครับ เหมือนภาคแรกนั่นแหละแต่มันดูแพงขึ้นเรื่องการตัดต่อครับเกี่ยวกับการใส่แอฟเฟคนะเพราะภาคนี้รู้สึกจังหวะที่อ่ะไรจะโผล่มาต่างๆดีกว่าภาคแรก และการถ่ายทำดูลื่นไหลดีครับเหมือนถ่าย long take ไม่รู้ว่าใช้ Long take รึเปล่านะครับเพราะภาคแรกมันก็ใช้ Long take แบบถ่ายม้วนเดียวจบ

ผู้กำกับ

สตีเฟน ซุสโก

บริษัท ค่ายหนัง

Bazelevs Company
Blumhouse Productions

นักแสดง

คอลิน วูดเดลล์
รีเบคก้า ริตเทนเฮาส์
เบตตี้ กาเบรียล
แอนดรูว์ ลีส์
คอนเนอร์ เดล ริโอ
สเตฟานี โนเกอรัส
สาวิรา วินยานี

โปสเตอร์หนัง

รีวิวหนัง Unfriended Dark Web (2018)

 JAbchai

คะแนน: 6/10

หลายๆปีมานี้หนังแนวๆหน้าจอคอมเกิดขึ้นมาหลายเรื่องอยู่นะ มีเรื่อง  / Searching (2018) คือแบบว่าหนังจะดำเนินเรื่องผ่านการ VDO CALL สะส่วนใหญ่ อย่างของเรื่องนี้เหมือนกลุ่มคนดวงตกมารวมอยู่ด้วยกันอ่ะ 555 นอกจากหาเรื่องใส่ตัวแล้ว ยังจะพาคนอื่นซวยไปด้วยอีก เอาจริงๆ คำว่า Dark WEB มันควรจะน่ากลัวได้มากกว่านี้หรือเปล่า

เนื้อเรื่องมันควร Dark กว่านี้อ่ะ รู้สึกว่ายัง Soft อยู่อ่ะ
หนังควรไปได้สุดกว่านี้ หนังแม่งก็ปั่นเก่งอยู่นะ พยายามบิ้วให้ลุ้นตาม ก็ถือว่าทำได้ดีในจุดนี้ แต่มันก็มีความไม่ Make Sense อยู่หลายจุด ซึ่งทำให้หนังลดความสนุกลงมาจนอยู่ในระดับที่พอดูได้ ตอนจบก็ไม่ได้ว้าวอะไรมาก เพราะเดาได้ง่ายมากกับพล๊อตเรื่องแบบนี้ แต่ถ้าใครกำลังจะหยิบเรื่องนี้มาดู ก็พิจารณาดูว่าชอบแนวแบบนี้ไหม หรืออยากเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ไหม 6 คะแนนที่ให้ไปก็พยายามให้กลางๆสุดละ เพราะหนังถูกจริตแค่บางช่วงเท่านั้น…

แฟนพันธุ์แท้ : หนังสยองขวัญ

คะแนน: 6/10

มันกลับมาเเล้วอีกครั้ง ใครใช้คอมพิวเตอร์มือ 2 ระวังตัวให้ดีๆ คราวนี้ไม่ลี้ลับเหมือนภาคเเรกเเล้ว ภาคนี้เล่นออกตามไล่ล่าฆ่าเหยื่อถึงบ้านกันเลยทีเดียว โหดสุดๆ ถ้าคุณเคยดูหนังเรื่องหนึ่งเมื่อสักสามสี่ปีที่เเล้วอย่างเรื่อง Unfriended คุณจะรู้ว่ามันเเปลกใหม่เเละลุ้นระทึกเเค่ไหน ถึงเเม้หนังจะถ่ายทอดเรื่องราวเเค่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ตาม ก็ยังมีหลายคนเลยที่ชื่นชอบมัน เเละอีกหลายคนที่เบื่อกับมันด้วยเช่นกัน ส่วนตัวเเอดเองค่อนข้างชื่นชอบมากเลยทีเดียว กลับมาคราวนี้กับภาคต่อ จะว่าภาคต่อก็ไม่เชิงเพราะมันไม่มีเรื่องราวเกี่ยวกับภาคเเรกเลย เป็นไทม์ไลน์ใหม่ที่น่าสนใจกว่าเก่าเป็นอย่างมาก ดูเเค่ตัวอย่างก็หายใจไม่ทั่วท้องกันเเล้ว…

โดยหนังจะเล่าเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งไปได้แล็ปท็อปมือ 2 มาไว้ใช้งาน สิ่งเเรกที่เขาจะทำก็คือต้องตรวจเช็คข้อมูลต่างๆในเครื่อง ว่ามีไฟล์อะไรซ่อนอยู่หรือไม่ โปรเเกรมอะไรหรือไฟล์ไหนควรลบหรือเปล่า เอาเป็นว่าทำความสะอาดเครื่องสักหน่อยโละข้อมูลเก่าๆในเครื่องทิ้งให้หมด ในขณะที่เข้ากำลังเช็คข้อมูลอยู่นั่นดันไปบนไฟล์จำนวนหนึ่งที่ถูกซ่อนอยู่ในเครื่อง มันเป็นไฟล์วิดีโอเเนวสนัฟฟ์ฟิล์ม จับเหยื่อมาขัง ทรมานเเล้วฆ่า ทำเอาชายหนุ่มคนนี้ถึงกับช็อก เลยต้องเปิดกล้องคุยกับเพื่อนๆในกลุ่มถึงเรื่องราวคลิปวีดีโอเหล่านี้

ว่าตกลงเเล้วมันเป็นเรื่องจริงหรือเป็นเเค่การเเสดง เเต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้รู้ความจริงเเน่ชัด เจ้าของแล็ปท็อปคนเดิมก็ทักเเชทเข้ามาเเล้วบอกว่า “มึงกำลังยุ่งกับคอมของกู” เเละดูเหมือนว่าเจ้าของคนเก่าจะโกรธเอามากๆที่วัยรุ่นกลุ่มนี้มารู้ความลับสุดโหดของเขา เเละขู่ฆ่าทุกคนถ้ามีใครใดก็ตามปิดเครื่องหรือเเจ้งตำรวจ เอาละสิ…ว่าเเต่เจ้าของแล็ปท็อปเก่าเป็นใคร มันต้องการอะไรกันเเน่ เหยื่อในคลิปวิดีโอยังมีชีวิตอยุ่หรือไม่ เเละวัยรุ่นกลุ่มนี้จะหาทางรอดได้อย่างไรต้องติดตามหนังจากทีมผู้สร้าง Get Out,The Purge เเละ Happy Death Day ภายใต้การกำกับของ Stephen Susco

pantip

คะแนน: 6/10

นักแสดงคนที่แสดงเป็น Matias ครับ ช่วงแรกมีแสดงโอเวอร์ไปบ้าง แต่หลังๆ ดีขึ้น คนที่แสดงเป็นนักแสดงผิวสีครับที่เป็นผญ. แสดงดีสุดเลยครับ ถึง Dialog นางจะไม่เยอะแต่แสดงมีพลังมาก ส่วนคนอื่นๆก็โอเคครับไม่แย่ แต่ที่แย่สุดน่าจะเป็นคนหัวทองอ่ะ ผญ. แสดงโอเวอร์ The top มาก..

บทคนละอารมณ์กับภาคแรกเลยรอบนี้มันไม่ค่อยลุ้นเลยคือหนังมันดูเรื่อยๆอ่ะแบบไม่ลุ้นไม่น่าเบื่ออยู่กลางๆอ่ะครับ ผมว่าภาคแรกทำได้ดีกว่าถึงมันจะแบบอุปกรณ์การถ่ายทำเน็ตมันจะง่อยไปหน่อยแต่ก็แบบยังทำได้ดีกว่าภาคนี้อ่ะ ภาคนี้นี่แบบ.. เห้อ โอเคครับแต่มันใช้คอมพิวเตอร์ภาษาทางภาพยนตร์อ่ะไรได้เยอะได้คุ้มกว่าภาคแรกครับแต่มันใช้เกินไปครับ…. แบบภาษาแฮก เขียน Code อ่ะไรให้ซึ่งๆหน้าจอคนดูเลยแล้วแบบมันเยอะมากอ่ะแต่ถึงมันเยอะมันก็ไม่ได้มั่วนะ

ข้อมูลหรือโค้ดที่มันพูดขึ้นมาในหนังมันมีอยู่จริงๆ(แต่ก็มีบางส่วนที่มันดูมั่วอยู่บ้าง) แต่คือมันเยอะเกินไปอ่ะ…!!! คือมันก็พยายามอธิบายแหละว่านี่คืออ่ะไร คืออ่ะไร แต่มันเยอะกินไปอ่ะ… คือมันไม่ควรใช้ชื่อแฟรนไชส์ Unfriended ครับความสัมพันธ์เกี่ยวกับเพื่อนน้อยมาก ควรเปลี่ยนเป็นคนละเรื่องไปเลยดีกว่าจะได้ลบความคาดหวังของภาคแรกออกไปหน่อย แต่นี่เล่นโฆษณามาว่าอยู่ในแฟรนไชส์ของ

Unfriended แต่มันแทบจะไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวกับเพื่อนเลย อย่างเช่นบางตัวละคร Useless มากมาปรากฎหน้าจอภาพยนตร์เล่นๆแล้วก็โดนฆ่าทิ้ง… ยิ่งหลังๆตอนจุดไคล์แมกส์รู้สึกมันแบบหนังมันเละเทะมากอ่ะ….ผมอยากแนะนำคนเขียนบทให้ไปทำ How to ลงเว็ปบอร์ดน่าจะรุ่งกว่าทำหนังครับ 555555555

Super Review Channel

คะแนน: 6/10

ว่าด้วยเรื่องราวของมาไทอัส หนุ่มวัยรุ่นที่ดันไปเจอคอมพิวเตอร์ laptop ในร้านอาหารแห่งหนึ่งเขาได้ถือวิสาสะนํา แล็ปท็อป นั้นมาใช้ ร้านเนื่องจากที่เป็น แล็ปท็อป ที่มีศักยภาพสูงเขาจึงไม่นำไปคืนเจ้าของ เขาดีใจมากจึงได้ติดต่อแฟนสาวของเขาที่หูหนวกเพื่อจะนำเสนอว่าแล็ปท็อปเครื่องนี้มีรอบการประมวลผลที่ดีสามารถแปลภาษามือได้อย่างรวดเร็ว จะทำให้ทั้งสองคนเข้าใจกันมากขึ้น ระหว่างนั้นมาไทอัสก็ได้ทำการติดต่อกลุ่มเพื่อนอีก 4 คน เพื่อสนทนากันใน

Skype เป็นไปตามปกติวิสัย แต่ระหว่างคุยมาไทอัสก็ได้ ทำการค้นดูข้อมูลในคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปที่ได้มาว่ามีอะไรบ้าง แล้วก็พบว่ามีไฟล์ขนาดใหญ่ซ่อนเข้ารหัสเอาไว้อยู่ เมื่อเปิดมาก็พบว่าทั้งหมดนั้นคือไฟล์วีดีโอเกี่ยวกับการทารุณกรรมผู้คนจำนวนมาก เขาจึงเปิดไฟล์อยู่นั้นให้เพื่อนอีก 4 คนได้ดูด้วย แต่แล้วเจ้าของแล็ปท็อปที่ใช้ชื่อว่า Charon IV ก็ติดต่อเขาเข้ามาทางโปรแกรมแชทว่าให้รีบนำเครื่องไปคืน โดยที่ทาง Charon IVได้จับตัวเพื่อนสาวคนหนึ่งจองมาไท

อัสไว้เป็นตัวประกัน พร้อมกับบอกอีกว่าหากนำเรื่องนี้ไปแจ้งตำรวจหรือบอกเพื่อนทั้ง 4 คนที่กำลังสนทนาด้วย หญิงสาวคนนั้นจะต้องตาย เมื่อมาไทอัสอ่านจบก็หาทางแก้ไข แต่วิธีที่มาไทอัสเลือกนั้นกลับเป็นการโอนเงินกว่า 10 ล้าน us. ที่อยู่ในบัญชีของ Charon IV เข้าบัญชีตัวเอง พร้อมกับบอกว่าจะนำแล็ปท็อปไปคืนให้แต่ต้องได้ตัวเพื่อนสาวกลับมาอย่างปลอดภัยจากนั้นเขาจะโอนเงินทั้งหมดกลับคืนไป และแน่นอนว่า Charon IV นั่นไม่ธรรมดาแน่ เพราะยังมีบุคคลที่อยู่

เบื้องหลังที่สามารถเข้าถึงทุกสิ่งทุกอย่างได้คอยควบคุมอีกครั้งหนึ่งทั้งหมดรวมกันอยู่ใน dark web ที่ชื่อว่า river ดังนั้น Charon IV และกลุ่มใน dark web จึงทำการสั่งสอนมาไทอัสโดยเจาะเข้าไปในระบบทุกอย่างของเพื่อน ๆ ของมาไทอัส และทำให้เพื่อนของเขาตายไปทีละคน มาไทอัสจะแก้ไขสถานการณ์อย่างไร เขาจะช่วยชีวิตเพื่อนแต่ละคนได้หรือไม่ สามารถติดตามชมได้ทาง netflix ครับ

หนังเป็นหนังที่มีวิธีการนำเสนอที่น่าสนใจ ถึงแม้เราจะเห็นวิธีการนำเสนอภาพผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์มาแล้วในหนังสืบสวนสอบสวนระทึกขวัญเช่น Unfriended (2014) ว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนที่สนทนาผ่านโปรแกรม Social Media ซึ่งแต่ละคนได้ทำการ Unfriended เพื่อนในกลุ่มคนหนึ่ง และเพื่อนคนนั้นก็มาแก้แค้นในภาพหลัง และเรื่อง Searching (2018) เสิร์ชหาสูญหาย ที่เล่าเรื่องราวของพ่อผู้ตามหาลูกสาวที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยโดยหาจากทาง

อินเตอร์เน็ต ซึ่งทั้งสองเรื่องนั้นมีวิธีการนำเสนอที่ค่อนข้างดี น่าสนใจ ประสบความสำเร็จทั้งในแง่ความชื่นชมและรายได้ ซึ่งแน่นอนว่ามันส่งผลกับประสบการณ์ของตนโดยตรงเหมือนกับเรานั่งดูเรื่องราวผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์มันทำให้เราใกล้ชิดเหตุการณ์นั้นมากขึ้น แล้วมันมีศิลปะบางอย่างของหนังแนวนี้ที่ไม่สามารถทำได้ในภาพยนตร์ที่มีประสบการณ์เล่าเรื่องแบบดั้งเดิมทั่วไป ดังนั้น Unfriended: Dark Web จึงไม่มีอะไรใหม่ในแง่การนำเสนอนัก แต่สิ่งที่ดีงามคือการใส่เนื้อเรื่องเข้าไปให้มีน้ำหนักมากขึ้นคือ…

การสร้างความกดดันให้กับตัวละครมาไทอัส วัยรุ่นที่ดันไปเอาเครื่อง แล็ปท็อปของคนอื่นมาใช้เป็นของตัวเอง แล้วดันเข้าไปวุ่นวายไฟว์ในเครื่องจนดึกคนรอบข้างเข้ามาพัวพัน จุดนี้หนังให้ดูแล้วรู้สึกเอาใจช่วยมาไทอัสเป็นอย่างมาก พร้อมกับมีวิธีสร้างความกดดันโดยการใช้ภาพจากกล้อง web cam ก็นำเสนอได้ดี หนัง มีความสนุกอยู่ในตัวเองโดยที่ไม่จำเป็นจะต้องนำดาราเบอร์ใหญ่มาใช้ดำเนินเรื่องเลย เพียงแค่บทดีงาม ก็ทำให้เราอยู่กับเรื่องได้สบาย

หนังนำเสนอด้านมืดของโลกอินเตอร์เน็ตได้ดีเช่น เรื่องการสื่อสาร ต่อให้เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าไปมากแค่ไหนก็ตามแต่การสื่อสารของคนนั้นมีมากกว่าการพิมพ์ข้อความ การพูด การฟัง หรือการส่งสัญลักษณ์ ที่จะให้ให้เกิดความเข้าใจอันลึกซึ้ง เรื่องของการทิ้งร่องรอยบางอย่างในโลกอินเทอร์เน็ตเช่นคำพูดข้อความ การโพสต์บางสิ่งบางอย่างรวมถึงคลิปวีดีโอนั้น มันก็เปรียบเสมือนหลักฐานการใช้ชีวิตของคนเรา ซึ่งหาเป็นเรื่องที่ไม่ดี หรือหาก ใครก็ตามที่ไม่

ประสงค์ดีก็สามารถนำสิ่งนั้นมาใช้ทำลายเราได้เช่นกัน ประเด็นการตัดสินคนกัยการกระทำบางอย่างในโลกของอินเตอร์เน็ต และประเด็นที่ชัดที่สุดคือเรื่องของ dark web คือเว็บไซต์มืดที่อยู่ในโลกอินเตอร์เน็ตที่ไม่สามารถแกะรอยได้ ในกรณีของหนังคือเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการนิยมความรุนแรง การสั่งให้ใครก็ได้ให้กระทำผิด หรือแม้แต่การฆ่าคนอย่างทารุณให้สมาชิกในเวปไซต์ได้เสพกัน

ซึ่งหากจะมองให้ลึกลงไปแล้วก็สามารถอธิบายได้ว่า ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่มีความดีงามก็ดีด้านมืดของมันอยู่เสมอ อย่างเช่นโลกของอินเทอร์เน็ตและจะมีประโยชน์ในด้านการสื่อสาร หรือการช่วยให้ชีวิตของมนุษย์มีความสงบเรียบง่ายมากขึ้นแต่ก็มีด้านมืดคือสามารถใช้ทำลายล้างได้เช่นกัน

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน Unfriended Dark Web (2018)

Alive (2020) คนเป็นฝ่านรกซอมบี้

Kampon (2023) ตัวตายตัวแทน

Sputnik (2020) มฤตยูแฝงร่าง

Immaculate (2024) บริสุทธิ์ผุดปีศาจ

The Soul Reaper (2023) คนกินวิญญาณ